Transcript for:
การสวนปัสสาวะในผู้ป่วย

การสวนปัสสาวะ Unilever Caterpillation หมายถึงการสอดใส่สายสวนปัสสาวะผ่านท่อปัสสาวะเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ จนมีน้ำปัสสาวะไหลออกมา วัตถุประสงค์ 1. ให้กระเพาะปัสสาวะว่างในการคลอดการผ่าตัด บริเวณหน้าท้องส่วนล่าง บริเวณฝีเย็บ และอวัยวะเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ 2. ป้องกันการคั่งค้างของปัสสาวะหลังการคลอด หรือหลังผ่าตัด หรือไม่สามารถปัสสาวะได้เอง 3. การตรวจวัดจำนวนปัสสาวะเหลือค้าง หรือต้องการทราบจำนวนปัสสาวะในแต่ละช่วงเวลาอย่างเที่ยงตรง 4. การล้างกระเพาะปัสสาวะเป็นระยะ Intermittent bladder irrigation หรืออย่างต่อเนื่อง Continuous bladder irrigation 5. ช่วยในการวินิจฉัยโรค เช่น ฉีดสารสีเพื่อทดสอบรูรั่ว หรือการเก็บปัสสาวะสมัย ส่งตรวจกรณีต้องการ ข้อบ่งชี้ของผู้ป่วยที่ต้องได้รับการสวนปัสสาวะชนิดคาสายปัสสาวะ มีอุบัติการสูงขึ้น ในผู้ป่วยที่รับการรักษาในโรงพยาบาลโดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุ และได้รับคำสั่งการรักษาจากแพทย์ตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ เซ็ตสวนปัสสาวะ สายสวนปัสสาวะ และถุงใส่น้ำปัสสาวะ ถุงมือปรัสจากเชื้อ 2 คู่ ชุดส่วนปัสสาวะปลอดเชื้อประกอบด้วย 1. ชาม 1 ใบขนาด 500-1000 มิลลิลิตร 2. ก๊อสพับสี่เหลี่ยม 1 ชิ้น 3. ถ้วยเล็ก 1 ใบ 4. สำลี 7 ก้อนใส่ในถ้วยเล็ก 5. ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลาง 1 ผืนพับวางไว้ อุปกรณ์เครื่องใช้อื่นเช่น ไววอเทอร์ หรือน้ำเกลือนออมอล 8-10 ขวด ถ้าต้องเก็บปัสสาวะส่งตรวจ ฉามรูปไต ถุงมือ สารหล่อลื่น ปากขีบ แอลกอฮอล์เจล ผ้าปิดตา สายสวนปัสสาวะ สะอาดปราศจากเชื้อ ขนาดให้เหมาะสม เด็กใช้ขนาด 6-10 เฟรนต์ ผู้ใหญ่ใช้ขนาด 12-16 เฟรนต์ การเตรียมผู้ป่วย 1. พร้อมที่จะได้เตรียมผู้ป่วย แจ้งให้ผู้ป่วยทราบ บอกว่าถูกประสงค์ 2. ประเมินความตึงตัวของกระเพาะปัสสาวะ และสอบถามการถ่ายปัสสาวะครั้งสุดท้าย 3. กั้นม่านและปิดตาผู้ป่วย จัดให้มีแสงสว่างเพียงพอ ผู้ทำยืนข้างเตียงผู้ป่วยข้างที่ตนถนัดแล้วจัดท่า เพศหญิงนอนหงายชั้นเข่า ดอเซิล ท้าวห่างกัน 2 ฟุต เพศชายนอนหงาย การสวนปัสสาวะในเพศหญิง ตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1. นำชุดสวนปัสสาวะวางไว้ระหว่างขาของผู้ป่วยใกล้อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก เปิดห่อผ้าออกทั้ง 4 มุมและเตรียมอุปกรณ์ต่างๆด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ เพื่อให้มีพื้นที่สะอาดและไม่เกิดการบ่นเปื้อน 2. เทนอมัลสลาย 0.9% หรือน้ำกรั่นปลาสจากเชื้อลงบนสำลีในชามกลม พอให้สำลีเปียก 3. เตรียมสายสวนและบีบสายหล่อลื่นลงบนกอสในชามรูปไต 4. ใส่ถุงมือด้วยเทคนิคปอดเชื้อ เพื่อให้มือผู้ทำสะอาดปลาสะจากเชื้อ สามารถหยิบจับของสะอาดปลาสะจากเชื้อได้ 5. หยิบถ้วยเล็กเข้าไปวางใกล้อวัยวะเพศและทำความสะอาดอวัยวะเพศแล้วหยิบถ้วยเล็กที่เหลือสำลี 1 ก้อนออกไป 6. เปลี่ยนถุงมือใหม่ สวัสดีครับ ส 7. คลี่ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลาง คลุมบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก ให้ช่องเจาะกลางอยู่บริเวณอวัยวะสืบพันธ์ภายนอกด้วยเทคนิคปราศจากเชื้อ 8. หยิบสายสวนปัสสาวะ และทาปลายสายสวนปัสสาวะด้วยสารหล่อลื่น เพื่อช่วยลดโอกาสบาดเจ็บบริเวณท่อปัสสาวะในผู้หญิง ยาว 1-2 นิ้ว วางไว้ในชามรูปไต 9. ใช้มือข้างที่ไม่ถนัด แวกแคมไนในเพศหญิง มืออีกข้างหยิบสำลีที่เหลือ เช็ดรูเปิดทางเดินปัสสาวะ Urital Orifice แวกแคมไนเพื่อป้องกันการปน หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ หลบสายสวนปัสสาวะ 10. สำหรับเพศชาย ใช้มือข้างที่ถนัด เช็ดบริเวณองค์กระชาติ โดยใช้มือคีบสำลีทีละก้อน เช็ดบริเวณรูเปิดของทอบปัสสาวะ เช็ดวนออกมาด้านนอก แล้วเช็ดจากปลายองค์กระชาติ ลงมาที่ฐานองคชาติ 3-4 ครั้งจนสะอาดรอบองคชาติ การเช็ดแต่ละครั้งให้ใช้สำลีก้อนใหม่และไม่เช็ดย้อนกลับไปกลับมา ใช้ก๊อสจับองคชาติด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด กรณีไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายองคชาติให้รูดหนังหุ้มปลายลงมา จับองคชาติทำมุม 90 องศากับร่างกาย เพื่อทำให้ท่อปัสสาวะเป็นแนวตรง จะสามารถสวนปัสสาวะได้ง่าย บอกให้ผู้ป่วยหายใจยาวๆ ค่อยๆ สอดสายสวนปัสสาวะเข้าไปในรูเปิดของท่อปัสสาวะ ลึกอย่างน้อย 6-8 นิ้ว จนมีปัสสาวะไหลลงสู่ชามรูปไต ใช้มือข้างที่ถนัดจับสายสวนปัสสาวะ ปลายสายอีกข้างหนึ่งวางไว้ในชามรูปไต ใช้มือที่แหวกลาเบีย มาจับสายสวนปัสสาวะไม่ให้เลื่อน เทปัสสาวะลงในพาชนะรองรับ 11. เก็บผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลาง วางในชุดสวนปัสสาวะ 12. ถอดถุงมือ นำของใช้ออกจากเตียงผู้ป่วย 13. จัดเสื้อผ้าและให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบาย เก็บเครื่องใช้ไปทำความสะอาด บันทึกลักษณะปัสสาวะและการสวน ได้แก่ วันที่ เวลา เหตุผล ชนิดและขนาดของสายสวนปัสสาวะ สี กลิ่น จำนวน และสิ่งผิดปกติของ ส่วนปัสสาวะที่สวนได้ การใส่สายสวนปัสสาวะแก่ผู้ป่วย ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ การสวนปัสสาวะที่ถูกต้อง ด้วยเทคนิคสะอาดปราศจากเชื้อ ปฏิบัติการพยาบาล ตามลำดับขั้นตอนอย่างถูกวิธี และการให้การดูแล ระหว่างคาสายสวนปัสสาวะอย่างดี จะช่วยให้ผู้ป่วย ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน ระหว่างคาสายสวนปัสสาวะได้