เรื่องเทคนิคการสัมภาษณ์งาน การตอบคำถามในการสัมภาษณ์งาน มีคนอื่นพูดเยอะแล้ว ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดูเรื่อง Mindset ในการสัมภาษณ์งานค่ะ ที่ทำให้เรามีความสุขทั้งก่อนจะไปสัมภาษณ์และหลังสัมภาษณ์งานค่ะ จากประสบการณ์ที่จิน่าเป็นทั้งผู้ถูกสัมภาษณ์ และคนที่ไปสัมภาษณ์คนอื่นด้วยนะ คิดว่าคลิปนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะต้องไปสัมภาษณ์งานนะคะ แล้วจิน่าก็มีน้องๆมาถามจิน่าเยอะมากเลยค่ะว่า พี่จิน่าเราจะเตรียมตัวยังไงดีเวลาไปสัมภาษณ์งานนะคะ แล้วก็นอกเหนือจากเรื่องของ การตอบคำถามเทคนิคต่างๆที่น่าว่าเราสามารถ search ได้ในอินเทอร์เน็ตมันเยอะมากๆค่ะ แต่เรื่องวิธีคิดในการที่จะไปสัมภาษณ์งานต่างหากที่เป็นตัวกำหนดเลยว่าเราจะได้งานหรือไม่ได้งาน รวมทั้งเป็นตัวกำหนดเลยว่าเราจะมีความสุขกับการไปสัมภาษณ์งานนั้นไหมอะค่ะ ตึง มายเซ็ตแรกค่ะ เขาเลือกเรา เราก็เลือกเขาเช่นกัน ฟังแบบนี้พอจะนึกออกไหมคะ ปกติเวลาเราไปถูกสัมภาษณ์งานเราจะรู้สึกว่า เฮ้ย เราอยากได้อะ เราเลือกหนูเถอะนะคะ รับหนูเข้าทำงานด้วยนะคะ เลยทำให้ mindset ของเรามันคือ เขาเลือกเรา เขาเลือกเรา เราเป็น choice เราเป็นตัวเลือกอะค่ะ มันเลยทำให้เราดูด้อยจังเลยเนอะ คือแบบ เหมือนแบบทำทุกวิถีทางเพื่อจะทำให้เขาเลือกเราอะค่ะ อยากจะบอกว่า mindset ที่จะทำให้เรามีความสุข และเป็นตัวของตัวเองมากๆเลยนะ เวลาที่ไปสัมภาษณ์งานนะคะ เขาเลือกเราถูกต้อง แต่เราก็เลือกเขาด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่เวลาจีน่าไปสัมภาษณ์งาน จีน่าจะมี mindset แบบนี้เลยค่ะ ว่าในระหว่างที่สัมภาษณ์งานนะคะ เราก็จะมองด้วยว่าเขา match กับเราไหม ในตำแหน่งงานนี้ สถานที่ทำงานแบบนี้ ผู้คนอารมณ์ประมาณแบบนี้ เนื้องานแบบนี้เนี่ย มัน match กับสิ่งที่เราจะกำลังอยากทำอยู่หรือเปล่า แล้วก็ถ้ามัน match เนี่ย มัน match ในระยะยาวไหม ฉะนั้น tone ในการพูด มันจะไม่ใช่ tone ที่เราไปง้องรนะคะ ง้องรว่าเลือกหนูเถอะ เลือกหนูเถอะ แบบเนี้ยมันจะเป็นโทนที่ว่าเขาเลือกเราด้วยแล้วเราก็เลือกเขาด้วยเช่นเดียวกัน จีน่าส่วนตัวคิดแบบนี้นะคะ ถ้าเรามี mindset แบบเนี้ย ทั้งตัวผู้ถูกสัมภาษณ์กับบริษัทที่กําลังจะรับเราไปทํางานได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ได้ไปกับทั้งสองฝ่ายยังไงก็คือว่าทั้งสองฝ่ายเราจะมั่นใจได้ว่าตําหน่ายงานนี้เราเหมาะกับเขาจริงจริง และบริษัทที่เรากําลังจะไปทํางานก็เหมาะกับเราจริงจริง แบบเนี้ยค่ะ จะทํางานกันไปได้แบบ ยาวๆ ติ้ง ใหม่เซ็ตที่ 2 ค่ะ ตอบตัวเองให้ได้ว่าวัตถุประสงค์หรือความต้องการที่เพียวที่สุด ที่จะทำให้เรามาสมัครในตำแหน่งนี้คืออะไร ขออธิบายด้วยเรื่องเล่าเรื่องนี้แล้วกันนะคะ มีน้องคนนึงค่ะมาปรึกษาจีน่า เขาสมัครตำแหน่งๆ นึง แล้วคนที่เป็น candidate ก็คือคนที่สมัครแข่งกับเขาอะค่ะ ก็ดูเหมือนเป็นตัวเกงอะไรประมาณแบบนี้ เขาก็โทรมาปรึกษาจีน่าว่าเขารู้สึกไม่ดีเลย เขารู้สึกกังวลอะ candidate อีกคนนึงดูเป็นตัวเกง เป็นตัวเก่งมากเลยอะพี่จีน่า หนูเลยรู้สึกไม่ดีเลยอะ หนูเลย Excite มาก หนูตื่นเต้นมาก หนูกังวลมากเลยอะคะ จีน่าเลยถามคำถามเขาว่า งั้นขอถามหน่อย ความต้องการแรก หรือวัตถุประสงค์ที่เพียวที่สุด ที่บริสุทธิ์ที่สุด ที่กลั่นออกมาแล้วว่า อะไรที่ทำให้น้องมาสมัครตำแหน่งนี้อะคะ มันคืออะไรตอบได้ไหม เขาก็บอกว่า ที่หนูตัดสินใจมาสมัครตำแหน่งนี้ หนึ่งเพราะหนูคิดว่าความสามารถหนูถึง หนูมั่นใจว่าตำแหน่งนี้หนูขยัน หนูมีประสบการณ์มาก่อน และหนูทำในทีมนั้นมาก่อนพี่จีน่า ฉะนั้นหนูค่อนข้างมั่นใจว่า ศักยภาพหนูถึงค่ะพี่จีน่า ถ้าวัตถุประสงค์นี้มันเพียวที่สุด มันบริสุทธิ์ที่สุดอะค่ะ เราจำเป็นต้องไปสนใจไหมคะ ใครจะเป็นตัวเก่ง เรามีความรู้สึกว่าคุณสมบัติเราได้ ความสามารถเราได้ ความตั้งใจเราได้ แล้วเราอยากลองมา ลองมาสมัครดู ถ้าวัตถุประสงค์นั้น มันเป็นวัตถุประสงค์ที่บริสุทธิ์ บริสุทธิสุทธิ์ มันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่สนใจเลย ปัจจัยภายนอกมันจะเป็นยังไงก็ตาม ใครจะมองเรายังไงก็ตาม เราจะไม่สนใจ แต่เราจะมาด้วยวัตถุประสงค์ที่บริสุทธิ์และเพียวที่สุดค่ะ จะบอกว่า และเขาก็ได้งานด้วยนะ จีน่าขอให้กำลังใจทุกคนนะคะ ที่กำลังเตรียมตัวในการจะไปสัมภาษณ์งานค่ะ มั่นใจว่าทางเทคนิคต่างๆทุกคนคงเตรียมไปพร้อมหมดแล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการลองไปหาข้อมูลบริษัทที่เรากำลังจะไปสัมภาษณ์งาน เตรียมในส่วนของคำถามที่จะ ตอบคำถามต่างๆก็มีเยอะแยะในอินเตอร์เน็ตค่ะ แต่ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือ วิธีคิดหรือ Mindset ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะสำหรับใครก็ตามที่กำลังเตรียมตัวสัมภาษณ์งานอยู่ค่ะ แล้วก็จีน่าพูดอยู่บ่อยๆเนาะ ว่าการที่ใครคนนึงจะได้งาน ไม่ได้แปลว่าเขาเก่งที่สุด ดีที่สุดนะ แต่แปลว่าคนๆนั้นเหมาะที่สุดกับตำแหน่งงานนั้นนะช่วง ที่จะช่วยที่เราต้องเวลานั้นๆ ลองคิดซะว่าการที่เราได้ไปสัมภาษณ์งาน จะได้งานหรือไม่ได้งานก็ตาม ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้รู้จักคนใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามาในชีวิตเราค่ะ ขอให้เห็นคุณค่าของตัวเองและมีความสุขกับการสัมภาษณ์งานนะคะ