รัฐต้องควบคุม Capital Flow คนที่จะถูกดีดรายว่าเป็นอาชีากรก็จะเยอะขึ้น Bitcoin จริงๆเป็นครึ่งเงินหนึ่งเฉยๆ ที่ทำให้คนเหล่านี้สามารถที่จะพยายามอยู่นอกระบบนี้ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรจะศึกษาระบบเงินเทียด สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ MoneyTeller Talk ค่ะ รายการคุยเรื่องการลงทุนกับนักลงทุนตัวตรีนะคะ แล้ววันนี้เนี่ยใครเป็นสายบิทคอยน์ก็จะต้องติดตามเทปนี้กันอีกครั้งหนึ่งค่ะ เพราะว่าหลังจากที่บิทคอยน์เนี่ย ไหนจะไปออร์ทามไฮก่อนครับ วิ่ง แล้วก็ตอนนี้นะคะสามารถที่จะอันวัด ETF ไปเรียบร้อยแล้ว แต่เชื่อไหมคะว่าตอนนี้ Bitcoin เนี่ยเป็นสินทรัพย์ที่กำลังอยู่ระหว่างสงครามค่ะ แล้ววันนี้เราจะมาคุยกันประเด็นว่าสงครามกับ Bitcoin แตกครั้งหน้า ใครเป็นคนทำสงครามกับ Bitcoin นั้น วันนี้เราจะมาคุยกันกับอาจารย์ ตั๊ม พิริยสัมพันธาระ เจ้าของช่อง Rightship ที่ทำรายการ Bitcoin Talk ค่ะ สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะ อาจารย์ที่มาร่วมรายการ MoneyTeller Talk ค่ะ อาจารย์ ตอนนี้ Bitcoin เขาเริ่มถูก กำลังอยู่ในระหว่างสงคราม สงคราม Bitcoin นี่คือระหว่าง Bitcoin กับใครค่ะ ที่จริงมันไม่ใช่สงครามระหว่าง Bitcoin กับใครนะครับ ผมมองว่าโลกตอนนี้อยู่ในสภาวะสงคราม แล้วหลายคนก็จะไปนึกถึงสภาวะแบบสงคราม ไม่ว่าจะเป็นแบบรัสเซีย ยูเพรน มั่งแหละนะ อิสราเอล อิราต อะไรอย่างนี้ แต่ว่าอันนั้นก็เป็นสงครามจริง นะครับ แต่มันมีอีกสงครามหนึ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว คือสงครามระหว่างรัฐบาลและประชาชน ผมขยายความทุกอย่างนี้ก่อนแล้วกัน ก็คือเวลาผมพูดว่าถึงคำว่ารัฐบาลนะฮะ เราจะหมายถึงองค์กรราศโดยเฉพาะยิ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกา หรือรัฐบาลประเทศมหาอำนาจที่มีอำนาจในการควบคุม การมะครับใช้กฎหมายต่างๆ โดยช่วยงิ่งการใช้กฎหมายนอกพื้นที่ขอบเขียนกรบคลุมของตัวเอง มันมีการทำสมครามที่เรียกว่าเป็นการทำสมครามกับประชาชนเมื่อเช้า ตั้งแต่ จะเรียกว่าตั้งแต่ยุคสมัยเริ่มก่อตั้ง Federal Reserve หรือธนาคารกลางสหรัฐก็ได้ ตั้งแต่ก่อนสมครามโลกคล้ำที่ 1 จนหลายคนก็บอกว่าสมครามโลกคล้ำที่ 1 เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความชอบทำให้กับประธาบาลที่จะขยายเขียนอำนาจการปกครองและอันตรายการควบคุมประชาชนให้มากขึ้น มาจนถึงปัจจุบัน แต่ว่าเมื่อกี้ที่พูดถึงว่าสงครามกับ Bitcoin เราก็ได้เห็นมันถวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง ต้องบอกอย่างนี้ก่อน Bitcoin กรีมเงินที่เชื่อมั่นแล้วกันในอิสระเสรีภาค เราสามารถทำธุรกรรมระหว่างกันได้ เราสามารถเก็บออมเงินกันได้ โดยที่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องระหว่างบุคคลสองบุคคล Peer to peer electronic cash the system Bitcoin มีแค่นั้นอีก แต่นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถอนุญาตให้เกิดขึ้นได้ในสภาวะโลกปัจจุบัน ทำไมคะ เราต้องมองอย่างนี้ก่อนว่าในโลกปัจจุบันระบบการเงินที่เราเรียกว่าระบบเงินของรัฐบาล หรือว่าถ้าแสวบิตคอยน์ได้ทั้งหลายเขาจะเรียกว่าระบบเงินเฟียดเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ หลายคนจะเอาไปสับสนกับเรื่องของระบบเครดิต ระบบดอกเบี้ย เงินกู้ แล้วเขาบอกว่ามันมีมาตั้งนานแล้ว จริงๆก็ไม่ใช่ ระบบเงินเฟียดที่เรียกว่าเป็นเงินของรัฐบาล โดยเฉพาะยิ่งร่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ที่เงินสามารถถูกรัฐบาลควบคุมได้ทั้งหมด ถูกสร้างขึ้นมาจากอากาศได้ มันต้องเกิดขึ้นมาหลังจากปี 1971 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างใหม่ และเพิ่งเคยทดลองใช้กับสังคมมนุษย์มาเป็นเวลา 50-60 ปีเท่านั้นเอง ระบบนี้มันเปลี่ยนหน้าที่ของเงิน หน้าที่ของเงินก่อนหน้านั้น ไม่ว่าโลกจะอยู่ภายใต้ระบบมาตรฐานเงินอะไรก็ตาม จะเป็นมาตรฐานทองคำ จะเป็นมาตรฐานเปลือกหอย บัว เกลืออะไรต่อ หน้าที่ของเงินหลัก คือใช้ในการเก็บออง เก็บรักษามูลค่า การเก็บรักษามูลค่า คือการส่งผ่านมูลค่าจากปัจจุบันไปสู่อนาคต ส่งให้ลูกให้หลาน ส่งให้สังคมเจริญเติบโตขึ้นในอนาคต ใช้เป็นตัวการแนวงานแลกเหลี่ยน ทำให้เกิดการค้าขึ้น ใช้เป็นหน่วยวัดมูลค่า เพื่อให้ทุกคนสามารถรู้ได้ว่า จะต้องผลิตสินค้าอะไรเท่าไหร่ จะต้องบริโภคสินค้าไหนมากน้อยแค่ไหน มันคือสิ่งขับเคลื่อนสังคม แต่พอเงินเข้ามาอยู่ในการกบคุมของรัฐบาลโดยสมบูรณ์หลังจากปี 1971 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เงินทำหน้าที่ ที่สิ คือด่านเป็นเครื่องมือในการควบคุม ควบคุมประชาชน ควบคุมประชาชน และสามารถใช้ในการควบคุมด้านการเมือง ด้านการอาหารได้ด้วย อ่า หลังจากที่ระบบการเงินกลายมาเป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุกของรัฐเนี่ย รัฐมหาลังนาธิ์ อย่างเช่น เอ่อ รัฐบาล เอ่อ แม้กระทั่งธนาคารกลาง euro vcb นะครับ หรือว่าธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของกลุ่มมหาลังนาธิ์ดึงคืนนะครับ และเหล่านี้จะสามารถที่จะทำสงครามกับประเทศเดือนๆได้ด้วยระบบการเงิน ไม่ว่าจะเป็นผ่านการความบัตรการค้า ก็จะเป็นการ Inflate เงิน เพื่อทำลายมูลค่าเงินที่อยู่ใน Reserve ของประเทศอื่นๆ การปล้นทรัพย์ของประเทศอื่นๆ โดยที่ประเทศอื่นๆ ไม่รู้ตัว ผ่านการผลิกเงินเพิ่มในประเทศ ผ่านสิ่งที่เรียกว่าเงินเฟอร์ ใช้มันเป็นเครื่องมือในการ เราควบคุมให้รัฐบาลกลื่นอยู่กับร่องกับรอย ทำตามนโยบายที่ฉันคำหนด ระดับใด ถ้าวันใดวันหนึ่งที่คุณไม่ทำตามสิ่งที่เกิดขึ้นคือเราจะป้ำบาดประเทศคุณ คุณจะไม่สามารถใช้ระบบการเงินนี้ที่เราควบคุมได้ และถ้าคุณไม่สามารถใช้ระบบการเงินนี้ที่เราควบคุม เราควบคุมได้ ทรัพย์สินและเงินทุกอย่างในประเทศ คุณจะเสื่อมมูลค่าอย่างรวดเร็ว นี่คือสิ่งที่เราเห็นกับประเทศอย่างเวเนซิวิล่า แต่เราเห็นกับเมืองที่พิมพ์เงินเอง จนโดนคว่ำบาด จนโดน Blacklist แบบไนเจรีย อะไรอย่างนี้ ในที่สุดคนที่เจ็ดที่สุดคือประชาชน หรือแม้กระทั่งในกรดีสงครามรัสเซีย ยูเครนที่ผ่านมา รัสเซียถือสินทรัพย์เป็นพันธบาทอเมริกา พันธบาทรัฐบาลอเมริกาไว้เป็นจำนวนมาก เพราะว่าให้ใครก็ถือสินทรัพย์เป็นพันธบาทรัฐบาลอเมริกา เพราะถ้าคุณเข้าใจระบบการเงินเปลี่ยน คุณจะรู้ว่า จะรู้ว่าเงินที่แท้จริงคือพันธบัตร เงินที่แท้จริงไม่ใช่เงินดอลลาร์ ไม่ใช่เงินกระดาษ ไม่ใช่ยอดเงินฝากในบัญชี แต่ว่าสิ่งที่อยู่ที่จุดยอดสุดของปริมิตรทางการเงิน สิ่งที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการผลิตเงิน ทุกบาท ทุกสตางค์ในระบบเฟียด คือหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ถูกไหม ว้าว ท็อปกว่าเงินก็คือหนี้ เพราะฉะนั้นคนที่เข้าใจเกมนี้ เวลาเขาเก็บเงิน เขาจะไม่เก็บเงิน เขาจะเก็บพันธบัตร ถือบ้อน รัฐบาลต่างๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียถือบอนพันธบาทสหรัฐอเมริกาเอาไว้ เมื่อมีสงครามเกิดขึ้นกับยุเกรน เกิดขึ้นก็จริงๆเป็นสงครามที่เกิดขึ้นกับ NATO แล้วก็เป็นสงครามที่เกิดขึ้นกับสหรัฐนั่นเอง เราต้องบอกว่าสงครามนี้คือ รัสเซียกับสหรัฐ สิ่งที่สาธารณ์ทำก็คือ ยึดสิทธิในพันธบาทรัฐบาลทั้งหมด ที่รัสเซียถืออยู่ ทำให้พันธบาทที่ถืออยู่ทั้งหมดนั้น เรียกว่ามีค่าเป็น 0 นินที เป็นการใช้เงินเป็นอาวุธที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการบอกนโยม ที่เอาพันธบัตรที่ยึดมาทั้งหมดนั้นเนี่ย มอบให้กับ Your Brain นะฮะ ซึ่งเราจะเห็นว่า แม้กระทั่งในระบบแบบนี้เนี่ย ผู้มีอำนาจก็สามารถที่จะเลือกที่รัก ทักที่ชำ สามารถที่จะบอกว่า เฮ้ย เงินของคนนี้ เงินของคุณไม่ใช่ของคุณ เงินของคุณเป็นของตนนั้น เป็นของตนนี้ ใช้อำนาจในการควบคุมระบบด้วยน้ำมมัน แต่ว่าการที่รัฐจะสามารถใช้ระบบนี้ในการควบคุมประเทศต่างๆ ได้มีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่ง คือ รัฐต้องควบคุม Capital Flow ที่ไม่สามารถอนุญาตให้มีได้กับ Free Capital Growth การที่เงินสามารถไหลเวียนได้ โดยอิสระข้ามผ่านพร้อมแดด เพราะว่าถ้ามีเมื่อไหร่ ประเทศไหนก็ตามที่โดนจบตี เขาก็สามารถใช้สกุลเงินหมดประเทศอื่นได้ เขาก็สามารถที่จะย้ายยกย้ายทรัพย์สิ่งของเขา ออกไปนอกประเทศได้อย่างอิสระ มันจะทำให้การจบตีด้วยการใช้เงินเป็นอาวุธเนี่ย ไม่มีประสิทธิภาพ อาจารย์เหมือนทาบที่หลุดออกไปได้ เพราะอุ้มไม่ได้ จริงๆก็ยังไม่หลุด เพราะเราก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในโรคกับเงินเสียบ ผมมองว่าคนที่เห็นสิ่งเหล่านี้ ก็ทำอะไรไม่ค่อยได้นะ เพราะว่าอำนาจเราไม่มี แต่ว่าอย่างน้อยมันดีกว่าไม่เห็น ค่ะ พอเราเห็นเกมเหล่านี้เราก็จะรู้ว่า Free Capital Flow เป็นสกรูสำคัญของระบบเฟียด นั่นคือสาเหตุที่ทำไม 1916 ถึงมีการคิดค้นระบบ Passport ขึ้น การเดินทางข้ามประเทศเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการอนุญาตโดยรัฐบาล การขนท่องคำหลังจากสงครามโลกที่ 1 ค้นไป การขนท่องคำข้ามประเทศก็เป็นสิ่งที่กฎหมาย เพื่อทั้งหมดที่จะ Limit ความสามารถในการการค้นท่องคำข้ามข้ามประเทศ ขนส่งทรัพยากรโดยเฉพาะอย่างนี้ทรัพยากรมนุษย์ทรัพยากรเงินทรัพยาศิลป์ต่างๆข้ามปลมแดนได้ ทำให้ประเทศแต่ละประเทศมีอำนาจปกครองในดินแต่ตัวเองแลกกับการที่เขาจะต้องเป็นเงินขึ้น ให้กับระบบเงินยักษ์ใหญ่ๆอย่างเช่น IMF World Bank แล้วก็ WTO นะครับ ซึ่งตรงนี้เป็นภาพ Plainfield ที่เราเห็นแล้วกัน เราจะได้เห็นว่าแล้ว Bitcoin มันเข้ามาท้าทายอำนาจตรงนี้ยังไง แล้วว่า Bitcoin มันเข้ามาเปลี่ยนยังไงครับ สิ่งที่เราอธิบายเป็นประโยคแรกเลยคือ Bitcoin เป็นเงินอิสระ หลายคนจะบอกว่า ราคามันขึ้นๆ ลงๆ อย่าไปยุ่งอะไรกับมัน อันนั้นส่วนหนึ่ง เรามองข้ามมิติของราคาไป อย่าไปสนใจมัน สิ่งที่ Bitcoin ทำให้เราทำได้ ผมสามารถส่งเงินให้คนใน Venezuela ได้ เพื่อจ้างเขาทำกราฟิกสักอันหนึ่ง ส่งได้โดยที่ผมอาจจะใช้ Lightning Network เพราะว่าตอนนี้ค่าโอนบนเชนมันแพง ผมก็สามารถส่งเงิน สมมติผมจ้างเขา 200 บาท 500 บาท 1000 บาท ก็ได้ มันวิ่งไปถึงเขาทันทีโดยที่ไม่มีตัวกลางได้ หรือว่าผมจะสามารถซื้อพร้อมในเอลเซลวาดอร์ ซื้อบ้านสักหลังนึง สมมติ 2 ล้านบาท ผมโอนไปอันนี้ออนเชนเลย ผมจ่ายค่าโอนทั้งหมดแค่ประมาณ 1-2 USD แล้วทุกวันกลางนี้เป็น Final Transaction เป็น Final Settlement Transaction ภายใน 10 นาที นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ที่มันทำให้เกิดขึ้นได้ แล้ว Transaction ทั้งหมดที่อาจารย์พูดถึงนี้ไม่ได้ผ่าน ตัวกลางไม่ได้ผ่านธนาคาร รวมถึงรัฐบาลก็จะไม่รู้ ไม่ได้ผ่านตัวกลางใดๆ ก็คือไม่มีใครมาคอยบอกว่า อนุมัติเพื่อผมทำหรือไม่อนุมัติ ไม่มีใครมาคอยเช็คว่าเงินนี้ผมได้ แต่ได้มา ผมจะจ่ายให้กับใคร คนก่อนนั้น Blacklist หรือเปล่า คนก่อนนั้นอยู่ในประเทศที่รัฐบาล US ป้อมบาทของการค้ายหรือเปล่า ไม่สามารถที่จะควบคุมอะไรได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ Bitcoin ทำให้เกิดขึ้น คือ Free Capital Flow เราจะเห็นตรงนี้มันมีความเป็นสตรูกันอย่างชัดเจน ระหว่างระบบเงิน Fiat กับ Bitcoin ในมุมที่ว่า Bitcoin จะทำให้เกิด Free Capital Flow ขึ้น เพราะฉะนั้น มันก็ต้องมีการจมตี จมตียังไงบ้างคะชุม รัฐบาลอเมริกาจมตีบิทคอยน์มาโดยตลอด ถ้าใครเคยศึกษาจดหมายของซาโตชียุคแรกๆวันที่ซาโตชีหายตัวไป ในวันนั้นเนี่ย ไมค์ เฮิร์นซึ่ง เป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนา Bitcoin Software Version แรกๆ เลย ส่งอีเมลเข้าไปในกลุ่มบอกว่า เดี๋ยวจะไปกินข้าว มีเจ้าหน้าที่ CIA นักคุยว่าเงินมี มี Potential สูงมากในการสร้างความสงบสุขให้โลกอะไรอย่างนี้ เดี๋ยวไปคุยกับ CIA ที่ Satoshi ตัดสินใจส่งเมียมหาทุกคนที่อยู่ในกลุ่ม หรือเป็นผู้พัฒนาว่า I'm moving on to other things หมายว่า ฉันไม่ยุ่งแล้วนะ หลับแล้วหายตัวไปนะครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นเหตุผลที่เกี่ยวข้องกันหรือเปล่า แต่ก็เป็นจุดหนึ่งที่ที่ทําให้เราเห็นว่า รัฐบาลสายรัฐเห็น Potential นี้ตั้งแต่วันที่มันยังไม่มีราคาซื้อขายนะ เขาไม่ได้เพิ่งมาเห็นวันนี้นะ เขาไม่นัดคุยหรอก ถูกไหม ไม่นําไมไม่พยายามเกิดการพยายามแทรกแซนพอมาหรอก ตอนเหล่าเราได้รู้ว่า Developer หลายคน ก็ถูกแทรกแซนนะฮะ ซึ่งผมขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อมาก ก็ถูกแทรกแซมมาโดยตลอดเหมือนกัน แล้วทำให้มันเกิดการ ไม่ว่าจะเป็น Block Size War เกิดความพยายามในการทำให้ Bitcoin สูญเสียความกระจายสูญ ในระหว่าง 15 ปีที่ฝันมา คราวนี้มาถึงปัจจุบัน การจมตีมันก็ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเราได้เห็นการอนุมัติ ETF Spot ETF หลายคนก็มองว่าเป็นข่าวดี ผมเคยให้สัมภาษณ์หลายรายการแล้วส่วนตัวผมเคยมองว่านี่คือการจบตี Bitcoin แต่ว่าผมไม่ได้มองว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี หรือผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่จังเป็นต้องเกิดขึ้น คือหมายถึงว่ายิ่งบิทคอยโตไปในอีกสุดมันก็ต้องถูกจมตี เป็นธรรมชาติ แล้วเราก็จะล้นกันว่ามันจะรอดไปได้ไหม แต่การจมตีนี่คืออะไร การจมตีนี่คือการที่บอกว่า รัฐบาลสหรัฐในฐานะของผู้มีอำนาจแล้วกัน เขาก็มองไอ้เด็กน้อยอายุ 10 กว่าปีที่เกิดขึ้น มีมูลค่าตลาดประมาณ 1 ใน 10 ของน้องคำ ที่กำลังค่อยๆโตขึ้นว่า 10 ปีละค่ามันไม่ตายสักที พยายามยึดพวกมายเนอร์ก็ยึดมาแล้ว Developer ก็ยึดมาแล้ว พยายามปัดหัวพวกในศูนย์ก็ทำมาแล้ว ไม่ได้ ก็ทำอะไรไม่สำเร็จซะดี เพราะฉะนั้นฉันจะอนุญาตให้แกมีชีวิตอยู่ได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน และนั่นสิ่งที่เราเห็นก่อนที่จะอนุมัติอิทธิยาคืออะไร บริษัทที่ทำหน้าที่ Custody หรือว่าทำหน้าที่รับฝาก Bitcoin ในสหรัฐอเมริกา ทุกบริษัทโดนเล่นงานกันเลย เหลือแค่ Coinbase ซึ่ง Coinbase เป็นบริษัทที่สวามิพักต่อรัฐบาลสหรัฐ 100% สมข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่าง Bank Secrecy Act ส่งข้อมูลทุกธุรกรรมกับลูกค้า ในขณะที่บริษัทอื่นที่บอกว่า ไม่นี่คือความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ถูกเตะออกนอกประเทศหมด เราเห็นกรณีของ Binance ของ Binance จะไม่ได้ใช้อะไรหน้าในการออกเวียน แต่ว่าบริษัทนั้นเองก็โดดเล่นงานไปด้วย ก็คือไล่ทุกเจ้าที่เป็นตัวผู้ถือ ผู้รับฝ่าเปลี่ยนที่สามารถทำหน้าที่ได้ตามผลหมาย ออกไปให้หมดจะเหลือ HoiBase เจ้าเดียว เพราะ HoiBase สามารถควบคุมได้ แล้วจะมีอนุมัติสปอร์ตอีกที แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ตอนนี้กองทุน spot etf ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะกองทุนอะไรก็ตาม ยกเว้น fidelity นําเหรียญไปฝากไว้ที่คอยเบสทั้งหมด บางคนเนี่ยจะนึกว่า blackrock เข้ามาใหญ่เลย แต่จริงจริงมันไม่ใช่แค่นั้น ทุก etf ไม่ว่าจะ blackrock ไม่ว่าจะ bitwise ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ใช้บริการคอยเบสคัสเตอร์ดี ในการรักษาบิตคอยที่ตัวเองถือไปด้วยนะ บิตคอยต์เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่กองทุนเหล่านี้ซื้อเข้ามา อยู่ภายใต้การปกครองของคอยเบส คอยเบสเป็นคนถือขี้ คอยเบสเป็นคนที่มี มีสิทธิ์ในการโอนเงินเหล่านี้ไปที่ไหนก็ได้ ก็คือรัฐบาลเขาจะอนุญาตให้มี Bitcoin อยู่ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา จะพยายามไม่ให้คนพูดพูดไปถือเอง คราวนี้การถือเองเนี่ย จริงๆหลายคนที่เพิ่งรู้จัก Bitcoin ไม่รู้ว่ามันทำได้ได้ซัม การถือเองเนี่ย คือ Bitcoin มันจะใช้ระบบ Public Key, Private Key เราสามารถมี Private Key ของเรา ซึ่งทำให้เราเป็นเจ้าฝรั่ง Bitcoin ของเราอย่างแท้จริง เฉพาะเราเท่านั้นที่สามารถที่จะอนุมัติการโอน Bitcoin ฝรั่งจาก Wallet ของเรา โดยไม่มีตัวกลาง ไม่มี exchange ไม่มีเว็บไซต์ ไม่มีอะไรอย่างนี้ เราสร้างตัวเลข random มาตัวหนึ่ง ซึ่งจะเป็นกุญแจลักษณ์ของเรา และตัวเลขนี้จะมีแค่เราเท่านั้นที่รู้ และเราจะเป็นผู้เดียวในโลกที่สามารถอนุมัติธุรกรรมของเราได้ นี่คือการเก็บ Bitcoin ด้วยตัวเอง นี่คือเป้าหมายที่เขาจะต้องกำจัดทิ้งให้ได้ เพราะว่าตราบใดที่ผมเก็บ Bitcoin ของผมเอง ผมจะส่ง Bitcoin ของผมไปที่ไหน ก็ได้ โดยที่ไม่มีใครห้ามผมได้ มันแปลว่าผมสามารถหนีการควบคุมได้ ด้วยตัวเอง อยู่นอกเหนืออำนาจในการควบคุม Capital แล้วจะมาควบคุมยังไง เขาจะมาจับคนที่มี Bitcoin อยู่ใน Wallet Core Wallet ของตัวเองอย่างไร ผมมองว่าไม่ใช่สิ่งที่เกินความเป็นจริง แต่ว่ายังไม่เกิดขึ้น คือเราต้องเข้าใจว่า สิทธิในการคิดเลขในสมอง มันแค่นั้นอีกนะ การมี Private Key คืออะไร ก็คือการที่คุณจินดนาการตัวเลขขึ้นมาตัวเอง แล้วจับไว้ในสมอง สิทธิในการคิดเลขในสมอง ที่เป็นเลขที่ รัฐบาลไม่ได้ดูมัดเนี่ย ประชาชนมีสิทธิในการทำสิ่งนี้อยู่ ในหลายๆ พื้นที่ อันนี้ใช้คำว่าหลายพื้นที่ เพราะบางพื้นที่ในยุโรปเขาไม่ให้ทำแล้ว แปลว่าอะไรคะ ไม่ให้ทำแล้ว นี่คือเขาออกกฎหมายมาก มีกฎหมายแล้วครับผม ว่าถ้าคุณทำธุรกรรมด้วย Wallet Bitcoin ที่คุณสร้างเอง ก็คือเขาเรียกว่า Unhosted Wallet หรือว่า Wallet ที่ไม่ได้ไปรับฝากไว้ที่หน่วยงานที่ขึ้นทะเบียนกับ ECB เนี่ย จะถือว่าเป็นธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ใครก็ตามที่เกี่ยวข้อมุมตรงนี้มีปลาผิด อาชียากรรมเหรอครับ เป็นอาชียากรรม ในอเมริกามีการต่อต้านกฎหมายเหล่านี้ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิสุนคล เป็นการละเมิดกฎรัฐธรรมนูญ การนี้เราเข้าใจตรงนี้ก่อน มันเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นรัฐบาลอเมริกาไม่สามารถที่จะทำได้ ที่จะบอกว่าคุ ไม่สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ ได้ ไม่สามารถที่จะบอกว่าคุณไม่สามารถที่จะเก็บบิทคอยน์ด้วยตัวเองได้ เขายังต้องเขายังต้องทําเป็นเหมือนเขาเคารพระทธรรมนูญอยู่ แต่สิ่งที่เราเห็นเขาทําเนี้ยนะฮะ เมื่อวานนี้เอง เมื่อวานนี้เอง ขณะที่ผมขับรถอยู่ก็มีข่าวอันนึงขึ้นมา เราก็นั่งฟังไว้ก็ตกใจไป ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ Samurai Wallet ซึ่งเป็น Wallet ที่เน้นการทำธุรกรรมแบบรักษาความเป็นส่วนตัวบนระบบ Bitcoin ถูกบุกจับโดยรัฐบาลจากรัฐอเมริกาโดยหน่วยงาน FBI ผู้พัฒนานี้ไม่ได้เป็นคนอเมริกัน ไม่ได้อยู่ในอเมริกา มีบริษัท เพราะมีการทำธุรกิจและมีการให้บริการ แต่ว่าไม่ใช่คนอเมริกาด้วยซ้ำ แต่ทำไมมีเจ้านักธิจากอเมริกาไปทำ เพราะว่าอเมริกันมีหลักฐานว่ามีการให้บริการคนอเมริกันในการฟอกเงิน คำถามเดี๋ยวมันต้องไปแบบมันต้องลงรายละเอียดหนึ่ง การฟอกเงินในวิธีนี้ถึงการฟอกเงินหรือเปล่า สิ่งที่ Samurai Wallet ทำเนี่ยมันเป็นพฤติกรรมอันหนึ่งที่ในระบบ Bitcoin เราจะเรียกว่า CoinJoy หรือการทำธุรกรรมให้กลายเป็นเรื่องส่วนตัว การทำ CoinJoy คือการที่ผมส่งเงินให้ตัวเอง แต่ว่าตอนที่ผมส่งเงินให้ตัวเองเนี่ยผมอาจจะรวบรวมเงินจากค้นตือเนี่ยกรองเข้าไปเหมือนกับ เหมือนเรามานั่งรวมเงินที่โต๊ะๆหนึ่ง แล้วผมมีเงินมาร้อยบาท ผมก็จะส่งเงินให้ตัวเองร้อยบาท แต่วิธีการคือ ผมโยนเงินร้อยบาทไปกลางโต๊ะ คนอื่นก็โยนเงินร้อยบาทมา บางคนโยนพันบาท หรือยนแบ็กร้อยสิบใบมา บางคนโยนยี่สิบใบมา แล้วเราขยับ ขยีก แล้วแต่ละคนหยิบ เข้าที่ตัวเองวางบอกว่า ผมก็หยิบร้อยมา แต่ผมไม่รู้ร้อยนี้ของใคร คนที่ดูแทรกการวิ่งทุรกรรม ก็จะทำให้ดูยากแล้วว่า เงินอาจไหน มันของใคร มันปล่นกันไปหมด แต่จริง มันคือการทำทุรกรรมให้กับตัวเองแค่นั้นเอง วิธีการที่เขาได้หลักฐานมาว่ามีการให้บริการ ประชาชนสหรัฐเขาก็เปิดเผยมา เปิดเผยเมื่อเช้านี้ ขณะที่ผมขับรถไปที่นี่แหละ แล้วก็เห็นหลักฐานเพิ่ม ว่ามี Chat Log ใน DM บน X ว่ามีพลเมืองดีคนหนึ่ง ทักไปว่า ฉันเป็นห่วงมากเลยเรื่องเกี่ยวกับการทำธุรกรรมโดยรักษาความเป็นส่วนตัว เราเป็น Privacy Advocate คือเป็นคนรักษาความเป็นส่วนตัวมากๆ สมรายยืนยันได้ไหมว่าแบบธุรกิจของคุณเนี่ย ให้ความเป็นส่วนตัวกับเราอะไรอย่างงั้น ซึ่งเขาบอกว่า โอเค เราให้หมด ไม่ว่าคุณจะเป็นแบบว่า ซื้อขายในตลาดดำ ตลาดเทา ตลาดขาว อะไรก็ตามคือ คือเราให้ความเป็นส่วนตัวไปนะครับนึก เขาก็ถือว่าตรงนี้เป็นหลักฐานพลุกมัด ว่าเห็นไหมมีการแอดมิตรว่า มีการซัพพอร์ตตลาดมืด เราก็บุกจับทันที ครั้งนี้ในการบุกจับก็มีการแถลงการออกมา จาก Federal Reserve เองเลย แล้วก็จากหน่วยงานควบคุมเรื่องเกี่ยวกับการทำธุรกรรมว่า ความผิดอันนี้เกิดขึ้นจากการที่ Summarize Wallet ให้บริการ ทำให้ผู้คน ทำให้ประชาชน สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันได้ โดยที่รัฐบาลไม่สามารถ Oversea หรือควบคุมได้ ซึ่งถือเป็นความผิด ร้ายแรง มีโทษจำคุก 20 ปี และทำให้เป็นการ facilitate การฟอกเงิน อันนี้ก็เป็นความผิดอีก รวมทั้งหมดโดนจำคุก 25 ปี และเขามีการออกไกลลายอีก สำหรับประชาชนที่ฟังข่าวนี้และตื่นตื่นหกตกใจ มีวิธีว่าคุณจะต้องทำยังไง เพื่อที่จะปลอดภัยจากสิ่งนี้ ทำยังไงคะ เวลาที่คุณจะเลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Wallet ต่างๆ หรือว่า Web Exchange ซื้อขายและเปลี่ยน หรือการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วย Bitcoin หรือด้วย Cryptocurrency ขอให้เลือกผู้บริการที่ได้รับใบอนุญาต จากรัฐบาลสหรัฐเท่านั้น บริการใดก็ตาม ที่ไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณ ถือว่าเป็นบริการอันตราย หลีกเลี่ยงอย่าใช้บริการเหล่านั้น นี่คือการประกาศสำคัญ การประกาศสมครามกับความเป็นส่วนตัวของประชาชน นี่คือการประกาศสมครามกับความสามารถในการเก็บรักษาทรัพย์สิน ให้เป็นของของเราได้ ด้วยการบอกว่าทางเดียวที่คุณจะสามารถใช้งานสิ่งนี้ได้คือคุณต้อง ถวายข้อมูลทั้งหมด รายงานต้องสิ่งทุกอย่างกับเรา เพื่อให้เราสามารถควบคุมกันได้ อาจารย์คะ แล้วไอ้กฎหมายที่บอกว่าเงินทั้งหมด จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล รัฐบาลต้องรู้ทุก ทาง Section เนี่ย มันเป็นกฎหมายที่มีมานานแล้วเหรอคะ มันไม่ใช่กฎหมาย มันเป็นระบบ ซึ่งก่อนหน้านี้มันทำไม่ได้ เพราะว่าเทคโนโลยีไม่ถึง คือความสามารถในการที่จะ สอดแนมธุรกรรมทั้งหมด เพื่อที่จะรู้ว่าเงินไหลไปที่ไหน เรายังไม่เคยมีเทคโนโลยีที่ทำให้สิ่งนี้เกิด เพราะว่าเงินกระดาษก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ เงินกระดาษก็ไม่ได้ เราเลยเห็นว่าสงครามมันไม่ใช่สงครามกับ Bitcoin ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาเราเห็นสงครามกับเงินสด Cashless Society เราจะไปสู่ Digital Money ทุกคนคิดว่านั่นคือนวัตกรรม นั่นคือโลกยุคสมัยใหม่ แต่ความหมายที่แท้จริงที่มันซ่อนอยู่คือ การทำธุรกรรมที่เป็นส่วนตัว คืออาชียากรรม แสดงว่า CBDC Upcoming Technology จะเป็นสิ่งที่เป็นแบบนี้ได้ CBDC เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะว่านี่คือสิ่งที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะให้อำนาจในการควบคุมระบบการเรียนได้ครบทุกเม็ดทุกหน่วย ผมชอบโชว์วีดีโออันหนึ่ง หลายปีแล้ว ประมาณ 3-4 ปีแล้ว และบอกนายอากัสเติ้ล คาสเติ้ล ซึ่งเป็นเลขาของ BIS Bank of International Settlements เขาพูดในงาน WF ปี 1 ว่า เขาพูดถึงในหัวข้อประโยชน์ CBDC เขาบอกว่าเงินสดเนี่ย เงินที่เป็นธนบัตรเนี่ย มันมีปัญหา เพราะว่าเวลาผู้คนใช้จ่ายกันเนี่ย เรามิรู้ คนเอาไปจ่ายให้อาชียากรหรือเปล่า เรามิรู้ คนเอาไปซื้อของอภิกษ์กฎหมายหรือเปล่า เรามิรู้ ผมฟังดูดีเนาะ นั่นก็แปลว่าเราซื้อไข่ในตลาด เขาก็มิรู้เหมือนกัน CBDC เนี่ย จะมีประโยชน์มากต่อพวกเรา คือมันจะทำให้เราสามารถติดตามทุกเพ็มนี ทุกเซ็น ทุกยูโร ที่วิ่งอยู่ในระบบได้ เราจะสามารถรู้ได้ ทันที ตลอดเวลาว่า ประชาชนคนไหนมีเงินเท่าไร เขาซื้อของจากร้านไหน คนที่ขายของกับเขาเป็นใคร มันจะให้อำนาจในการควบคุม complete and active control over the monetary system ให้กับรัฐบาล และนี่คือข้อดีที่จะทำให้รัฐบาล สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง สามารถแจกเงินให้กับประชาชนถึงมือ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ คือก็จะนำเสนอในมุมมองที่มันฟังดูดี แต่สิ่งที่ถ้าคนฟังประโยคนั้นเราเข้าใจหมายถึงว่าอะไร นี่คือสัมพลังระหว่างรัฐบาลกับประชาชน นี่คือสัมพลังระหว่างระบบการเงินที่มีอิสรภาพ กับระบบธาตุที่เราจะต้องกลายเป็นธาตุของผู้มีอำนาจในโลกนี้ แล้วถ้าสมมุติว่า Bitcoin มันชนะมาสามารถขึ้นมาเป็นเงินของโลกได้ สภาพมันจะอุ่นวายไหมคะ เราต้องมองอย่างนี้ก่อน ก่อนที่ Bitcoin จะไปถึงตรงนั้นได้ มันต้องผ่านอะไรเยอะมากเลย อย่างที่เราเห็นการโจมตีมันจะดูดแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวันก่อนเราจัดงาน Having Party กัน ก็เป็นปาร์ตี้เสลิมฉลอง Bitcoin Having ครั้งที่ 4 ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนน รู้ตัวรึเปล่าว่าเราอยู่กลางสงคราม รู้ตัวรึเปล่าว่าพวกคุณอาจจะต้องเจ็บตัว อาจจะต้องจําคุก อาจจะต้องโดนคดีอายา อาจจะต้องกลายเป็นอาชญากร คุณพร้อมรึเปล่าที่จะเดินหมดเส้นทางนี้ จะรู้สึกว่า อารมณ์พอสมควร มีคนเคยบิตคอยด์ ขายขาย แต่คือมันคือความเป็นจริงของโลก และมันมีอย่างวันก่อน อ่า ผมดู ใช่ไหม คุณ อ่า คุณ สีเคย์ก็บอกว่า พัฒนาบาลไม่มีวันยอมหรอก ให้ระบบนี้มันเกิดขึ้นได้ อืม ถูกต้องครับ เขาไม่มีวันยอม เขาพยายามทำลายและพยายามต่อต้าน และก็พยายามที่จะกีดกันมันมาโดยตลอด และจะทำมันต่อไปในความเป็นแรงที่มากขึ้น ยิ่งเขาเสียอำนาจมากเท่าไหร่ ยิ่ง Bitcoin มันเป็นความเสี่ยง ต่ออำนาจรักษ์ในการควบคุมอธิบไฟตัย ทางการเงินของผู้คนมากเท่าไหร่ เขาจะต่อต้านมันมากขึ้นเรื่อย ย้ำนะว่ารัฐบาลในที่นี้ เป้าหมายหลักของผมคือ รัฐบาล US ไม่ได้หมายถึงคนอเมริกันด้วยนะ มันความบอก เลือกไปเกียจอเมริกา ไม่ใช่ คนอเมริกันจริง เป็นแหล่งสำหรับนวัตกรรมที่ นี่ไงส่วนในโลก เป็นแหล่งที่ผู้คนที่มีคุณภาพที่สุดอยู่ แต่ว่ารัฐบาล โดยเฉพาะยิ่งๆ หน่วยงานที่ควบคุม Federal Reserve และกสมบัติครับ มันการจมตีมันจะมี และมันจะถุงอีกวันบรรแบรนด์ขึ้น บิตคอยน์ไม่ได้จะสามารถอยู่ไปเรื่อยๆ แล้วชนะ ใครชนะมันจะไม่ได้มาง่ายๆ คนไม่ได้จะสามารถถือบิตคอยน์อยู่เฉยๆ แล้วชนะได้ การจมตีด้วยการสร้าง Price Swing ที่เราเห็นมา ราคาวิ่งขึ้นมหาศาสตร์ แล้วก็เหวี่ยงลงมาอาสาส แค่นี้ก็คือการจมตีครับ หลายคนที่ถือ Bitcoin มานานเกินกว่า 10 ปี เธอเข้าใจดีว่า มันไม่ง่ายเลยการที่จะถืออยู่เฉยๆได้ การจบดีด้วยการแทรกซึมเข้ามา สร้างให้มันเกิดธุรกิจต่างๆ ทำให้มันเกิดเหรียญทางเลือก อัลคอยด์ ต่างๆ ทั้งในที่สุดเป็นสแกม เยอะแยะแต่ไม่หมด นี่ก็คือการสมติ การสร้างเหรียญที่ดูเหมือนเป็นเหรียญ Decentralized แต่สุดท้ายมีคนควบคุม เพื่อที่จะดึงทุนทรัพย์ให้มันไปลงหลับเหรียญเหล่านี้ แต่ในที่สุดเหรียญเหล่านี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ นี่คือการลดความเร็วในการเจริญตับตัว นี่ก็คือการจมตี และการจมตีที่เราเห็นเนี่ย การไล่จับ developer ที่สร้าง software open source ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งาน Bitcoin ที่สูงขึ้น ที่ให้ผู้ใช้งาน Bitcoin สามารถที่จะทำทุกอย่าง และรักษาความเป็นส่วนตัวของตัวเองได้มากกว่าอาซาวแฟนอื่น ก็เป็นการเริ่มโจมตีที่รุนแกร่งขึ้น ถามว่าการโจมตีนี้จะไปถึงจุดไหนในที่สุด มันก็จะค่อยๆขยายตัวไป อย่างที่เมื่อกี้เราพูดถึงการใช้งาน Unhosted Wallet ซึ่งเป็นที่ผิดกฎหมายในบางประเทศแล้ว เราก็จะเห็นกฎหมายตอนนี้ออกมากขึ้น Canada, Australia เขาเตรียมที่จะผ่านกฎหมายเหล่านี้ เพราะฉะนั้น ผู้คนที่อยากจะระสายเสริภาพก็จะเริ่มโจมตีมากขึ้น กลับมาที่คำถามคือความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น มันจะไม่ได้เกิดขึ้นจาก Bitcoin มันจะเกิดขึ้นจากความพยายามในการฆ่า Bitcoin ได้แหละ ที่มันจะนำมาสู่ข้อบังคับต่างๆ การพยายามทำ Capital Control การพยายามควบคุมระบบการค้า การพยายามควบคุมระบบของการไหลเวียนของเงินที่เข้มงวดขึ้น ภายใต้ข้ออ้างของการปกป้อนประชาชน ตรงนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้เห็นความบ้นวาย ตรงนี้จะเป็นส่วนที่สร้างไม่ว่าจะเป็นเฟิร์สที่จะต้องเกิดขึ้นอีกมหาศาลเพื่อฟัน สิ่งเหล่านี้ นะฮะ การสูญเสียบุรคภาพของเงินเก็บ เป็นมหาศาลที่จะเห็นในอนาคต เอ่อ ความเจ็บปวด ความยากจนที่จะเกิดขึ้น นะฮะ แล้วก็ผู้คนที่ถูกกีดกันออกจากระบบการเงิน จนในที่สุดไม่สามารถที่จะทํามาหาเรียกชีพตัวเองได้เนี่ย ก็จะมากขึ้น คนที่จะถูกตีตีดรายว่าเป็นอาชียากรเขาจะเยอะขึ้น เพราะฉะนั้นเนี่ย เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผมก็มองว่า มันก็จะมีจุดแตกหักที่คนเหล่านี้ทนไม่ไหว แต่ว่าถึงจุดนั้นเนี่ย มันก็ไม่ได้แปลว่าคนเหล่านี้จะมีอำนาจต่อรองอะไร นะฮะ Bitcoin Bitcoin จริงๆ เป็นเครื่องมืออันหนึ่งเฉยๆ ที่ทำให้คนเหล่านี้สามารถที่จะพยายามอยู่นอกระบบนี้ได้ แต่มันก็ไม่ได้ง่าย ถึงวันที่ อันนี้เราพูดถึงความมั่นไหว ก่อนที่บิทคอยน์จะชนะ ถ้าบิทคอยน์ชนะไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ถ้าบิทคอยน์กลายเป็นว่า โลกอยู่ภายใต้บิทคอยน์สแตนดาร์ดเกิดอะไรขึ้น จริงๆเราไม่ต้องไปมองหาตัวอย่างที่ห่างไกลที่ไหน เรามองย้อนกลับไปในโลกที่เราเข้าสู่มาตรฐานบังคัม มันมีครั้งหนึ่งที่โลกอยู่ภายใต้มาตรฐานเงินเฟียด แต่เป็นเงินเฟียดยุคกลับ เงินเฟียดของเจ้าเมือง เจ้าขุนมูลนายต่างๆ เมืองเล็กๆที่มีระบบเฟียดซิสเต็มของตัวเอง เงินนี่เขาสามารถเสกขึ้นมาจากอากาศให้ไพร่ทั้งหลายได้ แล้วในที่สุดก็ทำให้คนเป็นหนี้ เกิดการก้นล้มราชบันราภัณฑ์แล้วก็ยกหนี้ แล้วก็สร้างเงินขึ้นมาใหม่เกิดขึ้นเนี่ย อันนี้คือช่วงยุคมืด หลายร้อยปีที่มนุษย์อยู่ในสภาวะฝั่งยุคมืดที่ไม่มีปัฒนาการ จนกระทั่งมนุษย์เสียชาติกลับเข้าสู่มาตรฐานหลังคลําในช่วงเรนาซองส์ ค่ะ แล้วเราก็ ก็เรียกมันว่า Renaissance และนั่นก็สิ่งที่จะเกิดขึ้น ในหนังสือประวัติศาสตร์ในอนาคต มองย้อนกลับมาในวันที่เรากลับเข้าสู่มาตรฐานของเรือนวิเครนแกรม มันไม่ใช่มันคำละ มันจะเป็นวิทโคย์ ยุคนั้นก็จะถูกเรียกว่าเป็น Renaissance อีกครั้ง อาจารย์ แล้วมีสัญหาภาพ พอดีว่าสายเคยอ่าน Bitcoin Standard คือมันมีอยู่ยุคหนึ่งที่มันเข้าสู่หลังจากโรมันรุ่งเรือมไปแล้ว แล้วมันก็จะมีกษัตริย์คนหนึ่ง ที่โกงเงินตัวเองโดยการที่ผลิตเหรียญเพิ่ม แล้วก็ลดปริมาณทองคำในเหรียญตัวเอง ซึ่งสายเคย... เข้าใจว่ามันคงไม่ได้ต่างอะไรไปจากการพิมพ์เงินในทุกวันอีก แต่วันนั้นอาณาจักรโรมันหลังจากที่กษัตริย์โกลเหรียญตัวเองด้วยกัน มิ้นเหรียญเพิ่ม ลดปริมาณทองคำ หลังจากนั้นอีกประมาณ 100 ปี อาณาจักรล่มใช่ไหมคะ ใช่ครับ แล้ววันนี้ ที่ที่มัน 200 ปี ประมาณนั้น แล้ววันนี้สิ่งที่มันเหมือนกับอย่างนั้น มันก็จะเกิดขึ้นกับการพิมพ์เงินในระบบของเราเหมือนกัน อย่างนี้หรือ ระบบ Fiat มันไม่ล่มเหรอ อย่างที่ผมบอกระบบ Fiat เนี่ย เป็นระบบที่ โอเค Fiat ปัจจุบันที่เราเห็น เป็น Fiat scale ระดับโลก คุมได้หมดทั้งโลกเนี่ย เพิ่งเคยเกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านี้ถามว่ามีการพยายามทดลองใช้ระบบ Fiat ในการปกครองไม้มี อันนั้นจากโรมันก็ล้มสลายด้วยระบบ Fiat อันนั้นจากทุกอันนั้นจากหลังจากนั้นก็ล้มสลายด้วยระบบ Fiat อันนั้นจากก่อนหน้านั้นก็ล้มสลายด้วยระบบ Fiat ทุกครั้งที่มีการทดลองใช้ระบบ Fiat เนี่ย นำมาสู่ความล้มสลายทุกครั้ง อันนั้นอันนี้เนี่ยคือสิ่งที่ประวัติศาสตร์สอนเรา ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์ จริงๆ แล้วพูดถึงเรื่องเนี่ย น่ารักดี มีความตลกอยู่นะครับ เอ่อ... เนื่องจากว่าเราอยู่ในโลกที่แม้กระทั่งข้อมูลข่าวสารก็ถูกควบคุมเนอะ บอกว่าใช้ AI ในการหาข้อมูลเยอะพอสมควร ในการที่จะพูดคุยกับมัน ให้มันไพร้เราไปทั้งนู้นทั้งนี้ หรือว่าทบเถียงกับมัน ไม่ได้เราก็ชอบเถียงกับมัน วันก่อนไปลองคุยกับ Opus นะฮะ ซึ่งเป็นตัว Engine ตัวล่าสุดของ Claw AI เราก็พูดถึงจักรพรรดิ Dionysus เนี่ยแหละ ว่าตอนที่เขาทำอย่างนี้เนี่ย มันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ AI เถียง สุดลิ่มที่ประตูเลยว่าจักรพรรดิเป็นจักรพรรดิที่รักของประชาชน เพราะว่าสร้างความร่วมเรืองให้กับจักรวรรดิโรมัน ทำให้กลุ่มคนเมืองมีชีวิตที่อู้ฟูรูราขึ้น ทุกคนรักท่านอะไรต่อเลยทั้งหลาย ซึ่งจริงๆ มันคือเรื่องเดียวกันเพราะว่าการ การที่จับประพัทธ์คลิกทอง สมัยนั้นคือการคลิกทองก็คือ เรียกเก็บภาษีกับประชาชน แล้วเมื่อนำภาษีมาแล้วก็นำมาหล่อ ทำเหรียญใหม่โดยที่เหรียญใหม่ ลบปริมาณต่อคลามลง โดยที่ประชาชนไม่รู้ มันก็ทำให้รัฐบาลมีเงิน เสกขึ้นมาจากอากาศ เยอะขึ้น แล้วของเหนือนี้มาใช้จ่ายได้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเมือง ให้มันรูหรา สร้างโปรดิเซียม สร้างอะไรต่อเลยทั้งหลาย ให้ผู้คนรู้สึกมีความสุขในเรื่องของนั้นนะ เอามาทํารัฐสวัติการต่างต่าง ทําการศึกษาฟรีให้กับประชาชน ทําฮิล์ดแคร์ฟรีให้กับประชาชน คนก็จะรู้สึกยินดี แต่สิ่งที่เขาแลกมาก็คืออะไรก็คือ ในที่สุดอาณาจักรก็จะค่อยค่อย อ่อนแอลลง เสือบสลายลง เพราะว่าคนที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง จะยากจนลงเรื่อยเรื่อย คนที่ทําหน้าที่ผลิตสินค้าที่จําเป็นต่อการปริโภคของทุกคนในเมืองกรุง ก็จะค่อยค่อย ค่อยอ่อนแอลลง คนจำเป็นต้องขายไร่ขายหน้าให้กับในทุน ย้ายเข้าเมืองหลวงเพื่อมาตามหาปลอดฟัน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาณาจักรโรมันในยุครุมสลายนะฮะ แม้กระทั่งอาณาจักรคอนสแตนติโนโป้เอง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากอาณาจักรโรมันก็จะรุ่มสลายในลักษณะเดียวกัน เมื่อจักรพรรดิยุคหลังนะฮะ เริ่มที่จะทำแบบเดียวกัน จะเก็บภาษีประชาชนและประตูเงินทองเพื่อ แต่การสร้างเงินเฟียบในระบบนี้เนี่ย จริงๆ ต้องบอกว่ายังช้า เพราะว่าต้องผ่านการเก็บภาษีประชาชนให้ได้ก่อนก็ได้ เทคโนโลยีสมัยนั้นก็ไม่เหมือนสมัยนี้เนอะ กฎหมายเขาอาจจะดูรุนแรงกว่า แต่การบังคับกฎหมายยากกว่ามาก แล้วกว่าที่ทหารจะขี่มาไปคอประตูบ้านคน มันยาก ประชาติเก็บภาษีก็เก็บไม่ได้เยอะ เก็บมาเสียต้องมาหลอม เหรียญใหม่ที่ซ่าต้องสร้างให้ประชาชนไม่รู้ตัวอีกว่า ทองคําลดลดลงนะ ให้มันผ่านชั่วอายุคนหนึ่งมาก่อนถึงจะเริ่มรู้ตัว อ่า เพราะฉะนั้นเนี้ยมันผลิตเพิ่มได้ในอัตรายที่เขานั่งชา ค่ะ ในปัจจุบันตั้งแต่ปีหนึ่งเก้าเจ็ดหนึ่ง ก็คือทำให้รัฐบาลสหรัฐเนี่ย ซึ่งซึ่งนักเสร็จอาศัยก็จะเทียมผมทุกคนเหมือนกันตรงนี้ว่ามันไม่ง่ายแต่ว่าเขาสามารถผลิตเงินได้ง่ายง่าย เนี่ยการที่บอกว่ามันไม่ง่ายก็บอกกว่าจะผลิตกันได้เนี่ยต้องประชุมแล้วประชุมอีกต้องมีผู้เชี่ยวชาญมานั่งคุยเยอะแยะกันไปหมดนะฮะ คณะกรรมการมีคนที่ได้รับรางวัลโนเบล 15 คนอะไรอย่างเงี้ย แต่ว่าในที่สุดเมื่อก็คือคนแขก 15 คนนั่งคุยกันแล้วก็ออกมาบอกว่าฉันจะเสกเงินเพิ่มจากอากาศ มันต่างอะไรกับระบบสมัยโบราณที่อาศัยเซจและเซีย แล้วก็พวกผู้เท่าทั้งหลายที่เป็นนักเวทย์ประจําราชาณจักรทั้งหลาย มานั่งประชุมกันที่ยอดเขาอะไรสักอย่างเลย เราก็ลงมาเราก็บอกว่าฉันจะทําแบบนี้ ในที่สุดเงินภายในระบบนี้มันถูกสร้างจากนี้ รัฐบาล ออกพันธบัตรรัฐบาล ธนาคารกราศาสตร์ Federal Reserve ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ใช้พันธบัตรรัฐบาลเป็นสินทรัพย์ นําสินทรัพย์เหล่านี้ในการเสกเงินที่เป็น Reserve แล้วก็เป็น Cash ออกมาในระบบเพื่อมอบให้กับรัฐบาล แล้วมันก็เกิดวนเป็นหลู่ขึ้น นอกเหนื่อยจากนั้นการผลิตเงินส่วนใหญ่ยังเร่ง Speed ด้วยกัน การผลิตเงินจากภาพประชาชนอีก เพราะว่าเรามีระบบธนาคารที่เป็นเครือข่ายธนาคาร ซึ่งสามารถผลิตเงินเองได้อีกภายใต้ระบบ Fractional Reserve Banking ซึ่ง Fractional Reserve เองก็ไม่ใช่ระบบที่แย่ มันเป็นระบบที่ทำให้เราสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทำอะไรต่อได้ เราอยากมีเงินทุน เราไปกู้ยืมได้ แต่สิ่งที่ทำให้มันเป็นปรับหาคือ Fractional Reserve ภายใต้ธนาคารกลาง เมื่อธนาคารกลางเป็น Render Plus Resort แหละว่าธนาคารพนิษฐ์สามารถสร้างเงินกู้ ในสัดส่วนที่สูงกว่าที่มีที่เป็น liquid ที่เป็นที่มี ที่มีสภาพกล้องสูงได้มากหลายเท่า โดยที่ไม่มีความสีดอกลายล้มละลาย เนื่องจากว่าเมื่อถึงเวลาที่ประชาชน จะมาถอนเงินจากธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพาณิชย์สามารถ access liquidity จากธนาคารกลางแดด ทำให้การผลิตเงินในภาพประชาชนเอง ก็ทวีคูณความแรงๆ ขึ้น ทุกครั้งที่ Federal Reserve ประกาศลดตับเรียก ก็มีการกู้ยืมเพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่มีการกู้ยืม นั่นคือการผลิตเงิน นั่นคือการผลิต Money Supply และทุกครั้งที่มีการผลิต Money Supply เงินที่เราเก็บเอาไว้เงินของวงตระกูลของเรา แล้วเงินของผู้ย่าตายใหญ่ก็เป็นสัดสมที่เล็กลงเมื่อเทียบกับ supply ทั้งหมด ทุกครั้งที่มีการผลิตเงิน ความมั่งคั่งของประชาชนที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตเงิน จะถูกสูบไปอยู่ในมือผู้ผลิตเป็น ในที่สุดมันก็นำมาสู่ความอ่อนแอของสังคม แมท สังคมในปัจจุบันอ่อนแอมาก คือแม้ว่าเราจะมีวัฒนาการ เรามีเทคโนโลยีต่างๆ ที่อร่อยความสะดวกในชีวิตมากมาย แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อเรามองไปแล้วเพราะ คนรุ่นใหม่ Gen X, Gen Z, เอ๊ะ Gen Millennial, Gen X ไม่ใหม่แล้วนะฮะ อ่ะ Millennial ก็ไม่ใหม่ และ Gen Z ใช่ไหม เอ่อ Gen Alpha ทั้งหลาย ไม่มีว่า เอาแค่ Millennial ยากมากเลยที่จะซื้อบ้านของตัวเอง จริงนะ แค่มีคอนโดสักห้องหนึ่ง มาของตัวเองก็เป็นความพร้อมปรุงใจแล้ว อืม นะฮะ เอ่อ ห้องเล็กเล็ก ที่เขาให้คุณนอนอยู่ในซอกเล็กเล็กอันหนึ่ง แล้วก็มีโต๊ะเล็กเล็ก ไว้กินข้าวที่อาจจะต้องแบ่งใช้เป็นโต๊ะทำงานด้วย นี่คือความฝันของคน ใหม่ ที่จะมีเพียงแค่เนี้ย ในบ้านปลายชีวิต ในในขณะที่คนสมัยก่อน สามารถที่จะทำงานคนเดียว หาเลี้ยงครอบครัว ไอ้บ้านพร้อมที่ดิน อืม อ่า ที่มันเกิด มันเกิดอะไรขึ้น และสิ่งที่มันเป็นกลับต่อก็คือว่า เงินมันถูกทำให้สนเสียมูลค่าไป ความมั่งข้างมันถูกดูดออกไปจากฝราชวน ไปอยู่ในมือของรัฐ คนไม่สามารถที่จะมีความหวังในการเก็บเงินได้ คนไม่สามารถที่จะมีความหวังในการทำงานและเก็บทรัพย์ สิ่งที่สังคมอ่อนแอลง และในสังคมที่อ่อนแอลง สังคมก็ต้องการพึ่งพารักษ์มากขึ้น เพราะว่าเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว คราวนี้ก็จะมีการเรียกร้อง ไม่ว่าจะเป็นคาแรงขั้นต่ำ รัฐสวัสดิการ เลี้ยงโดบาทท้องต่างๆ ประกันราคาข้าว และสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นเหตุผล ที่ทำให้รัฐเป็นข้ออ้าง ใช้เป็นข้ออ้างในงานผลิตเงินเพิ่มขึ้นได้อีก เพื่อทำร้ายประชาชนเหล่านี้หนักขึ้นกว่าเดิม แล้วในที่สุดมันก็จะล้มสลาย แต่การล้มสลาย ผู้ที่จะเจ็บหนักที่สุดคือประชาชน ที่ไม่ได้มีความผิด ผู้ที่กระทำอาจจะอยากการเหล่านี้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลสหรัฐเอง จะเป็น Federal Reserve เอง จะร่ำรวย มหาศาล แล้วเขาก็จะสามารถ move ไปอยู่ในมาตรฐานใหม่ ถึงแม้ว่าสมมติว่าเป็นมาตรฐานลงครั้ม เขาก็จะมีลงครั้งมาตรฐานเป็นของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะควบคุมระบบนั้นไม่ได้อย่างน้อยเขาก็ร่ำรวย มันเป็นระบบที่ไม่แฟร์ แต่ว่านี่คือสิ่งที่เกิดที่เรียบร้อย ไม่จริงหรอกเว้า อาจารย์ค่ะ นั้นสุดท้าย อาจารย์คิดว่า อาศัยถามอาจารย์แบบส่วนตัวเลยว่า อาจารย์คิดว่า ประชาชนน่ะ ควรจะต้องหาวิธีทางที่จะถือเงิน แบบไม่โดนรัฐบาลควบคุมไหมคะ หรือว่ามันเป็นไปได้ไหมคะ ผมอยากจะเชื่อว่ามันเป็นไปได้ เป็นคำถามที่เราต้องถามตัวเองตลอดเวลา ยิ่งเราเห็นการพยายามจมตีแบบนี้เกิดขึ้น ในที่สุดอย่างที่บอกคือการแค่ การที่เรามีคำ 12 คำในหัว ผมไม่แน่ใจมันจะเกิดเทคโนโลยีอะไรที่จะมาเดาจาก เราได้รู้เปล่า คนคนนี้มี 12 คำในหัวจับมันไปขังคุก เอามันไปทำหน้ารวมอะไรอย่างนั้น มันอาจจะเกิดขึ้นได้ มันมีแน่เทคโนโลยีอ่ะ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ คือเราไม่มีทางรู้จริงๆ เพราะว่า ความกระเที่ยนกระหือรือ แล้วก็ motivation ในการที่จะพัฒนา พันธุ์เทคโนโลยีสำหรับการควบคุมเหล่านี้มันสูงมาก ใช่ แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ยังพอมีความหวังที่จะมีอิสระภาพเป็นของตัวเอง ที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่าชีวิตนี้เราอยากจะทำอะไร ชีวิตนี้เราอยากจะใช้มันยังไง เวลาของเราเราอยากจะใช้ไปกับอะไร ผมก็เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุดเราต้องเข้าใจว่าระบบของโลกเป็นยังไง คุณจะเข้าใจแล้วคุณจะเข้าร่วม แล้วคุณจะเข้าใจแล้วคุณจะต่อตั้ง แล้วคุณจะเข้าใจแล้วคุณจะหนีออกมา อันนั้นมันเรื่องของคุณ แต่ว่าคุณต้องเข้าใจว่ามันเป็นยังไง เราต้องเข้าใจคำโกหกหลอกลวงที่รัฐบาลของโลกทั้งหลายใช้ในการหลอกลวงเรา ในที่สุด แม้กระทั่งการหายใจของเราก็จะเป็นบาท นี่คือสิ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้น ทาร์บอนแท็กซ์ที่จะออกมา ทำให้คนรวยสามารถที่จะซื้อความดีความชอบต่างๆได้ เพื่อที่จะทำอะไรต่ออะไรได้มากขึ้น แต่ในที่สุดเราก็ไม่ได้ช่วยให้โลกดีขึ้นได้อย่างใด แต่ให้อำนาจรัฐในการควบคุมกิจกา��และการตรีกต่างๆได้มากขึ้น มันจะยิ่งทำให้สังคมอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ความหวังในสังคมก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ต้องมองให้ทะลุคำโกขกทั้งหลายอันดับนี้ ต้องเขียนถึงโครงสร้างของระบบการเงินในปัจจุบันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเบสอยู่บน มันตั้งอยู่บนพื้นฐานของหนี้ ของคนที่เราเชื่อว่าเครดิตคือสิ่งสำคัญที่สุดในระบบการเงินปัจจุบัน แต่คนที่เป็นลูกหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ไม่ได้มีแม้กระทั่งความประสงค์ที่จะใช้หนี้หล่อมนั้นด้วยซ้ำ ค่ะ เฮ่ย ใช่ แหละ เพราะฉะนั้น คือปกติเวลาแทนที่ผมจะพูดถึงว่า Bitcoin คืออะไร ถ้าคุณจะถามก็ได้ มันจะเป็น Technical Session เราก็จะพาคุณไปสู่โลกของ Programming ไปสู่โลกของการ Hash ไปสู่อะไรเงี้ย แต่ส่วนใหญ่สิ่งที่ผมอยากให้คุณเข้าใจ คือเข้าใจว่าระบบเฟียดคืออะไร เข้าใจว่าระบบการเงินที่ควบคุมโลกมาตลอด 50 ปีที่ผ่านมาคืออะไร แล้วเราคิดเอาเองว่าเรามีความหวังไหม ลูกหลักเรามีความหวังไหมที่จะมีชีวิตที่หลุดพ้นจากการควบคุมอันนี้ หรือแม้กระทั่งรัฐบาลต่างๆ รัฐบาลไทยเอง จะเลือกข้างแบบไหนเราก็จะสามารถที่จะติดตามดูได้ เขาจะเลือกข้างว่าจะเป็นรัฐบาลที่ปกป้องประชาชน จากทราราศต่างๆ ที่ต้องการที่จะลุกล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว หรือว่าต้องการจะทำตัวเนียนๆ ไป เพื่อให้มันอยู่รอดไปวันๆ นี่คือเป็นสิ่งที่ต้องรอดู เพราะฉะนั้นทุกคนควรจะศึกษาระบบ Menfeat วางแผน Accordingly ว่าเราจะรักษาอธิปไตยส่วนตัวของเราอย่างไร โอเค วันนี้ขอบคุณอาจารย์ตั๊มมากเลยนะคะ ที่มาให้ความรู้กันใน Money Tailors Hall ค่ะ เป็น Session ที่น่าสนใจมาก สนุกมากเลย แล้วก็เดี๋ยวไว้ มีโอกาสค่ะหน้าเชิญอาจารย์ตามมาพูดคุยกันแล้วใหม่นะคะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ ดังนั้นนะคะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายนักลงทุนอะไรก็ตาม จะเป็นลงทุน Bitcoin หรือว่าลงทุนอย่างอื่น การลงทุนจากนี้ จากเรื่องที่เราพูดคุยกันมาวันนี้ คงไม่ใช่แค่จะนึกถึงราคา ไม่ได้นึกถึงแค่ว่าลงทุนเพื่อให้ได้กำไร เทรดเข้าเทรดออกยังไงให้ได้เงินมากขึ้น แต่ควรจะเป็นการลงทุนที่นึกถึงชีวิต ชีวิตที่จะสามารถใช้อย่างอิสระเสรี ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษยชนทุกคนพึงมี และอยู่ให้นอกเหนือการควบคุมมากที่สุด เท่าที่เราจะทำไว้ และก่อนมาติดตามเรื่องราวการเงินนะคะ การลงทุนกับนักลงทุนตัวจริงกับใส่ได้ที่ MoneyTellerTalks วันนี้ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ