เศรษฐกิจญี่ปุ่นวันนี้จัดว่าแย่แล้วค่ะดันอาทิตย์อุทัยกำลังเดินทางสู่ความลำบากซึ่งสิ่งที่ชัยจะเล่าให้ฟัง จะไฮไลท์ให้ฟังวันนี้ไม่ได้จะมาบอกว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นตอนนี้มันแย่ไปขนาดไหนแล้วเพราะชัยคิดว่าสิ่งที่ ทั้งทรายและคนดูอยากรู้มากกว่าเพื่อที่จะเป็นบทเรียนอะว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอะมันแย่ขนาดเนี้ย เฮ้ยยี่สิบสามบาทต่อหนึ่งร้อยเย็นเนี้ยนะ หรือว่าแบบมันไปยี่สิบสองบาทต่อหนึ่งร้อยเย็นมาแล้วอะญี่ปุ่นจากที่เคยรุ่งเรือนสุดสุด มันเดินทางมาถึงจุดเนี้ย ได้ยังไง สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตามช่องไซม์ Money Monster นะคะคือตอนนี้ subscriber ของเราขึ้นอยู่แบบตอนนี้มากๆก็นั่นแหละ ขอบคุณทุกๆคนเลยที่แบบว่าชื่นชอบอะไรแบบนี้และถ้าเกิดว่าใครนะคะอยากจะเป็นกำลังใจให้กับทีมงานของช่องไซม์ Money Monster ก็สามารถร่วม Support Us ได้ที่ QR Code นี้หรือแค่กด Like กด Share กด Subscribe เอาไว้ให้ก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะวันนี้เราไปกันต่อเลยนะคะกับเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเนี่ยมันแย่มาถึงจุดนี้ได้ยังไงแล้วมีอะไรที่เป็นบทเลี่ยง บทเรียนให้เราได้บ้าง คือไม่รู้หรอกว่าความแย่นี้มันเป็นบทเรียนของเราแล้วเราจะสามารถทำอะไรได้ไหมในฐานะเป็นแค่ประชาชนคนนึงแต่สายจะมาไฮไลท์ในสิ่งที่มันไม่ค่อยมีใครมาบอกหรอกค่ะว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงกับระบบเศรษฐกิจที่มันไม่ได้ยากเกินไปด้วยซ้ำเรื่องที่สายจะมาพูดนะคะก็คือว่าเชื่อไหมว่าญี่ปุ่นเนี่ยเป็นประเทศที่พิมพ์เงินแบบกระหน่ำพิมพ์เลยมาก มาก มากเลยประเทศหนึ่งของโลก 20 ปีติดกันแล้วค่ะถามว่าเฮ้ยเอาอะไรมาพูด อยู่ มาบอกว่าเขา พิมพ์เงินอัดเข้าไปในระบบมีหลักฐานไหมช่องไซมันนี่มอนสเตอร์มีกราฟมาให้ดูเสมอนะคะอันนี้ก็คือกราฟมันนี่ซัพพลายหรือว่า M2 ของประเทศญี่ปุ่นค่ะที่ชิดให้เห็นว่าประเทศญี่ปุ่นนะคะมีการพิมพ์เงินเยนเพิ่มขึ้นมาในระบบแบบกระหนัมมากๆเลยต่อเนื่องกันจนมันพุ่งทะยานมาถึงระดับนี้ค่ะแล้วพิมพ์เงินขึ้นมาขนาดนี้ถามว่ามันมี System ยังไงมันมีระบบยังไงในการที่พิมพ์เงินขึ้นมาแล้วมาช่วยเหลือเศรษฐกิจมันเป็นอย่างนี้ค่ะ มันเป็นระบบวง กลมแบบนี้นะคะ ก็คือ ธนาคารกลางเนี่ย เป็นคนพิมพ์เงินใช่ไหมคะบีโอเจ เป็นคนพิมพ์เงินขึ้นมา แล้วรัฐบาลก็เป็นคนกู้ค่ะเพราะว่ารัฐบาลเนี่ย ขายพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นรัฐบาลผลิตพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเหมือนคูปองมาให้กับธนาคารกลางเป็นคนซื้อ ก็คือพิมพ์เงินมาปล่อยกู้ให้ตัวเองนั่นเองค่ะซึ่งวงจรนี้นะคะมันเริ่มต้นมานานแล้วแต่ว่ามันมารุนแรงเนี่ยตั้งแต่ปี 2013 ค่ะซึ่ง BOJ หรือว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นก็ตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์เงินขึ้นมาใช่ไหมคะส่วนรัฐบาล แล้วประธานญี่ปุ่นก็ตั้งหน้าตั้งตาผลิตพันธบัตรรัฐบาลของญี่ปุ่นขึ้นมาเพื่อขาย BOJ ค่ะตั้งแต่ปี 2013 นะคะ มันเริ่มต้นตั้งแต่รัฐบาลเนี่ยขายพันธบัตรรัฐบาลให้ BOJ อยู่ที่ไม่ถึง 100 ล้านล้านเยนนะคะเพิ่มขึ้นมาเป็น 600 ล้านล้านเยนในปี 2024 ค่ะ ก็คือเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นทีละมากๆ มาจนถึงทุกวันนี้ค่ะแล้วถ้าเกิดว่าใครติดตามระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็จะเห็นว่าญี่ปุ่นเนี่ยมีนโยบายดอกเบี้ยต่ำแบบศูนย์หรือว่าติดหลบมานานมากทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น เหตุผลก็ง่ายๆเลยค่ะ เพราะว่าคนที่ขอกู้คือรัฐบาลคนที่กู้คือธนาคารกลางเพราะฉะนั้นเป้าหมายก็คือทำให้ดอกเบี้ยนี้มันต่ำ ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้การกู้เงินนี้มัน Flowเขามีดอกเบี้ยต่ำจนถึงขั้นติดลบเลยนะคะบางทีเนี่ยติดลบแบบว่าถ้าปล่อยหนี้เอาไว้เฉยๆ หนี้ลดอะเพราะว่าดอกเบี้ยมันติดลบถามว่าระบบนี้มันใช้ได้ผลไหมมันใช้ได้ผลสิคะ เพราะว่าทุกๆคนก็เคยเป็น แต่จากพยานมาเห็นแล้วว่า ญี่ปุ่นรุ่งเรืองแบบมากๆ เลยในระยะใหญ่ๆ ด้วยทั้งๆ ที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีทรัพยากรนะนำเข้าสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภคปัจจัยสี่เยอะมากประเทศหนึ่งของโลกแล้วมันมาสะดุดล้มตอนไหนมันมาสะดุดล้มตอนที่หายนะทางการเงินมันมาเคาะประตูบ้านแล้วมันก็ไม่รอให้เปิดแต่บุกทะลุเข้ามาเลยอะสิค่ะตอนที่สหรัฐอเมริกาปรับขึ้น ดอกเบี้ยนโยบายแบบเยอะมากค่ะ ไปแบบจากศูนย์จากหนึ่งไปเป็น 5%นั่นแหละหายอาณาที่มาเคาะประตูญี่ปุ่นค่ะพอพูดถึงดอกเบี้ย อ่า หลายๆคนงงว่า เฮ้ย ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกาจะขึ้นจะลงมันเกี่ยวอะไรกับญี่ปุ่น รวมถึงมันเกี่ยวอะไรกับบ้านเราอ่า อธิบายง่ายๆอย่างนี้นะคะ สมมติว่าให้คุณมองเห็นภาพประเทศต่างๆเนี่ยเป็นเหมือนธนาคารญี่ปุ่นเป็นธนาคารที่ให้ดอกเบี้ย 0%ไทยเป็นธนาคารที่ให้ดอกเบี้ย 2.5%ส่วนสหรัฐอเมริกาเป็นธนาคารที่ให้ดอกเบี้ย 5-5% 5.5% ถามง่ายเลยถ้าคุณจะเป็นคนเอาเงินไปฝากธนาคารคุณจะเอาไปฝากธนาคารไหนแล้วสหรัฐอเมริกานอกจากจะให้ดอกเบี้ย 5.5% ยังให้เป็นดัลลาร์สหรัฐนั่นคือเงินที่ทุกคนอยากได้มากที่สุดในโลกแล้วคำตอบก็คือคุณก็จะเอาเงินไปฝากไว้ที่ธนาคารสหรัฐอเมริกาใช่ไหมคะก็เปรียบเทียบเลยค่ะเหมือนกับคน นอกจากการเลือกเอาเงินไปฝากไว้ไหนแล้ว บางทีเนี่ย ถ้าเกิดว่าเขามีเงินอยู่ในธนาคารที่เรียกว่าญี่ปุ่นหรือไทยเนี่ยนะคะเขาก็จะถอนเงินจากประเทศพวกนั้นเนี่ย ไปลงในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เก็ตไหมมันก็เลยจะเกิดเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า เงินทุนไหลออกค่ะ ก็คือไหลออกจากประเทศที่ดอกเบี้ยต่ำ ไปประเทศที่ดอกเบี้ยสูงมันก็เลยจะมีคำกล่าวที่บอกนะคะว่า ถ้าเกิดว่าอเมริกาเนี่ย ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ใครไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตาม มีโอกาส ที่เงินทุนเนี่ยจะไหลออกนอกประเทศไปสหรัฐอเมริกาแบบเลือดหมดตัวถ้างั้นถามว่า อ้าว แล้วทำไมญี่ปุ่นไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปเลยล่ะจะได้หยุดการที่เงินทุนจะไหลออกนอกประเทศมันยาก มันยาก มากๆ เลยค่ะ เพราะว่าญี่ปุ่นเนี่ยกู้เงินเยอะมากๆ นะคะ อัตรานี่สาธารณะของญี่ปุ่นเทียบกับ GDPนี่เทียบกับ GDP ก็คือ นี่เทียบกับรายได้นะ อยู่ที่ 217% ของ GDP ค่ะหมายความว่าญี่ปุ่นเนี่ยหาเงินมาได้ร้อย จะต้องจ่าย 117 มันเยอะมากเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าญี่ปุ่นเนี่ยจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวนะคะซึ่งมันจะทำให้ดอกเบี้ยญี่ปุ่นเนี่ยเพิ่ม ดอกเบี้ยเพิ่มเท่ากับ นี่เพิ่ม แล้วนี่ที่อยู่ในสัดส่วนถึง 217% ของรายได้ก็คือเกิน 2 เท่าของรายได้ถ้ามันเพิ่มขึ้นมาอีกแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวมันคือนี่จำนวนมหาศาลที่จะเยอะขึ้นค่ะเพราะฉะนั้นญี่ปุ่นจึงต้องคิดแล้วคิดอีกไม่สามารถที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อตามสหรัฐอเมริกาขนาดนั้นได้มันก็เลยมีทางเลือกให้ญี่ปุ่นไม่มากนะคะระหว่างจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้วเพิ่มหนี้ตัวเองหรือปล่อยให้เงินทุนไหลออกซึ่งถ้าเทียบกับว่าถ้าจะเพิ่ม เพิ่มอัตราดอกมีนโยบายแล้ว หนี้ที่ค้ำคอตัวเองอยู่เนี่ยมันจะทำให้เศรษฐกิจมันพังง่ายกว่า ก็เลยต้องปล่อยให้เงินทุนไหลออกค่ะนักลงทุนต่างชาติก็เลยเทเยนและเทหุ้นของญี่ปุ่นทิ้งอย่างต่อเนื่องเลยนะคะตามข่าวนี้บอกว่า นักลงทุนต่างชาติเทหุ้นญี่ปุ่น 5 สัปดาห์ติดแล้วอันนี้ก็คือแรงเทที่ใหญ่มากๆอีกครั้งนึงในปีนี้หลังจากที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีการเทหุ้นญี่ปุ่นอย่างรุนแรงไปแล้วครั้งนึงค่ะเงินญี่ปุ่นไหลออกครั้งนี้มากถึง 2,144 บาท หรือว่าถ้าคิดเป็นเงินไทยนะคะ ก็คือเงินทุนไหลออกจากญี่ปุ่นไปแล้ว 4,600 ล้านบาทคร่าวๆ นะคะพอเงินเย็นไม่เป็นที่ต้องการแล้วเงินเย็นถูกเททิ้งมันก็เท่ากับว่า Demand หรือความต้องการเงินเย็นมันต่ำพอความต้องการเงินเย็นมันต่ำ มันก็จะทำให้ค่าเงินเย็นมันอ่อนแล้วถ้าเกิดว่าดูจากสถานการณ์ประเทศญี่ปุ่นตอนนี้แสดงว่ามีแนวโน้มต่อเนื่องนะคะว่าเงินเย็นมีโอกาสจะอ่อนค่าลงไปมากกว่านี้อีกค่ะเพราะนักลงทุนก็มีแนวโน้มที่จะเทเท่าะ เทเยนหรือว่าเทหุ้นญี่ปุ่นมากกว่านี้อีกซึ่งเงินเยนตอนนี้ต่ำที่สุดในรอบ 38 ปีของเงินเยนเลยตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมาวันที่สายกำลังอัดเทปอยู่ตอนนี้เนี่ยนะคะอัดเทป อัดคลิปอยู่ตอนนี้เนี่ยนะคะเงินเยนต่อดลาร์สหรัฐเนี่ยมันอ่อนค่าลงไปถึง 161 เยนต่อ 1 ดลาร์สหรัฐแล้วนะคะแต่ถ้าเป็นเงินไทยวันนี้คืออยู่ที่ประมาณ 0.23 ตอน 1 เยนอะมาต่อกันที่ถามว่าแล้วปัญหาแย่ๆที่ ที่มันเกิดขึ้นเนี่ย มันแย่มาจากสาเหตุอะไรบ้างหนึ่งเลยนะคะ ก็คือ เงินเฟ้อเงินเฟ้อก็คือข้าวของที่เราต้องซื้ออ่ะ มันแพงขึ้นใช่ปะซึ่งญี่ปุ่นเป็นเกาะ อย่างที่บอกว่าเกาะเนี่ยไม่ได้มีสัพพยากรอะไรมากมายส่วนใหญ่นั้นสินค้าอุปโภคบริโภคจะต้องนำเข้าซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สามารถพึ่งพาการผลิตอาหารในประเทศตัวเองได้สูงสุดนะคะ อยู่ที่ 38% เมื่อปี 2023ดังนั้นมากกว่า 60% ของอาหารที่เราต้องกินกันทั้งประเทศนั้นต้องนำเข้า ส่วนพลังงานหรือน้ำมันนั้น ญี่ปุ่นนำเข้าจากตะวันออกกลางถึง 95% นะคะแล้วโลกใบนี้ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันและราคาอาหารก็คือมันกำลังแพงขึ้น เพราะโลกใบนี้ก็กำลังเจอเงินเฟ้อเหมือนกันในขณะที่ประเทศญี่ปุ่น อย่างที่บอกไปว่าค่าเงินของญี่ปุ่นโดนเททิ้งค่าเงินมันก็เลยอ่อนลง มันก็เลยทำให้ประเทศญี่ปุ่นจะต้องเผชิญปัญหาเงินเฟ้อหนักกว่าคนอื่นเพราะค่าเงินอ่อนซื้อของจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศตัวเองเนี่ยก็แพงขึ้นกว่าคนอื่นด้วยค่ะ ซึ่งเราจะมาดูกันตรงนี้ ตรงนี้นะคะว่าแล้วเงินที่คนญี่ปุ่นมีอะ มันเป็นยังไงรายได้ของคนญี่ปุ่นตอนนี้มันเป็นยังไงทำว่ารายได้ที่เป็นตัวเลขของคนญี่ปุ่นอะ มันลดลงไหมไม่ มันไม่ได้ลดลงครับ แต่ Real Wish ก็คืออำนาจการซื้อของที่แท้จริงของเงินที่อยู่ในมือคนญี่ปุ่นนั้น มันลดลงตัวเลขเงินเดือนเท่าเดิมนะ แต่ Purchasing Power หรืออำนาจในการซื้อของของเงินเท่าเดิมของคนญี่ปุ่นอะมันลดลงครับ ตอนนี้มันลดลงมา 0.7% คือลดลงมาเกือบ 1% ถ้าเทียบกันกับเวลานี้เมื่อปีที่ นั่นหมายความว่าคนญี่ปุ่นจนลง แล้วสิ่งนี้มันเกิดขึ้นจนลงมาตลอด 25 เดือนติดหมายความว่าคนญี่ปุ่นต่อให้มีเงินเท่าเดิม แต่ความสามารถในการซื้อของของเงินเท่าเดิมของเขานั้นมันลดลงอย่างต่อเนินมา 25 เดือน เท่ากับคนญี่ปุ่นจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำลงสิ่งนี้ก็ ขึ้นต่อเนื่องจากเพราะว่าค่าเงินเย็นนั้นไม่สามารถที่จะคงค่าของตัวเองได้นี่คือสัญญาณสำคัญที่ตะโกนบอกคนทั้งโลกด้วยนะคะว่านี่คือความสำคัญของการที่เราควรจะต้องมีความมั่นคงของค่าเงิน ของชาติค่ะ แล้วข้อสองที่ทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นมันแย่ลงด้วยนะคะก็คือญี่ปุ่นเจอคู่แข่งค่ะ มันทำให้ความต้องการสินค้าญี่ปุ่นในโลกใบนี้ลดลงก็คือจริงๆ แล้วค่าเงินเย็นมันอ่อน คนญี่ปุ่นซื้อของจากข้างนอกเข้ามาแพงขึ้น แต่ข้อดีก็คือ คนข้างนอกซื้อของจากญี่ปุ่นเนี่ยมันถูกลงมันควรจะทำให้ส่งออกของญี่ปุ่นมันดีขึ้นใช่ไหมคะทำว่ามันดีขึ้นไหม มันก็ดีขึ้นแหละ เพราะว่าส่งออกของญี่ปุ่นนะมันเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีที่แล้วถึง 13.5%แต่สิ่งนี้ไม่พอเลยนะคะ เมื่อเทียบกันกับปริมาณที่ญี่ปุ่นจะต้องนำเข้าสินค้าเข้ามาคือเงินที่เราต้องจ่ายไปเพื่อเอาสินค้าเข้ามากับเงินที่ได้มา เพราะว่าค่าเงินมันอ่อนลงอะ เทียบกันไม่ติด ที่สําคัญคือญี่ปุ่นอ่ะเศรษฐกําลังไม่ดี แล้วก็ดันมาเจอต่อเขาด้วยก็คือคู่แข่งที่มาแรงมากก็คือ จีน ดูกราฟนี้เลยนะคะอันนี้ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมส่งออกรถยนต์ค่ะซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศญี่ปุ่นเหมือนกันกราฟนี้เส้นสีดําคือจีน ส่วนญี่ปุ่นคือเส้นสีชมพูซึ่งจะเห็นจีนนะคะ พุ่งทะลุญี่ปุ่นมาในฐานะผู้ส่งออกรถแปลงตัดเส้นสีชมพูขึ้นไปตั้งแต่ปีสองพันยี่สิบสามค่ะทางทางที่เงินเยนอ่ะมันถูกกว่า เงินเย็นถูกกว่าหยวนอีก แต่คนก็ยังเลือกที่จะซื้อรถ EV ของจีนอยู่ดีเพราะว่ายังไงๆเนี่ย จีนตอนนี้คือสามารถที่จะทำรถ EV ออกมาได้ในราคาที่ถูกกว่าถูกที่สุดในโลกแล้วค่ะเกมนี้ต้องพูดถึงความได้เปรียบของจีนนิดนึงนะคะว่าจีนเนี่ยเขาสร้างความได้เปรียบอันนี้ขึ้นมาได้ยังไงคือจีนเนี่ยเขาได้เปรียบตรงนี้เพราะว่าเขาไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาดอลลาร์มากขนาดนั้นค่ะเขาก็เลยไม่ต้องจำเป็นที่จะต้องไปสนใจกฎ Sanction ที่สหรัฐอเมริกาออกมาที่ทำให้ทุกๆประเทศที่จะต้องทำตามกฎ Sanction นะ ไม่สามารถที่จะซื้อขายน้ำมันกับรัสเซียได้ แต่จีนซื้อจีนซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ทั้ง ที่อเมริกาสั่งแสงชันแล้วก็เลยทำให้จีนมีน้ำมันจากรัสเซียที่ราคาถูกก็เลยทำให้จีนเนี่ย มีต้นทุนพลังงานที่ถูกแล้วเงินในจีนมันก็เลยไม่เฟ้อค่ะแล้วจีนเนี่ยยังสามารถที่จะค้าขายเทรดกับเทรดพาร์ตเนอร์หุ้นส่วนการค้าได้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐขนาดนั้นเพราะว่าจีนสามารถที่จะใช้เงินสกุลท้องผิดในการซื้อขายได้เลยโดยการพุ่งทะยานไปทำสัญญาข้อตกลงการ ซื้อขายเป็นเงินสกุลท้องถิ่นกันค่ะคือแต่ก่อนเนี่ยจีนเขาก็เคยที่ใช้เงินดอลลาร์ซื้อขายกับต่างชาติเยอะมากๆเหมือนกันก็คือดูจากชาตินี้เลยค่ะ ก็คือช่วงปี 2000 นะคะจีนซื้อขายโดยใช้ดอลลาร์สหรัฐ ก็คือเป็นเส้นสีฟ้าเนี่ยมากถึง 83% ค่ะ แล้วก็ใช้เงินหยวนจริงๆเนี่ยแค่ 0.3% เท่านั้นเองแต่พอมาในปี 2024 นะคะ จีนสามารถลดการใช้ดอลลาร์ในการค้าขายกับต่างชาติไปเหลือจาก 83% นั้นมาเหลือแค่ 42% แล้วก็ใช้ ใช้เงินสกุลท้องถิ่นนะคะ ก็คือใช้ Local Chinese RMB เพิ่มขึ้นเป็น 52.9%กรณีนี้ทำให้ต่อให้อเมริกาจะขึ้นดอกเบียนโยบาย ต่อให้จะมีหนี้ท่วมโลกต่อให้จะสั่ง Sanction หรือว่ามีปัญหาทางการเมืองอะไรก็จะกระทบกับจีนเหมือนกันแหละ แต่กระทบน้อยลงในขณะที่เทียบกันกับประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่นยังนำเข้าและส่งออกเป็นดอลลาร์สหรัฐเกือบจะล้วนเลยค่ะแล้วถามว่าทำไมรัฐบาลญี่ปุ่นถึงปล่อยให้ ไหนค่าเงินเย็นมันอ่อนค่าขนาดนั้นล่ะ รัฐบาลไม่ทำอะไรเลยเหรอทำ รัฐบาลญี่ปุ่นทำนะคะ เขาก็มีความเป็นเด็กดื้ออยู่บ้างแหละตอนหลังก็มีการขัดใจใจเน็ตเยเลนอยู่บ้างนะคะชัยเคยพูดถึงเอาไว้แล้วในคลิปนี้ก็ญี่ปุ่นเนี่ยมีการแซงชั่นค่าเงินของตัวเองมาแล้วถึง 3 ครั้งตั้งแต่สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายก็คือตรงเส้นแดงๆ นี้เลยนะซึ่งล่าสุดค่ะ ญี่ปุ่นเนี่ยเทเงินไปมากถึง 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อที่จะแทรกแซงค่าเงินเย็นให้มันไม่ออก อ่อนค่าไปมากกว่านี้แล้ว แต่มันไม่ทันแล้วค่ะมันสายเกินไป มันเหมือนกับการเททิ้งเลยค่ะเพราะว่าเงินเยนนั้นก็ไม่ได้สามารถที่จะรักษาระดับให้มันไม่อ่อนค่าไปมากกว่านี้ได้แล้วสรุปในคลิปนี้ก่อนนะคะว่าญี่ปุ่นเนี่ยตอนนี้เศรษฐกิจมันร่วมมาถึงขนาดนี้ได้ยังไงเงินเยนมันอ่อนค่ามาขนาดนี้ได้ยังไงข้อหนึ่งเลยคือการพิมพ์เงินที่มันมากเกินไปมันเท่ากับการพาให้สกุลเงินและชาติเนี่ยเดินทางเข้าสู่ไหยนะค่ะอะไรนะ ขอดูว่าประเทศ ประเทศไทยพิมพ์เงินไหม พิมพ์ขนาดไหนขอดู M2 ประเทศไทยเหรอเปิดให้ดูนิดนึงเออ ก็มีความเพิ่มชำเหมือนกันแหละแต่ว่าเราจะไม่ได้พูดถึงในคลิปนี้ไม่ ญี่ปุ่นกันต่อข้อสองคือการพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไปค่ะมันก็จะทำให้เกิดเป็นความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจประเทศที่มีเศรษฐกิจที่มั่นคงจะต้องพึ่งพาการผลิตภายในประเทศตัวเองให้ได้ประมาณนึงเลย ข้อ 3 คือ คู่แข่งต่อให้เรานะ จะยังคิดพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลามันก็ยังมีโอกาสที่จะมีคู่แข่งที่แหล้มออกมาแล้วก็แย่งส่วนแบ่งการตลาดของคุณไปได้อยู่ดีค่ะคือในกรณีนี้เนี่ยญี่ปุ่นเขาก็ไม่ได้หยุดพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ของตัวเองนะแต่เขาอาจจะพัฒนาไปอีกด้านหนึ่งที่โลกไม่ได้แบบอยากจะร่วมด้วยก็คือตัวเยอร์ต้าพัฒนาระบบฮัยโดร์ใช่ไหมแต่โลกชอบ EV ค่ะด้วยเหตุผลอะไร เดี๋ยวเราไปเล่ากันในคลิปอื่นนะคะก็เลยทำให้โลกนี้เนี่ย แบ่ง Market Share ไปที่จีน ก็คือซื้อ EV จากจีนมากกว่าซึ่งอีกอย่างนึงก็คือจีนทำ EV ได้ราคาถูกกว่าจริงๆ นั่นแหละและอีกข้อนึงที่สำคัญมากๆ เลยนะคะ ก็คือการพึ่งพาเงินสกุลชาติอื่นมากเกินไปซึ่งในกรณีนี้ ญี่ปุ่นก็คือพึ่งพาการค้าขายส่งออกเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐมากเกินไปหรือเปล่าไม่รู้ เอาเป็นว่ามากก็แล้วกันมันก็เลยทำให้ในวันที่สหรัฐอเมริกามีปัญหา เท่ากับการไปแชร์ปัญหาของเขา แล้วมันดันมาเผชิญเจอโป๊ะกันกับตอนวันที่เราก็มีปัญหาเศรษฐกิจของเราเองด้วยมันก็เลยเป็นการทวีๆ ปัญหามากขึ้นนะคะแล้วมันก็จะทำให้เราแย่กว่าเดิมในวันที่เศรษฐกิจของเราก็ไม่ได้ดีค่ะ