Transcript for:
สรุปประเภทบุคลิกภาพ INTJ

อันดับนี้กลับมากับ MBTI Personality นะครับหลายๆคนเรียกร้องว่าไม่ทำต่อแล้วเหรอจริงๆแล้วเราอยากทำจนครบ 16 Type เลยแต่ว่าค่อยๆ เอาจริงๆ เลือกไม่ถูกว่าจะต้องทำ Type ไหนก่อนหรือว่า Type ไหนหลังนะครับเพราะว่ามีคน Request มาก็คละๆ กันแต่ทีนี้เพราะเอิญว่าน้องคนหนึ่งในทีมของเรานะครับซึ่งก็คือ Tom Simon ใช่สวัสดีครับคุณเป็น Type ไหนครับเป็น Type INTJ ครับ INTJ คือ นั่นแหละก็คือ เอาคนใกล้ตัวเป็นเกมเลยละกันนะครับINTJ เรายังไม่เคยทำแล้วก็เป็น Type ที่น่าสนใจด้วย เพราะว่า 1.มันคือ Type ที่เรียกว่า One of the rarestPersonality Type ใช่ไหมและอีกหนึ่ง คือ One of the most capableคือเป็น Type ที่เก่งที่สุด ประมาณนั้นหรอประมาณนั้นครับ สามารถทำได้ได้เยอะที่สุดชื่อเล่นของ Type นี้ INTJ ก็คือ The Architectเป็นสถาปนิกใช่ไหมใช่ครับเป็นสถาปนิก มีคนดังๆคนไหนบ้างที่อยู่ใน Type นี้ที่มีก็จะมี Elon Muskมี Michelle ObamaVladimir Putin แล้วอีกแล้วก็ Tom Simons แน่นอนโอเค มาดูกันครับว่า Type นี้เป็นยังไงบ้างนะครับนอกเหนือจะเป็น Type ที่มีจำนวนปรับหาได้ หนึ่งใน Type ที่หาได้ยากที่สุด และเป็น Type ที่เก่งที่สุดแล้วนะครับคำขวัญของ Type นี้เลย คือคำว่า Logicคือ Rationality, Reason-คือ พื้นที่สุด ใช่ไหม? ใช่ ทั้ง 3 อย่างนี้ คือ คำว่าที่สุดที่สุดที่สุดของ Typeจริงไหม? ใช่ ค่อยๆผมจะบอกว่า ถ้าคุณคุยกับ Type นี้ มันทำให้ฉันลาฟค์ คิดว่า นี่มันแบบนั้น นี่มันแบบนั้น ใช่ไหมมาดูกัน แต่ต้องดีสเคลมเมื่อก่อนนะครับเรื่องของ MBTI ที่ช่อง KND ทำนะครับ ไม่ใช่คือ เราไม่ใช่ศัลย์ศัลย์เราไม่ใช่ ศัลย์ ที่เป็นพิธีใน MBTI แต่นี่คือเราใช้มันเพื่อ ควบคุมกับตัวเองและนี่คือ ที่เราใช้เพื่อควบคุมกับคนอื่นอย่างน้อยถ้าเกิดเรารู้ว่า ลักษณะพื้นฐานของบุคลิกเรา ของนิสัยเราเป็นแบบนี้เราจะเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น เข้าใจคนอื่นได้ดีขึ้นเพราะฉะนั้นเราก็คิดว่าตรงนี้ใช้เป็นตัวตั้งต้นในการทำความเข้าใจตัวเราและคนอื่นในระดับที่มากขึ้นหรือว่าลึกขึ้นหลาย คนจะบอกว่า โอ้โห คอนเทนต์ที่เราทำมันผิวมากเลยThat's right!

Correct! ถูกต้อง เพราะว่าเรายังไม่อยากจะลงลึกอย่างที่บอกเราไม่ใช่นักจิตวิทยา เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ได้อยากจะลงลุกในเรื่องนี้เพียงแต่ว่าหลายๆ อย่างที่มันบ่งบอกความเป็น Type เนี่ยหลังจากเราได้ทำ Test หลังจากเราได้ทำ Quiz นะครับ แล้วก็อ่านคำจำกัดความของแต่ละ Type เนี่ยมีหลายอย่างที่เราสามารถเอามาขบคิด ทำความเข้าใจและต่อยอดได้นะครับเราก็หวังเอาไว้แค่นี้ว่าทำให้คุณได้เริ่มต้นทำความรู้จักตัวคุณเองและคนอื่นมากขึ้นในโอกาสต่อๆ ไปนั่นเอง แต่สิ่งที่เราพูด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่มันฟันทงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะว่าต่อให้เป็นคนที่นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบบ นี่มันแบ Reason to haveBased according to logicAs opposed toBased everything on feelings right? Opposite of feelingsก็คืออารมณ์กับเหตุผลประมาณนั้นเนอะเราก็จะยึดเรื่องเกี่ยวกับเหตุผลเป็นที่ตั้งสำหรับ INTJ นะครับแล้วก็ Quick with itWhat's the meaning of this word? So quick with it is basicallyมีไหวพลิปSo being able to think quickly and respond effectivelyมีไหวพลิปก็คือ คิดไว หัวไว มีไวพฤติปฏิพันธ์ที่ดีSo these personalities can be both the boldest of dreamers and the bitterest of pessimists.มันหมายถึงอย่างไรครับLike these people can be like both opposite sides of a linewhere one side is very ambitious and thinking of the biggest things in their livesBoldest dreamersกล้าฝัน กล้าทำOr The complete opposite end which is having a complete cynical view of the whole world and being pessimist about itPessimist ก็คือมองโลกในแง่ร้ายSynical ก็คือเชื่อว่าโดยพื้นฐานของทุกอย่างแล้วเนี่ย มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิดว่า มีความคิ I&TJ นะครับ คุณเป็นแบบนี้หรือเปล่าข้อแรกคือYou question everythingตั้งคำถามกับทุกอย่างจริงมั้ยครับ ถามเจ้าตัวYeah, I wouldn't say everything but most thingsBecause there's obviously some things that are already clear and don't need any further questioningBut yeah it's definitely something comes throughout the whole dayAnything new that comes into I'll question it like why does it have to be like that or ทำไมไม่เหมือนกัน มีอัพเทียมทั้งสองอย่างทำไมต้องถาม ความต้องรู้สึกอย่างไรความรู้สึกอย่างไร ทำไมมันเป็นแบบนี้มันต้องมีความคิด ทุกอย่าง You question everything คือข้อที่หนึ่งนะครับข้อที่สองYou are full of contradictionsอย่างที่ไซมอนส์บอกไว้เมื่อกี้นี้คุณสามารถจะเป็นนักฝันที่กล้าหาดที่สุดและเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายและก็ขมขึ้นกับชีวิตที่สุดYou are full of contradictionswhich means something that is the opposite of each otherอะไรที่มันขัดแย้งตรงข้ามกันถูกไหม เป็นไหมครับI can't really tellSo like the example they have here is You can be imaginative but at the same time also very decisiveSo those two are quite opposite in a way that imaginative isBe having a broad mind thinking out the box but decisive is like a single thingFocusing on a single thingเพราะฉะนั้นมันไม่ใช่ complete opposite ในแง่ที่ว่าImaginative กับ UnimaginativeCorrectแต่ว่ามันจะเป็น Imaginative ในแง่ที่ว่า เฮ้ย เขา enjoy ในการฟุ้งฝันคิดนู่นคิดนี่ แต่ decisive มันคือ เลือกหนึ่งอย่าง ใช่ambitious yet privateหรือว่า curious yet focusedใช่You don't mind acting aloneOh okay so you don't mind being a lone wolf ใช่ มีความสำคัญในตัวของฉันฉันไม่สนใจทำงานเดียวเองแต่ไม่ใช่ว่าฉันอยากทำงานเดียวเองมีความสำคัญในการทำงาน มีความสำคัญในการทำงานเดียวเองแต่ถ้าเป็นแบบ ทำงานเดียวเอง และไม่มีอัลฟิล์ม ไม่สนใจทำงานเดียวเองมันเป็นความสำคัญที่ไม่สนใจอาจจะเป็นเพื่อนคนที่ต้องทำงาน ทั้งหมด ที่ช่วยกับคนอื่นๆ4. คุณต้องการแน่นอน Rationality and success over politeness and pleasantries.I think this is definitely a thing where คิดว่า มันคือ จริงๆ สำคัญ ที่จะได้ถึงที่สุดกว่าจะต้องการต่อไปต้องการอะไรต้องการอะไรต้องการอะไรต้องการอะไรต้องการอะไรต้องการอะไรต้องการอะไรอาร์คิเทค ไม่รู้ว่า มันเป็น สี และ หัว และ สีอาร์คิเทค ไม่รู้ว่า มันเป็น สี และ หัว และ หัว และ สี ไม่ได้เป็นที่รู้จักในนามของคนที่เป็นคนที่แบบ ละมุนตุ้น มีความอบอุ่น มีความแบบอ่อนโยนจริงไหมอ่า ย่า อ่า ไม่ดีกว่าคน โอเคส่วนใหญ่ คือเจอกับคนใหม่ หรือคนที่ไม่รู้หรืออะไรที่มีการพูดถึงคนอื่น ที่ไม่รู้หรืออะไรมันคือสิ่งที่สุดท้ายที่สุด แต่ถ้าไม่ได้ ผมจะทำให้ไม่ได้โอเค ค่อนข้างชัดเจนนะครับเพราะฉะนั้น รุปนี้อาจจะไม่ใช่รุปที่เป็นคนที่แบบนายซ์ แล้วก็แบบอบอุ่นอ่อนโยนอยู่ด้วยแล้วรู้สึก โอ้ ฮองฟู ดีต่อใจ ขนาดนั้น เพราะว่าเขาเป็นคนที่ยึดทางฝั่งเหตุผลGet to the point มากกว่านะครับโอเคเขาบอกว่า AKA You'd rather be right than popularYeah that is so correctI...

being right is like the most important thingBut it's not as in like right as being the right thing to doBecause it's...Morally rightYeah morally right not morally rightBut right in the way that because it's the best thing to doIt's... ความถูกต้องทำ คือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคือ มันคื to be popular and you want to get to you know the bottom of this like whether or not it isright or correct yeah ah okay นะครับ ข้อห้าบอกว่า you think many common socialpractices from small talk to white lies seem pointless and downright stupid แรงอยู่นะdownright stupid คือแบบ งี้เง่าอ่ะ ทำไมจะต้องมานั่งแบบ เอ่อ เขาเรียกอะไรsocial practice บางอย่างคือแบบ มรยาติวิถีทางสังคม บางอย่างการ Small Talkการชวนคุย ลมฟ้าอากาศหรือว่า White Lies การพยายามแบบพูดโกหกให้คนรู้สึกดีเนี่ยเป็นเรื่องที่แบบ Stupid เนี่ยNingau หรือว่า PointlessPointless แปลว่า ไร้ประโยชน์Useless Pointless คือ UselessจริงไหมครับI wouldn't say it's 100% for meI'd be somewhat like 70ishBecause I still do think that these social practicesWell พวกนี้ยังเป็นสิ่งที่สามารถปลอดภัยเพราะว่าพวกนี้ก็คือสิ่งที่จะปล่อยเราจากความปัญหาแน่นอนว่าพวกนี้จะเป็นสิ่งที่จะทำให้เราไม่ต้องกลัววันจังเลยอย่างนี้คุณไม่ต้องกลัวคนแบบนี้ใช่ ใช่เขาบอกว่าพวกนี้ก็คือความปัญหาที่จะทำให้เราไม่ต้องกลัวและก็คือความที่จะทำให้เราไม่ต้องกลัวและก็คือความที่จะทำให้เราไม่ต้องกลัวและก็คือความที่จะทำให้เราไม่ต้องกลัวก็คือความที่จะทำให้เราไม่ต้องกลัว ความรู้สึกว่าไม่เห็นจะเป็น จะต้องมานั่งแบบโกหกหรือว่ามานั่งแบบพูดเอาใจกันเลยพูดตรงๆไปเลยดีกว่า อันเนสไปเลยดีกว่าคนก็เลยอาจจะมองบางครั้งว่าเราอะ รูดหยาบคายไม่มีมารยาท อาจจะเป็นไปได้แต่ผมคิดว่า มีครั้งมีมีความรู้สึกว่าคุณจะบอกให้พวกเขา แล้วพวกเขาจะรู้สึกแล้วพวกเขาต้องทำอะไรกับมันไม่ใช่แบบ บอกให้พวกเขารู้สึก You don't want to be mean to peopleRightโอเคข้อ 6 ครับข้อ 6 เขาบอกว่าYou prefer to surround yourself with people who share your values and priorities.ก็คือเป็นคน Socialist Selective มากไม่จำเป็นจะต้องไปคบกับทุกคนแต่ว่าอยากจะเลือกคบเฉพาะคนที่แบบคิดเห็นตรงกันให้คุณค่ากับสิ่งของอย่างเดียวกันหรือว่าให้ความสำคัญกับเรื่องเดียวกันเท่านั้น ฉันเชื่อว่า ฉันไม่มีเกี่ยวเยอะที่มีเพื่อนไม่ใช่ว่าเป็นสงสัย แต่ก็เพราะว่าเหมือนกับที่บอก ฉันเลือกคนที่อยู่กับฉันเพราะว่า ตอนที่ฉันกลับโรงเรียนมีความคุ้มที่เจอเพื่อนกันและอีก 80 คน หรือ ฉันพูดกับทุกคนและดูใครคิดว่า ใครคิดว่า ใครไม่คิดว่า แล้วฉันจบกับ 3 คนที่ดีกว่าแต่ฉันยังไม่รู้ทุกคนและยังคุยกับทุกคนแต่ฉันเลือกคนที่ฉันแบ่งทุกอย่างและไปกับคนที่ฉันดีกว่าคุณแบ่งคนที่คุณรู้สึกด้วยและชอบคนที่รู้สึกแบบ ใช่จริงๆ คนนี้ใช่จริงๆชอบคนนี้จริงๆ ถึงจะแบ่งคนกับเขาแบ่งคนก็แปลว่า เป็นเพื่อนกับto befriend with someoneแต่ถ้าสกุลเกิดไม่อยากจะ be หรือว่า with อะไรอย่างนี้befriend คำเดียวก็แปลว่าเป็นเพื่อนกับแล้วนะครับข้อ 7 ครับ บอกว่า คุณเชื่อว่า ด้วยความมั่นและความอาจริงคุณก็สามารถสร้างที่สุดที่สุดต่อให้เป็นเรื่องยากแค่ไหนคุณเชื่ออย่างสุดใจเลยว่าถ้าตั้งใจจริงๆ ถ้าใช้ปัญญาสู้กับมัน ใช้ความรู้สู้มันไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ จริงมั้ยครับใช่ นั่นคือจริงๆคุณคิดว่า ด้วยความสุดท้ายทั้งคู่คุณคิดว่า ทุกอย่างก็สามารถสร้างอ๋อ โอเค เพราะว่า มันคือ สถานที่ที่สุดที่สร้างทุน ที่จะทำอะไร และทำอะไรที่สุดที่สุดคือตั้งใจและใช้ความรู้เขาก็เลยบอกว่าYou are confident in your ability to teach yourself about and master any topic that interests you.คือถ้าสมมุติเกิดสนใจอะไรขึ้นมาสักอย่าง รับรองว่าสามารถจะเรียนรู้ด้วยตัวเองจนเก่งได้นี่คือ INTJ หรือว่าคือ The Architectข้อแปดบอกว่า You can sometimes be cynical about human nature.คำว่า cynical เราพูดมันตั้งแต่แรกเลยก็คือ มองโลกในแง่แบบร้ายหรือหลบไว้ก่อนExpect the worstExpect the worstYeah, you expect the worst out of peopleRightBasicallyก็คือ เขาบอกว่าMore generally assuming that most people are lazy, unimaginative, or simply doomed to mediocrityคือเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เนี่ยถ้าโดยพื้นฐานธรรมชาติมนุษย์แล้ว ขี้เกียจ ไม่มีจินตนาการขนาดนั้นแล้วก็ที่สุดแล้วก็จะลงเอ่ยเป็นคนกลางๆคนหนึ่งMediocrity ก็คือไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้แย่เพราะฉะนั้นก็คือกลางๆพอใช้ได้เท่านั้นนี่คือสิ่งที่คุณมีแนวนมที่จะเชื่ออย่างนี้อันนี้จริงไหมIt's pretty harshIt's pretty harshI wouldn't say it's not in all situationsI think it's อีกที่คิดว่า พอเจอคนแล้ว คุณก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่สงสัยคุณก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่สงสัยแต่ในส่วนตัวต่างๆ ผมคิดแบบนี้ก็ได้แต่คิดว่า ถ้าผมอยู่ที่ที่นี่แล้วผมไปที่รสเตอร์ต ที่ไม่มีรายการที่ราคาแล้วพอกินแล้ว แล้วกลับมาขายทุกอย่าง แล้วฉันเห็นคำสั่งแล้วคิดว่า มันคิดว่า ประมาณนี้ถ้าคนมีโอกาสจะทำร้ายคนได้เขาจะทำร้ายถ้ามีโอกาสที่จะเอาเปรียบคนได้เขาจะเอาเปรียบอันนี้คือคนที่เป็นซีนิโคลนะคือประมาณนี้นะครับผมเชื่อว่าทุกอย่างมีสเปคตรัมบางคนอาจจะเป็นอย่างนี้เยอะ บางคนอาจจะเป็นอย่างนี้น้อยๆแต่ว่าเป็นหนึ่งเทรดที่ค่อนข้างเด่นชัดสำหรับ INTJ นะครับลองเช็คกับตัวเองดูว่าใช่หรือเปล่าข้อต่อมาเขาบอกว่าIn school, people with this personality typemay have been called bookworms or nerds ไอ้ MTJ เนี่ย ตอนเรียนเนี่ย อาจจะถูกเพื่อนเรียกว่าเป็นนอนหนังสือหรือว่าเป็นเนิร์ดHave you been called that before? No, I haven't been called a bookworm or a nerdหรอ?

I didn't really read many books throughout my schoolI wasn't a book kind of a guyIn terms of nerd, I wouldn't say I was exactly called a nerdBut I was more of like always on my computer kind of a guySo I guess in that way you... คุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณคุณค พวกมันคิดว่า พวกมันจะแบบว่า อะไร ไม่ต้องการว่าผมก็แบบ อยากถามว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเข้าต่อมาบอกว่าอาร์คิเทคต์ คือ คนที่ไม่มีความสามารถ จะถ่ายภาพที่สุดในการเตรียมและการการการการรายการอีกก็คือ ไม่ถ่ายรูป ไม่แชร์ ไม่เซลฟี่ ไม่อะไรตรงไหมครับใช่ นี่คือ สิ่งที่ผมก็ไม่ได้ทำได้ผมแค่จะถ่ายภาพที่สุด ฉันจะไปที่ที่มีความสนใจสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุดสุ แบบ ความอินเตอร์คืออย่างสำคัญ แต่ผมไม่อยากรู้ผมอยากไปตามคำสั่งความอินเตอร์ หรือคำสั่งความอินเตอร์เพราะมันก็ง่ายกว่าเราผมไม่ว่า มีครั้งมือมันก็ยังมีความอินเตอร์แต่ความอินเตอร์ก็ยังอยู่ในกลางแต่ในเวลาที่มีความอินเตอร์ ความอินเตอร์ก็ยังมีความอินเตอร์และในบางครั้งก็ความอินเตอร์ก็ยังมีความอินเตอร์ เพราะว่าอย่างที่เราได้ฟังกัน Architects เนี่ยRationality is kingคือเขายึดเรื่องเหตุผลมากที่สุดถ้าเป็นไปได้ ไม่อยากจะไปแตะฝั่ง Emotions เลยแต่หลายๆครั้งมันก็มีผลกระทบอย่างที่เราก็ไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่แต่มันก็เกิดขึ้นกับเราอยู่ดีนะครับอันต่อมา You feel uncomfortable when it comes to display of affectionเขาว่า display of affection คืออะไรอะIt's just การแสดงความรักAnything from like แบบการสังหรับ หรือบอกแบบนี้ หรืออะไรแบบนี้ใช่ การแสดงความรักในทุกรูปแบบเป็นสิ่งที่ INTJ จะรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวจะทำจริงไหมฮะใช่ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรที่ไม่สบายแต่มันคือ ไม่เคยเคยทำโอเคเมื่อที่คุณอยากจะบอกคนที่คุณรักพวกเขาคุณจะแสดงว่าจะทำยังไง ปกติปกติ? เพราะฉันรักพวกเขาถ้าคุณอยากให้คนนั้นรู้ว่าคุณรักพวกเขาคุณจะทำอะไร? ผมจะบอกว่า มันก็มีความยากมากที่ผมไม่ได้แสดงที่จะแสดงที่จะแสดงที่จะแสดงที่จะแสดงที่จะแสดงที่จะแสดงที่จะแสดงที่จะคุณคุณจะรักพวกเขาคุณจะรักพวกผม คุณจะรักพวกผม หรือคุณจะรักพวกผมคุณจะรักพวกเขา หรือคุณจะรักพวกเขาไม่จริงๆ ฉันมี 2 พี่สาว และมันยังไม่ได้แสดงให้มีความรักไม่รู้ทำไม มันไม่เห็นเป็นแบบภาพที่จะทำแบบนี้มันไม่ใช่แบบนี้และฉันได้ยินเรื่องของเพื่อนๆ ว่า ฉันไปเจอพี่สาว ฉันไปเจอแม่ เราทำแบบนี้ เราทำแบบนี้ฉันอยากทำแบบนี้ แต่มันก็ไม่สนิท มันคือสิ่งที่ผมสามารถเปลี่ยน และผมอยากเปลี่ยนตอนนี้แต่มันคือสิ่งที่ผมไม่สามารถเปลี่ยน แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแต่คุณสามารถเปลี่ยนใช่ อันนึงที่ INTJ จะไม่ถนัดในการทำคือShowering someone with loveการประพรม Shower someone ก็คือทุ่มเทะแสดง และประพรมความรักให้กับเขา ก็คือการพูดแบบทุกอย่างเลยซื้อของให้ กอด จูบ พูดชมเชย บอกรักตลอดเวลานั่นคือสิ่งที่ INTJ จะไม่ถนักในการที่จะทำอันต่อมาครับ Architects can get impatient with anyone who seems to value feelings more than factsก็คือนอกจากตัวเองจะไม่อยากจะคล่องแวะกับเรื่อง emotion มากเกินไปแล้วเพราะว่าเดี๋ยวมันจะมา Trump เรื่องเหตุผลของเราใช่ไหม ยังรู้สึกหงุดหงิดGet impatient with someone ก็คือจะรู้สึกหงุดหงิดกับคนที่แบบแบบ emo อยู่นั่นแหละแล้วก็แบบตัดสินทุกอย่างหรือว่าทำทุกอย่างจากแค่ความรู้สึกหรือว่าอารมณ์แต่ไม่สนใจเหตุผลเลยจะหงุดหงิดกับคนอย่างนี้มากจริงมั้ยครับYesI've hadตอบเร็วมากSo I've been in situation with people whereit was like a folk in a roadwhere they had to choose between two things แล้วหลายคนจะบอกว่า ฉันเลือกแบบนี้เพราะฉันอยากทำแบบนี้จนกว่า ฉันอยากทำแบบนี้เพราะมันคือทางที่ถูกทำหรือแบบที่มีการทำได้อีก แบบนี้ก็มีความล่าว่าจะทำได้แล้วมันจะฆ่าคุณใช่ มันเป็นแบบที่เกิดมาในหัวฉัน คือ ทำไมคำว่าทำไมเห็นไหม คุณต้องมีเหตุผลใช่ ถูกคำว่าแกจะแสดงว่า ทำไมคุณต้อง นั่น แล้วเมื่อเจ้าถาม พวกเขาบอกว่า ฉันอยาก ฉันอยาก อืมแล้วพวกเขา ตามว่า ฉันอยาก ฉันอยาก ฉันอยาก เอาไหล่ อ่า นั่นแน่ใจแล้ว แน่ใจโอเคอาร์คิเทคซ์ ห่วงตามอะไร ไม่รู้หรอกอ๋อ ต่อมากับ สิ่งที่ไม่รู้หรอก Blindly following ก็คือทำตามด้วยหลับหูหลับตาก็คือไม่สนใจว่าเหตุผลคืออะไรเขาอาจแค่แบบ ชอบคนนี้ก็ทำตามแต่ INTJ จะรู้สึกเหมือนแบบแล้วทำไมThere has to be a reasonWhy you choose to do whatever that person tell you to doWhy you choose to do whatever that person tell you to door whatever rightคือต้องขอเข้าใจก่อนว่าทำไมถึงจะยอมทำตามThat's rightเพราะฉะนั้น สิ่งนี้เนี่ย มันคือสิ่งที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็น Authorityหัวหน้า ครู อะไรทั้งหลายเนี่ยที่เขาจะแบบ impose เราimpose ก็คือ สั่งให้เราทำ โน้นนี่นั่นเนอะเราก็จะแบบ question เขามากเหตุผลคืออะไรครับ ขอเหตุผลด้วยครับนะครับและคนเหล่านี้เขาบอกว่าThis type of people can get caught up in arguingabout useless rules and regulationsกฎนี้มีไว้ทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์เลย อัพเดทได้แล้ว อันนี้เฉยแล้ว ไม่ใช่ ตั้งกฎนี้ทำไมคุณก็จะยอมเสียเวลากับการไปเถียงกันเรื่องนี้Yeah, I don't remember exactly but there was a situation whereI found this really random and weird ruleand I complained the whole day to my friends about itlike why is it like this and I always came back to iton that day I don't know why I just kept coming backcouldn't get it out of my headMove on ไม่ได้กับเรื่องที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลโอเคครับ แล้วสุดท้ายครับ You are romantically clueless.เวลาเรา clueless กับอะไรสักอย่าง ก็คือเราทั้งไม่รู้ประสีปราศาไม่รู้เรื่องเอาซะเลยกับเรื่องนี้คือ cluelessคือ you have no idea how things work.Romantically clueless ก็คือ ในเรื่องเกี่ยวกับความรักนั้นไม่ประสีปราศาเอาซะเลย คือ อ่านในเซนส์ที่ว่าสมุทรนะครับมีคนมาชอบเนี่ย ก็จะไม่รู้ตัวYeah.

ประมาณนั้นYeah. ฉันเคยมีความรู้สึกว่า ฉันเคยมีคนที่ชอบฉัน แต่ฉันไม่รู้แล้วเมื่อสองปีหลัง คุณเพื่อนเขามาบอก ว่าคุณกำลังทำร้ายใจของคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหนมันเป็นความสงสัย และฉันก็รู้สึกแย่ และฉันไม่ได้ทำอะไรอีกอันหนึ่งที่น่าสนใจมาก เป็นหรือเปล่าข้อนี้อีกอันหนึ่งที่น่าสนใจมาก เป็นหรือเปล่าข้อนี้ Their relationships fall apart for reasons they don't understand.They can become cynical about matters of the heart,even questioning the importance of love and connection.คือถ้าเกิด relationships fall apart ก็คือความสัมพันธ์จบโลกเนอะต้องเลิกกันต้องอะไรกันสักอย่างหนึ่งเนี่ยด้วยเหตุผลที่เขาไม่เก็ตว่านี่เราเลิกกันเพราะเรื่องนี้จริงเหรอวะหรือว่าสมมติเธอ แฟนอาจจะบอกว่า เลิกกันเพราะว่าเธอไม่มีเวลาให้ฉันเลยแล้วเราไม่เก็ตว่า ไม่มีเวลาให้คือยังไงวะมันจะทำให้มุมมองของเราที่มีต่อความรัก ความสัมพันธ์ เปลี่ยนไปเลยคือแบบ ไม่ต้องไม่มีแฟนดีกว่าวะถ้าสมมุติเกิดจะไม่เข้าใจกันเรื่องอย่างนี้จริงไหม ประมาณนี้ไหมใช่ มันคือแบบนี้ฉันไม่มีความสัมพันธ์ ที่จะทำให้ฉันไม่มีเหตุผลเพราะฉันมีเหตุผลคุณมีเหตุผล และคนอื่นมีเหตุผลของเขา ถ้าจบแบบนี้ ไม่มีอะไรแต่ผมไม่มีความคิดว่า มันจะหลบไปไม่มีอะไรแต่ผมจะบอกว่า มีการสู้ไม่มีความคิดและมันจะทำให้คุณถามว่า มันบอกว่าคือทะเลาะกันไม่เป็นเรื่องอย่างไรในมุมของเราเนอะในความรู้สึก มันจะเหมือนว่ามีความคิดว่า เราทำไมต่อสู้มันไม่มีความคิดว่า เราทำไมต่อสู้เพราะว่า คุณไม่รู้สึกมันเป็นเรื่องร่วมกัน และฉันไม่ได้รู้ แม้ว่าพวกเขาบอก ฉันจะต้องรู้ว่า ให้ฉันมีความรู้สึกโอเค นี่คือสิ่งที่คุณจะไม่รู้สึก ให้มันเกิดความล่มสลายบางอย่างกับตัวคุณได้เช่นเดียวกันก็คือเรื่องที่คุณยืนยันว่าฉันต้องการเหตุผลนี่แหละเพราะฉะนั้นนั่นคือ 15 ข้อRoughly ผมเชื่อว่าน่าจะมีอีกแต่ว่า 15 ข้อนี้น่าจะทำให้เห็นภาพชัดก็ว่า INTJ, Personality Type หรือว่าที่เรียกกันว่า The Architect เนี่ยมีลักษณะยังไงลองใส่คะแนนไว้ไหมครับว่าใครสงสัยว่าตัวเองเป็น INTJ หรือเปล่า หรือว่าเคยไปเทสแล้วอยากจะ make sureได้กี่คะแนนจาก 15 คะแนนใส่��ว้ใน comment section นะครับ