[เพลง] สวัสดีค่ะอาจารย์พรพรรณนะคะอันนี้เป็น ส่วนที่ 2 ของเนื้อหาเรื่อง elemination of sineobatrics อันนี้เป็นส่วนที่ 2 แล้วส่วนที่ 1 เราได้เรียนไปเกี่ยวข้อง กับว่า snowmatics หรือว่ายาเนี่ยนะคะมันจะถูก กำจัดออกโดยทางตับแล้วก็ไตนะคะโดยส่วนที่ 1 เราเน้นไปเรื่องเกี่ยวข้องกับ metabolism หรือ biothermation ที่เกิด ขึ้นที่ต่ำนะคะนักศึกษาได้เรียนเกี่ยวกับ เรื่องของเอนไซม์เฟส 1 กับเฟส 2 นะคะใน ส่วนของ Part 2 ของเรื่องของ International batrics เรื่องแรกที่เรา จะมาเรียนกันก็จะเป็นเรื่องของปัจจัยที่ มีผลต่อระดับ metabolism นั้นเราก็จะมา พูดถึงเรื่องความที่ส่วนใหญ่มันเกิดขึ้น ที่ตับนะคะเราก็จะมาโฟกัสที่ตับก่อนนะคะ เสร็จแล้วปัจจัยแรกที่มีผลอาจารย์พูดไป บ้างถึงถึงเรื่องของ polymore Prism นะ คะเดี๋ยวเราจะมาขยายความว่าพอเริ่ม officemum เนี่ยมันมีผลยังไงโดยพลแล้วรอ ปริซึมเนี่ยสามารถทำให้ดาบ metabolism เพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้นะคะเสร็จแล้วใน ส่วนของตับเนี่ยมันก็อาจจะมีสารนะคะที่มา จะเปลี่ยนแปลงเอนไซม์ activity นะคะโดย สารเรื่องนี้เช่นยาถ้าเป็นยาเราก็จะเรียก เป็นเอนไซม์อิทธิปิเตอร์หรือเอนไซม์ เอ็นดูเซอร์นะคะตัวที่ทำให้ทำงานลดลงหรือ ตัวที่ทำให้ทำงานมากขึ้นโดยจะมีทั้งยารวม ถึงอาหารนะคะแล้วก็รวมถึงสมุนไพรตัวใบไม้ ก็เป็นตัวแทนของสมุนไพรนะคะซึ่งตัวของ ปัจจัยต่างๆที่มีผลระดับ metabolism ก็จะ เป็นมีผลต่อระดับยาในเลือดนะคะโดยอาจจะ ไม่ได้มีผลตัวยาของมันเองแต่ไม่มีผลตรวจ ตัวยาตัวอื่นที่ถูกทำลายด้วยเอนไซม์ในตับ นะคะเรามาดู definition หรือนิยามของ genetic polymore Prism ก่อนนะคะเอ่อ ตัวนิยามของ generati Point forism ก็ คือหมายความว่ามันมี 1 rov นะคะเกิดขึ้น ที่โลเคชั่นที่จะขอเจาะจงซึ่งเกิดขึ้นใน population โดยโดยทั่วไปแล้วนะคะเอา ลีโอเนี่ยนะคะจะต้องเกิดขึ้นใน population ที่มีจำนวนอย่างน้อย 1% ถึงจะถือว่าเป็น polymore Prism นะคะซึ่งตัวของ พอลิเมอร์ฟิซึมเนี่ยพบมากในเอนไซม์หลาย ชนิดในเอนไซม์ของเฟสวานกับเฟส 2 นะคะตัว อย่างนะคะอันนี้อาจารย์ยก sip to disigs มานะคะตารางนี้อาจารย์เอามาจากหนังสือ basic ก็ขึ้นข้อความไว้ใจของ cussum ซึ่งเป็นตัว textbook อันนึงที่เราแนะนำ ให้นักศึกษาอ่านสำหรับการเรียนเภสัชวิทยา นะคะอย่างที่อาจารย์บอกตัวอักษรมันเล็กไป นิดนึงนะคะแต่ว่าเราจะบอกเอาลือต่างๆโดย การมีสไตล์อยู่ข้างหน้ามันหรือเอานิ้วที่ 1 เนี่ยถือเป็น Wide type หรือเราจะ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ามันเป็น Reference นี่คือตัวเทียบนะคะเราจะถือเอาเร็ว 1 เนี่ยเป็นฟังก์ชันของมันถือว่า Normal โดยมี activity เท่ากับ 1 นะคะตัวซิป 2ds เนี่ยคนบางคนนะคะอาจจะมี 1 มากกว่า 1 อัน ก็จะเป็น 1 * n อันนี้ถือเป็น duplication นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย ฟังก์ชันของเขาของ Z2 Disc ของเขาเนี่ย ก็จะมากกว่าคนปกติเรามากกว่าแค่ไหนก็คือ ขึ้นกับว่าเขามี n ที่ 3 เนี่ยกี่อันถ้า เขามี 2 อันก็จะเป็น 1 * 2 ก็เท่ากับ 2 เท่าของคนปกตินะคะซึ่งบางอารียลนะคะก็อาจ จะเหมือนกับเอา activ ของมันก็อาจจะ เหมือนหนึ่งได้นะคะเช่นเอานิ้วที่ 2 ของ กรณีนี้นะคะของ 102 disext เนี่ยก็จะ เป็น Normal หรือบางอารีลนะคะเช่น 3 4 3 4 5 6 นะคะฟังก์ชันมันคือนานนานเนี่ย คือไม่มี activity เลยเพราะฉะนั้นเนี่ย ถ้าคนไข้นะคะเป็นซิป 2ds 6 แล้วก็สตาร์ 4 อย่างเงี้ยคนไข้ก็จะเท่ากับไม่มี activity ของ zip นะคะแต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่า โครโมโซมของเราเป็นคู่เพราะฉะนั้นเนี่ย เขาอาจจะมี Star 4 1 อันสตาร์ 1 อัน เพราะฉะนั้นเนี่ยหนึ่งทำงานปกติ 4 ไม่ทำ งานเลยเพราะฉะนั้นถ้าเทียบกับคนปกติเนี่ย เขาก็จะเหมือนลดลงไปครึ่งนึงนะคะหนูไม่ ได้ต้องจำรายละเอียดนะคะว่าสตาร์แต่ละอัน มีเอ่อ activity ยังไงเพราะว่าถ้าเรามีคำ ถามเราจะให้ตารางนี้กันนักศึกษาแต่หนูควร จะอ่านให้เป็นว่าถ้า Normal คือปกตินะคะ เสร็จแล้วถ้าเขามีคูณ n ก็หมายความว่ามัน จะมี duplicate หรือว่าอาจจะมีธุรกิจของ ยีนนั้นนะคะแล้วเขาว่านานเนี่ยคือไม่มี activity หรือบางทีมันอาจจะเป็น Star 10 ที่มันเป็นก็ได้นะคะซึ่ง decis ไม่ได้ จำเป็นว่าต้องลดลงเป็นจุด 5 นะคะแต่อัน นี้ตัวอย่างของเขาลดลงบอกว่าถ้ากับจุด 5 ของ Normal งั้นส่วนหนึ่งเนี่ยหนูควรจะ แปลผลเป็นว่าถ้าเกิดสมมุติว่า 1 คู่กับ 10 นะมันก็จะสู้กับ 1 คู่กับ 1 ไม่ได้อะไร แบบนี้ซึ่งอาจารย์ก็จะถามว่าเอ๊ะแล้วยัง ไงนะคนไข้จะถูก metabolism เยอะหรือน้อย อย่างไรนะคะเพราะฉะนั้นต้องลองอ่านโจทย์ ดูดีๆนะคะซึ่ง genetic polymore Prism นะคะเขาก็จะแบ่งคนทั่วๆไปนะคะเราจะเรียก คนทั่วไปซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่นะคะว่า Normal metabolizer นะคะเสร็จแล้วคนที่ มีที่ทำงานแล้วทำแล้วเร็วกว่าคนปกติก็คือ เหมือนกับว่ายีนนั้นใน activity ดีเนี่ย เราจะเรียกเอ่อเราก็ทำลายยาได้เร็วคนปกติ เนี่ยเราจะเรียกเป็น Rabbit แม้แต่ บอไรเซอร์ซึ่งคนกลุ่มเนี้ยเค้าคนจีนแล้ว เขาจำเป็นต้องการยาในปริมาณที่มากกว่าคน ทั่วไปนะถ้าคุณให้ยาในขณะของคนทั่วไป เนี่ยเขาจะทำลายอย่าเอาไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็อาจจะไม่เห็นผลของยาได้นะคะในอีก กลุ่มนึงนะคะเอนไซม์จะทำงานไม่ดีเท่าคน ปกติเอนไซม์ก็จะทำงานไม่ดียาก็จะถูกแม้ แต่โบว์ไลฟ์ช้ายาก็จะอยู่ในรูปที่ออก ฤทธิ์ได้นานขึ้นกลุ่มนี้ก็จะเป็น slow metabolizer ซึ่งคนกลุ่มนี้เนี่ยจริงๆ เราก็มักจะต้องให้ยาที่น้อยลงนะคะอย่างไร ก็ตามขนาดยาที่เราจำเป็นต้องใช้ในทั่วๆไป เนี่ยมันเป็นขนาดที่กว้างนะคะตัว metabolism บางทีถ้าเป็น slow หรือไปรับ ปิดก็อาจจะไม่ได้มีผลที่ชัดเจนแต่ตอนที่ หนูเรียนในชั้นปี 2 ปี 3 ยาตัวไหนซึ่งตรง นี้มันมีผลค่อนข้างชัดเขาก็จะสอนหนูว่า อ่าต้องระวังนะยาตัวนี้การให้ยาเนี่ยมัน จะเหมือนกับว่าถ้าคนไข้นะถ้าเราพอรู้ว่า เค้าเป็น rapid แม้แต่บอไรเซอร์เราอาจจะ ต้องพิจารณาปรับขนาดยานะเป็นสโลว์แม้แต่ บัวไลเซอร์เราก็ต้องปรับลดลงถ้าไม่ปรับ แล้วก็อาจจะเกิดผิดได้นะคะเสร็จแล้วอัน นี้เป็นรูปของที่เป็นเหมือนกับคล้ายๆอยู่ ในหนังสือนะคะเอ่อซึ่งตรงนี้เนี่ยเขาแทน ที่เขาจะเรียกเป็น Normal แม้แต่ไรเซอร์ เขาเรียกเป็น expensive นะแต่ว่า ไลฟ์เซอร์นะคะซึ่งถ้าเป็นชื่อแบบเนี้ยอาจ จะมีการดูแลให้หนูนะคะว่า accesses คือ Normal นะคะเสร็จแล้วร้านปิดไว้จะ ไรเซอร์เนี่ยเขาเลือกเป็น Ultra Rabbit metabolizer แล้วก็ตัวสโลว์ metabolizer อีกที่นึงเขาจะเรียกเป็นครัว metabolizer นะคะก็อยากให้หนูดูได้ง่ายๆว่าเนี่ยตัว ของ Normal นะคะทั่วๆไปเนี่ยมันจะเป็น กลุ่มใหญ่เราจะมีคนไม่เท่าไหร่หรอกที่ เป็น Rabbit แล้วก็คนไม่เท่าไหร่หรอกที่ เป็นผัวแม้แต่โบว์izerนะคะอ่ะอันนี้เป็น เรื่องของเอนไซม์ซิป 2ds นะคะหนูจะเห็น ว่ามี Range ค่อนข้างกว้างนะคะซึ่งบางคน อาจจะไม่มีเลยบางคนอาจจะเร็วเกินเร็วสุดๆ เลยนะคะก็เร็วสุดๆเนี่ยเขาก็น่าจะมีตัว ของยีนที่ออกฤทธิ์แบบ Normal หรือ increase Normal แต่หลายอันหรือว่า ยีนส์ที่ออกฤทธิ์แบบ increase นะคะอ่ะ เสร็จแล้วมันเกี่ยวข้องกับดักรถซิ่งยังไง นะคะอันนี้เป็นอาจารย์เอามาจากวารสารนะคะ Nature Review genetic นะคะอันนี้เป็น เรื่องของความว่าโคชิโนบิกเกี่ยวกับยานะ คะซึ่งตัวยาชื่อหน่อทิพย์ไทลินเนาะ ทิปไตลีนเนี่ยเป็นยาเราเรียกว่า antiedants หรือยาต้านซึมเศร้าดูกองใหญ่ ๆเนี่ยอันนี้ก็คือคนทั่วๆไปนะคะซึ่งมันจะ มี dose ที่เรามักจะแนะนำให้คนทั่วๆไปใช้ อาจจะอยู่ในช่วงประมาณตรงนี้นะคะถ้าหนูดู มันก็จะเป็นร้อยถึง 150 ตรงนี้เป็นอะไร เนี่ย 250-500 นะคะโดยทั่วๆไปก็อาจจะใช้ประมาณ ร้อยสองร้อยอะไรแบบนี้นะคะซึ่งก็ถือว่า เป็นขนาดยาที่เหมาะสมแต่ว่าคนบางคนนะคะ ถ้าเขาไปแต่ว่าไม่ดีเนี่ยระดับยาถ้าควร ใช้อาจจะลดลงไปน้อยกว่าครึ่งอีกนะคะเป็น 20-50 ได้นะคะอันนี้เนี่ยเขาแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มบางทีเขาก็แบ่ง 3 บางทีเขาก็แบ่ง สีนะคะซึ่งกรณีของอ่าน้องชายลีนในรูป เนี่ยเขาแบ่งเป็น 4 เขาแบ่งเป็นเอ่อคน ทั่วๆไปถึงเขาเรียกเป็น extensive metabolizer นะคะเร็วกว่าปกติเราเรียก ว่า ultraki แล้วก็เรามีกลุ่มที่เรียกว่า เป็น intermedia แล้วก็กลุ่มที่เรียกว่า เป็นผัวนะคะซึ่งกลุ่มที่เป็นเนี่ยเค้าจะ มี non functional เอาลีนไปเลยนะคะขณะ ที่กลุ่มที่เป็น SMS เนี่ยเขาอาจจะมีรี ฟังก์ชัน rov นะคะส่วนกลุ่มที่เป็น Ultra เราปิดหนูจะเห็นว่าเหม็นไหมเหมือนมีอยู่ 2 อันก็คือเขามี functional จีนนะแต่ว่าเขา มีเพิ่มเป็น 2 อันน่ะเขาก็เลยทำงานได้ดี ขึ้นนะคะโดยคนส่วนใหญ่ก็ยังจะเป็น Normal หรือ extensive metabolizer อยู่นะคะ แล้วจะเห็นว่าเขาก็จะแนะนำโดสยาวว่าถ้าคน ที่เป็นอัลตราปิดนะอาจจะต้องเพิ่มสูงถึง 500 เลยก็ได้ไม่งั้นเขาก็จะไม่ได้ผลนะคะ ซึ่งงาน notify เนี่ยเป็นยาของยาไอซ์ ดีเพรสแตนต์ซึ่งเป็นยาต้านซึมเศร้าบาง ครั้งเนี่ยเรามักจะให้เหมือนกับวัน Side Fit or คือคนไข้เนี่ยทุกคนได้ยาขนาด เท่าเทียมกันและยาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เนี่ยทำไมบางคนกินแล้วหายบางคนกินไม่หาย เนี่ยบางครั้งเปลี่ยนยาไปเรื่อยๆซึ่งใน อนาคตถ้าเรามีเทคโนโลยีแล้วก็อะไรเรา มาริตี้ของการตรวจพบซึ่งพวกนี้ดีขึ้น เรื่อยๆเราอาจจะพบว่าจริงๆที่เขาไม่หายนะ เป็นเพราะเขาแย่ยามไม่เพียงพอหรือเปล่า เพราะอาจจะเป็น Ultra เราปิดแม้แต่ ปอไรเซอร์ก็ได้นะคะซึ่งถ้าสมมุติเราไม่มี ข้อมูลตรงเนี้ยคนทั่วๆไปนะเราให้สัก ประมาณ 200 มเราอยู่ดีๆจะไปให้เขาเป็น 500 mg เนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่าหลาย เภสัชกรรมก็จะบอกว่าคุณหมอจ่ายยาผิดไหม จ่ายยาเกินหรือเปล่าหรืออะไรแล้วคุณหมอก็ อาจจะกังวลได้นะคะว่าจริงๆแล้วเนี่ยยาพวก นี้มันจะเกิดเยอะเกินไปจะเกิดผลผิดหรือ เปล่านะคะเสร็จแล้วอันนี้เป็นอีกตัวอย่าง นึงนะคะอันนี้เป็นตัวยาชื่อเบต้า Blogger เดี๋ยวหนูจะไปเรียนอาจารย์ในปีหน้านะคะ ว่ามันคืออะไรยากลุ่มนี้เป็นยาที่ใช้ลด ความดันเป็นยาที่มีผลต่อหัวใจนะคะสิ่งที่ เกิดขึ้นก็คือเขาบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้าเราให้เซ็นโดสกับ all type of Operation นะคะกรณีนี้ EM ก็คือ Normal นะคะนะ um Ultra labric อันนี้คือเร็ว นะคะ intermedia แล้วก็ถั่วนะคะก็อยากให้ เห็นว่าสีแดงก็คือยีนที่ทำงานไม่ได้เขาก็ มีรูปกากบาทไว้ให้อยู่นะคะอย่างที่เห็นก็ คือถ้าเราให้ยาในขณะเท่าเทียมกันนะคะคน ที่ไป Ultra เราปิดเนี่ยระดับยามันจะถูก ทำลายเร็วเกินไปอันนี้เป็นเวลาอันนี้เป็น construction ของยานะคะก็จะเห็นว่าระดับ ยาเนี่ยมันขึ้นนะแต่แป๊บเดียวมันถูกทำลาย ละระดับยามันก็จะไม่ถึงบริเวณที่ออกฤทธิ์ นะคะสีเทาๆนี่คือบริเวณที่ออกฤทธิ์นะเรา เรียกมันเป็นก็คือช่วงที่มีช่วงที่ระดับ ยาในเลือดสามารถออกฤทธิ์ได้นะคะแต่ถ้า เป็นคนทั่วๆไปใน population ประชากรเนี่ย ถ้าเราให้ขนาดเดียวกันนะคะสิ่งที่เกิด ขึ้นก็คือเราก็จะได้ expected respond ในขณะที่ญี่ปุ่นที่เป็น Ultra เราปิดมัน จะไม่มี respon เลยแล้วถ้าคนไข้ดันเป็น intermedia นะคะหรือเป็นทัวร์เนี่ยสิ่ง ที่เกิดขึ้นก็คือว่าตัวของยาเนี่ยมันเยอะ เกินกว่าระดับที่เราคาดหวังไว้ว่ามันจะ ต้องออกฤทธิ์มันก็ออกฤทธิ์แหละแต่มันจะ ออกฤทธิ์มากเกินไปมันก็เลยเป็น Accessories Response แล้วเมื่อไอ้ แซกโซเรสฟ้อนแล้วเนี่ยมันอาจจะเกิดเป็นผล ข้างเคียงที่เราไม่อยากได้เราจะเรียกมัน ว่า adverse Effect นะคะเพราะฉะนั้นยา ตัวเดียวกันให้ในปริมาณเท่ากันคนไข้บางคน รักษาหายเอาว่าส่วนใหญ่รักษาหายส่วนหนึ่ง ไม่หายส่วนหนึ่งเกิดเป็นผลข้างเคียงอาจจะ เกิดขึ้นจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้นะคะอ่ะ เรื่องของ genetic morphism ก่อนเอ่อ datrossing เนี่ยตอนนี้ก็เป็นนโยบายของ ประเทศนะคะแล้วเขาก็กำลังรณรงค์เกี่ยวกับ เรื่องนี้อยู่เพียงแต่ว่าเทคโนโลยีและ ราคาก็ยังอาจจะไม่สามารถเอาไป label สำหรับการตรวจทุกอย่างได้ตอนนี้เราก็ยัง โฟกัสเกี่ยวกับเรื่องของการแพ้ยาเดี๋ยว หนูจะได้เรียนเรื่องนั้นต่อไปในชั้นปีที่ 2 แล้วก็ 3 นะคะ ถัดมานะคะสิ่งที่มีผลต่อการทำงานของ เอนไซม์เป็นเอนไซม์อินทิริเตอร์หรือ induser นะคะทำให้เอนไซม์ทำงานน้อยลงทำ งานมากขึ้นมีตั้งแต่ยาแล้วก็สมุนไพรนะคะ เอนไซม์อิทธิบิเตอร์เนี่ยจะยับยั้งแม้แต่ บาลีซึ่งเอนไซม์ทั้งหลายโดยตัวที่มีผล หลักๆจะเป็นซิป 450 นะคะก็จะเห็นว่าอาจารย์เขียนแบบไม่ ถูกหลักและอาจารย์เขียนเป็น cyp-450 เพราะว่าส่วนหนึ่งก็คืออาจารย์ก็จะติดว่า เอออยากให้นักศึกษารู้นะว่ามันเป็น ไซโทพีช 450 นะคะโดยตรงนี้เนี่ยมันอาจจะ มีผลที่แสดงความผิด 450 ที่ enterosis ตัว intestional Wall หรือ Take Auto size ที่ River ก็ได้นะคะ อยากให้ทราบว่าไม่ใช่มีผลต่อที่ตับเท่า นั้นอาจจะมีผลตั้งแต่ตรงลำไส้เล็กเลยส่วน เอนไซม์แอนดริวเซอร์เนี่ยการทำงานนะคะ ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยมันจะไปมีผลเพิ่มการ สร้างสถิติของแม้แต่ Balance ซึ่งเอนไซม์ นะคะหรือบางครั้งมันอาจจะไปลดการทำลายแม้ แต่ตัว Galaxy S3 นะก็จะเห็นว่าตัว เอนไซม์ที่มิเตอร์เนี่ยไปเป็นผลต่อ เอนไซม์โดยตรงการทำงานของเอนไซม์เลยแต่ ตัวเอนไซม์ดิวเซอร์จะไปเป็นผลต่อปริมาณ ของเอนไซม์นะคะเดี๋ยวเราไปดูเอนไซม์ที่ ปีเตอร์ก่อนหนูจะได้เรียนเรื่องเกี่ยวกับ ไซส์ต่างๆของเอนไซม์ที่มาจากตอนต้นของราย วิชาแล้วนะคะแต่ว่าอาจารย์ขออนุญาตทบทวน ให้หนูนิดนึงนะคะเอนไซที่วิชั่นวันนี้เรา จะพูดถึงทั้งหมด 4 แบบแต่ว่าแบบหลักๆที่ เราจะพูดถึงหลักคือแบบที่ 1 กับแบบที่ 2 นะคะแบบที่ 1 เราเรียกว่า competitive ativision ความ hdration ก็คือตรงนี้ เป็นตัวเอนไซม์นะตรงแหลมๆตรงเนี้ยเป็น Active size นะคะซึ่งตัว substrate ก็ จะมาจับกับ Active size ส่วนตัวที่ มิเตอร์ก็สามารถจับที่ Active เหมือนกัน ดังนั้นมันจะแย่งกันจากมันถึงเรียกเป็น competitive Vision นะคะซึ่งเมื่อเกิด การจับกับตัวเองที่มิเตอร์แล้วมันก็จะทำ งานไม่ได้ซึ่งตัวนี้ปีเตอร์เนี่ยอาจจะ เป็นการจัดแบบ Reverse sable นะคะส่วน ใหญ่แล้วมันก็จะจับปล่อยจับปล่อยนะแบบที่ 2 ของการยับยั้งเอนไซม์คือนอน competitive activition แบบนี้เนี่ยตัว ที่เตอร์นะไม่ได้มาจับกับตรงแอป 13 สาย แต่ไปจับกับที่อื่นที่เราเรียกมันว่า alloseos สีใสนะคะพอมันจับเสร็จแล้ว เนี่ยมันทำให้ Active เปลี่ยนแปลงรูปร่าง ไปทำให้ตัว substrate จะไม่ได้นะคะเสร็จ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือไม่มีการทำลาย ตัวซับ Stage นะคะอันนี้เป็นแบบหลักๆของ เอนไซม์ที่เวชชั่นที่หนูต้องรู้จักนะคะขอ แผนที่ถีบก่อนนอนค่ะ petitive หลักการ เนี้ยก็จะใช้เกี่ยวกับรีเซ็ตเตอร์ในปี 2 ที่หนูจะได้เรียนด้วยนะคะ ส่วนแบบที่ 3 กับแบบที่ 4 เนี่ยเป็นแบบ ที่พบได้แต่ไม่ใช่แบบที่พบได้บ่อยนะคะแบบ ที่ 3 เราเรียกมันว่า unconative Vision แบบนี้เวลาที่ antibiter จับแล้วเนี่ยตัว ของ Subject ยังจับได้อยู่ในบางครั้ง เนี่ย subset จะจับเกาะและอยู่เตอร์ค่อย มาจับนะคะอย่างไรก็ตามเนี่ยมันจะเกิดสิ่ง ที่เกิดเป็นเอนไซม์ substrate แล้วก็ อิทธิบิเตอร์ Complex ซึ่งพอเกิด Complex นี้แล้วเนี่ยมันจะไม่สามารถทำงานได้อัน นี้ก็เลยเรียกเป็นอัน contentive นะคะ ส่วนแบบที่ 4 นะคะอันนี้เป็นแบบเฉพาะของ เอนไซม์เราเรียกมันว่า Suicide ตอนนี้ เนี่ยไอ้ที่มิเตอร์นะคะมันจะมีความสามารถ ในการจับกับ Active size นะคะแต่พอจับ เสร็จแล้วนะอยู่ดีๆมันจะเกิดการเปลี่ยน แปลงแล้วทำให้ตัว ativator เนี่ยค้างอยู่ ในตรง Active size ไปเลยสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือคราวเนี้ยเอนไซม์จะทำงานมาจับกับตัว ของ Subject ไม่ได้แล้วนะคะก็คือเหมือน ตัวของ antier เนี่ยมันเสียสละตัวเองฆ่า ตัวเองทิ้งพร้อมกับเอนไซม์แล้วก็เลยเรียก กันว่า Suicide Vision นะคะแบบเนี้ยเป็น การยับยั้งแบบที่เป็น erriversable เราต้องสร้างเอนไซม์ขึ้นมา ใหม่นะคะดังนั้นผลกระทบก็จะนานขึ้นนะคะ อ่ะเสร็จแล้วตัวอย่างของเอนไซ hilitator ตัวนึงที่หนูต้องรู้จักตั้งแต่ครั้งนี้นะ ตั้งแต่เรียนปี 1 นะคะก็คือเกรซฟูจิสนะคะ Grab Food นี่ไม่ใช่ส้มที่เมืองไทยยัง มีนะคะแต่ปัจจุบันเราก็มีเอามาขายเรื่อยๆ นะคะ Grab Food เนี่ยมันจะคล้ายกับส้มโอ นะคะจริงๆแล้วเนี่ยเขาก็มีรายงานว่าพวก เอ่อส้มโอบางพันธุ์ของเรานะคะจริงๆทุกวัน อาจ นะคะอย่างไรก็ตามยาบีเนี่ยบางตัวอาจจะ เป็นซิปเป็น User แล้วก็ซับสไตยของตัวมัน เองด้วยเลยก็ได้นะคะซึ่งแบบนั้นก็จะ เปลี่ยนแปลงของตัวมันเองด้วยอ่าเสร็จแล้ว นะคะหนูควรจะไปถามคำถามกับตัวเองนะเราลอง ทบทวนแล้วคิดดูนะคะว่าระหว่างเอนไซม์ใน คอมพิวเตอร์กับแอนดริวเซอร์เนี่ยอันไหนมี ผลเร็วกว่ากันนะคะอ่ะอันนึงนะมีผลต่อการ ทำงานของเอนไซม์อีกอันนึงต้องมีผลต่อการ สร้างนะคะอันไหนเร็วกว่ากันนะอ่ะอันนี้ เราก็จะจบพาร์ทของ metabolism ไปนะคะก็จะ ไปเข้าสู่ส่วนที่ 2 ของรัฐอิลิเมชั่นก็ คือ exclusion เราจะมาพูดถึงปฏิกิ exclusion แล้วก็ renal explation กัน นะคะเราเริ่มต้นที่ตับก่อนนะคะ exclation ที่ตัดเนี่ยมันจะเกี่ยวข้องกับคำศัพท์คำ หนึ่งที่หนูต้องรู้จักไว้คือคำว่า entero hepati circulation ซึ่งกระบวน การนี้มันเกิดโดยทั่วๆไปสำหรับเกี่ยวข้อง กับ buy Acid อยู่แล้วแต่ว่ากระบวนการ ของยาเราเนี่ยไปเหมือนไฮแจ็คใช้ระบบเดียว กันนะคะมันเป็น circulation ของ biasis ยาแล้วก็ metabolize ต่างๆนะคะอาจารย์เอา เลข 1 มาแปะให้หนูดูว่าขั้นตอนที่ 1 นะคะ พวกปลาย Acid หลักแล้วก็แม้แต่บัวไลต์ เนี่ยก็จะถูกหลักมาเก็บไว้ในน้ำดีนะคะ เสร็จแล้วมันก็จะถูกปล่อยออกมาที่ดูเอา ดินน้ำนะคะ Enter เข้ามาสู่ Small intestin Step ที่ 2 นะคะซึ่งตอนนี้ เนี่ยตอนที่มันอยู่จะให้ดู ordina เนี่ย มันจะอยู่ในรูปที่ละลายน้ำได้ดีนะคะ ไฮโดรฟินิกที่สูงเสร็จแล้วนะคะพอมาถึงจุด ที่ 3 เนี่ยพอมันเข้าไปสู่ส่วนท้ายของลำ ไส้เล็กคือไอเรียมกับส่วนต้นของลําไส้ ใหญ่นะคะสิ่งที่เกิดขึ้นนะคะคือมันก็จะมี การตัดหมู่ที่ทำให้ละลายน้ำออกตัดโมเลกุล ตรงที่ทำลายน้ำแล้วทำให้ละลายน้ำเดี่ยวไป นะคะกลับกลายเป็นสารที่เป็น lifo ฟิลิกซ์ แล้วเกิดขั้นตอนที่ 3 คือการดูดซึมโดย enterosis จากทางเดินอาหารในเรือนนี้คือลำไส้เล็ก มันก็จะวิ่งเข้าสู่ตับก่อนที่จะเข้าสู่ systemic securation นะคะสิ่งที่เกิด ขึ้นก็คือหลังจาก Absolute เสร็จแล้ว เนี่ยตัวสารมันก็จะถูก Transport Black กับแผนที่ตับนะคะพอไปที่ตับเนี่ยผ่านทาง halfit เนี่ยตรงนี้เสร็จแล้วเนี่ยบาง ส่วนของศาลหรือว่ายาเนี่ยมันก็จะสามารถ กลับเข้าไปสู่ systemic securation ได้ บางส่วนก็จะกลับไปถูกทำลายเหมือนเดิมแล้ว ก็กลับมาปล่อยซึ่งตรงนี้มันจะวนเป็นวงจร แล้วก็วนเป็นลูปเค้าเลยเรียกเป็นแอนโทร ให้ปฏิกูลเลอร์ชั่นนะคะเดี๋ยวเรามาดู เกี่ยวกับเรื่องเฟดของตรงเนี้ยกันยาที่ เป็น Lip นะคะเกิดอุโคโรนีเนชั่นจะกลาย เป็นกลูโคโรนายแม้แต่ไลฟ์ซึ่งมีความมี ไฮโดรฟินิกที่สูงซึ่งสารตรงนี้จะสามารถ ถูกปล่อยออกมาที่ Common bydra แล้วก็จะ ถูกปล่อยมาที่ลำไส้เล็กได้นะคะซึ่งเมื่อ ถูกตรงปลายของลำไส้เล็กต่อลำไส้ใหญ่ส่วน ต้นเนี่ย intenal fora ที่เราเป็นเพื่อน ที่แสนดีของเราเนี่ยมันดันมีเอนไซม์ชื่อ กลูโคโลนีเดสซึ่งถามว่าตามชื่อก็คือตัด โคโรนายออกเพราะตัดกลูโคลายในออกกูโคไลล์ ที่เป็น metabolize ที่มีไฮโดรฟินิก City สูงนะคะดูดซึมไม่ดีเนี่ยก็จะกลายเป็นหลัก ปรัชญาธรรมดาและที่เป็นลายโปรฟิลิกาสูงก็ ดูดซึมผ่านตัว enterosize แล้วก็ผ่านมา ทาง holid Portrait แล้วก็กลับมาที่ตับ อีกรอบนะคะซึ่งตอนที่กลับมาเนี่ยมันอาจจะ วนเข้าหลุมโดยการทำลายหรือว่ามันอาจจะ เอ่อถูกปล่อยออกไปใน systemic surgulation ได้นะคะการเอาโฆษณาออกทำให้ เกิดรักรีแอปชั่นแบบ Passive refusion เนี่ยเข้าไปสู่ hypertic portal ven ก็ เลยเป็นการทำให้ยาเนี่ยมันอยู่ในร่างกาย นานขึ้นนะคะก็เป็นการเพิ่มระยะเวลาการออก ฤทธิ์ของยาเราเรียกว่าเป็น duration ออก Action หรือกรณีนี้ก็คือระยะเวลาที่อยาก อยู่ในร่างกายมันนานขึ้นนะคะงั้นถ้า อาจารย์ถามว่ากระบวนการไหนนะคะทำให้ยานะ อยู่ในร่างกายได้นานขึ้นหรือว่าควรจะนึก ถึง enteral hepati schoolation นะคะ อ่ะถัดมาจบจากที่ตับนะคะแล้วก็จะมาพูดถึง exclusion ที่ไตนะคะคลิปนี้รูปนี้อาจจะ ไม่ได้เป็นท่อไตที่สมบูรณ์แบบแล้วก็ถูก สัดส่วนนะคะเพียงแต่ว่ามันโชว์ 3 สเต็ป ของ kidney Process ได้ดีนะคะ process แรกก็คือ filter fill Station เนี่ยยา ที่เป็นฟรีหลักก็คือยาที่ไม่ได้จับกับ โปรตีนนะคะไม่ได้จับกับโปรตีนใดๆอยู่ เนี่ยมันจะสามารถกรองผ่าน balman แคปซูล นะคะเข้ามาอยู่ตรงตัวของท่อไตได้นะคะท่อ ไตก็แบ่งเป็น 3 ส่วน 4 ส่วนหลักๆก็คือ proximal to Blue ใกล้นะคะส่วนที่ใกล้ ที่สุดถัดมาส่วนที่เรียกว่าเป็น looperley นะคะอันนี้ก็ตั้งชื่อเป็นลักษณะตามของมัน ที่มันเป็นรูทแล้วก็ตามชื่อคนค้นพบเสร็จ แล้วส่วนที่ไก่เราก็เล่น distal ก็เลย เล่นดิจิตอลรู้นะคะหรือบลูเสร็จแล้วส่วน สุดท้ายเราเรียกมาว่า collecting druct เพราะมันเป็นส่วนที่ส่วนต่างๆมาเทรนรวม ด้วยกันนะคะในส่วนของกระบวนการของคลิปนี้ เนี่ยมี 3 ส่วนคือ 1 โกโบนาร่า feel Station ที่ตรงบราแมนแคปซูล 2 tibera secretion ซึ่งอันนี้เป็น act เป็น กระบวนการ Active Transport ก็คือตอนนี้ ต้องใช้พลังงานจะเกิดที่ proximal tele เสร็จแล้วนะคะทิเบลล่า refruction โดย ทั่วไปโดยทั่วไปแล้วจะเกิดที่ discal กับ correcting หลักนะคะโดยทั่วไปจะเกิดตรง นี้เป็นหลักนะคะโดยการเกิดของที่ Step ที่ 3 เนี่ยมันจะเป็น Passive refruption นะคะมันก็ต้องเป็นสารที่เป็นลิขิต solable หรือสารที่เป็นแนวไหนคือไม่มีประจุนะคะ โดยกระบวนการ gormora filter นะคะย้ำอีก ครั้งนึงว่ามันเป็น Passive process ก็ คือกระบวนการเนี้ยมันเหมือนมีอ่าตะแกรง อยู่มีสารผ่านสารที่ขนาดเล็กก็จะผ่านได้ นะคะ Cut Off อยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท ดาวน์ตันหรือ 70 กกตั้นนะคะก็คือใหญ่กว่า นี้ก็จะกรองผ่านไม่ได้ส่วนเทวราชชั่นนะคะ เป็นการ Active Transport คือ Active securition เนี่ยผ่านสิ่งที่เรียกว่า Transporter นะคะใส่เข้ามาในตรง proximal อันเนี้ยมันก็จะ Again consentiation gradient ได้นะคะเราก็ต้องใช้พลังงาน ส่วน tingular refruption นะคะจะเป็น กระบวนการ Passive ใน Fusion เขาสารที่ ไม่มีประจุนอนไอออนไนซ์นะคะหรือ unchart form ซึ่งสารพวกนี้เนี่ยก็จะชอบละลายใน ไขมันได้ดีเป็นไร profilix นะคะ สามารถฟิลเตอร์ผ่านคิตตี้ได้ยังไงนะคะก็ อยากให้เห็นว่าตรงนี้คือเส้นเลือดที่เข้า เวลาไป afferent atterio เส้นเลือดที่ ออกเราก็จะเรียกเป็น afference นะคะก็ afference คือเข้า efference คือออกนะคะ ตอนต้นมันจะกว้างส่วนตอนหลังมันจะแคบกว่า นะคะมันก็จะเหมือนการ Play Food แล้วก็ กรองผ่านมานะคะตัวโบราณเนี่ยเราจะเหมือน กับตะแกรงก็เลยเป็นสีนะคะเอ่อตัวนี้โครง สร้างนี้เรียกว่า Brown Man แคปซูลนะหนู น่าจะได้เรียนมาก่อนละอ่ะเสร็จแล้วนะคะ เอ่อ promota futuation เนี่ยมันก็จะ ขึ้นกับขนาดของยาเมื่อกี้อาจารย์พูดไป แล้วว่า Cut Off อยู่ที่ประมาณ 70 กกตัน นะคะโดยตรงการออนออกเนี่ยยาอาจจะเป็นใน รูปอัญเชิญฟอร์มเลยนะไม่ได้ถูกเปลี่ยน แปลงอะไรนะถ้าเราพูดถึงยาในกรณีนี้ส่วน ใหญ่จะเป็นอัน Change form แล้วถ้า metabolize คือสารที่ถูกเปลี่ยนแปลงยา ที่ถูกเปลี่ยนแปลงแล้วที่ตัดนะคะถูก ไบโอทัสมาเมชั่นถูกมั้ยแต่บริสุทธิ์ไป แล้วนะคะตัวที่มีขนาดเล็กนะ ผ่านตัวของอ่าตัวโกมารัสได้นะคะถ้ามีสาร ขนาดใหญ่หรือบราดักหลุดออกมาได้เนี่ยก็ แสดงว่าไตเนี่ยมีความบาดเจ็บหรือเสียหาย แล้วนะคะอ่าเสร็จแล้วเรามาดูกระบวนการคิด ว่าล่า secretion กันนะคะมันเป็นกระบวน การที่ไตใช้กำจัดยาที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ Last vallecular viet ออกเมื่อกี้ อาจารย์บอกว่าถ้าขนาดใหญ่น้ำอาจจะไปกำจัด ด้วยน้ำดีนะคะหรือว่าบางทีนะคะมันก็อาจจะ ขับออกโดยกระบวนการที่เป็น Active Transport ก็ได้ซึ่งพวกนี้จะ againt เป็น Active concertive securition เกิดขึ้นผ่าน Transporter ถูกได้เรียน Transporter พวกนี้มาบ้าง แล้วนะคะตัวอย่างยาจะยกเป็นตัวอย่างยาที่ เป็นประจุบวกเรียกว่า cat Iron druct กับยาที่เป็นประจุลบ and irondrap นะคะ ตัวอย่างยาที่จะใช้คือเม็ดฟอร์มีนอันนี้ เป็นยาสำหรับโรคเบาหวานนะคะนี่เป็นยาหลัก เลยของเบาหวานตอนนี้ก็เริ่มจากชื่อไปบ้าง ก่อนนะคะตัวของ metforman เนี่ยเป็น Cat ไอออนดักเพราะฉะนั้นการขับยาตัวนี้ก็จะ ผ่านสิ่งที่เรียกว่าออแกนิค cat ion Transporter หรือ oct นะคะดังนั้น Animation จะให้เห็นว่าถ้าเม็ดฟอร์มีนนะ ผ่านมาตรงเส้นเลือดที่วนอยู่บนอ่า proximal นะ ก็จะสามารถออกมาโดยการที่ oct นะคะจะช่วย ขับเม็ดฟอร์มินผ่านตัวเซลล์ของ proximal tetbu แล้วก็ขับออกไปตรงรูเมนต้องขับไป ลงเมมอาจจะเป็นโปรตีนเป็น Transporter อีกชนิดหนึ่งชื่อเมจนะคะ maid ย่อมาจาก มัลติดะ and toxicom exclusion นะคะ อาจารย์ไม่ได้ expect หรือว่าหนูต้อง Damage ได้นะคะแต่อาจจะเข้าใจนิดนึงว่า หนูควรรู้ว่า catalon Duck จะถูกขับผ่าน ออแกนิค Cat ไอออน Transporter นะคะอัน นี้เป็นตัวอย่างของ CAT ไอออนหลักในการ ขับยาออกนะคะการขับเนี่ยขับผ่านเซลล์นะคะ ผ่าน proximal Tech Blue ไม่ได้ไปผ่าน ตรงไทยจังชั่นหรืออะไรนะคะอ่ะ เข้า Converse หรือแตะถือบลูนะคะเราเรียก converte เพราะว่าท่อไตมันขดๆนะคะแล้ว กระบวนการนี้เป็น Passive defusion มัน ไม่ได้ใช้พลังงานมาตาม consentation Grade เสร็จแล้วเนี่ยมันจะต้องผ่านเซลล์ เพราะฉะนั้นตัวยาจะต้องเป็น Lip profilix และต้องไม่มีประจุนะคะอันชาร์ตดรากซึ่ง ตรงนี้เราสามารถมา depulate ทำให้ตัวยา ที่อยู่ในท่อไตเนี่ยกลายเป็นยาที่มีประจุ แล้วก็ถูกขับออกไปทางปัสสาวะหรือทำให้ตัว ยาเนี่ยไม่มีประจุแล้วก็ถูกดูดซึมกัดได้ ดีขึ้นนะคะของเรื่องของ temula reapersion อ่าอันนี้ยกตัวอย่างยาที่ อาจารย์ยกคือแอฟเฟตามีน ตอนนี้นะคะถ้าไม่มีหมู่ ns2 เนี่ยมัน อันไนซ์หรืออันชาร์ตนะคะตัวของมันสามารถ ผ่านด้วย Passive diffusion กลับมาเข้า ไปสู่เส้นเลือดในไตแล้วก็กลับเข้าไปสู่ systemic seculation ได้นะคะซึ่งถ้า สมมุติว่าคนไข้เนี่ยได้รับแอปเฟซจะมีใน ประมาณสูงสมัยก่อนนะคะอาจารย์โยมว่าสมัย ก่อนปัจจุบันเราไม่ทำวิธีนี้เท่าไหร่ เพราะว่ามันมีผลผิดต่อไตด้วยนะคะเรา สามารถเร่งการขับ aphetamine ออกจากร่าง กายคนไข้โดยการเปลี่ยนให้แอมเฟตามีนเนี่ย ขับออกไปทำปัสสาวะมากขึ้นโดยกระบวนการที่ เราเรียกมันว่า urine assetification urine assemedication ก็คือทำให้ ปัสสาวะมีความเป็นกรดมากขึ้นนะคะโกรธก็ คือโปรตอนหรือไฮโดรเจนไอออนตัวนี้นะคะ เมื่อมีนะคะได้รับโปรตอนสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือมันจะกลายเป็น ns3+ เนี่ยมันมีประจุ นะคะเรียกว่า chart หรือ ion Night โมเลกุลเมื่อมีประจุแล้วเนี่ยมันจะผ่าน ตัวเซลล์หรือเซลล์ membrate ได้ยากขึ้น เพราะฉะนั้นมันก็จะไม่สามารถผ่านเซลล์ เมมเบรนได้ affetamine ที่มีประจุตัว เนี้ยหลังจากมีตัวของโปรตอนที่รับมาแล้ว เนี่ยมันก็จะอยู่ใน UV นะคะเราเรียกมาว่า Track ก็คือถูกเก็บไว้นะคะเออกระบวนการ เขาคิดเนี่ยเขาเรียกว่าเป็นไอออน trapping ซึ่งหนูจะเรียนกับอาจารย์ตอนนี้แล้วตอนปี 2 ไปเรียนฟาร์มาโขทัยเขาก็จะพูดถึงอีกที นึงนะคะแล้วเรื่องนี้ก็ทดสอบหน่อย Natural License ด้วยนะคะตัวของยูรีอันติเคชัน assetification เนี่ยเป็นวิธีที่เราใช้ เพิ่มแอปฟรีจะมี removal นะคะตอนที่มัน เกิด Overdose ปัจจุบันใช้ลดลงเนื่องจาก ว่าพอทำแบบเนี้ยมันดันมีผลผิดต่อสายด้วย อ่ะ [เสียงหัวเราะ] ตัวนึงปรับให้ปัสสาวะเป็นกรดตัวนึงปรับ ให้ปัสสาวะเป็นด่างนะคะเสร็จแล้ว ยูโรพีเอชนะคะถ้าเราเพิ่มชาร์จหรือ ionize โมเลกุลมันก็จะลดทิเบลล่ารีแอปชันของยา มันทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่าไอออนแทปิ้ง ถ้าเราลดชาร์จหรือไอโอนไนท์โมเลกุลทำให้ มันกลายเป็น lyprofenicity ดีมันก็จะ เพิ่ม increase temula reapsuptionsification สถานที่เราใช้ได้ ก็คือ แอมโมเนียมคลอไรด์นะคะแต่อย่างไรก็ตาม เอกสารหนึ่งที่บางครั้งเราได้รับปริมาณ มากหรือไม่ได้ตั้งใจเช่นวิตามินซีวิตามิน ซีเนี่ยหื้อของมันชื่อเต็มของมันทางสาร เคมีคือ astrobic Acid เพราะฉะนั้นมันมี ฤทธิ์เป็นกรดถ้าสมมุติว่าเด็กเนี่ยกิน วิตามินซีเล่นนะคะเพราะว่าอร่อยดีกินเข้า ไปเยอะๆเนี่ยปัสสาวะของเด็กก็จะเป็นกรด เพิ่มขึ้นได้นะคะส่วนสารที่เราใช้ในทางยา จะเป็นแอมโมเนียมคลอไรด์ nhc ขอ CL นะคะ บางครั้งพอเห็นคล้ายๆ n เนี่ยเราก็จะคิด ว่า ns3 ให้แอมโมเนียมันน่าจะเป็นด่างสิ แต่ขณะเดียวกันต้องอย่าลืมนะคะว่า แอมโมเนียมคลอไรด์เมื่อแตกตัวออกมาแล้วมา แตกออกมานะมันจะกลายเป็นแอมโมเนียบวก ไฮโดรคลอริกแอซิดไฮโดรคลอริกแอซิดเนี่ยมี ฤทธิ์เป็นกรดแก่เพราะฉะนั้นโดยรวมแล้วการ ให้แอมโมเนียมคลอไรด์เข้าไปเนี่ยปัสสาวะ จะมี pH เป็นกรดนะคะส่วน urinestation คือตัวของตัวแปรคาร์บอเนต แตกตัวออกมาเป็นใบคาร์บอเนตตัวนี้ทำให้ PH ของปัสสาวะเนี่ยเป็นด่างหรือเป็นเบสมาก ขึ้นนะคะอีกศาลนึงที่อาจารย์ไม่ได้พูดถึง ก็คือยาขับปัสสาวะหรือในยูเรติกนะคะแต่ ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยถ้าเราจะปรับ PH ของ ปัสสาวะเราสามารถใช้โซเดียมคลอไรด์เรา สามารถใช้แอมโมเนียมคลอไรด์หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนตได้นะคะเรามาดูตัว อย่างว่าเรามันคืออะไรกันนะคะยาเนี่ยมัน จะแบ่งออกเป็น Week Acid กับ Week Base อันนี้เป็นคุณสมบัติเฉพาะของยาดูจากโครง สร้างโมเลกุลอ่าถ้าหนูเกณฑ์นักเข้มแข็งๆ มากๆอาจจะพอทำนายได้แต่ระดับของเราเนี่ย เวลาเขาให้โจทย์มาเขาต้องบอกไปเลยว่าสาร เนี้ยหรือยานี้นะเป็น Week Acid หรือ เป็นวิกเบสนะคะเสร็จแล้ว wee Acid เนี่ย อันนี้ตัวอย่างของอาจารย์คือ ทุจริตแอซิดเมื่อได้รับ โซเดียมไบคาร์บอเนตสิ่งที่เกิดขึ้นคือ PH ของปัสสาวะเป็นด่างนะคะมันก็จะดึงโปรตอน ออกไปหมดเลยเพราะฉะนั้นมันก็จะมี o- ลบ O ลบอยู่อย่างนี้ซึ่งเมื่อมันมีประจุนะคะ มันจะ Track ใน urine ดังนั้น Week Acid ถ้าได้รับปรับ pH ให้เป็นด่างมันก็จะขับ ออกมากขึ้นเพราะว่ามันถ่ายมันถูก Track อยู่ใน UV หรือปัสสาวะนะคะ webrate อาจารย์ใช้แอปเฟอามีนเหมือนเดิมตัวอย่าง ถ้าเราปรับด้วยแอมโมเนียมคลอไรด์ก็คือตอน นี้มันจะมีโปรตอนเพิ่มขึ้นว่าจะเป็น ns3 มันก็จะ Track อยู่ใน ureen นั้นอาจารย์ ก็จะให้โจทย์มาหรือว่าควรจะรู้ว่ายานะถ้า เป็น Visit วิตอาจารย์ปรับ pH แบบไหนมัน จะดูดซึมได้ดีดูรีแอปกลับได้ดีขึ้นหรือ ว่ามันจะขับออกไปทางปัสสาวะได้ดีขึ้นนะคะ นะเลือกให้ถูกนะอ่ะเสร็จแล้วนอกจากยาที่ เป็นสารเคมีแล้วนะคะเราจะมียาที่เป็นพวก โปรตีนทั้งหลายเราเรียกมันว่าเป็น biologic brush นะคะซึ่ง biolog เนี่ย metabolism กับ excusion มันก็อาจจะไม่ ได้เหมือนกับตัวของสารเคมีซะทีเดียวเวลา ที่เรารู้จักก็คืออินซูลินที่เราฉีด สำหรับเบาหวานพวกโกรทฮอร์โมนนะคะ recomminant ก็คือผลิตจากพวกแบคทีเรีย โมโนโคโน่แอนติบอดีซึ่งพวกนี้สามารถทำ เป็น target ของยาได้เดี๋ยวค่อยๆเรียนไป ก็จะมีการพูดถึงโมโนคอนเนาะแอนติบอดีซึ่ง ปัจจุบันเนี่ยเป็นยาแล้วก็ไปจับโปรตีนที่ เราไม่ต้องการหรือว่าไปทำอย่างอื่นได้นะ คะมีสารพวกกลุ่ม interference เพื่อ วัคซีนทั้งหลายนะคะไวโอเลตจิดาบเนี่ยส่วน ใหญ่จะเป็น Last monogun แล้วก็มี ไฮโดรฟินิก City ค่อนข้างดีนะคะเพราะ ฉะนั้นเนี่ยมันจะผ่านเข้าเซลล์ไม่ดีนะคะ มันก็จะไม่ได้แม้จะบ่ไลฟ์โดยตัดนะคะสิ่ง ที่แปลกก็คือว่าตัวของ biolog นะคะถ้ามี ขนาดน้อยกว่า 60 กิโลดาวต้านนะคะมันจะถูก โกโมร่า futuation ปริ้นออกมาเสร็จแล้ว มันจะถูก temula react Option ด้วย กระบวนการเอ็นโดไซโทซิสอันนี้ไม่ใช่ Passive diffusion แบบที่เป็นโมเลกุล ของยาที่เป็นเคมีแล้วก็ผ่านเซลล์เมมเบรน นะคะแต่มันจะเกิดเอนโดไซโทซิสที่มีการ เว้าของเซลล์เมมเบรนแล้วก็ Take โมเลกุล เข้ามาเสร็จแล้วตัวเซลล์ไตเนี่ยแหละค่ะ เป็นตัวที่เกิดการทำร้ายของตัวพวก ไบโอติกะไว้ทำลายส่งไปที่ไลโซโซมะนะคะก็ เลยเกิดเป็น intras cellularation ส่วนใหญ่แล้วเราจะหลักอย่างเช่นโดยเฉพาะ อินซูลินนะคะก็จำเป็นที่ไตเพราะฉะนั้นคน ไข้นะคะเมื่อสูงอายุนะเยอะๆแล้วนะคะบาง ครั้งเนี่ยอินซูลินโดสที่เขาใช้ก็จะลดลง นะคะเพราะว่าเขาถูกทำลายที่ไตได้ลดลงนะคะ อ่ะอันนี้ก็จบของเรื่องของเอเนโมชั่น ออปซิโนบินะคะอันนี้ก็เป็นหนังสือแนะนำนะ คะด้วยความที่มันเกี่ยวข้องกับยาหนังสือ แนะนำก็จะเป็น textbook ที่เราใช้ทาง เภสัชวิทยานะคะหรือชื่อ Good Man and gilman ความโลจิคอลเบสิคออฟโรดไปเตะหรือ อีกเล่มนึงคือ basic อ่าน chechnical from Collagen โดยการซุงนะคะอ่าอาจารย์ บอกบทไว้ให้นักศึกษาสามารถไปอ่านเรื่อง เกี่ยวข้องกับพวกนี้ได้นะคะก็เล่มของการ สู้ก็อาจจะอ่านง่ายกว่า Good manage gilman นะคะก็ขอจบการอ่าบรรยายเรื่องของ internation of snowiatic ไว้ตรงนี้นะ คะถ้าใครมีข้อสงสัยก็สามารถอีเมลถาม อาจารย์ได้นะคะสวัสดีค่ะ [เพลง]