ชาติ TPT มันโง่มันยังไม่ฉลาดมันยังทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ผมว่ามันฉลาดนะคือคนอาจจะใช้ชาติ TPT ผิดวิธีรึเปล่าผมว่าใช้เขาในเชิงของแบบกลไกสมองเขาดีคุณใช้เขาทำงานกลไกสมองมันทำงานยังไงไอ้ที่มันตอบคำถามนี้มันเอามาจากอะไรโอเคสีเว้อ อิกสัตว์ เจอเดล Founder ของ Vaisak TantrakAcquity Startup ที่กำลังมาแหล่งเทศไทยและยังเป็นอาจารย์ผู้สอนทางด้าน Digital Transformationของมหาวิทยาลัยมันอิดลการสอน AI เหมือนการสอนเด็กAlvin ลองนึกไปถึงสมัยตอนที่เราเรียนแบบนรุบาลหนึ่งคุณพ่อคุณแม่เราเวลาพาเราขับรถเล่นแล้วเราเจอแมวขาดทางแล้วเขาก็จะบอกว่าอันนี้คือแมวนะเราก็จะจำภาพแมวกับสิ่งที่เขาบอกเราจริงๆ AI วิธีการทำงานมันเหมือนกันเลยภาพคำบรรยาย ภาพกับคำบรรยายBasic มันคือ Pattern Pattern Recognition ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ ABC ก็เป็น Pattern Recognitionคือถ้าเป็นสมัยก่อน ตัวเมื่อกี้ที่ผมให้ดูมันก็จะแค่บอกได้ว่านี่คือภาพอะไรแต่อันนี้มันเข้าใจว่า องค์ประกอบของภาพเป็นยังไงContext ของภาพเป็นยังไงสิ่งที่ทำให้มันสามารถฉลาดถึงขนาดนี้ได้ก็คือ Dataมันก็รู้เยอะเพราะว่ามันก็ไปกวาดเอา Data ทั้งหมดในเว็บมาเทรนแต่มันก็ยังดูประกอบเป็นคนคนหนึ่งไม่ได้นะครับผมอาจจะสร้าง Image ได้ ผมอาจจะสร้างวิดีโอได้ผมอาจจะให้มันเล่าเรื่องให้ผมฟังผ่าน Text ได้ แต่อย่างนี้มันจะพดแทนคนคนหนึ่งได้ยังไงคุณก็ยังคิดว่า AI มันน่าจะมาแทนคนไม่ได้อยู่ดีงั้นถ้าผมบอกว่าผมสามารถทำให้อัลวินเห็น AI สองตัวคุยกันอย่างนี้ซึ่งเหมือนกับการคุยกันของคนทำงานเดี๋ยวทำให้ดูนะครับผมขนลุกเลยวะอันนี้ผมว่าวาวมากๆอันนี้เรียกว่าอะไรครับอันนี้เรียกว่า เล่าให้ฟังนิดนึงได้ไหมครับ ในฐานะที่คุณทั้งบริหารธุรกิจเองแล้วก็ Develop Technology นี้ด้วยในส่วนหนึ่งเอามันไป Implement ใช้งานจริง แล้วก็สอนคนด้วยครับมัน Impact ธุรกิจของชีวิตยังไงได้บ้างครับผมว่าถ้าเป็นตัวผมนะ ผมเอาไปใช้แม่งเกือบทุกเรื่องเลยอะไม่ว่าจะเป็นพวกการเขียน Email หรือว่าการเขียน คอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ที่ผมแทบจะคิดอะไรไม่ออกผมก็เปิด ChatGPT หรือ Gemini ขึ้นมาก่อนเลยอ๋อ ก็คือทุกวันนี้มันใช้อยู่ใน Process ที่เราทำงานทุกๆวันเลยเดี๋ยวนี้เปิดแบบ เปิดตัว ChatGPT ขึ้นมา หรือว่าตัว Gemini ขึ้นมาแล้วก็เขียนพร้อมไปแบบง่ายๆ ให้แบบอย่างน้อยมันเริ่มมาให้เราได้แล้วงานเราก็จะเปลี่ยนไปเลย จากเดิมแล้วผมต้องมานั่งเริ่มเขียนเองแล้วก็จะติดที่เขาเรียกว่าเป็นแก๊บว่า ทำยังไงแบบมันคิดไม่ออก มันไม่ได้อยู่ใน flow ซักทีแต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเปิดขึ้นมาปุ๊บเนี่ยคือมันเขียนมาให้เราเลยแล้วหน้าที่ของเราคือเข้าไปแก้ เข้าไปแบบทำงานง่ายขึ้นเยอะเลยครับหลายคนจริงๆ หลายคนที่ comment มาเดี๋ยวเราลองยิง comment มาลงหน้าจอให้ดูแต่ว่าหลายคนตั้งคำถามว่า ChatGPT มันโง่มันยังไม่ฉลาด มันยังทำอะไรแบบนี้ไม่ได้คือคนคิดไปเอง เหมือนกลัวไปเอง กลัวไปก่อนก่อนที่มันจะเป็นจริง คำถามคือมันชาลาดแล้วหรือเปล่าผมว่ามันชาลาดนะคือคนอาจจะใช้ Chat TPT ผิดวิธีหรือเปล่าอันนี้คือคำถามที่เราต้องตั้งเป็นคำถามไปก่อนเพราะว่าผมเห็นหลายต่อหลายคนนะแบบพยายามจะใช้ Chat TPT แทน Googleแทน Search Engine อะแบบมันพยายามว่าไปโชว์พาวแบบมันขึ้นมาแล้วก็ถามคำถามเลยมันแล้วมันตอบไม่ได้แล้วเวลามันตอบไม่ได้ก็พยายามจะบอกว่าเนี่ยเห็นว่ามันไม่เห็นชาลาดเลยอะไรอย่างเงี้ยแต่จริงๆอะผมคิดว่าถ้าคุณจะใช้มันเป็น Search Engine อะ มันก็ยังทำได้อยู่นะ ถ้าคุณไปใช้ Gemini มันก็จะมีการไปดึง Data จากเว็บจริงๆมาGemini นี่คือตัว Large Language Model ของ Googleอ่าใช่ จริงๆมันคือตัวบาทบาท อ๋อโอเคบาทตัวเก่าแล้วมันก็ Rebrand อะไรออกมาเป็น Gemini เรียบร้อยแล้วตอนนี้ล่าสุดมี Gemini ตัวจิวออกมาด้วยอืมพึ่งเมื่อวานก่อนเองมันที่เขา Soft Release กันไปก็คือเฉพาะคนในวงการเทคอาจจะเข้าถึงตรงนี้มันยังไม่ Mass เท่าไหร่อืมนะครับ แต่คนเนี่ยจะใช้ผิดวิธีอะผมว่าเยอะอย่างแบบ โปรแกรมเมอร์ผมเองที่บริษัทที่เราทำพวกเทคอยู่บางทีก็ไปเขียนพร้อมสั้นๆอย่างนี้ไม่ให้คอนเทคส์ ไม่ให้แบ็คกราวน์อะไรเหมือนเลยมันเหมือนกับผมคิดว่าจริงๆคุณแฟร์กับมันหน่อยแล้วกันถ้าคุณจะสั่งงานลูกน้องคุณหรือว่าคุณจะเขียนบรีฟลูกน้องคุณคุณจะเขียนบรีฟให้มันละเอียดถูกปะ ผมว่าเราใช้วิธีนั้นในการคุยกับ ChatGPT ในการคุยกับ Geminiก็คือ Treat มันเป็นเหมือนลูกน้องจะเล่าอะไรให้มันฟัง จะให้มันทำ Task ในบางอย่างก็คือต้องเล่าละเอียดหน่อย เหมือนเราจะคุยกับคนจริงๆใช่ คุณก็มี Background ให้เขาหน่อยบอกว่าโอเค คุณต้องทำอะไรบ้าง อย่าลืมเหมือนกับอันนี้เป็นพนักงานใหม่ของเรา เพิ่งมาเริ่มทำงานวันแรกใช่ คุณก็เขียน Background ให้เขานิดนึงว่าบริษัทเราทำอะไร Task ของคุณคืออะไรผมว่าอย่างนี้มันไม่ค่อยพลาดหรอก แล้วดีไม่ดีคุณมีข้อมูลเป็นตัว Backup ให้เขาด้วยเขาน่าจะทำงานออกมาได้คือผมว่าใช้เขาในเชิงของกลไกสมองเขาดีคุณใช้เขาทำงานคุณอย่าไปพยายามลองผิดลองถูกกับเขาในเรื่องของการถามข้อมูล เช็คข้อมูลอันนั้นผมว่าคุณไปที่ Google เหมือนเดิมไปที่ Web Search เหมือนเดิม เช่นๆเหมือนเดิมดีกว่าแล้วยังงี้คำถามที่ต่อจากเรื่องนี้มาเลยคือกลไกสมองมันทำงานยังไงเพราะคนก็ตั้งคำถามว่าไอที่มันตอบคำถามนี้มันเอามาจากอะไรมันไปเสิร์ชอินเตอร์เน็ตแล้วมันไปบอกคุณในสิ่งที่คนเคยเขียนไว้แล้วหรือเปล่าหรือมันทำงานยังไง เราลองมาลงลึกตรงนี้ได้ไหมเพราะว่าคุณชีวิตจริงๆแล้วสอนเรื่องนี้ในมหาลัยแบบจริงจังเลยแต่ว่าผมก็ไม่ได้สอนเทคแบบเทคจานะเพราะว่าส่วนใหญ่นิสิตที่ผมสอนเขาจะเป็นแบบ พวก Management เป็น MBA นะครับก็คือเราจะไปสอนให้เขาเขียน Codeไปสอนให้เขาเข้าใจ AI มันก็ยากใช่ไหมครับ ตัวผมเองเราก็พยายามจะแบบสอนในเชิงของ Practitioner คือว่าเอาไปใช้งานยังไงทำยังไงให้คุณไม่ตกยุคตกสมัยอะไรอย่างนี้คือตัวอย่างนึงที่ผมจะชอบใช้เลยเวลาผมสอนก็คือจะเป็นตัวไม่รู้ว่า Alvin เคยเห็นหรือเปล่า ไม่เคยเห็นมันทำงานยังไงครับ มันคืออะไรTeachable Machine เนี่ยผมชอบมากเลย มันเป็นตัวอย่างที่จริงๆถือว่าเก่าแล้วนะตอนนี้มันเป็นตัวอย่างที่เก่าแล้ว แต่ว่ามันเป็นเครื่องมือที่ผมใช้ในเรื่องของการ Intro ตลอดเลยนะครับเพราะว่าคือทำยังไงให้เด็กเข้าใจก่อน หรือว่าทำยังไงให้คนที่มาฟังเราเข้าใจว่า AI มันคืออะไรอันนี้คือตัว AI ที่ Run บน ChatGPT หรืออันนี้คือ AI แบบไหนครับอันนี้คือตัวที่มา เรียกว่าเป็นรุ่นทวดละกันรุ่นทวดของ generative aiสมัยที่ teachable machine ออกมันยังไม่ค่อยมีพูดถึงเรื่องของ generative aiในพวก chatgpt พวก geminiที่เป็นอยู่ในสิ่งที่เราเรียกว่าเป็น llm baseพวกนี้มันคือ generative aiแต่ก่อนที่มันจะมี generative aiเรากำลังพูดถึง machine learning กับ ai สมัยก่อนสมัยก่อนคือเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้วก็คือก่อนยุคที่เราจะพูดถึง ChatGPT ที่มันถูกรันด้วย Large Language Model หรือ LLMอันนี้มันมียุคก่อนหน้านั้นคือ Machine Learning Technologyคือ Machine Learning กับ AI มันก็ยังเป็นอะไรที่ใช้อยู่ทุกวันนี้แหละอ๋อ โอเคใช่ แต่แค่ว่ามันอาจจะถูกตอนนี้การตลาดมันเข้ามาเยอะไงGenerative AI เนี่ยบางทีคนไม่รู้แต่พูดถึงคำว่า LLM คนยังไม่รู้เลยแต่เวลาบอกว่า ChatGPT มันก็จะกลายเป็นแบบสับคำที่คนเรียกเหมือนเรียกเป็น Common Terminology แบบเฮ้ย แบบคิดอะไรไม่ออก ไป search ใน Google ดิ คิดอะไรไม่ออกถาม ChatGPT ดิคือเขาไม่ได้หมายถึงว่าให้ไปถามแค่ ChatGPTคือหมายถึงว่าไปใช้เครื่องมือพวกนี้สิ ประมาณนี้โอเคครับงั้นตัว Teachable Machine เนี่ย ผมว่ามันเป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างดีนะครับแต่ก่อนที่ผมจะเข้าไปในตัว Teachable Machine เนี่ยผมก็จะเปิดสไลด์ตัวนี้ให้เขาดูก่อนคือผมบอกเลยว่าเวลาผมไปคุยกับนิสิทธิ์หรือว่าผมไปคุยกับผู้บริหารหรือใครที่เขาต้องการให้เราไปเล่าเรื่อง AI ให้ฟังเนี่ยผมจะขึ้นสไลด์ตัวนี้ก่อนผมจะบอกก่อนว่า AI เนี่ยคือ เราเป็นคนเริ่มสอนมัน มันมีอยู่สองวิธีหลักๆจริงๆมันมีมากกว่านี้ แต่ผมขอโฟกัสแค่สองวิธีหลักวิธีที่หนึ่งเราเรียกว่า Supervised Learningวิธีที่สองเราเรียกว่า Unsupervised Learningแปลเป็นไทยแบบง่ายๆ Supervised Learning ก็คือคนสอน AIUnsupervised Learning ก็คือว่า AI มันจะ Detect Patternมันจะหาพวกที่มันเป็นรูปแบบของมันเอง ก็คือมันทำงานเอง ดูจากภาพได้คนสอน AI คืออะไร คนสอน AI มาดูตัวอย่างนี้ตัวอย่างนี้ติดตลกนิดหนึ่งก็คือจะเห็นภาพแรกว่าคุณแม่อุ้มลูกจริงๆตัวอย่างนี้มันเจ๋งมากเลย Alvinเพราะว่าการสอน AI เหมือนการสอนเด็กเด็กทารก เด็กแรก ไม่ใช่เด็กแรกเกิดสิประมาณว่าอนุบาล 1 อนุบาล 2 จับไหม ก็คือยังไม่ค่อยรู้อะไรมาก ยังอยู่ในสเตจที่เราก็เรียนรู้อะไรใหม่ตลอดเวลาเราพยายามที่จะเข้าใจโลก เข้าใจคำพูด เข้าใจภาษาแล้ววิธีการเรียนการสอนสมัยเด็กมันจะเป็นประมาณว่าดูตัวอย่างแล้วก็หยิบตัวอย่างที่คล้ายกันแล้วมาถามเขาว่ามันคืออะไรใช่ คนก็จะพูดว่า A for apple B for ballเขาก็จะพยายามจะลิงก์คำพูดนี้เข้าใจกันให้เราเห็นภาพแต่ลองไปดูภาพนี้ครับ ก็คือคุณแม่อุ้มลูก แล้วพยายามจะสอนลูกให้เห็นว่า นี่คือคุณพ่อ นี่คือ Daddyแล้วลูกก็ไปจำภาพว่าอันนี้คือคุณพ่อแต่เห็นแค่ด้านก้นใช่ เห็นแค่ก้นลูกมันก็เลยไปจำว่าสิ่งที่เป็นรูปก้นเนี่ย มันคือรูปแบบกลมๆรูปแบบวงกลมสองวงอยู่ตรีกัน คือ Daddyแล้วเวลาเด็กมันจำ Pattern ถูกปะมันจำรูปแบบนี้ไปปุ๊บ มันไปซูเปอร์มาร์เก็ตมันเห็นแค่นตะลูปสองรูป ก็บอกว่า Daddyก็บอกว่า Daddy เพราะว่าเขาไป Reflectเขาไปจำได้ไงว่าเออ แม่เคยสอนฉันไว้ว่าอะไรที่มันเป็นทรงกลม 2 รูปเนี่ยติดๆกันเนี่ยมันคือ Daddyอ่าแล้วยังไงต่อไปดื่มกาแฟกับคุณแม่ไปร้านอาหารกับคุณแม่แล้วเห็นแบบพนักการเสิร์ฟกำลังรินน้ำชา รินกาแฟอยู่แล้วเห็นหน้าอกอ่าก็เหมือนกัน ก็เห็นเป็นรูปกลมๆก็บอกว่า Daddyฮ่าๆๆอ่า ตัวอย่างสุดท้ายคือ เพราะแดดบลูน สองลูกอยู่ติดกันมันทำให้เขานึกถึงอะไร แพทเทินที่เขาเคยเห็นตอนแรกที่คุณแม่สอนเขาแต่ก็ไม่ผิดนะ ถ้าสมมุติว่าผมเป็นเด็กวัยนั้นมันก็ฟังดู make sense ลูกร่างคือเขามองเป็น structureเขามองว่ามันคือลูกกลมๆ 2 อัน แม่เคยบอกว่านี่แปลว่า Daddyแล้วใครเป็นคนสอนเขาล่ะ มันุษย์ถูกไหม คือคุณแม่จริงๆ เนี่ย AI วิธีการทำงานมันเหมือนกันเลยในเชิงของตัว Superwise Learning คือ มนุษย์สอน AI จริงๆมันแค่เป็นภาพ เป็น label ตัวหนังสือภาพคำบรรยาย ภาพกับคำบรรยาย มาดูตัวอย่างนี้สมมุติผมถาม แอลวินลองนึกไปถึงสมัยตอนที่เราเรียนอารุบาล 1 อารุบาล 2เวลาครูเราพยายามจะสอนให้เรารู้จักว่าตัวนี้คือตัวแมวหรือว่าคุณพ่อคุณแม่เราเวลาพาเราขับรถเล่น แล้วเราเจอแมวข้างทางหรือสุดนักข้างทาง อันนี้คือแมวนะ อะไรอย่างนี้ เขาก็จะสอนเราถูกปะให้เราแบบ ให้เราเห็น แล้วเขาก็จะบอกว่าอันนี้คือแมวเราก็จะจำภาพแมวกับสิ่งที่เขาบอกเราก็คือเหมือนกับเป็นคำบรรยาย ประมาณนี้เลยงั้นวิธีที่เราจะสอน AI เนี่ยก็คือเราก็จะมีภาพแล้วเราก็จะมีตัวหนังสือที่เป็นคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษก็คือ label บอกมันอ๋อ ก็คือบอกมันว่ารูปที่คุณเห็นอันนี้ อันนี้คือแมวใช่ ไม่ต้องมีอธิบายนะว่าแมวมีตาสองตา มีจมูก มีวิสเกอร์ซ มีอะไรไม่ต้องมีอธิบายโอเค คือให้ Pattern Recognition มันเกิดขึ้นเองให้การ Detect รูปแบบ ให้การมองมันเป็นหน้าที่ของ AI หรือหน้าที่ของเด็กถูกปะคือ พ่อแม่คุณไม่เคยมาสอนคุณว่าสุนัขมันสีเท้านะ แมวมันก็สีเท้าถูกปะแต่เด็กเขาก็จะรู้เองว่าถ้าเขาเห็นแบบนี้บ่อยๆมันคือแมวเห็นแบบนี้บ่อยๆ มันคือสุนัขเขาก็จะรู้ละคือมันใช้จำนวนเยอะๆ อย่างเช่นสมมติแบบ ถ้าตอนเด็กๆ สมมุติกว่าที่จะเรียน Concept หนึ่งได้ผมก็จะต้องเห็นมาหลายๆ รอบก่อนใช่ๆต้องถูกบอกหลายๆ รอบอันนี้แปลว่าแมวนะไปที่อีกที่นึง อีกวันนึงก็อันนี้แปลว่าแมวนะแล้วเห็นหลายๆ ตัวปั๊บผมก็จะเริ่มรู้แล้ว สัตว์ที่มันหน้าตาเป็นแบบนี้มันเรียกว่าแมวถูกแล้วคุณจำในประโยคที่เขาบอกว่า Data is king ได้ป่ะสำหรับ AIก็นี่ไง เมื่อกี้คุณก็อธิบายผมมาแล้วว่าคุณ Feed รูปแมวให้เขาดูเยอะๆเขาก็จะเข้าใจว่าอันนี้คือแมวเขาเรียนรู้ด้วยตัวเองแต่มันก็ต้องมี Human เข้ามา Super Wise ก็เลยเป็นที่มาของ Super Wise Learningตัวอย่างนี้ก็คือ มนุษย์กำลัง labelผมเท้าความต่อไปที่เมื่อกี้ที่เราคุยกันนะเราบอกว่าตอนเด็กๆ เวลาเรียนหนังสือเวลาครูเราสอนเราว่าอันนี้คือแมวสุดท้ายเวลาเรามีข้อสอบเราจะไม่ออกข้อสอบที่มันไปตรงกับสิ่งที่เรียนในชั้นเรียนพูดง่ายๆ คือ เวลาคุณจะ test AI โจทย์เดียวกันกับที่คุณใช้สอนเขานั่นแปลว่าเวลาคุณไป test เขาเนี่ยคุณก็จะเอารูปแมว คุณมาดูภาพนี้คุณก็จะเอารูปแมวอีกตัวนึงที่เขาไม่เคยเห็นอ๋อ โอเคให้มันยากขึ้นเหลือ ให้มันแตกต่างจากสิ่งที่คุณสอนเขานั่นวิธีที่เราใช้ในการ test model มันก็แบบเดียวกันเลยคุณก็ feed data เข้าไปเยอะๆ ถูกปะแล้วก็ label นี่คือภาพแมว นี่คือภาพแมว นี่คือภาพแมวเสร็จปุ๊บเนี่ยคุณก็เอาภาพแมวที่เขาไม่เคยเห็น มาทดสอบเขาแล้วให้เขาดาวว่าอันนี้คืออะไรใช่ ถูกต้องความเป็นจริงมันคงไม่ใช่แค่รูปแมวถูกปะมันก็คงมีแมว มีสุนัข มีสิงโต มีงู มีเสือ มีอะไรก็ว่ากันไปนึกไปถึงสมัยตอนที่เราเด็กๆเลยมันคือ basic มันคือ pattern recognitionไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือพวก ABC ก็เป็น pattern recognitionแล้วที่นี่จริงๆแล้วสำหรับหลายคนที่อาจจะยังไม่ get คือ AI มันเห็นถูกมั้ยครับมันเห็นแมวเป็นอะไรโอเค คำถามดีครับ เดี๋ยวก่อนที่ตัวอย่างนี้เราพูดถึงกันไปแล้วเนอะเดี๋ยวเราก็จะสกิปเข้าไปในส่วนที่มันเป็นของตัว Teachable Machine ให้ดูนะครับเดี๋ยวผมไปเฉลยอีกทีนึงว่า AI มันเห็นยังไงโอเค ได้ งั้นตะทุกเรื่องนี้ไว้ก่อนโอเค ได้ งั้นวิธีในการที่เราจะเทรนตัว AI Model แบบง่ายๆเลยนะผมก็จะมี ผมขอเป็นรูปสิงโตก่อนผมก็จะตั้งชื่อ Label มันว่า Lion เห็นป่ะโอเค คือการ Labeling ใช่สิ่งที่ผมจะทำก็คือผมก็ต้องไปหาภาพสิงโตมา โอเค ผมก็ไปหาดู อ่ะ ทีเนี้ยผมเซฟรูปสิงโตไปแล้วนะครับ ผมมีสิงโตทั้งหมด สามตัว นี่ โอเคแล้วผมก็โหลดภาพเข้ามา อ่ะ เหมือน เหมือนตัวอย่างเมื่อกี้เลยใช่ ให้ดูว่าสิงโต สิงโต สิงโต อ่ะ ทั้งหมดสามภาพนี้คือสิงโตแล้วทีเนี้ยผมก็เลื่อนลงไป แล้วผมก็ไปสร้างมาอีกตัวหนึ่ง เป็นวัว เป็นขาว นะครับ แล้วผมไปอัพโหลดภาพวัวมาคือเพื่อจะให้มันไม่เกิด เนี่ย ผมก็จะอัพโหลดภาพที่มันเท่าเท่ากันอืม นะครับ ก็คือให้มันเรียนรู้อะไรสิ่งที่มันควรจะต้องรู้เท่าเท่ากันไปก่อนโอเคครับ ผมสามารถเพิ่มคลาสหรือว่าเพิ่มจะบอกว่ายังไงเพิ่มสัตว์ตัวที่สามก็เข้าไปก็ได้ อืม นะครับอ่าทีเนี้ยเดี๋ยวผมจะจบอยู่แค่สองตัวนี้ก็คือสิงโต้กับกับวัวนะครับ แล้วผมก็แค่คลิกคําว่า เทรนด์มอเดล โดยที่เราไม่ต้องไปรู้ลึกมากขนาดนั้นเหตุผลที่ผมไม่ได้เจาะลึกในเรื่องของพวกที่มันเป็นเทียรี่ของ AI มากเพราะว่าต่อไปมันจะ Liberal ถูกปะ ต่อไป AI ใครก็สามารถเข้าถึงได้ภาพผมขึ้นมาแล้ว มันบอกว่าผมหน้าเหมือนวูอมากกว่าสิงโตล้อนเล่นๆ ผมสลับไปที่ฟายล์แล้วกันทีนี้เจาะของเราคือว่าตอนนี้เราเทรนด์มันเรียบร้อยแล้วAI มันพอจะรู้แล้ว ในโลกของ AI ตอนนี้มีสัตว์อยู่ 2 ชนิด ในโลกของ AI Model ตัวนี้ตัวนี้ มีสัตว์อยู่ 2 ชนิดก็คือสิงโตแล้วก็วัวมันไม่รู้จักอย่างอื่นเลยมันไม่รู้จักอย่างอื่นเลยคุณจะหลอกมันก็ได้ มันก็จะตอบมาไม่สิงโตก็วัวเพราะโลกของมันมีแค่นี้งั้นผมจะไปหารูปสิงโตที่มันไม่เคยเจอผมก็จะไปหาคำว่า Lion เอาภาพที่มันยังไม่เคยเห็นนี่คือได้ แล้วผมก็เซฟภาพนี้มาลองแบบเป็นการ์ตูนได้ไหมครับได้ๆๆ เดี๋ยวผมจะไลยอนคิงไหมจะบอกว่าเด็กเวลาสอนเขาชอบเล่นแบบนี้กันตลอดเลยก็จะไปเอารูปสิงโตแบบจากไลยอนคิงบ้างอะไรแบบนี้มาลองดูกันผมไม่การันตีนะเพราะว่าเมื่อกี้นี้มันไม่มีรูปสิงโตที่เป็นการ์ตูนเลยถูกต้องๆในมอเดลมันมีแค่รูปที่เป็นสิงโตจริงๆถ้าสมมุติต่อไปเราอยากจะพัฒนามอเดลตัวนี้หรือว่าปรับจูนมันไปเรื่อยๆ ใช่ปะเราก็ต้องเพิ่มรูป รูปสิงโตในภาพลักษณะแบบอื่นก็คือมีแอนิเมชั่น มีการ์ตูน มีสไตล์อื่นๆที่มันไม่ใช่แค่สิงโตไม่งั้นคนเนี่ยก็จะเข้าใจแล้วว่า AI มันเข้าใจแล้วว่าสิงโตคืออะไรแล้วก็จะพยายามไปท็สต์มันไปพยายามว่าเห็นป่ะมันตอบไม่ได้แค่เอารูปแบบซิมบ้าเข้าไปใส่อะไรอย่างเงี้ยแล้วมันตอบไม่ได้งั้นเราลองดูกันว่ามันจะตอบซิมบ้าได้หรือเปล่างั้นผมจะเริ่มจากรูปสิงโตรูปแรกก่อนนะที่มันไม่เคยเห็นผมตั้งชื่อว่า test นี่เลยครับ เห็นปะ มันตอบมาเลยว่ามันมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์-หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสิงโต-หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์จุดนี้ก็สำคัญนะครับ ก็คือมันตอบมาเป็นเปอร์เซ็นต์เพราะว่ามันคือความน่าจะเป็น มันคือ probabilityโอเคทุกอย่างของ AI ครับ เวลามัน guess ออกมาเนี่ยมันคือเป็นการ guess มันคือเป็นการบอกว่าภาพที่คุณใส่เข้ามาเนี่ย โอกาสที่จะเป็นสิงโตคือ 100%เพราะว่าถ้าอันเนี้ย ถ้าใครดูในจออยู่มันก็จะมีตัวอย่างสองอัน มันจะมี Lion กับ Cow ความน่าจำเป็นที่เหมือนสิงโต มันกี่เปอร์เซ็นต์ความน่าจำเป็นที่เหมือนวัว มันกี่เปอร์เซ็นต์ซึ่งวัวตรงนี้คือ 0ความน่าจำเป็นของภาพที่คุณใส่เข้ามาเนี่ย มันคือสิงโต 100%มันเชื่อเลยว่าเนี่ยคือสิงโตแน่นอนแต่ถ้าภาพมันไม่ชัด หรือว่าถ้าภาพมันดูแบบไม่เหมือนสิงโตเท่าไหร่เนี่ยคุณก็จะเริ่มเห็นเลยว่าความน่าจำเป็นของสิงโตอาจจะ 50% วัว 50% มันจะเริ่มเกิดความไม่ชัวร์งั้นเราลองมาเทสตัวอย่างการ์ตูนไหม เพราะมันไม่เคยเห็นตัวอย่างการ์ตูนมาก่อนถูกๆๆ มันไม่เคยเห็นตัวอย่างและสำคัญมากๆเวลาเราไปเทสตัว Model พวกนี้คือต้องเป็นภาพที่มันไม่เคยเห็นไม่งั้นมันจะเกิดคอนเซ็ปท์ที่เรียกว่าแบบเป็น Overfitting นะครับเราไม่ต้องไปพูดถึงอันนี้มันเป็นแบบฤทธิ์ดีเนอะโอเค ก็คือเอาเหมือนข้อสอบเรานั่นแหละเราพยายามจะสอนเราพยายามจะออกข้อสอบในสิ่งที่เด็กนักเรียนยังไม่ได้เห็นเพื่อจะทวนความจำเขาว่าเขาสามารถ Apply สิ่งที่เขารู้กับสิ่งที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนได้หรือเปล่าใช่ ใช่ AI Model ก็เหมือนกับเด็กนี่แหละที่เราสอน คือเราก็ต้องการจะทดสอบ ว่าสุดท้ายเนี่ย เขาตอบได้ไหม นะครับวิธีที่ทดสอบวิธีที่สุดก็คือ ต้องออกข้อสอบเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นงั้นเรามาลองดูนะครับ สมมุติข้อสอบเนี้ยอาจารย์แบบบังเอิญออกมายากนิดหนึ่ง อ่า ดูดิ เห็นป่ะ แค่เนี้ยมันก็ตอบไม่ได้แล้ว อ่า ตอบผิด อ่า ตอบผิด ตอบผิดตอบว่าเป็น วัว วัว เพราะมันไม่เคยเห็นรูปภาพนี้ แล้วมันมันไป มันไป ของมันก็ไม่รู้ที่มันมองว่าอันเนี้ยเหมือนวัวมากกว่าอ่า ซึ่ง ซึ่งบางคนมองอย่างงี้ก็อาจจะตีความว่ามันโง่ เออ นั่นแหละ ถ้าเป็นเด็กอาจจะพอดาวได้หรือเปล่าถ้าเป็นเด็กคุณก็ตีหัวมันแล้วสอนใหม่อะไรอย่างเงี้ยอ่า ก็ใส่ตัวอย่างนี้เข้าไปในการเรียนรู้ครั้งหน้าถูกปะ สมมุติคุณสอบตกอ่ะ คุณก็ไปสอบซ่อมแต่ก่อนที่คุณจะไปสอบซ่อมเนี่ย คุณก็ไปอ่านหนังสือมาใหม่คุณก็ไปทบทวนบทเรียนของคุณใหม่อีกทีโอเค งั้นเราก็ต้องเทรนมันแบบนี้เหมือนกันถูกต้องครับ ถูกต้อง งั้นเดี๋ยวผมเพื่อเป็นการพิสูจน์นะว่ามันไม่ได้โง่ขนาดนั้นผมจะเอารูปวัวมาทดสอบมันนะครับ ผมจะเอารูปวัวที่มันไม่เคยเห็นเลย อ่าตัวนี้ เห็นปะ ทีนี้เวลาเป็นรูปอัวเนี่ยครับ มันก็ตอบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยอืม ว่าคือภาพอัวเนี่ยโอเค อันนี้คือวิธีการที่มันทำงานถ้าเราอยากให้สิงโตที่เป็นรูปการ์ตูนมันถูกต้อง เราก็เอารูปเมื่อกี้เนี่ยจากไลยอนคิงมาใส่เข้าไปในเทรนนิ่งมันแล้วมันก็จะเริ่มเข้าใจแล้ว อ๋อสิงโตมันเป็นอย่างนี้เอง เราลองดูได้มั้ยครับได้ ได้เลยครับแล้วเราลองเอารูปจากการ์ตูนตัวอื่นเพื่อให้คนเข้าใจว่า อ๋อการเรียนรู้มันเป็นอย่างนี้เองได้เลย งั้นเราก็จะไปเอาภาพ ตัวที่มันเป็นสิงโตมแปดนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาลายนท์คิงเข้ามาอีกสักประมาณตัวสองตัวเอาไอตัวนี้ด้วย ได้ นะครับ แล้วผมก็จะไปเอาภาพพวกเนี้ยใส่เพิ่ม ตัวนี้ ตัวนี้นะครับ ผมเพิ่มภาพที่มันเป็นการ์ตูนเข้าไปทีนี้เพื่อจะให้มันแฟร์ เราเพิ่มตัวที่เป็นมัวที่เป็นการ์ตูนบ้างดีกว่าโอเคโอเค ทีนี้ผมจะกดเทรนด์มอเดลอีกทีนะครับ แล้วก็เริ่มต้นใหม่เฮ้ คราวนี้ผมเหมือนสิงโตโอเค แล้วผมจะไปเอา เออ ผมก็ไม่เอารูปที่มันไม่เคยเห็นมาก่อนเนอะรูปไลน์คิง ไลน์คิงเลยแล้วกันคราวนี้ โอเค มา เรามาลองดูกันนะครับ ผมเอา Lion King Testอ่า ทีนี้ 100%100% ละสิงโต 100%มองว่าเป็นสิงโต 100%ขอลองอีกอย่างเคยเห็นภาพนี้มั้ยไม่เคยแต่มันน่ารักมากคือเด็กอะ เวลาเราสอนเขาให้ใช้ Teachable Machineเขาจะชอบแบบพยายามหาแบบรูปภาพอะไรพวกนี้มาหลอกมันอย่างเช่น Train เป็นรูปสิงโต Train เป็นรูปแมวพยายามจะเอาไอ้แมวใส่ชุดตุ๊กตาสิงโตอย่างนี้พวกอย่างนี้มาหลอก แต่ถ้าใครฟังอยู่อันนี้เดี๋ยวผมขอเล่าภาพให้ฟังนิดนึงมันคือรูปแมวที่พยายามแต่งตัวเป็นสิงโตแล้วมันน่ารักมากแคท ไลออนโอเคครับเร��ลองมาเดากันก่อนไหมว่ามันจะตอบอะไรคุณชิเว่คิดว่ามันจะตอบว่าสิงโตไหมผมว่ามันจะตอบว่าเป็นสิงโต แต่จริงๆเราก็รู้ว่ามันไม่ใช่สิงโตมันรู้จักแค่นี้ มันรู้จักแค่สิงโตกับบัว มันตอบว่าสิ่งตัว 100%ก็คือเวลาคนบอกว่า AI ไม่ชะลาดมันอาจจะเป็นเพราะ Data ส่วนหนึ่งด้วยเพราะเราก็เห็นในตัวอย่างนี้ว่า Data มีความสำคัญมากมันรู้ข้อมูลเยอะขนาดไหนแล้วมันเอามาประมวลผลได้ยังไงบ้างมันก็ขึ้นอยู่กับเราใน Day 1 มันขึ้นอยู่กับเราจริงๆทีนี้ผม Fast Forward มาจาก Teachable Machineมาในยุคสมัยนี้ที่มันเป็น Vision Modelผมจะให้ดูนะว่าแบบ ตอนนี้มันฉลาดลำลึกไปขนาดไหนVision Model แปลว่าอะไรVision Model ก็คือการที่ AI มองเห็นเอาง่ายๆเลยนะคุณสามารถใส่ภาพเข้าไปให้มันวิเคราะห์ได้ก็คือคำถามที่เมื่อกี้ผมถามว่าAI เห็นอะไรเวลาเราลงรูปเข้าไปใช่ AI เห็นอะไรAI เห็นอะไรเดี๋ยวเรามาดูกันแต่ว่าการที่มันเห็นมันสามารถ Reasoningมันสามารถให้เหตุและผลได้อ๋อแปลว่าอะไร แปลว่าถ้ามันฉลาดพอเนี่ยภาพเมื่อกี้ที่เป็นภาพรูปแมวในชุดสิงโต มันก็ควรจะตอบมาว่านี่ไม่ใช่สิงโต นี่คือแมวอ่า เรามาเทสกันดูจริงๆเบสของโมเดลตัวนี้ก็คือตัว GPT-4 นี่แหละอ๋อ ก็คือตัว ChatGPT นี่เอง มันเป็นเบสโมเดลของมันChatGPT เนี่ยคำที่เราเรียกใช้กันว่า ChatGPT มันคือ Interfaceในสิ่งที่มนุษย์สามารถมา Interact มาคุยกับตัวที่มันเป็นโมเดลได้มันเลยออกมาเป็นลักษณะของ Chatbotแต่จริงๆโมเดลที่มันอยู่เบื้องหลังเนี่ยมันก็คือโมเดลที่เราสามารถจะคุยกับมันได้เหมือนกันแต่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นการทัก Chat คุยกัน คือโลกของโปรแกรมเมอร์กับโลกของคนที่ใช้งานทั่วไปมันจะต่างกันอย่างถ้าเป็นผมและทีมผมอย่างนี้เราจะไม่ค่อยใช้ตัว ChatGPTเราจะไปใช้ตัว Model มันสม่างกว่าที่อยู่ข้างหลังModel มันเหมือนสมองใช่ถูกต้องมันคือสมอง ChatGPTModel มันคือ Brainโอเคอย่างภาพนี้ เอลวินถึงปะภาพนี้มันเป็นภาพของคนที่กำลังรีดผ้าอยู่อืมด้านหลังของแท็กซี่แปลกมากเออ มันแปลกมากปกติแล้วเนี่ย คนที่ทั่วไปเนี่ย คือมันต้องเป็นคนที่มันอธิบายว่าภาพเนี้ยมันมีอะไรที่มันประหลาดถูกปะ แต่ถ้า AI มันสามารถตอบตรงนี้ได้ มันก็ถือว่ามันก็มาได้ไกลแล้วนะคือมันเริ่มเข้าใจภาพจริงๆ ใช่ มันเข้าใจคอนเทคส์ของภาพแล้วอย่างเนี้ยผมถามมันว่า What is unusual about this image? ภาพนี้มีอะไรแปลกเห็นปะ มันก็ตอบได้หมดเลย แต่ว่าไม่ใช่แค่การ Detect Object บนภาพนะแต่มันสามารถก้าวไปถึงระดับที่ว่ามันสามารถอธิบายเราได้เลยว่าภาพเนี้ยมันมีอะไรที่มันแปลกประหลาด คือสิ่งที่มันตอบมันลึกมากเลยนะครับมันกำลังจะบอกเราว่ามันมีคนที่กำลังลีดผ้าอยู่หลังแท็กซี่ซึ่งอันนี้ไม่ปลอดภัยเลยระหว่างที่แท็กซี่กำลังขับรถอยู่อันนี้ค่อนข้างแปลกใช่แล้วคนนี้อาจจะตกได้เกิด accident injury ได้แปลว่ามันรู้เยอะ มันรู้คือถ้าเป็นสมัยก่อนอะแบบตัวเมื่อกี้ที่ผมให้ดูอะมันก็จะแค่บอกได้ว่านี่คือภาพอะไรอืมแต่อันนี้มันเข้าใจว่าองค์ประกอบของภาพเป็นยังไงคอนเทคส์ของภาพเป็นยังไง อันนี้คือพัฒนามาเลยตั้งแต่ยุคที่เป็น Machine Learning สมัยก่อนยันยุคนี้ โอเค แต่มันก็ยังใช้เทคโนโลยีคล้ายๆกันอยู่หรือเปล่าใช่ครับ เพราะจริงๆสิ่งที่ทำให้มันสามารถชะลาดถึงขนาดนี้ได้ก็คือ Dataคือกลับมาที่คำถามแรกของเราเลยที่บอกว่าแล้วตัว ChatGPT ทำไมมันชะลาดจัง หรือว่าทำไมมันรู้เยอะจังใช่ไหมครับ มันก็รู้เยอะเพราะว่ามันก็ไปกวาดเอา Data ทั้งหมดในเว็บมาเทรน มันเป็นเหมือนที่เราเตรนสิงโตเมื่อกี้แต่แทนที่มันจะเตรนสิงโต 5 ตัวมันไปเอาข้อมูลเอาข้อมูลทั้งเว็บเลยใช่ ถูกต้องโอเค ก็คือความรู้ของมนุษย์ทุกอย่างที่เราใส่เข้าไปบนอินเทอร์เน็ตมันมีความรู้ตรงนี้ใช่ แล้วความรู้ของมันจะ ถูกคัทออฟ ถูกปะ มันบอกว่ามันจะรู้ มันจะตอบได้เฉพาะถึงถ้าเป็นเหตุการณ์จริงอ่ะในโลกมนุษย์เนี้ย มันจะตอบได้ถึงแค่ประมาณปี 2022ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นอ่ะ มันจะไม่รู้ งั้นแค่ตรงเนี้ยคุณก็รู้แล้วว่าเขาอ่ะต้องการจะให้คุณใช้ ChatTBT ในลักษณะแบบไหน อืมถ้าสมมุติ OpenAI อ่ะ เขาอยากให้คุณใช้ ChatTBT แทน Google อ่ะเขาก็คงอัปเดตข้อมูลมันเรื่อยเรื่อย ถูกไหม อืมแต่ในความเป็นจริงแล้วมันแพงแล้วมันเป็นไปไม่ได้ อืมงั้นให้เรามองแบบเขาอ่ะ เราก็ควรจะใช้ ChatGPT มาช่วยทำงานหรือว่ามาช่วยเป็นผู้ช่วยเรา เป็น Assistant ของเราก็คือตอบโต้กับมันเป็นคนได้ใช่ครับ ใช้มันทำงานได้แล้วอย่างนี้ Large Language Model มันทำงานยังไงเพราะมันดูฉลาดมากเลยนะมันดูพัฒนาไปไกลกว่าที่เราเห็นรูป Teachable Machine ตอนเมื่อกี้ถามว่า Large Language Model มันคืออะไรคำว่า Large Language Model มันก็บอกอยู่แล้วโดยประยายว่ามันเป็นการเอา Data เยอะๆเนี่ย Data แบบอันมหาศาลเนี่ย มายัดใส่ในตัว Model ตัวนี้แล้วก็ Train มันให้เข้าใจ Patternคำว่าเข้าใจ Pattern เนี่ย แปลว่าถ้าผมถามอะไรเนี่ยมันก็สามารถตอบได้ แล้ววิธีการที่มันจะตอบเราเนี่ยคือมันก็จะไปกวาดดูว่า สิ่งที่มันเคยเห็นมาก่อนเนี่ยมันคือคำว่าอะไร อย่างเช่นตัวอย่างนี้เห็นปะมนุษย์กำลังคุยกับ AI อยู่ มนุษย์ถามว่า Who is Lebron James? Lebron James คือใคร?
ใช่ปะ? AI ก็ตอบว่า Lebron James is and แล้วมันก็หยุด แล้วมันก็ไปดูว่า คำพูดต่อไปที่มันจะพูดออกมามันมี Choice อะไรบ้างคำที่ 1 คือ American คำที่ 2 คือ NBAคำที่ 3 คือ Professional คำที่ 4 คือ Allคำที่ 5 คือ Iconicก็ดูจะเป็นไปได้เกือบทุกคำเลยนะครับถูกมั้ย เกือบทุกคำคำว่า All อาจจะดู Unlikely ที่สุดแต่ Iconic ก็ได้เมื่อกี้อาวินใช้คำว่า Unlikely ถูกปะUnlikely ก็กลับมาที่เรื่องของความน่าจะเป็นเหมือนเดิมProbability เหมือนเดิมก็คือก่อนที่มันจะตอบเนี่ยมันก็จะไปกวาดดูว่า มันพบเห็นคำนี้เป็น The Next Word ถี่แค่ไหนโดยใช้ Knowledge มาหรือสิ่งที่เป็นคลังความรู้มันคืออินเทอร์เน็ตใช่ครับNew York Times เนี่ยเขาพูดมาประมาณว่าAI หรือ ChatGPT มันคือ The Average Of The Internetผมชอบคำนี้มากเป็นค่าเฉลี่ยของอินเทอร์เน็ตแต่ว่าถ้าคุณจะไปถามมันเนี่ยคำตอบที่คุณจะได้เนี่ยมันจะเป็นคำตอบที่เป็นค่าเฉลี่ยโอเค งั้นเรามาดูกันครับ ก็คือ Who is LeBron James? LeBron James is มันตอบว่าเป็น Americanแล้วคำต่อไป Alvin เห็นป่ะ มันก็จะมีตัวเลข Ranking ขึ้นมาให้อ่า โอเคก็คือ LeBron James is an American ถ้าเป็นผมตอบAmerican NBA ฟังดูไม่ make senseAmerican Former ก็ อืม ไม่น่าใช่แล้วความน่าจำเป็นของคำถัดไป American Professionalโอเค ก็คือมันให้คะแนน 50 อยู่ถูกต้อง แปลว่าความน่าจะเป็นของคำถัด ที่มันจะมา fill in the blank หรือว่าเติมคำในช่องว่างคือคำว่า Professionalนี่แหละก็คือสมองของ ChatTBT ทุกครั้งที่มันตอบปุ๊บเราอาจจะไม่เห็นเพราะว่าเรากำลังคุยกับมันอยู่เวลามันตอบเราเนี่ยมันก็ตอบเป็นทีละคำถูกปะแต่จริงๆมันกำลังเอาทั้งประโยคนั้นอ่ะวนกลับเข้าไปเป็นลูปแล้วคอนเทคส์มันก็ได้ แกรมมามันก็ได้เวลามันพูดคุยกับเราเนี่ยจะเห็นว่า Sentence Structure มันดีมากวิธีการเขียนทุกอย่างมันแป๊ะเลย อันนั้นผมนึกว่ามันทำเพื่อเท่ชักผมไม่รู้นะว่ามันกำลังคิดอยู่ระหว่างที่มันตอบทีละคำมันคิดอยู่ครับถ้าเราเป็นโปรแกรมเมอร์เราสามารถจะเปิด Option ตรงนี้ในการเห็นว่าสมองของ AI มันคิดยังไงเดี๋ยวผมจะมีให้ดูด้วยเหมือนกันโอเค งั้นถ้าจบตัวอย่างนี้ก็คือAmerican Professional มันก็จะตอบคำถัดไปเห็นมั้ย ก็จะตอบว่าเป็น Professionalแล้วก็คำถัดไปแล้วมันก็จะไปกวาดมาอีกว่าถ้าทั้งประโยคนี้มันเคยเห็น มาแล้วถูกปะ เพราะว่ามันคือค่าเฉลี่ยของอินเทอร์เน็ตคำถัดไปความน่าจะเป็นคือคำว่าอะไรทีนี้คำว่าบาสเก็บบอลมันให้ 50 สูงสุดนั้นแปลว่าคำถัดไปที่มันจะมาใส่ในนี้ก็คือคำว่าบาสเก็บบอลโอเคนี่แหละ นี่คือ completion ของ ChatGPTงั้นเวลาคนเห็น ChatGPT ตอบเนี่ยเวลามันตอบคำหนึ่ง สองคำ สามคำ สี่คำแล้วเห็นเวลามันค่อยๆ ตอบเนี่ยคือมันกำลังทำสิ่งนี้แบบระยะเวลาที่เร็วมากถูกต้องแต่ก่อนเนี่ยมันก็คงทำแค่สิ่งนี้แหละมันก็คือวนเข้าไปในรูป ที่อยู่ในมันสมองของมันแต่ว่ามันก็มี human interventionก็คือคนสามารถเข้ามา find juneคนสามารถเข้ามา duckถ้าวันนี้คุณไปถามแชท tbtเรื่องที่เกี่ยวกับพวกก่อการร้ายอย่างนี้มันก็จะไม่ตอบแล้วโอเค ก็ถ้ามีคำที่มันอาจจะฟังดูอันตรายอย่างเช่นระเบิดนิวเคลียร์อะไรอย่างนี้มันก็จะเริ่มพยายามที่จะ duck แล้วไม่ตอบใช่ มันก็จะไม่ตอบเพราะมันรู้ว่าคนน่าจะปฏุสร้ายหรือว่ามีมุมมองในเชิงรบถึงเขามาคุยกับมันแบบนี้ แต่ว่ามันคือการปล่อยให้ AI เนี่ย คิดเอง ตอบเอง แต่ก็มีส่วนนึงที่มนุษย์เข้ามาแทรกแสงQuick note สติสติกนี้ surprise ผมมากๆ มันมีประมาณ 88% ของคนที่ดู Channel เราอยู่เป็น regular basis ที่ยังไม่ได้ subscribe คอนเทนต์เรา ถ้าหากคุณดูคอนเทนต์นี้แล้วรู้สึกประทับใจ แล้วชอบแล้วอยากเห็นคอนเทนต์แบบนี้มากขึ้น อยากเห็นเกสต์ที่ใหญ่ขึ้นโปรดัคชั่นที่ดีขึ้น ผมขอ favor หนึ่งอย่างครับฝากกด like กด subscribe แล้วเราจะสัญญาว่าคอนเทนต์เราจะ continue to improve ไปเรื่อยๆแล้วเกสต์ที่เราพามาในโชว์จะใหญ่ขึ้น จะแกรนด์ขึ้นขอบคุณมากครับอันนี้มันก็ไม่ได้ฟังดูฉลาดขนาดนั้นนะครับถ้าผมดูแค่นี้ เพราะว่ามันก็เหมือนตัวอย่างสิงโตเมื่อกี้นี้ พอเราเอาตัวอย่างที่มันไม่เคยเห็นแล้วคอนเทคที่มันไม่เคยเห็นมันก็ดูจะไปไม่ได้อันนี้มันก็ดูจะเป็นแค่ตัว complete คำพูดหรือเปล่าใช่ คือเริ่มต้นมามันคือ completionมันคือ sentence completionและนั่นก็คือสิ่งที่เขาเปิดตัวมาแต่หลังจากนี้มันก็ฉลาดขึ้นคนก็เข้ามาช่วย find จูนมัน ปรับจูนมันจนไม่ใช่แค่ตัวหนังสืออย่างเดียว นี้มันก็สามารถ generate ออกมาเป็นรูปภาพได้แล้วมันเข้าใจ contextอย่างสมมติผมบอกว่าให้ AI เนี่ย generate ภาพให้ดูคือเพื่อจะให้เห็นว่า AI มันฉลาดขึ้น มันเข้าใจคอนเทคส์คำว่าคอนเทคส์ก็คือบริบทสมมุติผมบอกว่าเด็กกำลังเดินอยู่มันก็เข้าใจว่าเด็กกำลังเดินอยู่บนพื้นไม่ใช่ว่าเด็กกำลังเดินอยู่แต่ว่าลอยอยู่ในอากาศคือไม่ใช่ว่าเวลาเจนเรทภาพมันจะแปะภาพเด็กไปที่จุดไหนจุดหนึ่งของภาพก็ได้ไม่ใช่มันฉลาดมันรู้ว่าคนที่เดินต้องเดินอยู่บนพื้นเดี๋ยวผมจะมาให้ดู ถ้าเป็นมนุษย์เราก็จะฟังดูว่า มันก็ฟังดูง่ายแต่จริงๆแล้วพอเราจะเทรนด์คอมพิวเตอร์จริงๆ มันไม่ได้ตรงตัวขนาดนั้นคำว่าเดินมันไม่รู้จักเราพอที่มันจะรู้ว่าเดิน แปลว่าเดินบนพื้นฉะนั้นการที่ทำสิ่งพวกนี้ได้ก็คือค่อนข้างอินเทรสซิฟอย่างวันก่อนเวลาผมไปจัดเป็นการอบรมให้กับกลุ่มของคนที่เขาทำเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเขาเป็นบริษัททัวร์ แล้วบริษัททัวร์เป็นบริษัทที่ทุกษ์ที่ประสบความสามารถ จะบอกว่ายังไงดี จะบอกว่าเป็นธุรกิจที่ยังไม่ได้คือโดน Distract ไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวเพราะว่าการเข้ามาของ OTA พวกนี้ทำให้ตอนนี้การขายทัวร์มันยากก็คือ Agoda, Booking.com ที่เขาเข้ามาเป็น OTAบริษัททัวร์ตอนนี้เขาก็จะไม่ได้มีความรู้เรื่องของตรงนี้มากเท่าไหร่เวลาเราไปอธิบายให้เขาฟัง เราก็จะอธิบายให้เขาดูว่าสมมติคุณต้องการเจนเตอร์เรทภาพหนึ่งอย่างเช่นรูป Taj Mahalเดี๋ยวผมให้ดูนะ ผมก็บอกก่อนว่าตอนแรกเนี่ยคุณจะต้องวาดภาพ Taj Mahal ถูกปะจุดเริ่มต้นคุณจะไปวาดยังไงคุณก็ต้องอธิบายมันว่า Taj Mahal รูปร่างหน้าตามันเป็นยังไงถูกปะผมก็จะบอกเขาว่าให้เข้าไปที่ตัวชัด GPT ก่อนแล้วก็บอกให้มัน Describe Taj Mahal in one paragraph มันก็ออกมาเป็น description ของ Taj Mahalผมบอกว่าให้ยาวไป shorterอ่าฮะโอเค ซึ่งจริงๆ คำพูดว่า Taj Mahal ตรงนี้ที่มันอธิบายออกมามันคือ knowledgeแต่มันไม่ได้อธิบายถึงองค์ประกอบในรูปแบบหรือว่าโครงสร้างเลยผมจะให้มันอธิบายออกมาเป็นภาพคือผมกำลังบอกมันว่าเฮ้ยคือที่คุณให้ข้อมูลผมมาเนี่ยมันคือข้อมูลประวัติของ Taj Mahalผมไม่ได้ต้องการ ผมต้องการข้อมูลที่มันเป็น สิ่งที่ผมจะสามารถเอาไปวาดภาพ Taj Mahal ได้ซึ่งอันนี้มันก็คือคอนเทคซ์ที่เพิ่มเติมขึ้นไปจริงๆ มันคือผมกำลังให้มันทำพร้อมเพื่อจะไปใส่ในตัว Image Generator ให้ผมโอเคครับนะครับ งั้นผมก็จะเข้าไปที่ Designerคือตัว Tool ที่มัน Based on GPT-4 เหมือนกันของ Microsoftคือ Microsoft Designer ผมเข้าใจว่ามันเข้ามาเนี่ยมันเป็นอะไรที่ ผมว่ามันช่วยคนได้เยอะเลยนะ เพราะว่าบริษัทที่เป็น SME บริษัทเล็กๆ อย่างนี้เขาจะติดปัญหาอยู่เรื่องเดิมๆ ให้คล้ายกันก็คือ 1. ไม่มีเว็บไซต์ 2. ไม่มีกราฟิกดีไซน์เนอร์แล้วไม่สามารถจะคอมมูนิเคทแบรนด์ออกไปได้การเข้ามาของตัว AI ในเรื่องของการที่มันเป็นตัวช่วยเราในการสร้างกราฟิก ในการสร้างเว็บผมว่ามันคือ Game Changerมันช่วยเรา คือเราไม่ได้พูดถึงในการลดคน แต่จริงๆ แล้วมันคือขาดคนอยู่แล้วตั้งแต่แรกถ้าคุณถามผมจริงๆ ผมก็ยังไม่กล้าตอบว่ามันจะมาช่วยลดคนหรือเปล่า ใจผมเองผมก็รู้สึกว่ามันทำได้ถึงขนาดนี้อีกไม่นานในอนาคตมันจะมาทดแทนคนได้หรือเปล่าอาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะฉะนั้นผมอธิบายคำว่า Touch Mahal ให้มันเห็นภาพแล้วผมก็ไปสั่งให้มันเจนเวร์เทศภาพอันนี้คือในส่วนที่มันเป็น Vision Modelคือมันจะสร้างออกมาเป็นภาพให้เราเห็นอันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่จะใช้ดาว E บน ChatGPT หรือ Meet Journeyดาว E ถ้าเป็นในช่วงเทคนิคมันคือ Diffusion Model มันก็จะเป็นอีก concept หนึ่ง เพราะว่าอันนั้นคือเรื่องของภาพแล้วว่าเวลาเทรนเนี่ย เขาเป็นการเทรนกับภาพอันนี้ก็เหมือนกันหรือเปล่าครับอันนี้คือการเทรนกับภาพ คือตอนเวลาผมไปสอนนะครับภาพเนี้ยออกมาปุ๊บอะ คนไม่เก็บคนก็อาจจะบอก อะก็ Google มาเออ นี่แหละ คนบอกว่าภาพเนี้ยคือคุณไป Google มาแล้วมันเจ๋งยังไงอะ คือเอาจริงๆก็คือผมต้องการจะบอกหรือเขาต้องการจะบอกผมว่าแม่งมันโคตรเหมือนจริงเลยอะ เขาดูไม่ออกเลยว่า อันนี้มันคืองานของ AI ใช่แล้วทำยังไงรู้ปะ เพื่อจะให้เขาเข้าใจผมก็ไปแก้คำนี้ ผมไปพิมพ์คำว่าWith bats flying in the skyอะเดี๋ยวคุณคอยดูนะคือตอนภาพแรกที่ออกมาเนี่ย มันดูเหมือนจริงมากเขาคงนิ้วว่าเหมือนกับผมไปใช้ตัว Image Creator เป็น Googleเหมือนผมไปเสิร์ชภาพ Google ทัชมาฮาวมา เขาไม่เก็บไงคือภาพมันดูไม่ต่างกับถ้าสมมุติว่าผมเสิร์ช Googleก็เหมือนเป็นภาพที่คนถ่ายมา ภาพหนึ่ง แต่อันนี้คือคุณชีเวกใส่เข้าไปว่าให้มันมีข้างคาวบินอยู่รอบๆนั้นซึ่งมันน่าจะแปลกมากนี่เขาก็เลยเก็ตว่าอ๋อ นี่คือผลงานของ AI เหรอเพราะภาพแบบนี้มันไม่มีอยู่จริงอันนี้คือการทำ Image Generation ของ AIImage Generation ข้างหลังมันก็เป็นพวก Dialog Model นี่แหละซึ่งมันเป็น Diffusion Modelแปลว่า Completion มันเป็นจุดเริ่มต้นตอนนี้มันมองเห็นด้วยอย่างตัวอย่างที่เราโชว์ไปว่าคนขับรถ อยู่บนรถแท็กซี่กำลังพยายามจะลีดเสื้อผ้าอันนี้น่ากลัวมาก มันอธิบายถึงคอนเทคส์ surrounding เรื่องนั้นได้และตอนนี้มันก็โชว์ให้เห็นว่ามันสร้างภาพขึ้นมาใหม่ได้ภาพที่สมจริงเสมือนจริงเลยมันเสมือนจริงจนคนไม่เก็ตว่าภาพนี้มันเป็นภาพที่ AI เป็นคนทำมาจนกว่าที่เราจะไป add element อื่นที่มันดูแปลกแวกแนวไปเลยอย่างเช่นแบบครั้งคาวเขาถึงเก็ตว่า ภาพนี้มันคือ AI เป็นตัว generate เหรออันนี้คือ อันนี้คือการประสบของ AI Tool หลายๆอันเข้ามารวมกันมันคือทั้ง Large Language Model มันคือทั้ง Machine Learning ที่เมื่อกี้เราเห็นตัวอย่างไปแล้วใช่ จริงๆมันเป็น Diffusion Model แหละ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของภาพDiffusion Model คืออะไรครับเขาก็จะเทรนมัน โอเคเป็นคำถามที่ดีครับคือตัว Diffusion Model มันก็จะเป็นอีกแขนงหนึ่งที่เขาใช้ในการทำพวกเครื่องมือ AIโอเคเดี๋ยวผมเริ่มกับทฤษฎีนิดนึงก่อนแล้วกันได้ครับ Alvin break ผมได้นะ ถ้าผมแบบเจาะลึกทฤษฎีมากเกินไปคือคำว่า diffusion เนี่ย จริงๆคำๆเนี้ยคุณเคยได้ยินป่ะเคยได้ยินแบบลางๆ แต่ไม่รู้จริงๆว่ามันแปลว่าอะไรอันนี้ต้องยอมรับเลยคำว่า diffusion เนี่ยผมได้ยินครั้งแรกตอนที่ผมเรียน chemistry ผมเรียนเคมีDiffusion ก็คือ from high concentration to low concentrationก็คือการที่มันกระจาย การที่มัน diffuseเพราะว่าเหมือนกับภาพตรงนี้เวลาผมหยด หมึกเข้าไปในตัวแก้วผมเนี่ย มันจะค่อยๆ จาก High Concentration เนี่ยค่อยๆ กระจายตัวไปมันก็เหมือนละลายลงไป จาก High Concentration เป็น Low Concentrationจากหมึกก็ค่อยๆ ซึมเข้าไปอยู่ในแก้วเป็นไงเหมือนที่ตัวอย่างที่โชว์ให้ดูใช่ครับ มันก็คือ Diffusionทีนี้ Diffusion ในเชิงของการทำ Model มันคือเป็นการ Add Noiseถ้าใครมาสาย Photoshop เขาจะเข้าใจว่าการใส่ Diffusion หรือว่าการใส่ Filter พวกนี้ไปมันเป็นการ Add Noise เข้าไปในภาพ เรากำลังทริก AI เรากำลังทำให้มันงงอยู่โดยการแบบ add noise ภาพจะเป็นภาพแรก ภาพที่ชัดเราจะค่อยๆใส่ noise เข้าไปทีละ step เป็นประมาณแบบนี้เห็นภาพสุนัขปะ เราจะค่อยๆใส่ noise เข้าไปมันเหมือน add filter ที่เป็นจอเหมือนจอเทอร์ทัดขาวดำเวลาสัญญาณมันหายไปมันก็จะค่อยๆ diffuse ไปอย่างนั้นตรงนี้ แต่ละสเต็ปเนี่ย เราพยายามเพิ่ม Noise เข้าไปทีละสเต็ป ทีละสเต็ป ทีละสเต็ปแล้วเราก็ใช้ภาพตรงเนี้ยไปเทรนมัน นะครับ เทรนยังไงอะครับก็คือจับยัดเข้าไปเลย ในตัว Neural Networkโอเค เอารูปตรงไหนที่ไปเทรน เอารูป เอารูปปกตินี่แหละครับเอารูปภาพปกติเนี่ย แล้วก็ค่อย Add Noise เข้าไปในแต่ละสเต็ปไปเทรนมันในตัว G Fusion Model ทีเนี้ยในเมื่อภาพที่เป็นภาพปกติเนี่ยมันจะเห็นแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงจากภาพนี้ จากภาพแรก ภาพแรกที่เป็นภาพสุนัขค่อยๆกลายเป็นภาพที่มันลางไปเรื่อยๆจนเป็นแบบ Noiseถ้ามันรู้วิธีขาไป ขากลับมันก็สามารถจะ generate ภาพออกมาให้เราได้อ๋อ โอเคอันนี้มี Model ที่มันเป็นทั้ง Text และภาพมันก็คือนี่แหละ การผสมผสานของ Model พวกนี้อันนี้ขอบอบความเข้าใจคือ คุณเชียกกำลังจะบอกว่าตอนแรกเราเอารูปธรรมดานั่นแหละ เราเอา Noise หรือเป็น ส่งที่เป็นตัวขาวดำเนี่ย ใส่เข้าไปเป็น filter filter filterจนมันภาพมันมองไม่เห็นเลย ไม่รู้ว่ามันคือสุนัขหรือเปล่าแต่การที่มันไปทีละสเต็ปทีละสเต็ปเนี่ยมอเดลเนี่ยมันจะเห็นการเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงของภาพนี้ตลอดเพราะว่าถ้ามันรู้ว่าขาไปเป็นยังไง ขากลับมันก็กลับถูกก็เวลาเราบอกว่าวาดรูปสุนัขมันวาดจากไม่รู้เลยเลยค่อยๆกลับมากลับมากลับมา อันนี้จริงๆแล้วมันก็คือเวลาเราไปทำ mid journey คนก็จะเห็นเพราะพร้อมเสร็จมันจะใช้ เวลาในการ calculate percentage มันก็จะเบลอแล้วจากเบลอๆ จะชัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตรงนี้เนี่ยหลังจากที่เรามีตัว Microsoft Designer เนี่ยผมว่ามันเป็น Game Changer ตัวนึงเลยเพราะว่ามันเป็น Use Case ของการเอา Daily Model เนี่ยมาเปิดให้คนใช้แล้วเวลาผมมีภาพนี้ปุ๊บเนี่ย Next Step ของผมคือผมอยากทำ Banner ถูกปะเพราะว่าผมเป็น SME ผมเป็นแบบเอกชน ผมเป็น Size Selectผมไม่มี Graphic Designer In House ผมก็สามารถ Create Design เนี่ยโดยเอาภาพเนี่ยที่ Generate ออกมาเนี่ยนะครับเข้ามาในตัว Designer แล้วผมก็สามารถจะทำออกมาเป็น เป็นภาพแบบ Banner ได้เลยอย่างเช่นสมมติบอกว่าPromote Trip to Taj Mahal to see batsแล้วผมว่ากด Generateแล้วคุณไปดูนะแต่เวลากราฟิกมันก็สวยนะเอาเข้าไปในกล่องมันก็จะสร้างสิ่งใหม่ๆออกมาให้ใช่ๆผมว่า UX มันดีเห็นไหมครับมันก็ไปแกล้งมาทำเป็นแบบ PromotionPromotional Banner เลย อันนี้ก็คือลง Facebook ลง Instagram อะไรประมาณนั้นใช่ๆ ประมาณนั้นคือเข้าใจแหละว่ามันดูแบบยังไม่ค่อยสวย ยังไม่ค่อยมีอะไรแต่ว่ามันก็เป็นจุดเริ่มต้นแล้วคุณก็รู้ใช่ปะว่าจากจุดเริ่มต้นเนี่ยไปจุดที่แบบมันแม่ง Perfect เลยเนี่ยมันใช้เวลาแปลกเดียวคือผมก็ทำอย่างนี้จริงๆ แล้วทุกวันเนี่ยเวลาเราทำงานอย่างสมมติใครชอบแบบ Thumbnail ของ Page เราที่เป็น The Rise of Intelligence อะเราก็ใช้ Mid Journey Create รูป บางรูปออกมาอย่างสมมติ มันมี topic เรื่อง Mark Zuckerberg แต่มันไม่มี angle ของ Mark Zuckerberg ที่ทำท่ายิ่มเงียบอย่างเนี้ยผมก็ไปให้มัน create รูป Mark Zuckerberg แล้วก็ดึง background ข้างหลังออกแล้วก็ไปปรับแต่งเพิ่มใน Canvaแต่มันสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่ปกติเราไม่เคยเจอมาก่อนได้เลยผมว่าอันเนี้ยน่าสนใจนะ มันเป็น controversial issue อยู่เหมือนกัน มันเป็นประเด็นที่เขากำลัง คุยกันกำลังเพ่งเลงกันอยู่เหมือนกันในช่วงหนึ่งที่อเมริกาว่าเอาหน้าของคนจริงๆไปใช้ใช่ไหมครับอ่าใช่คุณลองดูดิผมบอกว่าอันนี้คือ user อันนี้คือ AIเราบอกว่าให้ create animated toysเฮ้ยนี่มันคือภาพของ Disney เลยนะมันคือ Monster Inc.มันคือ Monster Inc. แล้วภาพของ animated sponge มันคือ SpongeBobแล้วมันเหมือนกันไปเลยถูกป่ะถ้ามัน generate ออกมาได้แบบนี้เมื่อกี้เราอธิบายเรื่อง diffusion model ไปแล้วถูกป่ะAlvin ตอบมาดิว่า ว่า input ของ model มันคือภาพอะไรinput ของ modelของ diffusion model มันคือภาพอะไรมันก็คือภาพพวกนี้ แล้วมันมีลิกสิทธิ์ป่ะอ๋อนี่แหละที่มันเป็นประเด็น issue กันอยู่ตอนนี้ในต่างประเทศก็คือคุณจะไปเอา data พวกนี้มาคุณคอสิทธิ์อนุญาตของคนที่ถือคลอง data พวกนี้แล้วหรือยังถูกต้องถูกต้องดูดีเนี่ย เขาบอกว่า create an image ofjalkin phoenix ที่เป็นดาราในหนังโจกเกอร์ อันนี้คือภาพที่ AI อ่ะ generate ออกมาผ่านมิดเจอร์นี่อ่า ก็คือเหมือนจริงเลยนี่คือภาพจริงก็คือโอเคก็คือมันมัน over fit อ่ะถูกปะ มันคือมันเอา มันลอกข้อสอบอ่ะ พูดง่ายๆซึ่งปกติถ้าคนพยายามที่จะทำแบบนี้แล้วไปลงแบนเนอร์ตัวเองก็จะโดนซูว์ใช่บริษัทภาพยนตร์ก็จะออกมาบอกว่าคุณไม่สามารถทำแบบนี้ได้ผมว่าคำถามที่ต้องถามมิดเจอร์นี่อ่ะ ตอนเวลาเขาสร้างมอเดลคือเขาใช้อะไรในการเทรนด์มอเดลเขา ซึ่งเขาก็น่าจะใช้ Copyright Materialใช่นั่นแหละอันนี้ก็เลยกลายเป็นอย่างเดียวData มันก็เลยเป็นจุดที่สำคัญมากโอเค มันสร้าง Iron Man ออกมาเลยมันคือตัวนั้นเลยแหละมันคือตัว Iron Man เลยแหละคำถามมันก็คือถ้ามันทำอย่างนี้ได้ คนที่เขาผลิตLiccate Original Material อย่างนี้เขาก็สูญเสียโอกาสในการหารายได้เขาคุณลงทุนเวลา คุณลงทุนแรงในการสร้าง Character นึงขึ้นมาแต่พอคุณสร้างเสร็จ พอมันอยู่บนอินเตอร์เน็ต ใครๆก็ไปก๊อปปี้ไปสร้างตัวอื่นไปสร้างหนังแบบใหม่ได้ใช่แล้วไม่ใช่ก๊อปปี้อย่างเดียว คือมันก๊อปปี้และดัดแปลงได้เลยไงเพราะมันเข้าใจถึงบริบทถูกปะสมมุติผมบอกสปอนชบอปอย่างเนี่ยแล้วผมบอกสปอนชบอปที่กำลังวิ่งอยู่อย่างเนี่ยมันก็จะทำเป็นภาพสปอนชบอปที่เป็น Copyrighted Material แต่กำลังวิ่งอยู่ใช่ โดยเฉพาะหลังจากที่เราเห็นเทคโนโลยีเวอร์ชั่นอันใหม่ออกมาก็คือ Zoraเป็นตัวทำวีดีโอจากเทคส์ ถ้าสมมติมันสามารถเอาก็ทำโฆษณา ทำหนังสั้น ทำอะไรได้เลยจริงๆดีไม่ดีต่อไปเวลาเราจะทำอัพโปรสต์ใหม่ เราใช้ Sora ทำ Trailer ได้เลยก็จริง ก็เอาหน้าชีเวก เอาหน้าผม แล้วก็ไปโยนให้ AI Model ในการวาดมันมีตัวอย่างหนึ่งอยู่ผมจำได้ใน Sora เนี่ยเนี่ยครับ อันนี้เหมือนจริงมาก ผมเห็นผมก็ตกใจคือมันดูไม่ออกว่าไม่ใช่คน มันคือคนอะ ผมจำได้ว่ามันจะมีรูปนึงที่เป็นผู้หญิงเดินอยู่ในญี่ปุ่นเนี่ยเห็นแบบ รูขุมขนเลยอะ พูดจริงๆแต่ตัวอย่างนี้มันคือแบบ Fascinating เพราะว่าหนังสั้นอีกหน่อยคือผมเชื่อว่าคนจะมาทำแบบนี้เยอะแล้วผมว่าในเชิงธุรกิจอะ มันคือ Iterative อะ คือเราสามารถ Go Very Lean ได้คือคุณจะ Happy ไม่รัก ถ้าผมบอกว่าคุณสามารถ Release Trailer ออกไปก่อนที่คุณจะทำหนังได้แล้วดู ว่าเทรลเลอร์อันไหนที่คนชอบเทรลเลอร์อันไหนที่ปอปพิลาร์เวลาคุณทำ AB Testing ในเชิงการตลาดอย่างเนี้ยคุณก็ยิงเทรลเลอร์ออกไปก่อนแล้วอันไหนที่ Engagement เยอะคุณก็บอกโอเคตัวนี้แหละที่ผมจะไปใช้ทำหนังก็จริงๆแปลว่าอันเนี้ยมัน Disruptive มากๆต่องานมนุษย์แต่ผมว่ามันแบบมันทำให้เราเบลอไปเลยแหละว่าเราเห็นฟีเจอร์จนผมว่าวันนี้ถ้าใครที่ยังเดาว่ามันมีฟีเจอร์ไม่มีฟีเจอร์มันมีฟีเจอร์เต็มไปหมดแต่มันก็ยังดูประกอบเป็นคนคนหนึ่งไม่ได้นะครับเพราะผมว่าพอ อันนี้ผมอาจจะสร้าง Image ได้ ผมอาจจะสร้าง Video ได้ผมอาจจะให้มันเล่าเรื่องให้ผมฟังผ่าน Text ได้แต่อย่างนี้มันจะทดแทนคน หนึ่งได้ยังไงเพราะคน หนึ่งไม่ได้ทำแค่ Task พรุ่งนี้คน หนึ่งมีโรลที่ 1 อาทิตย์ทำหลายอย่างอันนี้มันมีวิธีในการที่มันแก้ปัญหาตรงนี้ได้ไหมครับผมว่าคำถามของ Alvin กำลังจะบอกว่าคุณก็ยังคิดว่า AI มันน่าจะมาแทนคนไม่ได้อยู่ดีเพราะว่ามันคือ AI ตัวเดียว มันคือเรื่องเดียว มันเก่งในเฉพาะด้านมันไม่ได้เป็น AGI มันไม่ได้เป็น Generalถ้าผมบอกว่าผมสามารถทำให้อัลวินเห็น AI 2 ตัวคุยกันอย่างนี้อันนั้นก็แปลกนะมันจะทำให้เรารู้สึกแบบผมขนลุกเลยว่ะสมมุติเราทำให้เห็นว่า AI 2 ตัวคุยกันซึ่งเหมือนกับการคุยกันของคนทำงาน ก็คือ AI หนึ่งคนเนี่ย เราเป็นคนบรีฟงานก่อนเราบรีฟงาน AI ตัวที่หนึ่งไปแล้ว AI ตัวที่หนึ่งเนี่ย ก็ไปส่งต่องานให้กับ AI ตัวที่สองออกมาเป็นชิ้นงานให้กับคนที่เป็นเจ้านายมันก็เหมือนกับเวลาคุณกำลังบรีฟกับทางทีมของที่ออฟฟิศคุณอย่างเงี้ยอ่า อันนี้คือหมายความคิดว่ามันคุยกันได้เออ มันคุยกันเองเลยเดี๋ยวให้ดูคอนเซปต์ก่อนนะอันนี้เรียกว่าอะไรครับอันนี้เรียกว่า Crew AITeam Rowingถ้าเป็นต่างประเทศคือ Crewงั้น Crew Rowingกีฬาอันนี้มันเป็นกีฬาที่ต้อง Synchronize กันมากกว่า 1 คนถูกปะถ้าเป็น 1 คน ถ่ายมันคือแบบไปนั่งอยู่บนเรือคานูแต่อันนี้คือ Crew ก็คือว่ามันจะมีแบบเป็น Teamเขาตั้งชื่อว่า Crew AI เพราะเขาต้องการจะให้เห็นว่าในอนาคต คำว่าอนาคตของ AI นี่มันอาจจะหมายถึงอาทิตย์หน้าก็ได้นะใช่ปะเพราะแบบเขาบอกว่าในอนาคตจะมี AI ที่สามารถ generate text มาเป็น video ได้แล้วเราก็เห็นแล้วแล้วเราก็เห็นแล้ว แล้วอนาคตของเขาก็คือเขาประกาศไปเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้วใช่แล้วมาวันนี้มันก็ generate ได้แล้วงั้นคำว่าอนาคตผมว่าต้องใช้แบบระวังใช่ ก็คืออาจจะเดือนหน้า 2 เดือนหน้าเราก็จะเห็นอะไรที่ปรรถนาได้แต่โอเค Crew คือหมายความว่ามันทำงานเป็นทีมถูกต้องมันทำงาน synchronously คือทำงานด้วยกัน ถูกต้องครับ ทำงานด้วยกัน ทำงานด้วยการส่งต่อ ซึ่งกันและกันงั้นผมถามแบบนี้ดีกว่า เพื่อจะให้คนเข้าใจนะสมมติว่าเอลวินมีทีมอย่างนี้ เอลวินต้องการจะให้ทีมเอลวินทำงานเอลวินทำยังไงบ้าง ต้องเขียน Brief ใช่ปะผมก็ต้องบอกคนหนึ่งก่อนว่า เออ ผมอยากให้เขาทำงานอะไรสมมติผมมีทีม 10 คน สมมติเราต้องพูดถึง Process ของการตัดต่อหรือ Process ของการทำงานอย่าง Consulting อะไรอย่างนี้เราก็จะมีทีมหลายคน คนหนึ่งอาจจะ Specialize ในด้านหนึ่งแล้วก็ ไปเวิร์คกับคนนี้ เล่าให้เขาฟังว่าลูกค้าต้องการสิ่งนี้โอเคเมื่อกี้คุณบอกแล้วนะว่า แต่ละคนมีหน้าที่บทบาทของตัวเองมี Specialization มีประสบการณ์ถูกมั้ย มีอะไรอีกก็ถ้าสมมติเราจะทำงาน Consulting คนหนึ่งก็จะทำด้าน Researchคนหนึ่งก็ไปหาข้อมูลไปหาข้อมูลมา อีกคนหนึ่งทำด้านประมวลผลคนหนึ่งก็จะเก่งด้าน Excel อาจจะประมวลผลเก่งก็คือคนที่ทำ Research เสร็จก็จะมาเวียบคนที่ทำ Excel เป็นโอเคก็จะเอาข้อมูลที่ Research มาประมวลผล แล้วก็อาจจะทำเป็น presentation หรืออะไรอย่างนี้ก็ว่าไปเพราะว่าเมื่อกี้ที่ Alvin พูดมาเนี่ยมันจะมีเหมือน 3 คนเลยแต่ผมยกตัวอย่างแบบง่ายๆก่อนแล้วกันผมเอาตัวอย่างของ อ่าเดี๋ยวให้เห็นภาพรวมก่อนคือเราเรียก AI แต่ละคนเนี่ยว่า AgentAgentAI Agent ก็คือ 1 คนมีหน้าที่มีบทบาทนะครับเขาจะรู้ว่า Background เขาเป็นใครประสบการณ์เขาคืออะไรบ้างและที่เราจะมีให้กับเขาก็คือเป็นเครื่องมือโอเค เพราะว่าคำถามว่า AI สามารถจะไป search web ได้ไหมก็ถูกตอบไปแล้วนะ เพราะว่าถ้าเรามีเครื่องมือที่สามารถให้เขาไป search web ได้เขาก็จะสามารถไปล้วงข้อมูลจากใน webแล้วบทบาทนี่มันน่าตาเป็นยังไงครับโอเคครับ งั้นเราเข้าใจกับตรงนี้ก่อนผมยกตัวอย่างง่ายๆ เพื่อจะให้คนเห็นว่าเราสามารถสร้าง AI 2 ตัวมาทำงานด้วยกันได้เอาตัวอย่างง่ายๆ เลย สมมุติผมจะขายทัวร์มาเที่ยวเมืองไทยขายให้คนอเมริกา มันจะต้องมีบริษัทผม สมมุติผมตั้งอยู่ที่อเมริกา มันจะต้องมีลูกน้องสองคนคนนึงเนี่ยเป็นคนหาข้อมูล ถูกปะ นี่คือคนหาข้อมูลงั้น role ของเขาก็คือ เขาจะต้องเป็นคนไปหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกสถานท่องเที่ยวที่กําลังดังที่ in trendในประเทศไทย ในประเทศไทย แล้วหน้าที่ของเขาคือว่าเขาไป search หาข้อมูลเสร็จปุ๊บเนี่ย เขาก็ต้องเขียนเป็น summary มาแล้วก็โยนต่อ โยนงานเนี้ยต่อไปให้กับอีกคนนึงที่มีหน้าที่ในการจัด package tour เอาตัวอย่างแบบนี้ให้อันนี้เห็นภาพ อันนี้น่าจะเป็นงานพนักงาน 2 คนอันนี้เป็นไปได้มากๆ ว่าในองค์กรทัวร์หลายคนอาจจะมีพนักงาน มากกว่านี้ แต่อันนี้คืองานของสองคนผมพยายามยกตัวอย่างธุรกิจที่แบบมันซิมโบ้มากๆคือการขายทัวร์เพราะว่าทุกคนทำได้ซึ่งน่าจะเป็นธุรกิจใหญ่ๆในประเทศไทยด้วยซ้ำอ่าจริงครับจริงๆแล้วทีเนี้ยคนแรกเนี้ยก็มีหน้าที่บทบัตรของเขาคนที่สองเนี้ยก็มีหน้าที่บทบัตรของเขาซึ่งผมจะบอกว่าคนที่สองอยู่รองานจากคนแรกนะครับให้คนแรกทํางานให้จบก่อนแล้วก็ส่งต่อมาที่คนที่สองงั้นคนที่สองเนี้ยเขาไม่จําไม่ต้องไปเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ตเลย เขาก็สามารถรอข้อมูลจากคนแรกเนี่ยแล้วไปทำงานต่อได้หน้าที่ของคนที่สองก็คือไปออกแบบเรียบเรียงโปรแกรมทัวร์นะครับรวมถึงราคาทุกอย่างให้ชัดเจนอ่าโอเคใช่ๆเรามาดูกันนะครับจริงๆจะบอกว่าทุกวันนี้มันเริ่มอันนี้เรียกว่าเอเจนถ้าสมมุติว่าเราต้องแปลงเป็นคอนเซปต์ของครู AIก็คือหนึ่งคน คนแรกคือเอเจนแล้วก็คนที่สองก็เป็นเอเจนอีกคนนึงเอ๊คุณอย่าเพิ่งตกใจนะไอไอโค้ดพวกนี้จริงๆผมไปกรอบเข้ามามันมีอะไร ผมจะพยายามได้เห็นเราลองเข้าใจพยายาม ถ้าสมมุติใครเห็นโค้ดแล้วตกใจลองใจเย็นๆดูก่อน เราลองอ่านหายใจเข้าลึกๆด้วยก่อนหายใจเข้าลึกๆโอเคเราจะเห็นแล้วว่าเราเริ่มโดยการอธิบายบรรยาทก่อนว่าโรลของคุณคือ Destination Researcherคุณเห็นบรรทัดนี้ป่ะคุณเป็น Destination Researcherหน้าที่ของคุณคือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Popular Destination ก็คือสถานที่ที่มันอินเทรนด์ น่าเที่ยวในเมืองไทยในปี 2024 คือในปีนี้เพราะว่าถ้าเราไปหาข้อมูลโดยที่ไม่ได้จอบจงเนี่ยมันก็จะไปเอาความรู้ของมันเองของปี 2022 มา นี่คือ GPTโอเคถูกปะ เราก็จะระบุไปแล้วว่า เฮ้ย เราต้องการให้คุณไปหาข้อมูลของปี 2024 นะมีเรื่องอะไรบ้าง มีเรื่อง Flight Bin นะครับ ก็เขียนอยู่ตรงนี้ว่า Popular SightingsWhere to eat, where to stay เอาให้ครบเลยก็คือเป็น 1 package เลยถูกต้อง แต่แค่เป็นข้อมูลก่อนนะเพราะว่าคนที่ไปหาข้อมูลเนี่ย เขาเป็นแค่ researcherเขาไม่ได้มีความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับการไปเรียบเรียงออกมาเป็น package tourได้ครับ มากไปกว่านี้ผมสามารถใส่ backstory ก็คือ backgroundbackground ของเขาคือเขาเป็นคนที่ทำงานในบริษัททัวร์อยู่อเมริกา อาจจะได้รู้ว่า ทดสอบของคุณเนี่ยมันจะต้องตรงกับคนอเมริกันอันนี้คือพื้นเพลย์เขาใช่ อันนี้คือพื้นเพลย์ เขาและสิ่งที่สำคัญมากๆคือผมบอกว่าเฮ้ย นอกจากนี้ผมมีเครื่องมือให้คุณด้วยคือSearch Toolคือแปลว่าคุณสามารถเข้าไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตได้ใช่ งั้นจบนะที่บอกว่าเนี่ยเรากำลังแสดงให้เห็นแล้วว่ามันสามารถเชื่อมต่อกับหลายๆสิ่งหลายๆอย่างโอเค ก็คือเราแค่ต้อง Define Tool ให้มันถูกต้องDuckDuckGo ถ้าใครไม่รู้จักนะครับขออนุญาต เปิดให้ดูนิดนึงแล้วกัน ดักดักโกเนี่ยมันจะเป็น search engineที่ถือว่าสมมุติ Google เนี่ยเป็นฝั่งที่เก็บข้อมูล harvest ข้อมูลเอามาทํา AI machine learning ดักดักโกนี่คือจะเป็นแบบextra private เลยคือเขาจะไม่เก็บข้อมูลของคนที่มา search ของเขาเขาจะไม่รู้จักเราเลยเพราะว่าอันเนี้ยก็คือจะเป็น privateprivate browsing private private browsing ไม่เก็บข้อมูลของคนที่เข้ามา search เลยโอเคนะครับ ก็คือเป็นเหมือน search engine ตัวหนึ่งที่ไม่เก็บข้อมูลเราหน้าที่ก็คือแค่เป็น search engine ก็คือเราใช้ตัวนั้นเป็น search tool เราถูกครับ problem freeผมก็จะบอกเขาว่าคนที่เป็น researcher เนี่ยคือหน้าที่ของผู้บริหารคือเราต้อง put the right man to the right workนั่นแปลว่าเราก็ต้องพยายามสร้างตัว agent ตัวเนี่ยขึ้นมาแล้วก็ assign หรือว่ามอกหมายเครื่องมือที่มันถูกต้องให้กับเขาด้วยในกรณีนี้มันคือ search toolจบแล้ว ตัวต่อไป ตัวต่อไปเนี่ยผมตั้งชื่อบทบาทหน้าที่เขาว่าเป็นTour Package Creator คือหน้าที่ของเขาเนี่ยเป็นหน้าที่แค่เรียบเรียงข้อมูลมาเป็น Package Tourเขาจะจัดเรียงลำดับ Sequence ได้ค่อนข้างดีรู้เลยว่าวันหนึ่งไปกี่ที่ แล้วก็สุดท้ายคือประมวลออกมาเป็นราคาได้ทีนี้ผมมี Agent 2 ตัวแล้วถูกไหมผมก็จะสร้าง Task นะครับ แล้วผมก็จะ Assign Task ให้กับแต่ละ Agentอันนี้คือหน้าที่ที่มันต้องทำอันนี้คือหน้าที่ เมื่อกี้คือ Background หน้าที่บทบาทแต่อันนี้คือ Task จริงๆ ที่คุณต้องไปทำ ผมก็จะบอกเลยว่าคุณต้องไป conduct research เกี่ยวกับ destination ในประเทศไทยในปี 2024ข้อมูลที่ต้องไปจัดเก็บมาเนี่ยจะเป็นข้อมูลเรื่องของพวก flight บิน สถานที่ท่องเที่ยว วิธีการเดินทาง ที่พักต่างๆ แล้วก็ราคาคุณต้องเขียนมาเป็น write up โดยที่ว่าคุณต้องมีข้อมูลเพียงพอที่จะส่งต่อให้กับคนอื่นเนี่ยไปจัดการ เอามาทำเป็น package ได้นี่คืองานที่ 1 แล้วผมก็ assign งานนี้ให้กับ กับ agent ที่ชื่อว่า researcherก็คือพนักงานคนแรกก็คือ agent คนแรกของเราที่เป็น researcherถูกต้องงานที่สองก็คืองานที่สอง task นี้ก็คือจะเป็นการเริ่มต้นจากการว่าคุณมีข้อมูลมาแล้วเบื้องต้นนะครับคุณก็จะเอาข้อมูลตรงนี้ไป createเป็น package tour จากอเมริกามาที่เมืองไทย อ่า คุณปรับได้เลยใช่ ผมปรับได้เลย เมื่อกี้ผมเพิ่งปรับมันไม่ได้ดูยาก ก็คือปรับ ปรับก็คือจากคำว่าบูนหารเป็นไทยแลนด์ถูกต้อง แล้วถ้าสมมุติคุณบอกว่าภาษาอังกฤษคืออุปสรรคของคุณเนี่ยอ่า หลายคนจะถามว่า เอ้ย แต่เขียนภาษาอังกฤษไม่เก่งเนี่ยคุณก็ไปใช้ชาติ GPT ให้มันเจนเรทงานตรงนี้ออกมาให้ แล้วคุณก็จับมาแปะอ๋อ ในครูไอ โอเค ได้ครับ คือเหตุผลที่เรามาคุยกันเรื่องครูไออ่ะผมไม่ต้องการให้คนกลัวนะ แต่ผมต้องการให้เห็นว่าต่อไปเนี่ยทุกคนก็จะสามารถเข้าถึงเครื่องมือแบบนี้ได้ ทุกคนจะใช้แบบนี้อาจจะหน้าตามันดูเฟรนลี่กว่านี้ มันจะเป็นแบบ สร้างขึ้นมาเป็นตัวการ์ตูน ตั้งชื่อให้มัน ใส่หน้าที่บทบาทให้กับมันแล้วก็อาไซน์ทาสเตอร์ให้มันแล้วเราลองมาดูกันว่ามันจริงค่ะ ไหนก็คือมันมีอยู่สองคน คนนึง Research ข้อมูลอีกคนนึงเป็นคนสรุปแล้วก็สร้าง Tool Package ขึ้นมาโดยให้ Task แล้วก็ให้ Row ให้พื้นเพลย์เขาไปว่าเขาเป็นคนแบบไหนเขาต้องทำอะไร ถ้างั้นมันทำอะไรได้จริงๆ แล้วผม Save นะแล้วผมจะ Runผมเปิดเอาไว้ด้วยว่าเราต้องการจะมองผ่าเข้าไปในสมองเขาเหมือนว่าสมองเขามันกำลังคิดอะไรอยู่เพราะว่าอะไร เพราะว่า เราอยากจะรู้ใช่ไหมว่าทำไมคนถึงทำ Activity 123เราอยากรู้ว่าเขาคิดอะไรถึงเขาทำ เดี๋ยวเรามาดูกันนะครับอย่างแรกเลยตอนนี้ อย่าเพิ่งไปตกใจนะอ่า เห็นป่ะ ตัวสีเขียวมันบอกว่า Thoughtก็คือมันกำลังคิด มันกำลังประมวลผลอยู่ว่าหน้าที่ที่มันได้ถูกมอบหมายมาเนี่ย มันต้องทำอะไรบ้างมันบอกว่า I need to use DuckDuckGoSearch tool to find information about popular destination in Thailand in 2024แปลว่ามันรู้ตัว มัน Conscious ว่ามันต้องไปทำ มันต้องไปใช้ทัวร์อะไรถูกต้องมันบอกตัวเองใช่มันสั่งตัวเองมันกำลังเรียบเรียงงานที่เรามอบหมายให้กับมันในเข้ามาให้กับตัวมันเองในภาษาที่มันเข้าใจโอเคครับก็คือมันจะจัด sequence structure ของมันเองว่ามันต้องไปหาข้อมูล flightหาข้อมูล sightseeing นะครับแล้วมันจะฉลาดไปถึงขนาดว่ามันจะรู้เลยว่ามันต้องเข้าไป search กี่ครั้งเพราะว่าครั้งนึงคุณอาจจะ search หา topic ได้แค่อย่างเดียวเรื่องเดียวอย่างเช่น search ครั้งที่ 1 ได้แค่เรื่อง flightsearch ครั้งที่ 2 ได้เรื่อง popular destination มันจะไปจัดการตัวนั้นเอง นั่นคือความฉลาดอันนี้คือวิธีการประมวลผลความคิดของมันใช่ อันแรกมันต้องไป searchPopular destinationตัวสีฟ้าเนี่ย จะเป็นข้อมูลที่มันไป search มาจาก DuckDuckGoอันนี้คือ raw fileใช่ นี่คือ raw information ทั้งหมดที่มันไปกวาดมาแล้วมันก็จะเขียนมาคร่าวๆ แล้วตัวเองก็จะรู้แล้วว่า the most popular destination เนี่ยก็คือเชียงใหม่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี เชียงราย พัทยา สุโขทัย อยุธยา และอื่นๆแต่ก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ ที่ชื่อดังจริงๆนะในปีนี้โอเคในปีนี้จริงๆแล้วก็มีเขาใหญ่ National Parkก็หลายคนอาจจะยังไม่รู้ถ้าสมมุติว่าผมมาจากอเมริกาผมอาจจะไม่รู้จากเขาใหญ่ก็ได้เป็นไปได้มันก็ไม่ใช่พื้นที่ที่คนได้ยินกันบ่อยถูกต้องทีนี้มันก็รู้แล้วว่ามันก็ต้องไปทำ Action ของมันต่อโอเคอะไรก็ว่ากันไปอย่างอันเนี้ยเห็นปะ มันทำเองเลยเพราะว่ามันฉลาดพอที่ว่าเราสั่งงานมันทีนึงมันจะไปแตกเป็นงานย่อยของมันเอง มันฉลาดระดับนั้นแล้วมันก็ไปบอกว่าเมื่อกี้ตัวอย่างเนี้ยตอนแรกมันเริ่มมา destination ที่ไหนหลังจากนั้นมันก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าแล้วถ้าไปที่เชียงใหม่ต้องไปทำอะไรใช่ ถูกต้อง นี่ไงเราก็จะเห็นแล้วว่าที่เชียงใหม่เนี้ยมันก็จะไปหาข้อมูลที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกการไปเที่ยวไป Sunday night marketที่ขนาดแบบ Cabaret อย่างเงี้ยมันรู้ว่าตอนเนี้ยคือ Cabaret กำลังเป็นสิ่งที่คนอเมริกาสนใจอันนี้มันเริ่มแพลนละ มันดูเหมือนมันจะเริ่มแทนละว่าให้ไปบินที่ไหนคุ้มสุด-กี่วันอะไรยังไง ถูกต้องเพราะว่าเราบอกมาแล้วนี่ว่านอกจากสถานที่ท่องเที่ยวคุณต้องไปหาข้อมูลเรื่องไฟล์มาให้เราด้วยและเรื่องราคาด้วยเนี่ยมันก็ไปประมวลผล-แปลว่าอันนี้คือยังอยู่ในระหว่างประมวลผลใช้มันประมวลผลหลายๆครั้งเพราะว่าไปเชียงใหม่ด้วยแล้วก็ไปแบงคกด้วยอย่างเนี่ยแปลว่ามันค่อนข้างจะมันรู้เลยแหละว่าถ้าสมมติเราจะไปเนี่ยเราจะไปไหนได้บ้างมีภูเก็ตด้วย มันก็ค่อยๆไปของมันเลยตอนนี้มันไปทีละ destination เลยกรุงเทพต้องทำอะไร ภูเก็ตต้องทำอะไร เชียงใหม่ต้องทำอะไรขอให้คุณเริ่มต้นกับมันให้ถูกต้องคุณบอกมันไปเลยว่าคุณต้องการข้อมูลอะไรคุณต้องการให้มันทำอะไร เดี๋ยวมันจะไปแตกเป็นงานทาสย่อยของมันเองซึ่งงานนี้ระหว่างที่มัน process ผมมีคำถามว่ามันยังดู technical อยู่ระดับหนึ่งในการที่จะต้องโปรแกรมมันมันอาจจะยังใช้ภาษาคนผสมกับโค้ดได้แต่ในอนาคตถ้ามันเป็นภาษาคนเข้าใจง่ายๆเลย อันนี้มันดูจะแทนงานของ 1-2 คนได้เลยนะครับใช่ไหมที่ผมบอกว่าผมยังไม่กล้าฟันทงหรือว่าเคาะว่ามันจะมาแทนได้ไหมเพราะว่าใจจริงอะ ไม่งั้นทำไมพวกไมโครซอส ทำไม Google ถึง Lay Off คนถูกปะ ผมเองไม่ได้มีผมไม่ได้มี Facts พวกนี้เยอะขนาดนั้นนะแต่ผมก็เห็นว่าการ Lay Off ใน Tech Industryมันเป็นสิ่งที่เค้าทำกันเพื่อจะลดต้นทุนถูกปะแล้วหลายคนก็กำลังอ้างว่าเนี่ยเพราะว่า AI มันมาแทน งั้นแปลว่าเรากำลังสร้างเครื่องมือตัวนึงที่สุดท้ายมาทดแทนเราหรือเปล่ามันก็เป็นคำถามที่น่าถามเพราะว่า Microsoft บริษัทเทคในอเมริกาอะไรอย่างนี้เขาก็ รู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้วเขาก็น่าจะใช้สิ่งพวกนี้ในการทำงานเขาเป็นเรื่องปกติเพราะเท่าที่ผมเห็นตอนนี้มันเริ่มต้นกับการใช้บนโค้ดเบสแต่ในอนาคตมันอาจจะใช้ง่ายขึ้นทำให้มัน Accessible มากขึ้นกับคนปกติอย่างเช่น ChatGPT วันนี้ใครๆก็เข้าไปใช้มันได้มิดเจอร์นี่ใครๆก็เข้าไปใช้มันได้โดยที่ไม่ต้องเก่งโค้ดเลยก็ได้คือผมว่า ถ้าเขาเจอ Model ที่มันใช่แล้วมันประมวลผลได้ดีคือการทำออกมามันเหมือ��กับเรามีเค้กแล้วที่เหลือมันเป็นแค่ Icingคือทำให้มันใช้งานง่าย มันเป็นสิ่ง มันเป็น Step ที่ง่ายขอให้คุณมี Model ที่ดีก่อนคุณจะให้มันออกมาเป็นลักษณะ Chatหรือว่าคุณจะออกมาเป็นลักษณะของการเขียน Promptหน้าตาเว็บสวยๆ มันไม่ได้เป็นเรื่องยากก็คือ Part แรกของการคุยของเราเราไปดูกันเรื่อง Tool สักส่วนใหญ่มีเรื่อง Image GenerationChat Completionการคิด การประมวล การทำวีดีโอการทำนู่นนี่นั่น แต่ตัวทูลเนี่ยที่วันนี้คุณชิเวกก็ลองโชว์ให้ผมดูอยู่เนี่ยมันคือการประกอบภาพเลย มันคือเอาทูลทั้งหมดนั้นมาใช้จริงๆจากทั้งการเสิร์ช การสร้างรูป การเข้าไปเว็บนู้นเว็บนี้มาประกอบเป็นหนึ่งงานหนึ่งชิ้นจริงๆ ที่เราสร้างเอเจนเพื่อคิดได้แล้วก็คุยกันเอง แล้วก็อัลดีลิเวอร์อัลคัมออกมาได้เลย อ่า งั้นตอนนี้มันไปเสิร์ชอยู่ว่ามันก็ไปเสิร์ชหาข้อมูลของมันไปเรื่อยๆเดี๋ยวเราก็รอให้มันทำงานเสร็จ ใช้เวลาไม่น่าจะนานมากมันใช้เวลาปกติกี่นาทีครับผมว่าส่วนใหญ่ถ้ามันไม่ได้เจอปัญหาอะไรนะมันก็คงใช้เวลาประมาณไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำไปในการที่จะออกมาหาข้อมูลแล้วก็ได้ออกมาเป็นแพ็คเกจเลยเราก็ปล่อยให้มันทำงานไปเดี๋ยวเวลามันทำงานเสร็จ เดี๋ยวคนแรกทำงานเสร็จปุ๊บมันก็จะส่งต่อไปให้กับคนที่สอบอ่า เรียบร้อยแล้วครับโอเค ผ่านไปวิธีนานนาทีนะมาแล้วนี่ ได้มาเป็นโปรแกรมแล้วอ่า โอเค คนที่หนึ่งเนี่ยก็ไปประมวลข้อมูล ไปหาข้อมูลมาให้เรียกร้อยคือคอนเทคส์อันนี้คือตอนนี้เราเปลี่ยนจะอันนี้คืออะไรนะครับตอนนี้คือ output เนี่ย นี่คือ package tour แล้วโอเค อันนี้คือทริป 5 วัน 4 คืนใช่จากอเมริกามาประเทศไทยใช่อ่าแรกเริ่มเลยเนี่ยก็คือเราจะบิน American Airlines ประมาณ 900 เหรียญนะครับอันนี้คือ flight จริงป่ะครับflight จริงครับflight จริงครับมันคงไปเจอแบบราคาที่ไปอยู่ประมาณเนี่ย 900 เหรียญ ราคาสมเหตุสมผลการเรียนก็ประมาณ 30,000 กว่าบาทเออ ก็ราคาสมเหตุสมผลดีโอเค 30,000 บาทบินมาลงที่สวนภูมิแล้วมันบอกด้วยว่าให้ไปอยู่ Bangkok Hotel Lotus 33โอเคแล้วไปกินข้าวที่ไหนWelcome Dinnerมี Entrance Free เพราะว่ารู้ว่าคุณเป็นคนต่างชาติคุณก็ต้องจ่ายตัว Entrance Free ของวัดพระแก้วพระแก้เอาไปวัดโพล เสียตังค์เท่าไหร่กินร้านอาหารอะไรถูกต้อง แล้วหลังจากนั้นคือวันที่ 3 คุณก็บินไปภูเก็ตอะไรประมาณนี้ก็จะมีบินไปภูเก็ต บินไปเกาะสมุย บินไปทั่วคือมันรู้นะเนี่ย จริงๆแล้วเพราะว่าไปภูเก็ตเสร็จก็ลงภาคใต้ไปภาคใต้ก็ต้องไปสมุยด้วยแล้วเราบอกว่ามันเป็นปี 2024 ถูกปะมันก็แนะนำโรงแรมที่มันดีๆขึ้นชื่อในปี 2024ผมเคยไปท่าสมุยเนี่ย โรงแรมนี้ก็ดีก็จริง อันนี้สิเป็นว่าเราสามารถให้ Budget มันได้ด้วยสมมุติเราบอกว่าเราอยากมาเป็น Backpack Tripเราก็จะลองมาโรงแรมอีกแบบนึงเลยเราก็สามารถจะไป Segment กลุ่มลูกค้าให้มันได้บอกเลยว่าทำ Package ขึ้นมาแล้วต่อไปบอกว่าทำมาซัก 3 Segmentอันหนึ่งสำหรับ Backpacker อันหนึ่งสำหรับ Budget Economyอันหนึ่งสำหรับ Premium อะไรก็ว่ากันไปอืม โอเคแต่ยังว่าโจทย์ที่เราให้มันค่อนข้างหินนะคือเราพยายาม Fit แบบเหมือนกับการเที่ยวประเทศไทยทั้งประเทศที่เป็น Popular Destination จริงๆบอกว่าให้ทำให้จบภายใน 5 วัน 4 คืน มันก็ไปประมวลผลมาแล้วล่ะ มันตัดอะไรออกไปบ้างมันตัดเขาใหญ่ออกไปแล้ว มันตัดเชียงใหม่ออกไปมันบอกว่าสุดสุด สุดท้ายเนี่ยมันเหลือแค่กรุงเทพฯ อ่าภูเก็ต กรสมุย อ่า แล้วมันมันมันรู้ทั้งหมดแล้วเนี่ยมันบอกว่าอาหารเช้ายังรวมในค่าในโรงแรมในค่าค่าฟรีทั้งหมดเลยแต่ว่าคุณก็ประหยัดเงินตรงนี้ไปได้ ถูกต้อง มัน Optimize ได้เยอะมาก แปลว่าถ้าสมมุติให้มัน Search ร้านอาหารที่ดีที่สุดหรือว่าอยากกินแบบนี้ อยากทำแบบนั้น อะไรอย่างเงี้ยผมว่าร้านอาหารที่มันแนะนำมาก็ค่อนข้างจะเป็นร้านอาหารชื่อดังเหมือนกันนะKill Ram ก็ไม่ได้แพงมาก อะไรอย่างเงี้ยมันก็สลับๆ ไปมันก็มี Mystery ด้วย แต่เราก็ยังไม่ได้ Specify ว่าเราอยากได้อะไรเราไม่ได้ไประบุให้มันไง มันอาจจะไปเฉลี่ยมา ถูกปะมันเป็นการไป Average มาว่าข้อมูลตอนนี้ที่มันไปดึงมามันก็จะเป็นตัวที่เอามาใช้ในการ Feed Data เข้าไป อันนี้ค่อนข้างดีมากนะ อันนี้ผมวาวมากๆ ในมุมที่อันนี้เราเห็นใน use case ของการใช้เป็นทัวร์แต่มันทำอะไรได้บ้างอะครับผมว่ามันทำได้เยอะกว่านี้เนี่ยครับก็คือจริงๆ เนี่ยจะบอกว่า มันขึ้นอยู่กับเครื่องมือตอนนี้ผมว่าเรื่องของการเขียนบรรยายพวก task เนี่ยไม่ใช่อุปสรรคละเพราะว่าถ้าคุณเขียนไม่เก่ง คุณก็ใช้ Chart dbt เขียนให้คุณดีก็คือเขียน prompt ให้ดี มันก็กลายเป็น skill ของ prompt engineeringเขียน prompt ยังไงให้มันรวบรัด เขียน prompt ยังไงให้มันเข้าใจ contextเพื่อไป execute ถูกๆ คุณรู้ใช่ป่าล่ะว่าสมมติ ผมเขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ เป็น Capital Letterเป็นการเน้นย้ำกับมัน ผลมันจะออกมาต่างจากการที่ผมไม่ได้ใช้ Capital Letterเวลาเราพร้อม ถูกปะ หรือเราบอกว่า This is very important to meว่างานเนี้ยสําคัญมากสําหรับชีวิตฉันอย่างเงี้ย อืมผลงานที่ออกมาก็จะต่างจากการที่เราไม่ได้เขียนพร้อมคํานี้มันเข้าใจมันมันมีวิธีการในการเล่าเรื่องให้มันฟัง อ่าเข้าใจ บางทีผมก็ติดขอบคุณมันทุกครั้งเวลามันแบบ เวลามันทํางานให้ผมเสร็จ ผมบอกโอเคขอบคุณมากครับโอเค ก็คือมันมันแพลนทริปให้เราได้หมดเลย ใช่มันทํานี้ได้ แล้ว ในอนาคตมันกําลังจะเป็นอะไรนะ เอาแบบที่เห็นตอนนี้ที่คนไปทํากันนะ โอเค ก็คือจะมีตั้งแต่ เรื่องของการแพลนทริปแบบที่เราทำให้ดูนะ มีเรื่องของการวิเคราะห์หุ้นวิเคราะห์หุ้นใช่ มีเรื่องการวิเคราะห์หุ้น เพราะว่าคุณอย่าลืมว่าตอนนี้พวกคนที่เขาทำงานในตลาดหลักทรัพย์หรือว่าทำงานในวงการไฟแนนซ์เนี่ย การเขียน Connect ไปดึงพวก Data Point ของพวกราคาพวกที่เป็นราคาหุ้นกันเครื่องไหวของพวกมันเป็นเรื่องปกติแล้วให้ดูก่อนแต่ตอนนี้คนต้องมาเป็นคนทำเองก็คือในโรลด์จริงๆก็น่าจะมี Analyst Senior Advisor แล้วก็มี Researcherมีหลายคนมาก คนเรียนถึงปริญญาโทเพื่อทำสิ่งนี้นะครับใช่ สุดท้ายเนี่ย ถ้าคุณแค่ไปเชื่อมต่อกระบวนการให้มันถูกต้องตามที่คุณทำในธุรกิจของคุณจริงๆเนี่ยแล้วก็โยนไปให้ครู AI ทำ ผมว่ามันก็ทำได้ผมก็จะเห็นตัวอย่างหลายๆ ตัวอย่างที่เขาไป Connect กับเครื่องมือแล้วอย่างเช่น ไป Connect กับ Yahoo Finance ไป Connect กับ Google FinanceYahoo Finance เพื่อจะดึงราคาหุ้น Google Finance เพื่อจะดึงข่าว แล้วคุณก็จะได้ทั้ง qualitative และ quantitative มาประมวลผลแล้วก็ออกมาเป็น recommendation ว่าหุ้นตัวนี้จะซื้อหรือไม่ซื้อดีโอเค ถ้าใครดูอยู่แล้วอยากเห็นตัวอย่างอันนี้ฝาก comment ข้างล่างแล้วเดี๋ยวเราอาจจะทำ episodeในการที่เรามา showcase ตัวอย่างการวิเคราะหุ้นกับ ChatGPTก็มี Trip มีหุ้น แล้วก็มี Use Case ของ Blockคอนเซ็ปต์เดียวกันเลยก็คือจะเป็น market researchไปกวาดข้อมูล research มาคือผมคิดว่าหนึ่งสิ่งที่เราอย่าลืมนะว่า ที่มันทำให้เราได้คือ speedถ้าคุณต้อง assign ให้กับคนไปทำ market researchสุดท้ายคนก็อาจจะไปใช้อินเทอร์เน็ตส่วนหนึ่งส่วนอื่นก็จะเป็นการไปหาข้อมูลจากการ surveyแต่ speed ที่มันใช้ในการทำตรงนี้ได้มันเร็วมากเลยอันนี้มัน 5 นาทีอันนี้มัน total process มันคือ 5 นาทีแล้วผมก็ยัง fine tune คือ 1 วันผมทำได้เยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะมากproductivity มันสูงมาก พุ่งกระฉูดเลยอย่างนี้แปลว่า ผมขอถามเป็นคำถามที่สุดท้ายคือพอผมมองทั้งหมดนี้แล้วอะทั้ง Tools ก็ถูกพัฒนาใน Speed ที่เร็วมากอย่างที่เมื่อกี้คุณชีเวกพูดว่าคำว่าอนาคตของ AI มันคือเดือนหน้าหรืออีก 3 อาทิตย์มันไม่ใช่อีก 3 ปีเพราะว่าเราเห็น OpenAI ตอนแรกก็บอกว่าเดี๋ยวเราจะทำ Model ที่เป็น Video ออกมาได้จาก Text เป็น Videoคำว่าเดี๋ยวจากนี้ก็คือแป๊บเดียวเราก็เห็นออกมาแล้วที่เหมือนจริง เหมือนโฆษณาทำโฆษณาทำอะไรได้เลยมี Model รูป มี Model ในการทำ Search Internet เป็น Tools หนึ่งอันให้มันใช้ได้มี Text Tools อื่นๆ เต็มไปหมดอย่างเช่น ChatGPT Brainstorm กับมัน คิดไอเดียกับมัน ใช้พร้อมติ้งได้ตอนนี้เราเอาทั้งหมดนี้มาประกอบกันใน Tool ที่เรียกว่า QAIเป็น Framework ในการใช้สิ่งนี้แล้วในอนาคตถ้าสมมติผมเป็นเด็กอายุ 18หรือถ้าสมมติคุณชีเวกมีลูกที่เป็นเด็กอายุ 18 วันนี้กำลังจะเข้าเรียนมหาลัย ผมควรจะเรียนอะไรผมยังคิดไม่ออกเลยเนี่ยผมยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าสมมุติมีลูกขึ้นมาอย่างเนี้ยตั้งแต่คือ Primary School จำเป็นไหมถูกมะคือจะส่งไปเรียนอนุบาลดีไหมหรือว่าควรจะส่งไปทำอย่างอื่นดีเราก็ยังคิดไม่ออกถูกปะเพราะว่าทุกอย่างในวันนี้มัน disruptive มากผมว่าตอนนี้การทำธุรกิจมันเหมือนกับการ Day Trade ไปแล้วอะถูกปะแต่ก่อนเนี่ยถ้าเป็นยุคสมัยแบบคุณพ่อคุณแม่เราอะเขาทำธุรกิจอะไรแล้วถ้ามันคลิกขึ้นมาเนี่ยเขาสบายแล้วเขาก็สามารถ ทำมาค้าขายกับธุรกิจนั้นไปได้เรื่อยๆ เก็บเงินอะไรอย่างนี้เลี้ยงดูตัวเอง เลี้ยงดูลูกหลานไปได้เรื่อยๆ เลยแต่ทุกวันเนี้ย ผมทำอย่างนึงได้ผมอาจจะหากินกับมันได้ไปแค่ 3-4 ปี หรือไม่ถึงด้วยซ้ำไปถูกมั้ย ผมก็ต้องเปลี่ยนแล้ว เพราะว่ามันก็จะมีคู่แข่งมากขึ้นหรือว่าสิ่งที่เราทำเนี่ย มันจะกลายเป็นสิ่งที่ obsolete ไม่จำเป็นอีกต่อไปงั้นวันนี้การทำธุรกิจมันเหมือนกับการ day trade ถ้าเรายังตอบ short termแบบเหมือนกับว่า short term impact ไม่ได้เลยว่า เราจะทำแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนเดี๋ยวอาทิตย์หน้ามันมีเครื่องมือใหม่ออกมาปุ๊บแล้วสิ่งที่คุณทำอยู่มันเปลี่ยนไปถูกปะAlvin คิดย้อนกลับไปถึงเมื่อประมาณช่วงปีช่วงปี 2022 ยังไม่มีชาติ GBTการทำงานของเราในวันนั้นกับวันนี้ต่างกันแค่ 1 ปีมันแทบจะต่างกันไปโดยสิ้นเชิงเลยนะมัน highly disruptiveตรงนี้ผมว่าตอบยากมากผมว่าเราเองยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้งานของเรามันจะ secure ขนาดไหน ตอนนี้ผมพูดชวนคิดนะและอย่างงี้ถ้าผมถามต่อคือสกิลอะไรที่ดูจะเป็นสกิลที่สำคัญผมว่าตอนนี้ถ้าถามผมจริงๆผมว่า Prop Engineering ก็ยังสำคัญอยู่ยัง Significant อยู่ครับแล้วก็เรื่องของการที่เราจะเข้าหาพวกเครื่องไม้เครื่องมือพวกนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะว่าหลายคนกลัวหลายคนไม่เข้าใจหลายคนยังไม่มีบัญชีเพื่อจะเข้าไปใช้งาน ChatGPT เลยเพราะว่าบอกว่ามันไม่จำเป็นมันน่ากลัว หรือบางคนบอกว่า บางคนคือใช้ fear เป็นตัว drive บอกว่ามันจะมาแทนคน งั้นเราจะไปใช้มันทำไมอะไรอย่างเงี้ยผมก็เลยมองว่า หนึ่ง prompt engineering สำคัญ แต่ว่าLifelong learning เนี่ย อันเนี้ยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆแล้วเป็นอะไรที่ไม่สามารถถูก disrupt ได้ เพราะว่าตามไหนก็ตามเนี่ย ที่คุณยังค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ขวายคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ เนี่ยเรียนรู้กับมันเนี่ย พยายามจะเข้าไปมี hands onเอ่อ เข้าไปใช้มันจริงๆ เนี่ย ผมว่าอย่างเงี้ยแหละเราจะสามารถแบบ โตไปกับมันได้ แล้วก็รู้ว่าจริงๆ เนี่ยสิ่งที่มันเป็นสิ่งที่จำเป็น ในการรับมือมันหรือว่าในการใช้มันคืออะไรผมว่าเป็นการทิ้งทายที่ดีมาก เพราะว่าเราก็เห็นว่า AI มันพัฒนาทุกวันแชนเนาล์นี้เราก็พยายามที่จะเอาข้อมูลใหม่ๆ ตลอดเวลาเอามาให้คนดูด้วยเรื่อยๆผมชอบฟังนะ แชนเนาล์นี้ ผมฟังตลอดเลยเป็นแฟนคลับ ขอบคุณมากๆ ครับเราก็ดีใจมากที่ได้มาพูดวันนี้ถ้าใครที่เป็นแฟนคลับเหมือนกัน แล้วชอบเอพิโซดนี้แล้วอยากเห็นแบบนี้มากขึ้น ฝากกดไลค์ กด Subscribe แล้วก็ช่วยแชร์ Content นี้ไปกับคนอื่นเพราะยิ่ง Community เราใหญ่ขึ้นเราก็จะพา Guest มากขึ้นเข้ามาได้เราจะพา Expert มาถกเถียงมาแชร์สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของ AIได้เยอะขึ้นวันนี้ก็ขอขอบคุณมากๆ ครับคุณชีเวกแล้วก็เดี๋ยวเราไว้คุยกันใหม่อีกรอบขอบคุณมากครับ คุณอาวิทย์