Transcript for:
แนวทางการเลือกซื้อรถยนต์

คิดว่าการแนะนำรถอย่างเนี้ย อย่างอีกงานควรใช้รถอะไรสอยบ้านน้ําท่วมไหมครับ อืม อุ้ย ท่วมแน่นอน ก็เพิ่มเป็นรถยกสูงเข้าไปด้วยครับตอนเนี้ยถ้าเป็นแบบทิมนิยมแล้วกันเนอะ อืมจะเป็นรถสูงห้าประตู ใช่ ระบบไพร์ประตู อืม อันนี้ ยังไงก็ไม่พลาดอ่า ถ้าถามผมว่าว่าถ้าผมจะแนะนํารถอะไรอ่ะ ไม่รู้แปลกกาวอะไรกันเลยน่ะ อืมอันนี้ปลอดภัยสุด เหมือนส่งกะเพราไปใครก็กินเป็นอย่างเงี้ยค่ะ adult หรือยัง เรื่องผู้ใหญ่ที่มหาลัยไม่ได้สอนสวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ adult หรือยัง กับ อิงพารมนต์นะคะวันนี้เราก็เชิญแขกรับเชิญ มีถึงสองคนเข้ามาอยู่กับเรานะคะสวัสดีค่ะพี่บิว พี่ฮา สวัสดีค่ะอยากให้แนะนําตัวหน่อยค่ะ ครับ ก็ผมบิวครับ ก็อยู่กับKarnet ตั้งแต่ ตอนที่คุณฮาร์ดเนี่ยจะอยู่หน้ากล้องคนเดียว ผมจะอยู่หลังกล้องอะไรอย่างงี้ก็อยู่กันมาตั้งแต่ต้นเหมือนกันครับ แล้วก็อันนี้ครับผมก็ฮาร์ดครับก็คงเรียกว่าเป็น Founder ครับร่วมกันกับคุณวิวนี่แหละครับก็ทำคาเนส คาเนสเนี่ยก็เป็นช่องเกี่ยวกับการรีวิวรถยนต์ กระจายข่าวสารรถยนต์อะไรอย่างงี้ครับก็คือเป็นสื่อเรื่องยานยนต์เป็นหลักอะไรอย่างงี้ครับผม เราก็เอ็มที่เราคือเมื่อก่อนตอนที่ เราเริ่มทำเนี่ยเราอยากจะซิมพิฟาย์การหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ให้เข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้นเพราะว่าในช่วงแรกที่เราเริ่มทำมาครับเวลาเราดูตลาดยูทูปอย่างเงี้ยครับพี่ๆที่เขาทำสื่อกันมาอยู่แล้วเนี่ยเขาค่อนข้างดีเทลเขาเยอะแล้วเรารู้สึกว่าบางทีคนรุ่นเราต้องการอะไรที่มันกระชับขึ้นให้มันมีการเรียบเรียงมีความกระชับอะไรอย่างเงี้ยเราก็เลยเห็นถึงช่องว่างที่เราอาจจะเข้ามา ออฟเฟอร์ วารูเข้าตลาดคอนเทนต์ตรงนี้ได้อะไรอย่างนี้ครับครับผม เราก็เลยออกมาเป็นสื่อที่เราแนะนำเทคนิครถยนต์แนะนำเรื่องการซื้อรถยนต์ แล้วก็ข่าวสารวงการรถยนต์ทั่วไปเราก็ Cover หมดอะไรอย่างนี้ครับค่ะ ก็เหมือนที่เกิดมาเลยว่าวันนี้ถ้ามาจาก Karnesยังไงอิงก็ต้องชวนมาขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องรถแน่นอน ซึ่งในแบบเราหรือยังเนี่ย ก็จะเป็นคุยเหมือนกันเป็นครั้งแรก การเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่ หรืออะไรอย่างนี้เนอะทีนี้วันนี้เลยอยากจะชวนมาว่า การเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่ของเราเนี่ยหลายๆคนมักจะเริ่มต้นในการที่ มีบ้านหลังแรก มีรถคันแรก หรือมีอะไรอย่างนี้วันนี้ก็เลยอยากจะเริ่มที่ มีรถยนต์คันแรกเป็นของตัวเองอยากรู้ว่าแบบพื้นฐาน หรือว่าคนส่วนใหญ่ที่พี่วิวพี่ฮัทเห็นผ่านๆมาเนี่ยรถยนต์คันแรกของพวกเขามักเป็นยังไงหรอคะถ้าในกลุ่มของคนรู้จักผมเนี่ย ส่วนใหญ่เขาก็ สุดท้ายก็จะแนะนำว่าให้ซื้อตามโจทย์การใช้งานเพราะว่าคนส่วนใหญ่เราไม่ใช่เหมือนกับคลายนตัวแอสที่แบบเป็นคนรักรถอ่ะเนาะเราทุกคนส่วนใหญ่จะมองรถเป็นเหมือนกับเหมือนตู้เย็นเครื่องซักผ้าอะไรอย่างนี้ครับเป็นเหมือนสินค้าแบบเอามาเป็นเครื่องมือจากจุด A ไปหาจุด Bก็ผมก็ถ้าสำหรับคนทั่วๆไปก็ ซื้อตามโจทย์การใช้งาน ดูแลรักษาง่าย ความรุงรักษาต่ำอะไรพวกนี้ดีกว่ายกเว้นว่าเราจะเริ่มเหมือนกับแพชั่นเรื่องรถแล้วก็จะมาดูลึกขึ้นว่าแบบเออ อันไหนมันมีให้ออฟเฟอร์อะไรที่แตกต่างบ้างอะไรอย่างนี้ค่ะถ้าอย่างแบบเริ่มต้นแรกแปลว่าเราดูแบบไลฟ์สไตล์ของเราใช่ไหมงั้นแนะนำได้ไหมว่าแบบไลฟ์สไตล์แบบไหนที่จะเหมาะรถยนต์แบบไหนในความรู้สึกของผมเหรอครับ ส่วนใหญ่รถคันแรกอ่ะ อาจจะยังมีที่บ้าน support อยู่บ้างอาจจะเช่น ป๊าดาว เราผ่อนหรือว่าเราดาว ป๊าผ่อน หรืออาจจะกันมีแชร์ต้นพุนอะไรอย่างเงี้ยครับแล้วทีนี้ก็คือเหมือนว่า ในสังคมของผมอ่ะครับส่วนใหญ่ถ้าเป็นรถคันแรกอ่ะ คือที่บ้านพ่อแม่อาจจะยังมี influence อยู่ถ้ารถคันแรกเนี่ยอาจจะเริ่มกันต้นที่มหาลัย ก็ได้ถูกไหมฮะหรือว่าจะเป็น first job ก็ได้ มันก็แล้วแต่ว่าข้อตกลงหรือว่า ความสัมพันธ์แต่ละบ้านเขาเหมาะจะให้รถตอนไหนหรืออะไรยังไงอะไรอย่างเงี้ยครับผมก็เลยรู้สึกว่าเวลาถ้าเป็นการเลือกซื้อรถให้คนอื่นพวกนานาพวกเนี้ยยาดๆผมหรือว่าจะเป็นคนรอบตัวใดๆก็ตามจริงๆแล้วเขา ถ้าเขาจะซื้อให้คนอื่นเขาจะมองเรื่องความปลอดภัย แต่ถ้าเวลาเราซื้อให้ตัวเอง เราจะซื้อที่เราชอบจริงนึกออกไหมฮะนึกออกเพราะฉะนั้นแล้วมันก็อาจจะดูปัดใจด้วยว่า บางทีมันอาจจะไม่ได้ตามใจเราทุกอย่าง เพราะว่ามันมีคนร่วมตัดสินใจกับเราหรือเปล่าถ้าดูรถคันแรก ความเห็นผมก็คล้ายๆวิวแหละครับ แนะนำเป็นรถพวกแบบ Mainstream รถนี้จะเล่นยากนิดนึง เพราะสูญบริการค่อนข้างน้อยโวงจรอลัยอาจจะไม่สูงมาก อาจจะรอซ่อมนานราคาถ้าเป็นรถในราคา Eco Car 5-6-7 แสนไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ ผมพูดชื่อแบรนด์ไปเลยก็ได้ว่า Toyota, Honda, Mazda ราคาก็จะขี่ๆกันแต่ถ้าพูดตามตรงว่าถ้ามันเป็น Toyota สูญบริการทั่วประเทศ อะไรถูก ค่าแรงซ่อมถูกอะไรอย่างเงี้ยครับแล้วมันห่างความปลอดภัยค่อนข้างสูงโอเคแน่แหละว่ามันไม่ได้มีเขาเรียกว่าวาวแฟคเตอร์แบบใครๆก็เคยเห็น Toyota ครับ แบบ Viosแบบคันง่ายๆที่ขับไปเพื่อจ่ายตลาดหรือไปเรียนอะไรอย่างเงี้ยครับถ้าตรงนั้นอ่ะจะเป็น Starting Pointอ่าเป็นรถ Mainstreamผมไม่ได้เชียร์แบรนด์ไหนเป็นหลักเนาะจะเป็นรถญี่ปุ่นอย่างไรราคา 6-9 แสนอย่างเงี้ยครับ Toyota Honda Mazda หรืออะไรก็ได้ อันนี้แล้วแต่ก็คืออยากให้ดูไปที่มันเป็นรถคันแรกที่เราเพิ่งหัดดูแลเรายังไม่รู้ว่าต้นทุนแฝงมันอยู่ตรงไหนไม่ว่าจะเป็นค่าประกัน ค่าซ่อม ค่าเสียโอกาสในการที่ไม่ได้ใช้รถเมื่อมันซ่อมอะไรอย่างนี้ครับ ก็เลยคิดว่าถ้าเป็นรถคันแรก ยังไม่อยากแนะนำให้เล่นของแปลกมากอยากให้ทำความรู้จักกับการใช้ชีวิตกับรถคัน หนึ่งก่อน ในสเตรกต่อไป พอเราใช้รถคันแรกแล้ว เราจะรู้แล้วเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรเพราะตอนแรกเรายังไม่มีไอเดียวันไงว่า การเป็นเจ้าของรถคันหนึ่งอะ มันเป็นยังไงอะ นึกออกปะคะเราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรจากมันรถคันแรกมันจะบอกเราแล้วในรถคันที่สอง เราจะไปตามทางเส้นทางของเราถูกว่าเรามี preference แบบไหนตอนแรกเหมือนเราไม่เคยกินกาแฟ ไม่เคยกินอะไรอย่างนี้ครับเราก็ไปชิมง่ายๆก่อน Starbucks ก่อนพอกิน Starbucks จนเบื่อแล้ว เราเริ่มหา Specialty Coffee แล้ว ไปหาดริฟท์กิน ไปหาอะไรกินอะไรอย่างเงี้ยมันจะเป็นตัวเปิดเส้นทางที่ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า เออ เรามีรียอนชีพกับรถคันๆ หนึ่งยังไง อะไรอย่างเงี้ยครับอืมๆ เห็นภาพเลยอะ เพราะว่าอย่างตอนแรกเราก็จะมาถ้าโดยทั่วไปก่อนที่เราจะมาคิดอะไรอย่างเงี้ยเราจะดูลักษณะหน้าตาที่ชอบเป็นอันดับแรกแต่เราก็จะไม่รู้ว่าสมรรถภาพการใช้งานเป็นยังไงถ้าเราไม่ได้ ใช้มันก่อนใช่ครับแล้วเราต้องมีความพร้อมด้านไหนบ้างคะนอกจากว่าเรารู้ว่าเราชอบรถประมาณไหนหรือว่าเราเลือกรถตามการใช้งานยังไงบ้างความพร้อมเนี่ยผมมองว่ามันเหมือนเรา เราเอาสัตว์เลี้ยงเข้าบ้านหนึ่งตัวเพราะเราก็ต้องดูแลเขาด้วยถ้าเกิดว่าคุณพอมีความรู้เรื่องรถอย่างนี้อย่างผมค้าอะไรแปลกๆ ได้ไม่มีปัญหาแต่สำหรับคนทั่วไปผมมองว่าแบบลองดูแบรนด์ที่มันมีศูนย์ใกล้บ้านไหมอะไรอย่างนี้ศูนย์บริการใกล้บ้านหรือมีช่างที่เหมือนกับเป็นอู่รถยนต์ที่เรารู้จักอะไรอย่างนี้ครับเพราะว่า รถมันก็ต้องเซอร์เวท มันก็ต้องซ่อมเนอะอืมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก เรื่องยางอะไรๆ อะไรต่างๆ อะไรอย่างนี้ถ้าเกิดว่าแบบ เอ้ย เราซื้อสมมุติอย่างที่กลับไปที่เรื่องที่ฮาร์ดบอกว่าเราซื้อแบรนด์แปลกมาแล้วแบบศูนย์แถวบ้านเราไม่มีเลยช่างแถวบ้าน โอ้ ซ่อมไม่เป็น ไม่มีอะไรอืม ยังไงมันมีขูดซ้ายขูดขวาอะไรอย่างนี้แน่นอนถ้าในประกันที่เป็นแบบเบี้ยประกันอาจจะแพงหน่อยเขาอาจจะมีรถให้เรามาใช้ระหว่างที่เราซ้อมก็ไม่มีปัญหาอะไรเราก็ไปไกลๆได้แต่แบบสำหรับแบบเบี้ยประกันที่อาจจะไม่ใช่แบบแพงขนาดนั้นเขาอาจจะไม่มีแล้วเราก็ต้องเหมือนกลับมาเบิกค่าแท็กซี่อย่างนี้ก็จะลำบากขึ้นก็อันนี้ก็แนะนำว่าว่าเช็คไว้ด้วยว่าเป็นยังไงการเลือกรถเนี่ยระหว่างแบบเหมือนรถมือหนึ่งกับรถมือสองเนี่ยข้อแตกต่างหรือข้อจำกัด มันมีอะไรบ้างหรอคะ คําว่ามือสองเนี้ยมันมันมันตีความแบบห้าปีสิบปีหรือมือสองแบบปีเดียวสองปีก็มี แบบปีน้อยใช่ไหม ใช่ใช่ถ้าถ้าเป็นสําหรับรถขั้นแรกก็น่าจะเอามือสองปีน้อย เราเราคีบไว้ในประมาณไม่เกินห้าปีแล้วกัน มือสองปีน้อยพวกเนี้ยมันยังอยู่ในส่วนใหญ่วารันตีรถมันยังห้าปี ค่ะ ห้าปีแสนโลสองแสนโลเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนี้มันมันมันมันเยอะขึ้นเรื่อยเรื่อยแล้วเนอะ แล้วก็แบบ เกียร์เครื่องอะไรอย่างเงี้ยมันก็จะแยกกันมันก็มันก็แล้วแต่แบรนด์แล้วแต่ แล้วแต่โปรโมชั่นอะไรช่วงนั้นถ้าความแตกต่างหลักหลักถ้าเกิดเราดูรถเป็นเนี่ยมันก็จะได้เปรียบหรือเรารู้จักยาดพี่น้องที่ดูรถเป็นก็ก็เอาเข้ามาดูก็จะได้เปรียบแล้วก็ราคามึงรถมือ 2 อ่ะจะค่อนข้างคนช่วงนี้ค่อนข้างค่อนข้างดี แต่ข้อเสียของรถมือสองเนี่ยจะมีเรื่องของว่าเราไม่รู้ว่ามันหมุกอะไรไว้บ้างอะไรอย่างเงี้ยถ้าเราดูรถไม่เป็น แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งที่ผมว่าสำคัญเลยคือเรื่องดอกเบี้ย ดอกเบี้ยรถมือ 2 สูงกว่ารถมือ 1เพราะว่ารถมือ 1 ส่วนใหญ่เขาจะมีอย่าง Toyota มี Toyota Leasing อะไรพวกนี้แบรนด์ส่วนใหญ่เขาจะมีตัว Leasing ของตัวเองขอเสริมนิดนึงคือถ้าเกิดว่าเทียบเป็นช่วงนี้เลยครับ Effective Rate ดอกเบี้ยนอก ดอกเบี้ยรถมือ 2 ที่เป็นดอกเบี้ยกู้ธนาคารมันจะอยู่ที่ประมาณ 15%แต่ถ้าเป็น Effective Rate ของ Leasing จากแบรนด์โดยตรงที่ไม่ว่าจะเป็น Toyota Leasing, Honda Leasing หรือว่า Mercedes-Benz Leasing อะไรอย่างนี้ครับถ้าแบรนด์เขา Lease รถตัวเองEffective Rate เป็นประมาณ ต่างกันเยอะเหมือนกันเนอะใช่ครับ ตอนนี้ครับ รถมือ 2 ก็มีปัญหาว่า Inventory ไม่ขยับอืมก็คือเหมือนว่า finance ปล่อยยากขึ้น ดอกเบี้ยโหดมากแต่ว่า price ที่เป็น price tag มันจะถูกมากใช่ๆมันคือเหมือนถ้ามีเงินสดผมว่าอาจเป็นไปได้ว่าคุ้มแต่ว่าถ้าเข้าไปผ่อนทำไปทำมาผ่อนรถมันอาจจะคุ้มกว่าคือทีนี้มันอาจจะอยู่ในสภาพ economy แล้วว่ามันอยู่ตรงไหนด้วยเราพร้อมแบบไหนเราดูข้อจำกัดเราก่อนใช่ไหมใช่ครับถ้าจะย้อนไปว่า บางคนอะ เขาไม่แต่รถมือสองเลยนึกนึกออกไหมฮะเพราะว่าซื้อมือหนึ่งก็คือ มันอาจจะเป็นในเชิงที่เวลาเราไปถอยรถป้ายแดงที่โชว์รูมอะมันเป็นรายละเอฟเอสเปอร์ยีนซ์อย่างหนึ่งเหมือนกันเราไม่อยาก เราบางคนไม่อยากถูกเทคเออเวย์ตรงนั้นนึกๆนึกออกไหมฮะ หรือว่า แต่ว่าถ้าอยากเป็นผมอะ ผมเคยมี experience อันแล้วแล้วผมรู้สึกว่า เออ มันอาจจะเป็นแบบ อาจจะเป็น high เป็น hypeสักแบบเดือนนึงว่าแบบ เราได้ไปถ่ายรูปศูนย์เว้นไปแดงอะไรอย่างเงี้ย สมมุตินะเออ แล้วแต่ทีนี้ก็คือเหมือนว่าพอมันผ่านประสบการณ์แบบนั้นไป สักครั้งสองครั้งอ่ะ ผมจะไปซื้อรถมือสองต่อเฮียผมอะไรอย่างเงี้ยครับ มันไม่มีปัญหาแล้วแต่ว่า ไอใหม่ใหม่อ่ะ ตอนชอบใหม่ใหม่อ่ะเรารู้สึกว่าเราอยากจะแบบ จั๋วปลายแดงอะไรอย่างเงี้ยติดโบสักหน่อย มัน มัน เออ มันเท่ ติดโบอะไรอย่างเงี้ยครับตอนที่ผมออกรถใหม่แบบแดงอ่ะครับ รถ รถยุโรปนี่แหละคือเวลาถ่ายรูปลงอ่ะ เอ็งเกจเมนต์มันเยอะมากอือ แต่ว่าเวลาเราถอยรถใบขาว จากเต็นท์อ่ะ ไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้นคือถ้าเกิดว่าคุณอยากได้ไฮไลท์ชีวิตอย่างไรรถปลายแดงให้ได้มากกว่าอยู่แล้วฮะแปลว่าอยู่ที่ตัวเรา ไลฟ์สไตล์เราแบบว่ามีความโซเชียลด้วยเหมือนอีกเหมือนกันใช่ แล้วก็บางคนเขา cautious มากในเชิงที่แบบว่าอย่างอย่างเคสที่ผมเล่าให้ฟังว่า นาเขาซื้อ อ่า ลูกเขาเรียนหมออะฮะ อ่า มันจะมี อ่า ถ้าเกิดว่าอันนี้ก็เป็นข้อมูลว่าถ้าเกิดว่าคุณเป็นบุคลากรอย่างเป็นหมออย่างเงี้ยครับ อาจจะได้สิทธิ์ส่วนลดดับเบี้ยพิเศษอาจจะแบบหลักลงจากคนทั่วไปสองจุดสองเปอร์เซ็นต์ ลูกค้าชั้นดีอะไรอย่างเงี้ยครับ ยังไงแบบเป็นเป็นลูก ทำส่วนรถให้ได้อะไรอย่างเงี้ย อ่า บ้านบ้านนั้นก็ไม่ได้มีคนในบ้านที่แบบเล่นรถหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยครับ การที่ไปออกรถที่ศูนย์ในราคาที่เขารับได้แบบรถมือสองแบรูมันดีกว่าอยู่แล้วแหละ เพราะว่ามันมีมาแล้วปีสองปีอ่ะเนอะใช่ใช่ เออ แล้วแล้วรถสภาพไม่ได้แย่มาก แต่ว่าราคาอาจจะดีกว่า อ่าไปแอบแบบ เอ่อ สามสิบ สี่สิบเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้เหมือนกันนะครับแล้วแล้วแต่สภาพที่มันได้มา แต่แบบ เรื่องความสบายใจว่าเขาไม่มี expertise ในการ evaluate ว่ารถลงนี้มันโดนอะไรมาบ้าง เจออะไรมาบ้างหรือแบบ gear คืออะไร บางคนยังไม่รู้เลยอะไรอย่างเงี้ยต้องไปออกรถใหม่อยู่แล้ว และยิ่งตอนเนี้ยดอกเบี้ยมัน favor รถใหม่รถไฟฟ้ามีส่วนเขาเรียกว่า support จากรัฐบาลอีกคันละแสนห้าอย่างเงี้ยมันทําให้ตลาดมือสองตอนเนี้ยมันเหมือน ขอทับสับแบบ in shambles ครับว่าแบบทรงมือสองก็เขาเรียกว่า อ่า ผู้ประกอบการก็เขาก็ เป็นห่วงอะไรอย่างเงี้ยครับ อืม เพราะว่าไม่ว่าจะมาจากรถไฟฟ้าที่มีรัฐบาล support ก็ดีหรือว่ามาจากดอกเบี้ยหรือว่าส่วนส่วนรถอ่าจากอ่าสิ้นปีModel X Pro ที่ผ่านมาก็ดีอย่างเงี้ยครับ ทําให้แบบตอนเนี้ยราคารถมัยอ่ะก็ค่อนข้างถูก ใช่ใช่ แล้วรถเก่าก็ปล่อยยากด้วยมันก็เลย มันก็เลยแบบว่าบางทีอ่ะ มันอาจจะเป็นเป็นเป็นสภาพตอนนี้ที่ ถ้าเราเปิดรถใหม่ป้ายแดงเลย ทั้งหมด ถ้ามองเป็นภาพทุกมิติของมันไม่ใช่แค่ราคาต่อราคาอะไรอย่างนี้ เผื่อๆรถใหม่อาจจะมีมูลค่าในการออกใหม่ที่ดีกว่าเป็นช่วงนี้ก็ได้ แต่ย้อนกลับไปอีกนิดเดียวก็คือคนที่เขาซื้อเขาก็ไม่กล้าเสียงจริงๆ ว่าจะไปรุมที่สองแต่อย่างพวกผมมีประสบการณ์ในการซ่อมรถตัวเอง จับรถไม่เยอะ อะไรอย่างนี้ครับเราพอแบบ อิมัลเวลาเวทได้ว่าแบบ คันนี้แบบ สภาพ มันแบบ คอนดิชันมัน 80%85% 90% เราค่อนข้างกล้าที่จะแทงเออ มันอาจจะทำให้ส่วนหนึ่ง เราอาจจะเซฟค่ารถไปได้หลักแสนหลักล้านเหมือนกัน เพราะว่าบางทีลดขุดน้าใช้งานมาแค่ 30,000 โล ใช้ไว้ 2 ปี ราคาถ้าเป็นรถยุโรปอย่างเงี้ยครับBNBM อย่างเงี้ยฟอร์มพลายแท็กอ่ะ วิ่งไปแค่ 30,000 อาจจะหายไปถึง 1.5 ล้านได้เหมือนกันนะครับเดี๋ยวพอผมเพิ่งเซฟ 1.5 ล้านจากรถเพิ่งที่ จากสภาพรถที่มัน 90% Condition น่ะนึกออกไหมฮะ แวลูรถ Deficit ไป 40 แต่ Condition มันหายไปแค่ 10ถ้าตาถึงอ่ะ แล้วมั่นใจ แล้วกล้าเล่นอ่ะ รถมือ 2 ตอนนี้ก็โอเคแต่ว่าอย่างที่ว่าสภาพตอนนี้ต้องเอาทุนออกไปซื้อ เพราะว่า เพราะว่าถ้ากู้แบงค์ แฟคเตอร์แบงค์มันจะสูงกว่ามันจะสูงแล้วเออ แต่ว่าถ้ามี เมบีมือสองไม่มีเกรดดีลถ้าเกิดว่า อัสวมว่าสภาพที่มันเข้ามามันโอเคอะไรอย่างเงี้ยครับค่ะ ที่นี่ถ้าสมมติว่า อ่า สมมติในตีก้อนก้อนว่าพอมีเงินสดก้อนที่คิดว่าฟังแล้ว รถมือสองอาจจะอยู่ในจำนวนที่เราสามารถซื้อได้คอนดิชั่นหรือว่าสิ่งที่เราต้องระวังระวังในการเลือกมือสองเนี้ยมีอะไรที่แนะนําไหมคะ ถ้าสมมติว่าเราเดินไปไปเต็นต์หรือคนแนะนําอ่ะเราควรจะต้องดูสิ่งนี้ก่อนเป็นอันดับแรก สมมติเราตัดสินใจซื้อรถมือสองแล้วเนอะเอ่อ สิ่งแรกที่ต้องทําเลยคือของเหลวทั้งคัน เพราะว่าเราไม่รู้ว่าสภาพเดิมเขาค้างเต็นต์มากี่ปีหรือค้างจากเจ้าของเก่ามากี่ปีอะไรอย่างนี้พวกของเหลวพวกนี้มันก็มีอายุการใช้งานของมันแล้วบางทีถ้าเกิดมันค้างมาเป็นปีอย่างนี้สภาพน้ำมันมันเสื่อมน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเบรกเป็นเรื่องความปลอดภัยเราก็ควรเปลี่ยน พวกนี้ก็มันก็แล้วแต่รุ่นรถแบรนด์รถเนาะแต่ก็ ถ้าเป็นรถแบบไซส์เล็กหน่อยก็ทั้งคันก็อาจจะอยู่ที่หลักหมื่นถ้าเป็นรถไซส์แบบพวก Camry Accord รถไซส์ใหญ่หน่อยอะไรอย่างเงี้ยก็อาจจะอยู่ที่ อ่า เมื่อกี้ผมหมายถึงหลักหมื่นบาทเนอะไอ้ถ้าเป็นพวกรถใหญ่เนอะก็อาจจะสามสี่หมื่นเพราะว่ามันก็สเกลใหญ่ขึ้น ของเลี้ยวเยอะขึ้นตาม ตามไซส์รถอะไรอย่างเงี้ยค่ะ แล้วก็พวกยาง พวกค่าแบตเตอรี่อะไรอย่างเงี้ยก็ก็ควรเผื่อ เผื่อเงินไว้ แล้วก็ถ้า ถ้าผมแนะนําก็เผื่อเงินไว้สักยี่สิบ ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ของของมูลค่าที่เราซื้อไว้เป็นค่าซ่อม สมมุติลดมือสองคันละอ่าล้านนึงจะได้คิดเลขง่ายง่ายก็เผื่อไว้สักสองแสนในระยะเวลาที่เรา อยู่กับมัน เป็นค่าซ่อม แต่ก็ช่วงต้นอาจจะโดนพวกค่าแบบขอถ่ายของเลี้ยวอะไรเงี้ยหนักหน่อยแปลว่าค่า maintenance เขาสูงกว่าแบบรถมื้อนึงเยอะไหมคะมันไม่เกี่ยวหรอกครับ แต่มันก็แล้วแต่สภาพ สมมุติถ้าเอาตัวเลขง่ายสุดเนี่ย 80,000 โลเนี่ยคือ คือ สิบหญิงใหญ่สี่หมื่นโลเนี่ยเซอร์วิสกลางๆ แล้วก็หมื่นโลเซอร์วิสเล็ก มันจะเป็นมันจะเป็นอินเทอร์วอลแบบเนี้ยครับ ไอ้เซอร์วิทย์ใหญ่ พอมันกรบเซอร์วิทย์ใหญ่ มันก็จะมีรายการที่เพิ่มขึ้นอะไรอย่างนี้ครับ คือรถใหม่พอเราใช้มาถึง 40,000 โล 80,000 โล เราก็โดนเหมือนกันแต่รถมือสอง ถ้าเราไปเพิ่งโดน Interval ที่มันเป็น Interval ใหญ่มันก็จะเปลืองเงินเราอะไรอย่างนี้ครับกรมันก็เหมือนสินค้าที่มันเสื่อมสภาพไปแล้วครับชิ้นที่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยแล้วแอบแพง มันจะมีเรื่องยางกับจานเบรกอะไรอย่างนี้ ที่มันจะเสื่อมสภาพเร็วหน่อย เราไม่ควรละเว้นมันเรื่องยางกับเรื่องเบรก ก็ต้องระวังตรงนี้ไว้ ยางก็หลักหมื่นใช่ ยางก็หลักหมื่น แล้วถ้าเกิดเราไปซื้อยางประหยัดอะไรอย่างนี้ครับบางทีมันก็ประหยัดช่วงต้นได้ แต่อายุการใช้งานของยางมันอาจจะไม่ได้ยาวเท่ากับพวกแบบที่ สมมุติยางนี้สี่เส้นหมื่นนึงอีกยาง อีกแบรนด์นึง สี่เส้นสองหมื่น ปรากฏ อ่า ไอ้ สี่ เส้น เนี้ย สี่หมื่น โล โห เราต้อง ทิ้ง ล่ะ แบบขับ ต่อ ไม่ได้ ล่ะ แบบ มัน ไม่ รีด น้ํา เวลา ฝน ตก นี่ลื่น เหมือน อยู่ บน น้ํา แข็ง เลย แต่ อีก แบรนด์ หนึ่ง อาจจะอยู่ ได้ ถึง แปดหมื่น โล อย่างเงี้ย เออ พอ มา ดู เออ ราคามันก็ ถ้าเราตีเป็นเหมือนที่ฮาร์ทบอกว่าเป็น Total Value อะครับ เป็นมูลค่าแบบโดยรวมอะ เออมันเท่ากันนี่ อะไรอย่างเงี้ยเราก็ต้องมาคิดเรื่องตรงนั้นด้วย ถ้าตีกลับมาที่เรื่องของรถมือสองก็ผมก็แนะนำว่าก็เตรียมเงินไว้สักก้อนนึงบำรุงสภาพครั้งแรก แล้วก็ ในระยะที่เราเป็นเจ้าของมัน ก็เหมือนว่าเรามีสัตว์เลี้ยงเราก็ต้องพาไปหาหมออะไรอย่างนี้ต้องไปการดูแลที่เวิ่งขึ้นกว่ารถมื้อนึงเหมือนกันเนอะใช่ครับความระบากอีกอย่างหนึ่งก็คือ เวลาคัดสภาพเนี่ยอันนี้คือส่วนที่เราซื้อแหละ เราตั้งใจจะซื้อใช่ไหมคะแต่ว่าเวลาเราไปดูเหมือนช้อปปิ้งนี่แหละครับเราเลือกสภาพมันยังไงใช่ไหม ก็คือเอางี้แล้วกันค่ะถ้าดูจากข้างนอกเนี่ย อาจจะดูร่องรอยของงานประกอบว่า ว่าสมมุติว่าถ้ารถบางคันชนมาอย่างเงี้ยครับ ภาเนลของพาส สมมุติที่ฝากกระโปรมาที่แก้มหลังเนี้ยเออ มันจะมีรอยต่ออยู่ถ้าเป็นช่องรอยต่อ เออ ถ้าเป็นช่องรอยภาเนลพวกนั้นอ่ะ ถ้ามันไม่ Symmetry อ่ะครับอืมแสดงว่าจะมีกางเคาะกันชนกันอะไรมา นึกออกไหมฮะแต่ว่าเราก็แค่อยากให้แบบเอ่อ เดินรอบคันว่า ไอ้พวกเอ่อ การประกอบพวกเนี้ย เออ มันมีรอยแยก มันมีภาษาผมอาจจะเรียกว่ามันเหมือนเป็นตะเข็บอะครับ ว่ามันตรง มันเรียบ มันเนียนเท่ากันไหมหรือว่าถ้าสมมุติว่าเราเปิดฝากระโปรงมาอย่างนี้ครับน็อตฝากระโปรงเนอะถ้ามันถูกว่าถ้ามันมีเหมือนลอยที่ถูกเปิด งัดเปิดอาจจะมีสิทธิ์ได้ว่าฝากระโปรงถูกเปลี่ยนอืมนึกหน่อยนะครับ เพราะว่าถ้าเกิดว่าฝากระโปรงปกติเขาไม่ถอดกันอยู่แล้วนอกจากจะมีการชน ใช่ๆๆ ถ้าเกิดว่าน็อตฝากกระโปรงมีรอยงัด เพื่อที่จะเปลี่ยนชิ้นใหม่เข้าอาจจะสันนิษฐานได้ว่าคันนี้เคยโดนชนหน้ามาน็อตประตูก็ได้ครับ ตัวน็อตประตูก็ดูได้ว่าน็อตมันถูกงัดหรือเปล่า ถ้าถูกงัดแสดงว่าประตูอาจจะโดนมาเพราะว่าร้อยทางร้อย ผมใช้รถมาถ้าประตูไม่โดนชนหน้า ผมไม่เคยทอดเปลี่ยน ประตูอยู่แล้วถ้าเป็นรถบ้านนะครับ ไม่ใช่รถซิ่ง รถเรสคาร์อะไรอย่างเงี้ยครับ อันนั้นอีกคนละสตอรี่นะ ข้างในก็อาจจะดูเรื่องระบบไฟก็ได้ครับหมายถึงว่าเราเปิดรถมา แอร์มันติดปกติไหมหรือว่ากระจกไฟฟ้าเลื่อนบานทำงานถูกต้องไหมหรือว่าก็ขอพี่เขาเท็จได้นิดนึงแล้วก็ออกไปก็ลองเหยียบสักครั้งนึงว่าเหยียบไปแล้วไฟมันขึ้นหรือเปล่าพวกไฟเกี่ยวกับไฟฟ้าหรือว่าอะไรอย่างนี้ครับ สภาพบอกก็ได้ว่าบอกมันยุ่ยมันเปื่อย หรือว่ามันอะไรมั้ยอะไรอย่างเงี้ยครับโดยรวมแล้วมันก็เหมือนดูความโทรมของมันอะครับว่าอืมว่าเรารู้อยู่แล้วแหละว่าเห็นสภาพ ว่าเฮ้ยรถคันนี้ใหม่กิ๊ง เรารู้อยู่แล้วแหละแหละไม่ต้องดับตัวเองเยอะอ่ะ นึ��ออกมั้ยฮะว่าบางทีเราโอเคเราไม่รู้มากแต่เวลาของมันจะเก่าหรือของมันมีตำหนี่อะ มันใช้ตาดูได้ ถ้าที่ไหนไม่ให้เทสไม่ต้องซื้อจบอืม จริงๆเพราะว่ามันก็เป็นสิทธิ์ของเราเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาจะบริการอยู่ได้ว่าไงครับก็เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราเคยเห็นรถใหม่อยู่แล้วแหละแล้วพอมันเป็นรถเก่าที่มันวิ่งไป 30,000 อ่ะในใจของคุณคิดว่าคุณให้ราคาว่าสภาพมันคุณรับได้กับว่ามันเคยวิ่งไป 30,000 อ่ะ มันเหลือสภาพเท่านี้ รับได้ไหมแล้วก็ลองใช้จุดสังเกตเมื่อกี้ครับ ไป Evaluate ว่ามันเคยอะไรมาหรือเปล่าในภาษาซื้อรถเนี่ยถ้าไม่ถึงคันหน้าถ้าไม่ถึงคันหน้าหรือชนไม่ถึงเครื่อง เป็นงานเก็บกันชนทั่วไปหรือว่างานเก็บสี งานเก็บรอยขวด มันเรื่องเล็กมากแต่ถ้าเกิดมันเคยทนเข้าไปในเครื่องเลยเหมือนว่าเขาก็มีการเรียบรวมกันแล้วเดี๋ยวนี้เขาเรียบรวมกันเก่งมากผมเข้าใจว่ามันเก่งจริงแต่ว่าบางทีรถมือสองก็ยังไงที่มันถูก เพราะมันมีความเสี่ยงอยู่แล้วภาพมันมากับความสำคัญมันเหมือนมันแลกกันเนอะใช่ครับก็น่าจะประมาณนี้แหละครับ วิธีดูด้วยตา คัตสภาพด้วยตา ด้วยตา ตาเปล่า อะไรอย่างเงี้ยครับ ถ้าผม ผมว่า สําหรับคนทั่วไปอ่ะผมว่าวิธีที่ดูง่ายที่สุดเลยอ่ะ สําหรับรถที่โดนชนมาน่ะสีมันจะไม่ตรง อืม มีความไม่เสมอหรอ ใช่ เพราะว่า ไอ้สีเดิมของรถมันจะโดนแดด โดนฝน ความด่างอะไรอย่างเงี้ย มันก็จะ มันจะมีความด่างของมันแล้วไอ้สีที่พลมาใหม่อ่ะครับ มันก็จะเป็นสีที่ใหม่ถ้าเกิดเราดู มัน มันไม่แมสกัน อ่า แล้วก็ดู โอเค ตรงนี้โดนมาแล้วก็ล่า สุดก็ก็ผม ญาติผมก็เพิ่งซื้อมา ก็ก็ถามเจ้าของได้เลยเขาก็บอก อันนี้แค่ อ่า เขาเรียกอะไร ฉี่๋ว นิดหน่อยก็ก็ไม่มีอะไร แล้วก็เขาก็มีรูปอะไรอย่างงี้ให้ดู ค่ะ ครับแล้วก็อีกอย่างหนึ่งที่ที่ที่ผมว่าดูง่ายง่ายว่าแบบชนหนักมาหรือเปล่าคือประตู เวลาเราเปิดปิดประตูอ่ะครับ ถ้าเกิดรถที่โดนนักนักมามันจะมีความฝืดแปลกแปลก เปิดปุ๊บ แล้วปิดมันฝืดฝืด เอ๊ะ รถปกติเวลาเปิดประตูมันก็จะเลื่อน เลื่อน ใช่ไหมมันจะเดินทางเสมอกัน บานประตูอ่ะ มันจะเวลามันจะเปิดแล้วมันไม่สะดุดอ่ะครับอ่านึกมั้ยคะว่าเวลาบานประตูเราเปิดเนี่ย เราก็มันก็ฟื้ดไป แสดงว่ามันมีปัญหาสมมุติเหล็กมันไม่เท่าเดิมอ่ะครับ มันก็ต้องเหมือนยัดเข้าไปให้มันเข้าล็อกเดิมแล้วไอ้ประตูเนี่ยผมว่าเป็นตัวฟองที่ดีมากเลย แล้วก็คนทั่วไปอ่ะผมบอกเออมาลองประตูนี้ฝืดไหม แล้วมาลองประตูนี้ เอ้ยทำไมมันลื่น แปลว่า ฝั่งนี้โดนมา อะไรอย่างเงี้ย อันนี้ก็เป็นวิธีที่ที่ง่ายมากแล้วก็อีกเรื่องหนึ่งของรถมือสองที่อาจจะลืมไป เราเราก็ต้องยอมรับนะว่าไอพวกรถกอไม่เนี่ยเยอะมากบ้านเรา สําหรับคนทั่วไปเนี่ยผมว่าวิธีที่ดูง่ายที่สุดน่ะ ดูที่ อ่า ตรงเบาะครับ ค่ะ เบาะฝั่งคนขับ มันจะมีไอตรงที่เป็นรองน่องเราไอตรงนั้นเวลาเข้าออกรถ มันจะโดนสีกับตัวเรามากที่สุดทำให้มันจะเป็นลอยเยอะที่สุดถ้าเกิดรถมาสองหมื่นโล สามหมื่นโล แต่ลอยมันเหมือนลอยรถที่บ้านเราวิ่งมาหกปีแล้วยังดูใหม่กว่านี้เลยมันแปลกๆ ละผมชอบดูตรงนี้เพราะว่าส่วนใหญ่เขาจะไม่ได้เก็บงานเบาะกันแต่สีอะไรอย่างนี้เขาจะเก็บแล้วบางทีสีเดี๋ยวนี้ก็ผม ผมก็ดู เริ่มดูไม่รู้แล้วครับ เดี๋ยวนี้เขาเริ่มเก็บกันดีมากกำลังจะบอกเลย เพราะว่าสีหลายๆที่เนอะ ที่เขาก็ดูเก็บกันค่อนข้างเนียนแบบแทบจะหาข้อแตกต่างยาก แบบเขาอาจจะแค่บอกว่าโดนแดดโดนฝน สีเลยเพียนไปหน่อย แต่ตรงเบาะนี้ไม่เคยแบบนอกจากดูว่าละเอียดแบบ ขาดไม้ เปื้อนไม้ ยังไงก็ไม่เคยดูตรงๆที่ข้างใต้ตรงนี้เหมือนกันมันไม่ใช่ข้างใต้เลยครับมันคือแบบตรงที่รองนอกเราเลยใช่ฝั่งขวาของค้าคนขับอะครับตรงนั้นอะตัวฟ้องเลยเพราะว่ามันเป็นส่วนที่มันโดนขึ้นลง เวลาเราจะเอายกตัวเองเข้ารถอย่างเงี้ย มันจะเบียดกับสีตรงปีกเบาะทางแกงกลมด้านขวา ประเทศเราขับขวามันจะโดนโดนเยอะ คือมันจะโดนลุกเข้าลุกออกเยอะแล้วก็อีกตัวนึงที่ Seat Belt เข็มขัดนิรภัย มันจะเขียนปีที่ผลิตถ้าปีที่ผลิต Seat Belt มันไม่ตรงกับปีของรถนะครับ ส่วนใหญ่แล้ว อันนั้นอ่ะ คือรถที่โดนชนจนต้องเปลี่ยน seat belt มา อันนี้ก็ดูง่ายครับเห็น compare ระหว่างมือหนึ่ง มือสอง แล้วก็วิธีการดูมือสองไปแล้วอยากรู้ว่า ถ้ามีส่วนที่สามมาให้ compare ด้วย ที่เป็นตอนฮิตตอนนี้ก็คือพวกรถไฟฟ้ารถ EV เนี้ย มันน่ามาเป็น choice ในการเป็นรถคันแรกด้วยไหมคะผมยกตัวอย่างงี้แล้วกัน ล่าสุดเนี้ย motor show เพิ่งปิด ปิดปิดยอดจองไปเนอะ รถไฟฟ้ามียอดจองสี่สิบ ของยอดทั้งหมดก็ประมาณ 2-3 หมื่นคัน ปะ จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้มันก็คงไม่ส่งมอบ 100% หรอก ยอดจองมันก็ต้องนิดนึงแต่แบบรถไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาในประเทศไทย สมมุติว่าเป็นหมื่นคันแต่สถานีชาร์จมันเพิ่มมาหลักสิบหลักร้อยด้วยหรือเปล่าคือตอนนี้สิ่งที่ผมรู้สึกว่า ผมเดินทางแห่งหวัดบ่อย แล้วผมรู้สึกว่าสถานีช้านะครับ มันตามกับยอดของการเจริญเติบตัวของรถไฟฟ้าไม่ทันแต่ในกรุงเทพผมมองว่าไม่มีปัญหาเพราะว่ารถสมัยนี้วิ่งกัน 3-400 โลมันแล้วรถไฟฟ้าชาร์จ 1 ทีแล้วถ้าชาร์จที่บ้านสบายแต่ถ้าอยู่คอนโดอีกเรื่องหนึ่งนะครับเพราะคอนโดเขาก็บางคอนโดอาจจะมีที่ชาร์จของเขาหรือบางคอนโดก็ไม่มีหรือบางคนอาจจะอยู่ Apartmentหรือบางคนอาจอยู่บ้านเช่าอย่างนี้เขาไม่ติดหรืออะไรก็ ก็ด้วยเหตุผลแต่ละคน หรือบางคนอยู่ในซอยลึกแล้วเขาบอกว่าต้องเดินสายไฟมา แล้วเขาต้องเป็นคนจ่ายค่าสายไฟเองมันก็ไม่สะดวก ถ้าเกิดเขาจะชาร์จที่บ้านมันก็ขึ้นอยู่กับโจทย์ แล้วก็สถานการณ์ของแต่ละคนด้วยว่าเป็นยังไงสำหรับสถานการณ์ถูกเฉิน ผมมองว่าน้ำมันมันเพิ่งพาได้ มันเก็บใส่ถังได้ คือน้ำมันมันก็เน่าได้แหละ แต่มันก็ยังพอไปได้ครับแต่ก็ถ้ามันแบบฉุกเฉินอะไรอย่างเงี้ย ผมมองว่ามันยังมีเหมือนกับแนวที่แบบเรายังมีสำรองใช้หรืออะไรอย่างเงี้ยครับในขณะที่ถ้าแบบไฟดับหมดเลย แล้วแบบ เอ๊ะ เราฉุกเฉินต้องไปนู่นไปนี่ ทำยังไงดีผมพูดตรงนี้ครับว่า ตอนนี้ครับ ที่มันได้เปรียบรถน้ำมันในเรื่องส่วนยอดขายคือ Value มันดีเพราะว่ามีรัฐ Support 150,000 บาทมันทำให้คุณอาจจะได้รถที่ขยับไซส์ให้มันใหญ่ขึ้นหรือว่าได้รถที่มีขนาดที่เมื่อเปรียบเทียบกับรถน้ำมันแล้ว Value ยังไงมันดีกว่าเพราะมันมีคนช่วยอยู่ 150,000 บาท นึกออกไหมเออแต่ว่าถ้าเกิดว่าถ้าเราเอา 150,000 บาทนี้ ถ้ารัฐเลิก supportเอา 150,000 บาทนี้บวกกลับเข้าไปผมว่า demand นะครับ elasticity น่าจะ shift เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าตัวมาตรการตรงนี้จะอยู่ไปถึงเท่าไหร่แต่ผมเห็นปีหน้าก็เริ่มวงเงินเริ่มไม่ใช่แสนห้าแล้วเริ่มน้อยลงแล้วอาจจะเหลือแสนนึงแสนหน่อยๆผมจำไม่ได้แต่ว่าณวันซื้อรถไฟฟ้าก็เขาเรียกว่าค่อนข้างคุ้มแต่ว่าถ้าเกิดว่าเราถอด support แล้วค่ะdemand มันอาจจะหดค่อนข้างเยอะเพราะว่าเราต้องมาย้อนดูว่าทำไมอยากซื้อรถไฟฟ้าอย่างแรกเลยอยากประหยัดค่าเชื้อเพลิงอย่างที่สองก็คือ เวลาเราเดินทางในรถไฟฟ้าหรือว่าเราจอดติดในไฟแดงอย่างเงี้ยครับ แบตเนี่ยมันไม่ต้องเดินเหมือนเครื่องแบตมันอยู่นิ่งๆ มันกดแล้วมันก็ส่งมอเตอร์แล้วมันก็วิ่งแต่เครื่องมันต้องตกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยู่ตรงไหน เราเอาแค่นั้นอ่ะ มันก็โอเค แต่ทีเนี้ยปัญหาคือเวลาเราซื้อรถหนึ่งคัน เราก็อยากไปทุกที่เนอะใช่ใช่ ใช่ไหมฮะ เออ เรา เรา เรา ก็เลยบางคนมันรถสองคันเพื่อทําสองอย่างไม่ได้อ่ะ มันต้องเป็นรถคันเดียวที่ทําได้ทุกอย่างทางเลือกรถไฮบริดตอนนี้ก็ไม่ได้แย่ครับ อ่า รถไฮบริดเนี้ยครับ อ่าสมัยนี้เนี้ย มันก็ถูกพัฒนามาอยู่ในจุดที่ มันสามารถ อ่าวิ่งด้วย อ่า ตัวมอเตอร์ไฮบริดเนี้ย ที่เป็นตัวไฟฟ้าเนี้ยสี่สิบถึงร้อยยี่สิบโลครับ มอเตอร์วิ่งอย่างเดียวก็ได้ เหมือนกัน นึกออกไหมฮะ เครื่องไม่ต้องติดเลยก็ได้ผมก็เลยคิดว่าถ้าเป็นรถไฮบริต มันอาจจะเป็นโปรดสินค้าที่ค่อนข้างโอเค ที่จะแบบว่าคุณอยู่ในเมือง ในความเร็วต่ำ เวลาคุณคลานอย่างนี้เครื่องไม่ต้องติดก็ได้ ระบบไฟฟ้ามันลำตัวเองได้แต่พอไปนอกเมืองอย่างนี้ เราก็จะเติม จะแวะที่ไหนก็แวะ อะไรอย่างนี้ครับนึกนึกออกไหมครับ เพราะว่าบางคนเป็นสายเที่ยวธรรมชาติไปในที่ที่ ไปแคมปปิ้งอย่างนี้ครับหรือไปเที่ยวเขาแปลกๆแบบไปเบตตง หรือว่าไปเขาเรียกว่าไปทะเลอะไรอย่างนี้การที่เราต้องแพนที่ชาร์จ ในระหว่างที่เราเที่ยวไปด้วยอะมันอาจจะแย่ง enjoyment ของ journey เราออกไปส่วนหนึ่งแต่บางคนก็ไม่ได้เห็นแบบนั้นไม่ว่ากัน แต่ว่าผมรู้สึกว่าเวลาเราไปเที่ยว ตราจังหวัด ที่ช้ามันอยู่ในไอปั๊มไงแล้วผมอยากกินร้านอาหารแซ่บๆ ที่เป็นแบบ Local Food อย่างเงี้ยครับร้านอาหารปั๊ม อันนี้ผมไม่ได้ว่ามันเป็น Convenient Food เนอะคือมากินที่ไหนก็ได้ แต่ว่าเวลาเราไปถึงท้องที่อะไรเงี้ยเราก็อยากไปหาร้านแปลกๆ แล้วแบบไม่ต้องแทนอะไรเลยแล้ว แล้วถ้าเราดูค่าเชื้อเพลิงต่อไมค์รถไฟฟ้าอาจจะวิ่งอยู่ประมาณ 80 สตางค์ต่อต่อโลถ้าเกิดว่าเป็นน้ำมันเก่าๆเลยอาจจะแบบ 2 บาทครึ่งถ้าเทียบเรื่องต้นนะครับคือรถไฟฟ้าเดินทางต่อไมค์ถูกกว่า แต่ว่าเราอาจจะต้องดูเหมือน Offer ของรถ Hi-Vit ด้วยว่าพอมีรถ Hi-Vit เนี่ย มันไปเทียบกับว่ารถเก่าที่เราเคยใช้ไม่ได้แล้วเพราะว่ารถ Hi-Vit เดี๋ยวเนี่ยครับ อาจจะประหยัดน้ำมันได้ถึงประมาณ 25 กิโลลิตรมันทำให้ค่าเฉลี่ย โอเคมันไม่เท่ารถไฟฟ้าที่ 0.8 หรอก แต่มันอาจจะแบบ 1.3 บาทซึ่งมันแบบ มันพอรับได้เลยฮะ กับ เขาเรียกว่า คอร์ส อพเมอร์นิติคอร์สที่เราต้องมาหาที่ชาร์จหรืออะไรอย่างเงี้ยครับในการ ใช้ทำให้ได้ทุกอย่างแล้วก็อย่างที่บิวบอกไปก็คือ ในความเห็นส่วนผมคือถ้ามันเป็น Fixed Route และถ้ามีบ้านชาร์จประจำอะ โอเค แต่ว่าถ้าเป็น Apartment เด็กหอ หรืออะไรที่ต้องมีอิสระจากตู้ชาร์จอย่างนี้ครับผมไม่แนะนำเลยค่าแบตเตอรี่มันแพงมากอย่างรถสาวแบตแบรนด์หนึ่งแบรนด์ยอดนิยมเลยครับค่าแบตอะ 6 แสน กว่ากว่า บวกแบท ไม่รวมค่าติดตั้งที่เราต้องเหมือนแบบให้ค่าแรง ให้เวจ ให้ ให้ชั่วโมง ค่าชั่วโมงชั่งในการที่จะสลับแบทเข้าไปอะไรอย่างเงี้ยครับหลายหลายแบรนด์ ถ้าเป็นแบรนด์ที่เป็น เมนสตรีมมาร์เก็ตอย่างเงี้ยต้องมีหกแสน ถึงเจ็ดแสนในการเปลี่ยนแบททีเนี้ยครับตอนเนี้ยประกันภัยอ่ะ ถ้าเอาอย่างงี้ว่ารถมันเสียหายถึงแบตเตอรี่ทุนประกันคุณอาจจะไม่คอเวอร์ ในช่วงแรกมีตีขายซากเลย ใช้ปีเดียวตีขายซากเลยนึกออกไหมครับ แล้วพอตีขายซากปุ๊บ ราคาประเมินมันไม่ได้ราคาเสื่อมจริงที่เราไปขายในตลาดอะไรอย่างนี้ครับหรือว่าถ้าเกิดว่ารถบางคันที่แบตอยู่นอกแคสซี่ครับมันอาจจะเกิดความเสียงหายได้ โดยการที่เราคลืดใต้ท้องประกันภัยครับเขาจะให้ซื้อประกันอีกเล่มหนึ่ง เพื่อคุ้มความแบตโดยเฉพาะอืมฉะนั้นแล้วต้องมีประกันสองเล่ม กลายเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นไปอีกสเต็ปนึงเหมือนกันใช่ครับ ต้นทุนแฝงในการ maintain ตรงนี้ครับมันก็ใช่ว่า ใช่ว่าน้อยค่ะก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ว่าเวลาเราซื้อรถดูแลสักครั้งนึงมันไม่ใช่แค่ราคาซื้อมันมีทั้งต้นทุนแฝงระหว่างการใช้งานค่าความเสี่ยงอย่างแบบเมื่อกี้อะไรอย่างเงี้ยครับว่าเป็นความเสี่ยงที่รับได้มั้ยอ่าถ้ารับความเสี่ยงได้ก็ไม่ว่าการก็ใช้ไปแล้ว จบอายุการใช้งานเราขายออกเข้าตลาดได้เท่าไหร่ตรงนั้นนะครับมันคือ Total Value ว่ารถคันนี้จะประหยัดให้เราได้จริงไหมให้ทุกคนลองเอาประเด็นตรงนี้ไปดู Market Price ก็ได้สมมติเราดูแบรนด์หนึ่งซื้อใหม่แล้วตอนนี้เขาขายกันเขาใช้กันแล้ว 3 ปีเขาขายเหลือเท่าไหร่เราได้ Deficit Factor แล้วแล้วเราก็ดูค่า Service ระหว่างทางเราก็ได้ค่า Running Cost แล้วทีนี้เราก็เปรียบเทียบระหว่างทุกแบรนด์เลย หาข้อมูลนิดนึง เข้าเฟซบุ๊คมาร์เก็ตเพจก็ได้ค่ะเพราะเดี๋ยวๆ เจ้าของรถอ่ะขายกันเองในเฟซบุ๊คมาร์เก็ตเพจแล้วนะฮะหมายถึงว่า นัดรถกันเอง ดูรถกันเองเดินลงมาขายเอง คุยกับเจ้าของตรงเอ่อ โดนอะไรมาก รถคันนี้มือสองโดนอะไรมาก พี่ใช้มายังไง อะไรอย่างเงี้ยเออ อะไรยังไงก็ คุณน่องไป read เขาเอง คุณอ่านคนเก่งแค่ไหนคุณก็รู้แหละถ้าเกิดว่าเป็นคนอ่านคนหน่อย ก็อาจจะรู้แหละว่าคนนี้เชื่อถือได้หรือไม่ได้ไปวัดใจกันเอา แต่ว่าก็อยากให้ปลั๊กอิน Factor ทั้งหมดว่าถ้าจะครบวงจรแล้ว บารานซ์มันเท่าไหร่มันไม่ใช่ซื้ออันนี้ถูกกว่า จะซื้ออีกอันหนึ่งอะไรอย่างนี้ผมไม่ได้บอกว่าจบวงจรแล้วรถไฟฟ้าจะถูกกว่าแพงกว่า หรือว่ารถไทยวิทย์จะถูกกว่าแพงกว่านะ คุณตี Excel ขึ้นมาใช่ป่ะ แล้วคุณปลั๊กอินดำเบอร์เลยจบ ข้อมูลหาใน Facebook Marketplace อินเทอร์เน็ตอะไรไม่ยากเลยครับจริงๆ แล้วก็ให้เลขตรงนั้นเนี่ยบรรทัศน์สุดท้ายมันบอกแล้วกันว่าคุณไปทางไหนดีถ้าสมมติว่ารถไฟฟ้ามันออกมากำไร ก็ใช้รถไฟฟ้า ถ้ารถไฟฟิตมันออกมากำไร ก็ใช้รถไฟฟิต หรือถ้ารถไฟฟ้ามันอาจจะไม่กำไร แต่เราอยากใช้ อาจจะขัดทุนกันหลัก สวนกันหลักหมื่นอยากลองของใหม่ เออ แต่อยากเล่น อยากใช้ อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง หรือว่าไปสัมผัสมาแล้ว สมมุตินะครับ สมมุติผมไม่รู้เลขน่ะ อันนี้ อันนี้เคลียร์กันก่อน เออ ว่าทั้งหมดแล้ว ทั้งหมด ลงทุกอย่าง รถไฟฟ้าอาจจะขัด สู้รถไฟฟิตไม่ได้อยู่สามพิ้นบาทแต่ในระยะเวลาห้าปีนั้นอ่ะ เราอยากอยู่กับรถไฟฟ้าไง นึกออกไหมฮะแล้วก็ ดีเทียชันไม่เป็นไร 5 ปีนี้ผมได้ใช้รถไฟฟ้า ใช้แล้วปล่อยเลย บ๊ายบายนึกนึกออกไหมฮะ บางทีบางคนก็รู้แหละว่า รถบางคันมันแพงกว่าคือจริงๆ ผมรู้สึกว่าในชีวิตหนึ่ง ไม่ได้มีใครจำเป็นต้องมีเบนท์หรอกครับอืมนึกนึกออกไหมฮะ แต่เขาอยากใช้ชีวิตอยู่ในเบนท์ มันคือ experience ของเขา ถ้าซื้อเบนท์มาแล้วกะว่ามันจะคุ้ม คือยังไงซื้อเบนท์มา ยังไงอะผมบอกเลยว่าค่าเสื่อมคันๆนึงอะ ถ้าตัวรุ่นใหญ่ๆน้อยอะมีราคาแบบบ้านหายอะ ได้คอนโด 1 ห้องอะ แต่เขาก็ยังซื้อกันนึกออกว่าเขารู้อยู่แล้วมันไม่คุ้ม ซื้อรถมา 5 ล้าน จบอายุการใช้งานขายเหลือ 2 ล้านได้คอนโดดีๆห้องนึง 3-4 ล้าน มันเป็น depreciation ที่เขารับได้แล้วเขาอยากใช้ชีวิตในนั้น คือบางอย่างมันไม่ได้อยู่ที่ความคุ้มค่าเสมอไปอะไรอย่างเงี้ยครับ คือแบบ เราทำจามใจตัวเอง เรามีชีวิตไปกับมันเพราะว่าถ้าเราอิงแบบ Efficiency สูงสุดเลย เดี๋ยวชีวิตไม่มีสีสันแต่ว่ามันก็อยู่ที่เราบารานซ์ชีวิตเราอย่างไรว่าว่าเราจะบารานซ์ความชอบไว้เท่านี้ บารานซ์ความขัดคุณกำไรไว้เท่านี้พูดตรงๆว่าผมก็ชอบรถหลู เราไม่อะไร ผมก็เล่นรถแรงแต่ด้วยที่เราบอกว่า มันอยู่ในจุดที่ผมไม่อยากเล่นมือหนึ่งแล้ว เพราะว่าDeposition มันสูงไป แล้วเรามีความสามารถในการคัดสภาพรถเราก็เลยเล่นมือสองก็ได้ ประหยัดหน้าป้ายไป 40%อะไรอย่างนี้ครับ แล้วก็ไปรุ่นกันต่ออันนั้นก็คือจะเป็น preference เป็น lifestyle การใช้ชีวิตของแต่ละคนเพราะว่าถ้าคนหนึ่งอยากใช้รถไฟฟ้า แล้วเราไปฟอร์สรถน้ำมันให้เขาหรือว่าคนหนึ่งอยากใช้รถมัน แล้วเราไปฟอร์สรถไฟฟ้าให้เขาคนที่อยู่กับรถคันนั้น นอนกับรถคันนั้น 5-8 ปี คือเขานะ ไม่ใช่ผม มันมีคอมเม้นต์นึงเขาเขาบอกว่าเออผมกับพ้านี่ยังยังไม่ยังยังไม่เคยมองภาพตรงนี้เขาบอกว่าสิ่งที่เขาอยากให้เป็นเนี่ยคือเวลาโรงเรียนเลิกอ่ะครับพ่อแม่ทุกคนอ่ะจะมาจอดรอรับลูก อืมแล้วเมื่อก่อนมันก็เป็นรถน้ํามันทั้งหมดเลยใช่ไหม ใช่บางคันเป็นดีเซลบางคันเป็นแบบแบบมันรถเก่าอ่ะมันก็คันมันก็เหม็นอ่ะระบบพวกไอ้ไอ้เขาเรียกอะไรระบบกฎหมายไอ้เสียเลย พวกนี้มันยังไม่สติกเท่าปัจจุบันอะเนอะ มันก็เหม็นเขาบอกว่าแบบเขาอ่ะเขาอ่ะอยากให้เหมือนกับ เวลาลูกเขาเดินลงมาจากโรงเรียนอะเขาไม่ต้องมาสูดดมคว���นอะไรพวกเนี้ย เออ ผมว่าโห คนดีเนอะ เขาก็คิดไป ไม่ถึงทั้งโลกอ่ะนะ ใช่ แล้วแล้วเขาก็ เออ เขาก็บอกว่า เออแต่ก็เดี๋ยวนี้รถไฮบิตมันก็จอดแบบนั้น มันก็เป็น ที่ดีมันก็เป็น ที่ดี แล้วก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ เออ มันก็เรื่องจริงเว้ยก็อาจจะมีคนที่รักความเป็น มากมาก ก็เลยอยากใช้รถไฟฟ้าอ่า ในเชิงของเขาเรียกแหละ แบบ มลพิษอ่ะเนอะ อืม อืม ที่ปลายทอครับใช่ มลพิษปลายทอ อืม เมื่อกี้เราแตะมาค่อนข้างเรื่องเงินเงินทองทองค่าใช้จ่ายมาเยอะเลยอยากรู้ว่าแบบเหมือนการผ่อนรถการดาวอะไรอย่างเงี้ย มันจะมี มีแบบหลายคนที่จะพูดว่าแบบดาวต่ำพอลน้อย แต่ว่ามันจะคือระยะที่นานดอกเบี้ยแพงอะไรอย่างเงี้ยค่ะ เราคิดคำนวณระหว่างพวกเนี้ยกับพวกเงินเดือนฐานเงินเดือนเรา หรือค่าใช้จ่ายเราบาลานซ์กันยังไงได้บ้าง เรื่องไฟแนนซ์เนี้ยมันมันก็มันก็แล้วแต่นะ แต่ถ้า อ่าผมผมเริ่มตอนตอนซื้อก่อนแล้วกัน เราซื้อช่วงโปรโมชั่นแบบมอเตอร์เอ็กซ์โปร์อะไรอย่างเงี้ย ส่วนใหญ่เขาจะเขาจะดันกันเยอะมากเลยแล้วก็ถ้าผมจําให้ผิด ตัวเลขที่จะได้ดอกเบี้ยที่ดีที่สุดเนี้ยส่วนใหญ่จะเป็นดาวน์ยี่สิบห้าถึงห้าสิบ ผ่อนต่ํากว่าสี่สิบแปดเดือนเป็นตัวเลขที่ดี ใช่ครับ ส่วนใหญ่จะได้ดอกเบี้ยที่ดีแต่ถ้าเกิดเรามีความเจ็บ ไม่ต้องใช้รถ ค่ะ แล้ว โอเค เราดาวน์เท่านี้ไม่ไหว เราอาจจะต้อง อ่า เราอาจจะแบบยอมเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพื่อให้มัน Match กับไอ้นี่เราก็ได้แล้วแต่ว่าแบบ ฐาละการเงินของแต่ละคนเป็นยังไงสุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ Financial เขาว่าเขา Afford ดีลที่มันคุ้มที่สุดไว้หรือเปล่ามันควรไม่ได้อยู่ใน Position ที่จะ Afford ดีลที่ดีที่สุดได้ ดีลที่คุณอฟฟอร์ตได้คืออะไรเออ เขามีเงินดาวน์ก้อนเท่านี้ เขาดาวน์ไหวเท่านี้แล้วปลายทางเขาแค่อยากผ่อนเดือนละ 8,000 บาทเขามีเงินดาวน์ 105,000 เขาอยากผ่อน 8,000เราใส่สรรพาการนี้ 2 อันเข้าไปเขาเรียกว่าทุกอย่างมันออกมาเองครับยังไง วิบ ดอกเบียร์ วิบ...อ้าว เดี๋ยวมันกดคุณรวมได้-วิบไฟแนนซ์อะไรอย่างนี้มันคีย์เข้าไปได้อยู่แล้ว ใช่ครับ ก็เลยก็เลยก็บอกว่า มัน depend ว่า position คุณ afford ดีไว้ไหวมันไม่ มันไม่ได้ depend ว่าดีไว้ไหนคุ้มที่สุดอ่ะครับอยากจะให้พี่พี่ช่วยแบบสรีรวมของภาพรวมว่าค่าใช้จ่ายหลังจากที่เราตัดสินใจซื้อรถผ่อนรถแล้วอ่ะมันมีค่าใช้จ่ายอะไรตามมาหลังจากนั้นบ้างคะอ่า ก็พวกประกันอันเนี้ยอันเนี้ยสําคัญเลย แล้วก็ พวกค่ายาง ค่าพวก maintenance อะไรต่างต่างเนี่ยมันก็จะมาอย่างที่ผมบอกแหละส่วนใหญ่ก็จะหนึ่งหมื่นโลกสี่หมื่นโลกแปดหมื่นโลกแล้วแต่มันจะมีพวก hidden cost อยู่เล็กเล็กน้อยน้อยแบบ แบบพวกเป็นค่าเสื่อม ค่าเสื่อมก็อย่างเช่นที่เราบอกว่าพอเราใช้รถครบแบบเออเราอยากซื้อรถใหม่ล่ะเราไปขายปุ๊บ มูลค่ารถเราหายไปเท่าไหน อะไรอย่างเงี้ยอันนี้ก็เป็นเป็นเป็นเป็น Hidden cost อีกตัวนึงที่ที่ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยไม่ค่อยได้คิดถึงผมมองว่าถ้าเราเป็นคนใช้รถเยอะอ่ะ ไอ้พวกค่าใช้จ่ายพวกเนี้ยมันก็จะสูงตามมาด้วยเพราะว่าส่วนใหญ่ไอ้พวกค่า Service ดูแลอะไรเงี้ยมันก็ตามกิโลอยู่ล่ะ อ่า มันก็ เดี๋ยวนี้มันก็จะเริ่มมีบางแบรนด์ที่เขาจะเข้าไปในเว็บไซต์ของเขาอ่ะแล้วเราก็เสิร์ชว่าค่าบริการ แล้วอย่างเตอร์ต้าอย่างเงี้ยเข้าไปดูรุ่นรถของคุณได้เลย แล้วก็ปีรถ แล้วก็อ่า รุ่นย่อยว่าเป็นรุ่นไหน กดเข้าไปปึ๊บ แล้วมันจะมีเป็นตารางมาให้ดูเลยว่าอ่า จนถึงสองแสนโลอ่ะ มีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าอะไรบ้าง แต่คราวเนี้ย ตัวนั้นมันอาจจะ cover ไม่หมด 100% เพราะว่าบางทีเราอาจจะเหมือนกับมีอะไรที่มันพังอะไรร่างทางแต่ก็อันนั้นก็ cover ประมาณ 80-90% ละตัวนั้นผมมองว่า ผมมองว่าโอเคอันนี้คือ expect ค่าใช้จ่ายตรงนี้ไว้ได้เลย อันนี้คือโดนแน่นอน ใช้คำว่าโดนแน่นอนได้เลยอีกเรื่องหนึ่งก็เรื่องที่บอกว่าสมมุติรถเราชนแล้วรออะไร บริษัทรถของเรา ไม่มีรถให้เรามาใช้ระหว่างทาง แล้วก็แบบไม่มีค่าแท็กซี่ ไม่มีค่าเดินทางอะไรอย่างนี้ให้ด้วยตรงเนี้ย สมมุติถ้าเกิดเราไม่มีญาติอะไรอย่างงี้เลยที่แบบยืมรถได้เราโดนค่าแท็กซี่ ค่าเดินทางของเราพุ่งก็ฉุดเลยนะฮะในขณะที่ยังต้องผ่อนกุญแจอยู่นะในขณะที่ต้องผ่อน ใช่ ในขณะที่เรายังต้องผ่อนรถด้วยรถซ่อมแล้วก็ผ่อนรถใช่ ผ่อนรถ ค่าเสียวกาศมันเยอะมากเลยเนอะแบบ อุปกรณ์การทำงานก็ไม่อยู่กับเราใช่รถก็วิ่งไม่ได้ แล้วต้องมาแค้น แบนส่งเงินผ่อนจนกว่ารถจะออกมา รถที่ซ่อมนานเขาถึงเหนื่อยใจกันอย่างที่ช่วงต้นเราคุยกันเรื่องแบนตลาดที่มันเหมือนจะมีที่ซ่อมใบอย่างนี้ถ้าถามผมส่วนตัวอันนี้อาจจะไม่เชิงคลิกหรือว่าไม่เชิงอะไรอย่างนี้แต่มันเป็นแบบเป็นรายล์ฟเอ็กซ์เฟรีเรียนซ์นิดหนึ่งครับ ที่ผมมีเบนท์คันหนึ่ง และทีนี้ครับ ก็คือมันอาจจะถึงเวลาแบบ เปลี่ยนช่วงร่างสมมุติช่วงร่างทางชุดเนี่ย ซื้อกระศูนย์ 40,000แต่ถ้าไปซื้อข้างนอกอ่ะ อาจจะได้ 24,000เพราะว่าใดๆอาจจะมีอะไรเทียบเคียงที่แบบว่าเป็น OEM Plus ก็คือOEM Plus ก็คือไม่ใช่ของโรงงาน แต่ว่าเป็นแบรนด์โชคที่เชื่อถือได้ที่ทำมาเพื่อเป็นอะไรให้รถรุ่นนี้ ก็เลยเราบอกว่าถ้าเล่นรถตลาดอ่ะ โดยเช่น หลักการเดียวกับทุกคันนะครับ ถ้าซื้อรถโมเดล อ่า แบรนด์ที่ตลาด โมเดลตลาดทุกอย่างมันเมนสตรีมหมดเลยอ่ะ โอเค เราอาจจะไม่โดดเด่น เราใช้ของเหมือนทุกคนการเอาตัวรอด ภายหลังการซื้ออ่ะเฟล็กซิบิลิตี้มันสูงกว่า แต่บางคนก็บอกว่า เขาโอเค เขาไม่มีแนวที่เขาเอา Ford ไว้ก็แล้วแต่ใช้ชีวิตบางอย่างมันไม่ได้แบบประหยัดทั้งหมดอะแบบช่วงชีวิตสมมติว่าวัยรุ่นคนหนึ่งแบบสมมติอยากได้รถสปอร์ตอย่างเงี้ยจะให้เขาไปซื้อตอน 50-60 อะมันแบบมันก็ไม่ใช่เนี่ยออกไหม มันคือ experience ที่เราหาจากรถคันๆนึงเห็นด้วยเลย ถ้าจะเลือกรถ ไม่ใช่ว่าเราต้องเลือกแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ตลาดแต่มันเลือกถึงการ maintenance หรือว่าการดูแลหลังจากนั้นเหมือนกันเป็นสิ่งสำคัญ ทีนี้อยากจะให้ลองว่าสมมุติว่าพี่ๆเป็นคนขาย เป็นคนที่มาปรึกษาเป็นการใช้รถแบบว่า ใช้คนเดียว มีที่บ้านนั่งบ้าง มีสัตว์เลี้ยงคิดว่าการแนะนำรถอย่างเนี้ย อย่างอีงอ่าควรใช้รถอะไรสอยบ้านน้ําท่วมไหมครับ อืม อุ้ย อันนี้ก็เรียก อันนี้ก็เรียกสําคัญในไทยกรุงเทพ แจ้งวัฒนะ แปลว่าท่วม ท่วมแน่นอน ก็เพิ่มเป็นรถ ยกสูงเข้าไปด้วยครับแปลว่าสิ่งแวดลอมมีผลต่อการเลือกรถเหมือนกันเนอะใช่ค่ะหมายถึงว่ามันก็ depend นะครับแต่ว่าตอนนี้ถ้าเป็นแบบพิมพ์นิยมแล้วกันเนอะจะเป็นรถสูง 5 ประตูระบบไฮบิทCan't go wrongยังไงก็ไม่ผลัดผลัดกะเพราเลยอะใช่ครับทุกคนใช้ได้ต้องเป็นอิงค์ใครๆก็ใช้ประมาณนั้นได้เลยใช่ครับอันนี้คือมันไม่ต้องเป็นคนอิงค์ก็ได้ครับคือมันเป็นตัวเลขที่สะท้อนอยู่ในตลาดตอนนี้เลยครับว่า ตลาดให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องเพราะว่าถ้าเราดูเนี่ยสมมุติผมลดตัวอย่างเป็นรถญี่ปุ่นน่าจะมีรถจีนพลงด้วยสักนิดนึงนะครับก็ Toyota Honda Mazda เนี่ยToyota เขาจะมี Toyota Corolla Altis เนาะHonda Civic แล้วก็ Mazda3ในแต่ละตัวของมัน เขาจะมีตัวที่ทำมาเป็นตัว SUV ครับตัวยกสูงครับ คาวเตอร์พาร์ทมันก็คือ หมายถึงว่า มันจะเป็นตัวยกสูงของโครงแพลตฟอร์ม หรือโครงสร้างของรถตัวเก่งพวกนี้ครับมันก็จะกลายเป็น Mazda CX-30Toyota Corolla Crossแล้วก็เป็น Honda HR-Vคือ ไอตัวที่มันเป็นตัวยกสูงของมันนะครับยอดขาย ถ้าเป็น Toyota อย่างนี้ จากตัว Corolla Altis ไป Corolla Cross ที่เป็นตัว SUV ตัวยกสูงของมันนะครับอันนี้ Sedan นะ อันนี้ SUV ยอดขายดีกว่า 50%อืมครับผม ถ้าเป็น HR-V กับ Civic คือ Civic มันอาจจะโชคดีนิดนึงเพราะ Civic แบนแข็งเนอะ กลุ่มผู้ใช้งานเกี่ยวแน่นCivic แต่ก็ยังแพ้ HR-V นะ เพราะว่า HR-V อะผมไม่มั่นใจละ อาจจะฝากผู้ฟังไปเช็คตัวเล่ออีกทีนึงเพราะว่าอันนี้เราพูด On The Spot อะ อาจจะผิดได้ แต่ว่า Generally อะ HRV ยอดขายยังเยอะกว่า Civic เลยMazda CX-30 ก็ยอดขายดีกว่า Mazda 3 ไหล่เท่าตัวผมก็เลยมองว่าคนไทยให้ความสำคัญกับรถ SUV ที่รถเป็นมะเทศสูงเพราะว่าถนนเราไม่ค่อยดีและบ้านเราน้ำท่วมส่วนเรื่องคุณมีเทสแบบไหน คุณชอบดีไซน์ Mazda ชอบดีไซน์ Toyota หรือถ้า รับได้ว่า หรือว่าถ้าจะไปรถจีนก็ขายดีที่เป็น BEV สําหรับคนที่ใช้งานได้เนอะเพราะว่าผมก็ต้องยอมรับว่ามันก็มี เขาเรียกว่ากลุ่มคนที่ใช้งาน BEV ได้จริงจริงก็คือ ยอดขายก็ไม่ได้น่าเกลียดเลยครับ หมายถึงว่าไม่ได้แย่ก็เขาก็ขายกัน อยู่ประมาณเดือนละพันกว่าคันอะไรอย่างเงี้ยครับ อย่างตัวแอตโต้สามอย่างเงี้ยกําลังจะบอกว่าถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแบรนด์ใหม่อะครับ เขาก็สามารถ อ่าหาในตลาดมาเล่นได้แล้ว อะไรอย่างเงี้ยครับ ก็ทั้งหมดทั้งปรุงแล้วถ้ามันประหยัด ถ้ามันสูง ถ้ามันใหญ่ ส่วนใหญ่อะครับขายดีหมดตอนเนี้ยนะฮะ นั่นแหละครับ มันก็เลย อ่าน่าจะเป็นภาพสะท้อนของการใช้งานคนไทยแบบ นิดหนึ่งแล้วผมคิดว่าถ้าเกิดว่าเราเข้าไปร่วมในวงรถพรุ่งนี้เอา เอ่อ ตัวเอสยูวี ตัวเอชออนได้ HRV Mazda CX-30 Toyota Corolla ถ้าเราอยู่ในวงเนี่ยคิดว่า 99% ของการใช้งานเพื่อสัญจร ซอสปัญหาทุกอย่างรถเก่งอาจจะยังติดเงื่อนไขมันเตี้ยไป มันไม่พ้นน้ำหรือว่าถ้าเรามีผู้ใหญ่เขาก็ไม่อยากจะยอด ไม่อยากจะย่อตัวลงไปนั่งเขาอยากสเต็ปขึ้นไปเพื่อที่จะนั่งรถที่มันอยู่สูงหน่อยเพราะว่าถ้าเก่งก็ต้องย่อนตัว แล้วบางทีผู้ใหญ่เขาเหนื่อย ก็ไม่ว่าจะเป็นการติดเก้าอี้เด็กชาวซีด่ะครับแบบเก้าอี้เด็กที่บอกหลังอย่างเงี้ยถ้ารถมันมีความสูงที่มากกว่าเราไม่ต้องก้มหลังคอมลงไปเพื่อที่จะสอดเข้าไปในรถเก๋งแล้วก็กลายเป็นว่าหลังจากที่เราลงมาทั้งหมดอ่ะรถสมัยเนี้ยมันไม่ได้เหมือน SUV สมัยเมื่อก่อนแล้วที่มันแบบโหขับแล้วโค้งเคงจะอ้วกตัวมันสูงมันเอนไปเอนมาอย่างเงี้ยครับมันมาถึงมันพัฒนามาถึงจุดที่แบบผมรู้สึกว่า มันไม่ได้เดือดร้อนผู้ใช้งานว่ามันเป็น inferior product เมื่อเทียบกับรถเก๋งที่เป็นขับเตี้ยที่มันมุดมันอะไรอย่างนี้ได้ครับโอเคแหละ ตามฟิสิกส์แล้ว ตามโครงสร้างแล้วมันสู้รถเก๋งไม่ได้หรอกในการที่จะขับขี่ให้มันคล่องตัว แต่ว่าโดยการใช้งานผมคิดว่า มันไม่ได้เป็นรถทางเลือกเหมือนก่อนแล้วครับรถ SUV มันเป็นรถหลักไปแล้วอะไรอย่างเงี้ยครับแล้ว Development มันก็เข้ามาในรถพวกนี้เยอะมากเงินอ่านดีอะครับ มันก็เลยเข้ามาผลัดสนับรถพวกนี้เยอะมากเอาง่ายๆนะ เลือกทรงที่ชอบได้เลยอะครับมันไม่ได้เหมือนความเชื่อความสมัยเก่าแล้วว่า รถสูงขับไม่ดี รถเตี้ยขับดีมันอาจจะแบบขับไม่ดีกว่าก็จริงแหละ ขับแย่กว่าแต่มันหน่อยเดียว นิดเดียว มันไม่ได้ มัน มันเนื้อออกไหมฮะ มันไม่ได้ มันไม่ได้ขนาดเมื่อก่อนคือเป็นหน่อยเดียวที่เราสามารถมองข้ามมันได้ใช่ เออ มันอันนั้นแหละครับ เอ่อ ถ้าถามผมว่า ว่าถ้าผมจะแนะนํารถอะไรอ่ะไม่รู้ไปกล้าวอะไรกันเลยนะ อืม อันนี้ปลอดภัยสุด อืม เหมือนส่งกระเพราไป กินเป็นอย่างเงี้ยครับ อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่อง ค่ะ เรื่องระบบความปลอดภัยอะไรต่างๆ สําหรับรถสมัยใหม่เดี๋ยวเนี้ยครับ ไอ้ระบบ ของโค้งเหล็ก โค้งชัสซีของรถอะไรพวกเนี้ย มันมาไกลมากมากแล้วในขณะที่แบบรถที่แบบคันแล้วแบบ เจ็ดแปดแสนบ้านเราอ่ะ ถ้า ถ้าเรามองกลับไปสักสิบยี่สิบปีที่แล้วอ่ะ ไอพวก อ่า มันจะมี มันจะมีสมัยก่อนเดือนนี้มี ด้วยล่ะ สมัยก่อนไอรถกลุ่มเนี้ยมันก็จะกลางกลาง ไม่ได้แบบ มันจะได้ 3 ดาวบ้าง 2 ดาวบ้างมันจะมีบางคันอาจจะหลุดมา 5 ดาว แต่ก็มันก็จะเป็นพวก Outlier เนาะมันก็ไม่ใช่ทุกคัน แต่สมัยเนี่ยมันแทบจะได้แบบ 4 ดาว 5 ดาวกันหมดแล้วแล้วมันก็จะมีพวกไอ้ระบบ เบรกฉุกเชิญอัตโนมัติอะไรอย่างเงี้ยส่วนใหญ่จะมีช่วยเริ่มเริ่มมีช่วยเข้ามาในในรถกลุ่มพวกนี้ละถ้าสมัยก่อนคุณต้องดูแบบพวกแคมลี่อาคอร์ดแน่นอนหรือแบบออลติสขึ้นไปอะไรอย่างเงี้ยครับรถแบบล้านล้านอัพถึงจะมีแต่เดี๋ยวเนี้ยมันก็อ่าเขาเรียกอะไรเทคโนโลยีมันมันเริ่มสเกลดาวน์ลงมาหารถรถเล็กๆพวกนี้ด้วยแล้วก็ก็ก็ผมมองว่ามันก็เป็นเหมือนกับ อีกเรื่องหนึ่งที่ถ้าเกิดใครเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแบบรถเล็กๆ ปลอดภัยไหมไปดูพวกอาเซียนแอนด์แคป ไปดูพวกยูโรแอนด์แคปได้วันนี้ก็เหมือนจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องรถเยอะมากแล้วก็เรื่องดีเทลค่าใช้จ่ายต่างๆที่ค่อนข้างเยอะมากสุดท้ายแล้ว พี่บิลล์กับพี่ฮาร์ดมีอะไรอยากจะฝากทิ้งท้ายให้กับคนที่อยู่ในช่วงที่สนใจอยากจะซื้อหรือว่ากำลังตัดสินใจแหละว่าจะไปเลือกรถสักคันนึง มีอะไรอยากจะฝากไหมคะถ้ารถคันแรกผมไม่แนะนำให้เรื่องของแปลก เอาอะไรที่เค้าใช้กันอยู่ ตามเข้าไปก่อนตามเข้าไปก่อน แล้วก็ไปหา preference เอาแล้วคำตอบมันจะออกมาในคันหน้า พอมาบริโภคค่าแรกปุ๊บก็ 1. คือไม่แปลก 2. ก็อาจจะไม่ต้องเขาเรียกว่าเอาเท่าที่ไหวอะครับในเชิงที่ว่าไม่ต้องฝืนออกมาเอาอะไรก็ได้จริงๆ เท่าที่แบบไม่ใช่แบบทุกเดือนอะ เราต้องมานั่งแบบจุกค่างวดอะไรอย่างเนี้ยครับอย่างงี้อะครับ อยากให้มันผ่อนแล้วเราไม่ต้องไปคิดอะครับว่าเดือนเนี้ยเราต้องเอารายได้จากไหนมาจ่ายอะสมมุติว่าผ่อนเดือนละ 8,000 ผมรับได้อยู่แล้วอะยังไงไม่มีความเสี่ยงเกิดขึ้นกับผมแน่นอน8,000 ยังไงผมก็หาได้ต่อเดือนมาใช้หนี้ ผมก็เลยคิดว่าถ้าเป็นรถคันแรก ทำให้มัน Low Risk ที่สุดแล้วรถคันหน้าเข้าใจตัวเองแล้ว รถคันหน้าเข้าใจตัวเองแล้วRode Peppertree แล้วเราอาจจะมีความเท่าทันว่าเราควรจะมองประเด็นไหนเพื่อการใช้งานส่วน เป็นหลัง อืม ถ้าแบบนี้แหละครับ แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะให้ทิ้งความชอบเอ้ย ถ้าเราซื้อรถคันนี้มาด้วยความจําเป็นทั้งหมดเลยอ่ะจริงจริงสมมติว่าผมชอบ ตรียอตตา โคโร เอ้ย ผมชอบคอนด้า เอช อาร์วี แต่ว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างมัน ถ้าว่ากันด้วย บรรทัศน์สุดท้าย มันบอกให้ผมซื้อ Corolla Crossแต่ผมต้องใช้ชีวิตแปดปีใน Corolla Cross อ่ะ แล้วผมต้องหันนึก นึกกลับไปมองว่าทําไมผมไม่ซื้อ HRV ตลอดแปดปีนั้นอ่ะทั้งที่แบบอาจจะต้นพื้นอาจจะต่างกันแค่แบบสองสามหมื่นบาทเนอะในการใช้งานให้จบอะไรอย่างเงี้ย เออ บางทีก็อาจจะเป็นอีกอีกแง่หนึ่งเหมือนกันว่าโอเค หนึ่ง หนึ่งก็คือ มันได้ไหม สองคือ เราเราพอใจหรือเปล่าไม่ใช่ซื้อมาแบบ แล้วหวังจะขายตลอดแปดปี เราก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นก็คืออยากให้ สว่างแบบ financial responsibility กับความชอบส่วนตัวค่ะ50-50 ก็ได้อย่าไปคิดมากนึกออกไหมฮะ เราก็ต้องใช้ชีวิตด้วยอืม5 ปีนี้ของเราครั้งเดียวเรามีอายุ 25-30 แค่ครั้งเดียวนะจะไม่ได้ใช้ของที่ชอบหน่อยเหรอก็เลยแบบว่า ก็ balance 2 ประเด็นนี้แล้วกันว่าเฮ้ย เราชอบคันนี้ว่ะ เราขับคันนี้แล้วเรารู้สึกดีเออ เรามั่นใจ มัน empower เราแต่แอดนึงก็คือเรา afford ไว้แล้วถ้าผมอยาก add อีกอย่างนึงคือถ้าแบบเราซื้อรถที่แบบเรา เราไม่ชอบมา เราแบบทุกวันที่อย่างที่ฮาสบอกแล้วเราแบบทุกวันเราต้องอยู่กับมันอ่ะมันจะรู้สึกไม่ดีแหละแล้วก็ถ้าเกิดว่า ที่บ้านมีรถอยู่แล้ว อ่า รถมันไม่ได้พังหรือไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยแล้วไม่มีความจําเป็นต้องซื้อรถใหม่อะไรอย่างเงี้ย ผมผมก็ส่วนตัวก็แอบมองว่าแบบ เดือนนี้รถสมัยใหม่มันก็มาเยอะเนอะ พวกรถไฟฟ้าแบบข้างในนี่แบบก็ต้องยอมรับว่า ว่า ว่าแบบโห มัน มันคนละโลกกับพวกรถแบบรถญี่ปุ่นเลยรถญี่ปุ่นมันดู ไอ้รถพวกนี้แบบดูต้นทุนมาแบบ อุ้ยมันทําต้นทุนได้ไงวะ แล้วไอ้รถญี่ปุ่นมันดูแบบโห แบบ แบบมันฟ้ากับเหี่ยวเลยอ่ะแต่ผมผมส่วนตัวก็มองว่าแบบ เออ ถ้าเราไม่มีความจําเป็นเรา มัน เราก็อยู่ได้อะไรอย่างเงี้ยครับ ถ้า ถ้ารถเรายังใช้ได้อยู่ก็ไม่ต้องไป ไม่ต้องไปหาเรื่องกับมันก็ได้ ได้อ่ะครับมันมันไม่ใช่แบบของที่เราแบบต้องต้องซื้อทุก 5 ปีต้องซื้อทุก 5 ปีอะไรอย่างเนี้ยอย่างที่ว่าไปแหละครับว่ารายละเอียดรายละเอียดยิบย่อยอะไรดีเทลมันมันเยอะมันมีเรื่องของเรื่องการเงินมีเรื่องของภาระภาระการผ่อนภาระสถานการณ์เงินอะไรต่างๆอะไรอย่างเงี้ยครับก็การใช้การใช้ งานของรถเราแบบเจอน้ําท่วม หรือแม้กระทั่งเหมือนกับเราอยู่คอนโดอะไรอย่างเงี้ย แล้วเราอยากใช้รถไฟฟ้าแล้วที่คอนโดไม่ได้ชาร์จก็คือดีเทลยิบจ้อยมันเยอะมากมาก ผมผมยังไงก็แนะนําว่ายังไงก็ต้องกลับไปดูว่าแบบ เราเหมาะกับรถแบบไหน จริงจริงครับ จริงจริง แล้วก็พยายามบารานสว่างแบบสิ่งที่เราชอบกับสิ่งที่เราสิ่งที่เราจําเป็น สิ่งที่เรามีชีวิตอยู่ด้วยแล้วเราจะไม่ลําบากชีวิตเราอะไรแบบเนี้ยครับงั้นหลักหลักเราก็ต้องดูถึงความจําเป็นในการที่จะต้องมีรถก่อน ถ้าเรามีอยู่แล้วและมันยังใช้ได้อยู่ ก็ต้องดูว่าความจำเป็นนั้นในการที่จะซื้อใหม่ สมเหตุสมผลไหมในการที่จะซื้อเนาะถ้ายังพอไหวอยู่อาจจะใช้แบบเดิมไปก่อนหรือถ้าจะซื้อใหม่ก็แบบที่พี่ฮาร์ทบอกว่า ที่เป็นแบ่ง 50-50 ที่การใช้งานแล้วก็ ภาระค่าใช้จ่ายที่เราจะสามารถจ่ายไหวได้ประมาณนี้เลยค่ะขอบคุณพี่บิวและพี่ฮาร์ดมากๆที่มาแชร์เกี่ยวกับเรื่องทั้งการรู้เรื่องลดดีเทลการเลือกแล้วก็ค่าใช้จ่ายต่างๆให้กับพวกเราได้ฟังกันนะคะวันนี้ขอบคุณมากๆเลยนะคะขอบคุณมากค่ะอย่าลืมติดตามฟังอดาวหรือยังนะคะทุกวันอังคารและทุกช่องทางของ The Matter Podcast ค่ะวันนี้สวัสดีค่ะ