Transcript for:
การเดินทางสู่ธรรมของพระปตาจาราเถรี

วิชาอนุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นโธ จบับกระปรุง พุทธศักราช 2560 พระปตาจาราเถรี ตอนที่ 2 ครูช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิคะ ว่านางปัตตาจารา ยังต้องเจอกับเรื่องอะไรอีกบ้าง หนูก็อยากฟังแล้วค่ะคุณครู ใจเย็นๆ ครูกำลังจะเล่าต่อนี่ล่ะ นางปัตตาจารา เดินทางมุ่งหน้ากลับบ้านเดิมของตน และบ่นเพ้อไปตลอดทาง พบชายคนหนึ่ง เดินสวนทางมาจากเมืองสาวที จึงถามถึงบิดามารดาของตน ที่อยู่ในเมืองนั้น ได้รับคำตอบว่า น้องหญิง เมื่อคืนนี้ เกิดลมพายุและฝนตกอย่างหนัก เศรษฐีสองสามีมพรรยาและลูกชายอีกคนหนึ่ง ถูกประสาทพังทับตายทั้งครอบครัว เห็นควันไฟโน่นไหม ชาวบ้านกำลังเผาพ่อแม่และลูก บนเชิงตะกอนเดียวกัน พ่อชายคนนั้นกล่าวจบ สติสัมปัชญะของนางขาดลง เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ หลุดไปจากกายก็ไม่รู้สึกตัว เดินเปลือยกายเป็นคนวิกลจริต ร้องไห้เพ้อรำพันคล่ำครวนว่า บุตรสองคนของเราตายแล้ว สามีของเราตายที่ทางเปลี่ยว มารดาบิดาและพี่ชายของเราก็ถูกเผาบนเชิงตะกอนเดียวกัน นางเดินบนเพ้อไปอย่างนี้ ใครเห็นก็คิดว่านางเป็นบ้า พากันคว่างป่าด้วยก้อนดินบ้าง โรยฝุ่นลงบนศรีสะบ้าง แต่นางก็ยังคงเดินต่อไป อย่างไร้จุดหมายปลายทาง จนถึงวัดพระเชตวัน โถ สุดท้ายท่านก็ไม่เหลือใครเลยเหรอคะ ทั้งที่แต่เดิมก่อนหนีออกจากบ้าน ท่านก็มีพร้อมอยู่แท้ นางคงทุกข์ทรมานมาก เลยนะครับ แล้วนางจะพ้นทุกข์ได้อย่างไรล่ะคะ คุณครู ในขณะนั้น พระพุทธเจ้า ประทับนั่งแสดงธรรม อยู่ท่ามกลางบริษัท สี่ ได้ทอดพระเนธเห็นนางกำลังเดินมา ทรงดำหรี่ว่า นอกจากเรา ไม่มีใครสามารถเป็นที่พึ่งของหญิงคนนี้ได้ คนทั้งหลายเห็นนางเดินเข้ามา จึงพากันขับไล่ ไม่ให้นางเข้ามาหาพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ตรัสว่า พวกท่านจงหลีกไป อย่าห้ามเธอเลย ด้วยพุทธานุภาพ นางได้สติคืนมาในขณะนั้นเอง รู้สึกตัวว่าไม่มีเสื้อผ้า เกิดความอาย จึงนั่งลง อุบาสบคนหนึ่งโยนผ้าให้นางห่ม นางเข้าไปกราบถวายบังคมพระพุทธเจ้าที่พระบาท แล้วกราบทูลถึงเคราะห์กรรมที่ตนได้รับให้ส่งทราบ พระพุทธองค์ตรัสว่า แม่น้ำในมหาสมุทธทั้งสี่ ก็ยังน้อยกว่าน้ำตาของคนที่ถูกความทุกข์ ความเศร้าโสกครอบงำ ปตาจารา เพราะเหตุไรเธอจึงยังประมาทอยู่ นางปตาจาราฟังพระดำรัตนี้แล้ว ก็คลายความเศร้าโสกลง พระพุทธเจ้าทรงทราบว่า นางคลายความเศร้าโสกแล้ว จึงตรัสต่อไปว่า ปตาจารา บิดามานดา บุธธิดา พี่น้องและพวกพองไม่สามารถต้านทานความตายได้ บัณฑิตรู้อย่างนี้แล้ว พึงรักษาศีล ชำระทางไปพระนิพพานโดยเร็ว ในการจบเทศนานางปัตตาจารา บรรลุโสดาปฏิผลทูลขอบวช พระพุทธเจ้าทรงส่งนางไปยังสำนักนางพิกษุนี เมื่อบวชแล้วได้ชื่อว่า พระปัตตาจาราเทรี เป็นบุญของท่านจริงๆนะคะ ที่ได้พบกับพระพุทธเจ้า มีงั้นคงจะแย่แน่ๆ แล้วหลังจากท่านบรรลุโสดาปฏิผลแล้ว ชีวิตท่านเป็นยังไงต่อครับคุณครู ท่านก็บำเพ็ญเพียนต่อไป วันหนึ่งพระเถรีตักน้ำมาล้างเท้า ขณะเทน้ำลง น้ำนั้นไหลไปหน่อยหนึ่งก็ขาดลง น้ำที่เทลงครั้งที่สองไหลไปไกลกว่าครั้งแรก น้ำที่เทลงครั้งที่สามไหลไปไกลกว่านั้น พระเถรีกำหนดน้ำนั้นเป็นอารมณ์ เปรียบกับวัยทั้งสามว่า สัตว์บางเหล่า ตายในปฐมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งแรก ตายในมชิมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งที่สอง ตายในปชิมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งที่สาม พระพุทธเจ้า ประทับในพระคันธกุดี ทรงแผ่พระราชมีไป เหมือนประทับยืนอยู่ เฉพาะหน้าพระเถรีตรัส ว่าถูกต้องแล้วปตาจารา ผู้เห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมแห่งปัญจคัน มีชีวิตอยู่วันเดียวก็ดี ขณะเดียวก็ดี ดีกว่าผู้ไม่เห็นความเกิดขึ้น หรือความเสื่อมแห่งปัญจคัน มีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี พระเถรีครั้นบวชแล้วไม่นาน ก็บรรลุอรหัสตะพน ดีจังเลยค่ะ ในที่สุด ท่านก็พ้นทุกอย่างถาวรแล้ว แต่กว่าจะพ้นทุกข์ ท่านก็ต้องผ่านอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะ ถ้าเป็นเราอ่ะ คงจะแย่ไปแล้ว ถ้าเป็นไอวี คงจะเสียสติไปตั้งนานแล้วล่ะ หูย ลิน่า ชอบว่าเราอีกแล้ว เอาล่ะ เอาล่ะ เรียนรู้ประวัติของท่านแล้ว เรายังทุกข์ได้ไม่ถึงครึ่งของท่านเลย ก็ต้องพยายามทำความดีเข้าไว้นะ ค่ะ คุณครู ดีมาก อย่างพระปัตตาจาราเถรี ท่านก็ผ่านมาได้ และท่านก็เรียนพุทธพฤติจนเป็นผู้ชำนาญในพระวินัยปิดกษ์ ต่อมาได้รับเอตะทักขา ข้าว่า เป็นผู้เลิศกว่าพิกษุนีทั้งหลาย ผู้ทรงพระวินัย พระปัตตาจาราธรรมเทรี ดำรงอายุสังขารอยู่สมควรแก่การ ก็นิพพาน ว้าว! ท่านเก่งจริงๆ ค่ะ ยังมีประวัติพิกษุนีรูปอื่นที่น่าสนใจอีกนะ ต้องติดตามในตอนต่อไป ครับ