Transcript for:
สรุปแนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2023

ครับอาจารย์สมภพครับ ตอนนี้เราอยู่ในเดือน 4 หาคม ก็กลาง กลาง Q3 นะ กลาง กลาง Q3 อาจารย์มองว่า กลาง กลาง Q3 ไปถึง Q4 ชื่นปีเนี่ยอาจารย์ เศรษฐกิจโลกมันจะเป็นยังไง บางท่าน ผมคิดว่าตอนนี้น่าเป็นห่วง -น่าเป็นห่วงเลยนะครับ ค่ะ ค่ะ น่าเป็นห่วง คือน่าขึ้น เพราะว่าอาการของตลาดหุ้นที่มันทราร่อน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเป็นตัวชี้เลย แต่ว่าต่อไปมันจะมีปัจจัยเสี่ยงปัจจัยความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอย่างมากเลย เพราะอะไรครับ เพราะว่าเราก็จะเห็นล่ะในช่วงครึ่งปีหลังเนี่ยมันจะเป็น มันจะเป็นโลกที่มีความกระเพิ่มไหวในหลายๆด้าน ตัวอย่างเช่น เครื่องคอเพิ่มร้ายมากที่สุดเป็นจุดโฟกัสของโลกเลยก็คือการเลือกตั้งในสถานีวิกา และข้อสำคัญคิดว่าขนาดนี้ บาดเบอร์กำลังจะลงจากดำแหน่ง เหลือเวลาเป็นแค่ 5-6 เดือน ต้องดูว่าบาดเบอร์จะทิ้งทวนไหม ทิ้งทวนเรื่องตะวันออกกลาง ทิ้งทวนเรื่องรัสเซีย ยูเครน ตอนนี้ก็เริ่มส่ง F-16 เข้าไป ใช่ไหม ต่าง เข้าไป มันก็เลยทำให้คนเริ่มไม่แน่ใจ พอประจายเสี่ยงมันเพิ่มขึ้น และจริงๆไม่น่าแปลกใจที่หุ้นมันขึ้นมานาน มันก็เลยเริ่มเทขายกัน เก็บเงินสดไว้ก่อน เพื่อว่าปลอดภัย และยิ่งถ้าเผื่อว่าเหตุจารย์ของรัสเซีย ยูเครน บานปลาย ซึ่งทำท่าจะเป็นอย่างนั้น พอรัสเซียก็ลุกหนัก และยูเครนก็ได้รับความชื่อเหลือจาก NATO เพิ่มมากขึ้น มันก็ไปเชิญหน้ากันเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นถ้าเผื่อกันสู้รกบานปลาย มันขยายตัว ก็กระทบต่อเรื่องของพลังงาน เรื่องน้ำมัน เรื่องแก๊สธรรมชาติ เรื่องต่างๆพวกนี้ และยิ่งสมทบด้วยกรณีของอิรันด์กับอิสราเอล ธรรมดาศร้ายด้วย มีเรเบอร์นอนด้วยตอนนี้ 2 ภาษาเลย 2 ภาษานั้นก็จะทำให้ราคาพลังงานแกว่งไกวมาก ทำให้ระบบการขนส่งคมนครมโลกถูกกระทบ เพราะว่า กูจะเดินเรือไปแถว ช่องแคบทั้งหลาย ช่องสุเวสทั้งหลายมันก็จะยากลำบาก ไปแถวอะไรทั้งหลายเนี่ยนะ แล้วข้อสำคัญก็คือ แล้วคือเรื่องของการขนส่งทางอากาศ มันก็จะเครื่องบินก็บินผ่านไม่ได้ มันจะตามมาเยอะแยะมากมาย และข้อสำคัญถ้าราคาน้ำมันราคาอะไรต่างๆมันพูดที่ยายขึ้นอีกครั้งหนึ่งเนี่ย เงินเฟ้อมันก็จะกลับกินมา อันนี้น่าจะเป็นห่วงมาก และเงินเฟ้อตอนนี้โลกทั้งโลกเดียวหวังว่า เฟ็ดเนี่ยจะลดอันสารของเบี้ยที่มีกัญญานี้ ก็จะลดไหมครับ ถ้าเผื่อเงินเฟ้อไม่ขึ้นมาแล้ว เพราะว่าการปกติเขารดแน่นอน ดูลูกการณ์นั้นนะ ยิ่งตอนนี้ยิ่งโอกาสจะลดยิ่งสูง แต่ถ้าเผื่อมันมีอาการกระเพื่อมไหวอย่างนี้ มันลดลงไปแล้วเป็นไง เกิดเงินเฟ้อมันเผยเยอะขึ้นมาใหม่ มันจะตายเลย คุณไม่รู้จะเอาเครื่องมืออะไรไปปฏิหารแล้ว กว่าคุณจะเอาเงินเฟ้อรอบที่แล้ว ตอนที่มันเริ่มเกิดสงครามระหว่างรัฐเซีย อุกรันดิ์ใหม่ให้อยู่ตัวได้ เรียกว่าเงินตกกีด ต้องขึ้นออกเบี้ยไปต้อง 10 กว่าครั้ง จากใกล้ๆ 0% ไป 5% ก็ติดรังแห่งอาจารย์ไปด้วยไง ต้องปรับตรงวิทยาตามขึ้นตามกันหมด เกิดกันโยกย้ายไถเทเงินทุนที่ไหนมีประโยชน์มาก มีโอกาสหาประโยชน์มากกว่า เงินทุนมันก็ไหลไปที่นั่น อเมริกากับญี่ปุ่นมีโอกาสมาก เงินทุนมันก็ต่างไหลเข้าไปหาประโยชน์ในเศรษฐกิจญี่ปุ่น เศรษฐกิจอเมริกา เช่น หากินกับในตลาดหุ้นบ้าง ตลาดตาสาน ตลาดพันธบัตรอะไรทั้งหลาย ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตาม มันโยกไปโยกมา อย่างที่เห็นนี่แหละ ฉะนั้นก็หวังว่าในช่วง 5-6 เดือน ซึ่งเป็นเทอมของบายเดน มันจะมีสภาวะของการบริหารจัดจานได้เพิ่มมากขึ้น เพราะขณะนี้เราจะเห็นเลยว่าการพัฒนาศรีกิจของโลกเนี่ยมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับศรีกิจตรงๆ แต่มันมาจากปัจจัยทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ด้วย มาจากปัจจัยทางด้านความมั่นคงเรียนต่างๆ ด้วย ถ้าเราสังเกตดูแต่ก่อนเนี่ย เวลาเราพัฒนาศรีกิจเนี่ย เราได้ยินคำว่า การพัฒนาศตรีกิจ หรือการขยายตัวทางศตรีกิจ เราได้ยินคำว่า Economic Development, Economic Growth แต่ตอนนี้ไม่ใช่ แต่ตอนนี้มันมาเป็นอะไรแทนครับ ว่าเป็นคำว่า Economic Security ความมั่นคงทางศตรีกิจ เอาความมั่นคงเข้ามาเกี่ยวกับภักดิ์ มาบริหารจัดยานเรื่องศตรีกิจ ใช่ไหม มันก็เลยเกิดความขัดแย้ง เกิดอย่างนั้นแยกคู่ก็แยกฝ่ายกัน แต่พอคุณใช้ตูดแปลโทนิป ปั๊บเป็นไงครับ อัมพิการก็บอกว่า จีนเนี่ย เป็นภัยหรอกว่ามันคง ติ๊กต๊อกไปลงทุนในอเมริกา ก็ไปล้วงความปั๊บจากคนอเมริกัน อะไรทั้งหลายใช่ไหม อะไรทั้งหลายเนี่ย แล้วพอมันเป็นอย่างนี้ปั๊บมันก็เลยเป็นอย่างนั้น มันก็เกิดการแยกกู้แยกฝ่ายกัน เรื่องอันนี้มันเริ่มต้นตั้งแต่สมัยทรัมป์ล่ะ ที่เริ่มต้นจากสงครามการค้าตั้งแต่ปี 2018 เนี่ย ถ้าเรามองย้อนหลังต่อไปเราก็จะเห็นเลยว่า ในปี 2018 ก็คือ คือปีสุดท้ายของเทอมที่ 1 ของสีจิ้นปิง ในฐานะของพนาภัยดี ตั้งแต่ปี 2013 สีจิ้นปิงขึ้นมา จำได้ใช่ไหม ช่วงนั้นก็เป็นช่วงบาลักษณ์อัลวามาเป็นพนาภัยดีอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับชีน ก็ยังดำเนินไปได้ค่อยๆ ดี ไม่ค่อยมีปัญหาเท่านั้น แต่ช่วงนั้นนะครับ ไปมหาสู่กัน บายเดนตอนนั้นเป็นรองพนาภัยดี ไปชีนเป็นว่าเล่นเลย นายคงจำได้ใช่ไหม ไม่รู้นะกี่ครั้ง แต่ว่าพอมาถึงทรัมป์เนี่ย ที่ขึ้นมาตั้งแต่กัน กับปี 2017 ครับ ทรัมป์เนี่ย ปีแรกก็ยังดีมากนะ อืม ก็น้องธรรมสีจิ้นผิงกับทรัมป์เนี่ย ครับ อ่า ดี ดีมาก ดูจากอะไรครับ เขาไปเยือน เขาไปเจอกัน อ่า สีจิ้นผิงก็ได้ รับเชิญจากทรัมป์ให้ไป มา ที่ ครับ เห็นไหม ชื่นมืนกันมาก อ่า ระหว่างที่มีการจัดงานเลี้ยงอะไรกัน ใหญ่โตนี่นะ เป็นไง ทรัมป์ก็เอาหลานสายหลัง หลานชายเนี่ย มันร้องเพลงจีน อืม ให้สีจิ้นผิงก็มานําฟัง ครับ นะ เพราะว่า เพราะว่า เนี่ย ไม่ว่าจะเป็นลูกของไมเต้ ลูกของทรัมป์ มันรีบทางจีนหมดนะ อันนี้น่าแปลกมาก ดูมาถึงว่าจะมีช่องว่างกับจีนใช่ไหม แต่เราก็รู้หลอกว่าพวกนี้ทำธุรกิจไง อย่างทั้งลูกสาวอีวัลก้ากับลูกเขยจานิดคุชน์เนอร์ ก็มีธุรกิจในเมืองจีน ก็ไปหมาสูตรกับจีน ก็ให้ลูกสาวลูกชายเรียนภาษาจีนได้เลย แต่ว่าขณะดูกันเนี่ย ถ้าเรื่องการมือความผิดความผิดความเป็นอีกเรื่องดิ แล้วก็เห็นแหละว่าหลังจากที่ ทรัมป์ขึ้นมาบริหารประเทศแล้วเนี่ย จนมาถึงปี 2018 มันก็เริ่มขัดแย้งกัน นะ ก็คือเริ่มเกิดสงครามมันช้าก่อน แล้วก็ตามด้วยสงครามเทวดี มันมีจุดไหนที่ท่านเขาคิดว่า เราต้องใช้นโยบายแบบเข้มแข็งกับจีน มีจุดไหนครับอาจารย์ ผมว่าเขาคง ความจริงแล้วเนี่ย อเมริกาก็มองจีนว่ามี เพราะว่าเป็นคู่แข่งมานานแล้วแหละ แต่ยังไม่เห็นถึงศักยภาพของจีน ยังไม่เข้มข้น และตัวชี้ขาด ถ้าเราดูให้ดี มันคือตัวแปรอะไร ถ้าเราถามว่าอเมริกาเป็นควง แล้วรู้ว่าค่อนข้างจะกังวลเกี่ยวกับชีนมากที่สุด เราหาตัวแปรสักตัวหนึ่ง ว่าตัวแปรตัวนั้นคืออะไร อันนั้นเราจะเห็นเลย คืออะไรครับ วิทยาศาสตร์ในเทวอีย์ ตัวนี้แหละ ถ้าชีนไม่มีทีท่าว่าจะพัฒนาไล่ทันอเมริกา หรือว่าเริ่มหายใจรถที่คอ อเมริกาก็คงไม่ได้มองชีนเป็นคู่แข่งมากมาย ถ้าขาขายทุบ ทั่วไปยังโอเค แล้วไม่ใช่ว่ากับจีนนะ ชาติไหนก็ตามจะขึ้นมาทำท่าจะขึ้นมาวัดหลอยเท้า ทำรัฐสมีอเมริกาเนี่ย ต่อให้คุณมหาวิทย์เนี่ยคุณก็จะถูกจัดการ แล้วจำได้ว่าอเมริกาเคยจัดการกับญี่ปุ่นมาก่อน ญี่ปุ่นโอ้โหก็เรียกได้ว่าใกล้ชิดกับอเมริกาแค่ไหนเราก็รู้อยู่แล้ว ใกล้ชิดถึงขณะที่ญี่ปุ่นมีฐานทัพของเมริกาตั้งอยู่เนี่ย รวมกันแล้วนับร้อยแห่งนะครับแล้วก็มีฐานประจำการอยู่ด้านนี้ อยู่ต้อง 50,000 กว่าคน จนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงอันนั้นคุณทำท่าจะนำหน้าอเมกาด้วยเรื่องอะไรครับ เรื่อง Semiconductor นี่หนังว้นเก่าเลย ประมาณสักปี 1980 กว่า ญี่ปุ่นพังหลายขึ้นมาอย่างน่ากลัวมาก แล้วก็พยายามที่จะมีเป็นศูนย์การการผลิต พวกชิปพวกอะไรต่างๆพวกนี้ ต่อมาก็มีอุตสาหกรรมรุชยนต์ที่ทำท่าจะนำหน้าอเมกา อเมกาก็เลย Bill Clinton จัดการซะเลย ทำยังไงบีคุณท่านครับ เขาจัดการยังไง ถ้าเทียบกับทำ ทำเหมือนกับจีนเลย แต่พอขนาดนั้น ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของจีนไง ค่ะ ค่ะ ของอเมริกาไง แล้วก็เกิดดูช้าๆ แก่อเมริกามากที่สุดในโลก ก็เหมือนจีนในช่วงที่ผ่านมานี่แหละ พอไปยังไงป๊อบ เขามอง โอ้โหเนี่ย เที่ยวยี่คุณกำลังทำท่าจาก พุ่งพิยายขึ้นมา แล้วก็มีการยกย่อง ญี่ปุ่นเหมือนกับพี่ก่อนหน้านี้ก็มีการไปยกย่องจีน ว่าอะไร มีการเขียนหนังสือ Japan as number one ญี่ปุ่นจะกลายเป็น อันดับหนึ่งของโลก เขามองแล้วก็บอกว่าถ้าปล่อยเอาไว้เป็นไง อเมริกาก็คงเสียศักยภาพของกันเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลก อย่างน้อยในเรื่องศิลปิศาสตร์ แล้วก็ตรวจแปลกพระวัติชีพภูมิก็ขึ้นมาจากเทวียน ถ้าเรามองย้อนกลับไปทุกประเทศที่ขึ้นมาได้ ขึ้นมาได้เพราะเทวียน ด้วยนวัตกรรม แต่เรามองย้อนไปถามว่าอังกฤษขึ้นมาได้เพราะอะไร ก็ขึ้นมาจากการบริวัติอุตสาหกรรม ที่เป็นผู้นำการบริวัติอุตสาหกรรม คิดเครื่องจากไอน้ำได้ก่อนเช่าบ้านเขา พอได้มีเครื่องจากไอน้ำก็ไปไงครับ มันก็พัฒนาเครื่องยนต์ เป็นยุคของเครื่องยนต์ เริ่มเอามาทอผ้า เอามาเดินรถไฟ เอามาเดินเรือกลไฟ มันก็ตามมาเป็นถ่วน อังกฤษก็เลยพังหายขึ้นมาเป็นภูนาหมายเล็กหนึ่งของโลก หลังจากนั้นไปไง พอมันเริ่มถึงจุดหนึ่ง อัมวิการ์ก็เริ่มแจ้งเกิดและขยายตัว และอัมวิการ์ก็ขึ้นมาแทน และคืนปัญหาด้วยก็ตัวเดียวกัน ตัวอย่างเราดูอย่างอะไร โทมัสเอลวาเอดิสัน นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย เฮลลี่ฟอร์ด พัฒนารถยนต์ฟอร์ด เฮลลี่ฟอร์ด เฮลลี่ฟอร์ด มันก็เหมือนกันเลย ต่อมาก็เป็นยุคของหลังสมคัมโลก ก็เป็นยุคของเยอรมนีกับญี่ปุ่นที่พัฒนาส่วนนี้ แล้วพอพัฒนาไปมากๆเป็นไง มันทำได้จะแซงหน้า พอแซงหน้าปุ๊บก็บอกไม่ได้แล้ว แล้วคินตันเล่นงานญี่ปุ่นยังไงบ้าง ถ้าย้อนหลักออกไปเราก็จะเห็น เล่นงานดูกันเลยครับ 1. ตั้งคำแพงภาษี 2. คุณส่งออกมาที่อเมริกาเท่าไหร่ คุณจะต้องซื้อจากอเมริกาเท่านั้น ก็เหมือนกับที่ทำกับชีนตอนนี้ เพราะว่าตอนนั้นญี่ปุ่นเกินดูไงค่าแก่อเมริกามหาศาลเลย ก็เหมือนกับชีน แล้วเป็นยังไง คินตันบอกว่าถ้าเผื่อว่าคุณส่งออกมาที่อเมริกาเท่านั้น คุณส่งรถยนต์มาขายเนี่ย เพราะตอนนั้นการเกินภาคของญี่ปุ่นต่ออเมกาเนี่ยมาจากรถยนต์เนี่ยรวดๆเลย 6-70% เนี่ยมาจากรถยนต์สูงเดียวแล้ว เพราะรถยนต์ของญี่ปุ่นตอนนั้นมันกำลังโหโห โตโยต้า ตอนนี้ฮอนด้ามันกำลังรุ่งเห็นไหม พังง่ายขึ้นมาอย่างเงี้ย เป็นไง พี่ก็บอกว่าถ้าคุณส่งเข้ามาขายแล้วคุณก็ต้องซื้อมาจากอเมกาเท่านั้นอะ แล้วแค่นั้นไม่พอ สิ่งที่ญี่ปุ่นเนี่ยสั่นเทิมไปเลยด้วยการปฎิวัติการของอเมกาคืออะไร อันนี้คือท่ามไม้ตายเลยใช่ไหมฮะ เหมือนปัจจุบันนี้เลยท่ามไม้ตายก็คือเรื่องพาการเงิน ก็เลยไปบีบให้ค่าเงินเย็นไหว้ไข้ และค่าเงินเย็นจะแข็งข้าขึ้นมาอย่างมากบาย โอ้โห แข็งข้าขึ้นมาน่าถูกใจมาก หลังจากทิ้นตั้งขึ้นมาไม่นาน รู้ไหมว่าค่าเงินเย็นตอนนี้ 146 เย็นต่อดอลลาร์ ตอนนั้นเคยแข็งข้าเข้าไปเหลือไม่ถึง 80 เย็น อ่ะ 70 โยเย็นเอง มีช่วงหนึ่งผมอยู่ญี่ปุ่น สมัยก่อนผมจะไปวิจัยไปสอนศึกญี่ปุ่นบ่อย ก็ได้เจอมันกับตัวเลยโอ้โห โห ญี่ปุ่นมันพังงายขึ้นมามากเร็วๆ พอคุณเจอค่าเงินเย็นเหลือ 7-80 เยนต่อดอลลาร์ คุณจะส่งออกไม่ได้ มันก็มีปัญหาตามมาเยอะแยะมากๆ ฉะนั้นก็กลับได้เลยว่าปัจจัยที่อเมริกามองว่าจีนเป็นไทยฮุกคลัม ไม่ใช่กองทัพจีน อเมริกาไม่เคยยี่หละต่อกองทัพจีนเลย ต่อให้คุณมีกองกำลังฐานมากที่สุดในโลกกับทาง เพราะว่าอะไรครับ เพราะว่า แสนญาณุภาพในแง่ของกองทัพ ในแง่ของเวียด ในแง่ของก้าวหน้า ความทันสมัยของอาวุธเนี่ย โอ้ มันยังห่างกันอยู่พอสมควรอะ ฉะนั้นเขาไม่ได้กลัวเรื่องกองทัพ เรื่องอะไรต่างๆ ในโลกนี้มันจะมีกองทัพที่ไหนยิ่งใหญ่เท่าอเมกา ใช่ เพราะจีนเนี่ย เขาเริ่มต้นทันทนาทีวีนเนี่ย เริ่มต้นอย่างไง ถ้าเราดูเนี่ย ทำไมเขามาได้เร็วมาก อ่า ใช่ๆๆ แบบคือแบบ ตีทัศน์ยุคสีจิ้งผิน Day 1 เหมือนเขาจะยังไม่มีอะไรใช่ไหมครับ แต่ทีนี้มา สักประมาณ 5-6 ปี ไม่นานเขาขึ้นมาแบบรวดเร็วมาก เขาทำยังไงครับอาจารย์ จีนเขาทำยังไง อันแรกๆก็คือ CND ก่อน Copy Environment เหมือนที่เขาเล่ามาว่าไปซื้อของอเมริกามาแล้วเขาชำแหละ ชำแหละแล้วก็แบบว่าเราศึกษาแล้วเราก็ Copy ไปอย่างนั้นเลย ก็คืออย่างนั้นเลยใช่ไหมครับ จีนทำได้ง่ายๆมากเพราะอะไรครับ เพราะจีนส่งเสริมการลงทุนของต่างประเทศไง แชนบริษัททั่วโลก แชนนำของโลกไม่มีบริษัทไหนที่ไม่ลงทุนในจีน กูไปไล่ดูอเมริกาบริษัทไหนบ้างที่ใหญ่ๆไม่ลงทุนในจีน Carter Pillar GM Ford ทั้งหลายลงทุนหมด และบริษัทยุโรปดังๆ ตั้งแต่เยอรมัน ฟรานเชีย อิตาลี บริษัทไหนบ้างที่มันไปลงทุนในจีน บริษัทญี่ปุ่นบริษัทไหนบ้างที่มันไปลงทุนในจีน ฉะนั้นแล้วคุณเข้าไปลงทุนในจีนก็เท่ากับคุณเอาเทลวิ่งเข้าไปในจีนด้วยไง แล้วคุณก็จะไปป้อนข้าวเขาเลยทีเดียว แล้วข้อสำคัญคืออะไร ก็คือบุคลากร วิชากร คุณจะเอาคนจากประเทศคุณไปทั้งหมดหรือเปล่า มันเป็นไม่ได้อยู่แล้ว ค่าตัวมันหายไปเป็น 10 เท่า 5 เท่า 10 เท่า ใช่ไหม คุณก็ไปใช้วินาคอร์ท้องขึ้นเลย พอคุณได้คนเหล่านี้มาทำงานไป เขาก็เรียนรู้ R&D ของคุณดิ ฉะนั้นอันนี้คือ การทำให้ C&D ของจีน มันจะมีประสิทธิภาพสูง เพราะว่าเขาไม่เพียงแต่ ไปซื้อเครื่องจากคุณมา มาถอด มาแกะดูว่าคุณทำยังไงบ้างนะ ก็เขาผลิตกับคุณ ลงงานของคุณที่ไปทำ R&D เนี่ย ใช่ไหม และนี่คือวิธีการแรก และวิธีการประกันที่ 2 คือทำไงครับ เขาก็ใช้วิธีการ ซื้อบริษัทต่างชาติมาเลย ซื้อเลย ซื้อเลย อย่างตอนนี้รถยนต์ของจีนเนี่ย MG ใช่ไหมที่เขาซื้อมา เอ๊ ทำไมรถยนต์จีนเนี่ยมัน มัน มัน ก่อนหน้านี้มันก็ มันก็ไปเรื่อย ไปตั้งเกียงอ่ะ ค่ะ ยี่ห้อรถยนต์จีนก็ไม่ ไม่เป็นที่รู้จัก ฮะ แต่ใครรู้จักเชอร์รี่ ใครรู้จักกีลลี่ อะไรต่าง เห็นไหม ครับ ครับ นะฮะ ไม่มีใครรู้จัก แต่ว่าจีนใช้วิธีการนะครับ เอ่อ ซื้อมา เชอร์รี่ไปซื้อ โหวโห อืม อืม ใช่ ใช่ ใช่ วันเวลาของจีน วันเวลาของจีน ตอนนี้ อ่ะ นะครับ แล้วก็ แก่ก่อน แซค เซียงไทย ออโตมิติฟ ไปซื้ออะไรครับ ซื้อ MG มา ไปซื้อไม่รู้ต้องกิน อะไร ลาโลเวอร์ อะไรต่างหลายเนี่ย จากอังกฤษ บ้างกันเอง ล่ะ มา แล้วขณะเดียวก็ร่วมคุณกับใคร ร่วมคุณกับ GM ด้วย ทั่วไปหมดอะ ทุกค่ายเลย เมโนของฝรั่งเศส ฟรีตองฝรั่งเศสก็ไปลงทุนมากมาแถวอูฮันหรือทั้งหลายเนี่ย พอเข้าไปแล้วเป็นยังไงมันก็เลยทำให้วิทยาลัยของจีนเนี่ยเริ่มแจ้งเกิด แต่ว่ามันไม่ได้แจ้งเกิดสู่สาคมได้รวดเร็วนะ เพราะแบรนด์ของคุณเนี่ย คุณใช้แบรนด์จีนมันแจ้งเกิดไม่ได้รวดเร็วหรอก พอคุณจะไปสู้กับเจ้าถิ่นนี่มันมาเป็นไม่รู้เป็นร้อยปีได้ยังไงใช่ไหม แต่เขาแจ้งเกิดยังไง รถยนต์สันดับภายในเขาสู้ไม่ได้ แต่เขาสู้รถยนต์ EV ด้วยทีวีสมัยใหม่ เพราะก่อนหน้านี้มันไม่เคยมีรถยนต์ EV ไง ทั้งโลกใช่ไหม ฉะนั้นจีนก็เลยทุ่มเทเรื่อง R&D แก่รถยนต์ EV อย่างหนักอย่างมาก ในช่วงวันทั้ง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะรู้ว่ามันคืออนาคตของโลก เพราะรู้ว่าโลกมีปัญหาไคมเชน ดูแล้วโลกยังไงก็ตาม ต่อไปมันคือจะต้องเป็นวิธีกับสิ่งแวดล้อมเพื่อมากิน พอชีนก็เห็นแบบนี้ แรกลดไฟฟ้ามาแน่นอน จนก็เลยชีกตัวเองไปทุ่มเทพัฒนา ทุ่มเทเรื่องของ R&D ในเรื่องของอีวีอย่างมาก แล้วก็อาศัยความได้เปลี่ยนไปในประเทศเป็นเจ้าแห่งการผลิตแบตเตอรี่ ต่อย่อนมาจากแบตเตอรี่ ผลิตรถเอง และผลิตแบตเตอรี่เอง แบตเตอรี่เขาผิดก่อน มันพ่นไปทุ่โลกเลย แบตเตอรี่ของชีน โดยว่าอย่างจริงมือถือเนี่ย มีที่ไหนบ้างที่ไม่ใช่ของจีนในช่วงกันที่ผ่านมา ตอนหลังมันจึงเริ่มไปมีในเวียดนามมีในอินเดียเพิ่มมากขึ้นไง และไอ้ BYD เนี่ย แต่ไหนแต่ไรมามันทำอะไรมันทำมากินไงครับ BYD ก่อนมันจะมาทำรถจนจนตีตลาดโลก ไม่รู้เลยเพิ่งมารู้จักตอนมีรถ EV นี่แหละ ก็แบตเตอรี่ไง มันย่อมาจากว่า Build Your Dream สร้างความฝันของคน BYD เนี่ย เริ่มจนจากแบตเตอรี่เลย และแบตเตอรี่ของเขาเนี่ยก็เป็นแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดในแห่ง อย่างหนึ่งของโลก แบตเตอรี่มันจึงเป็นสิ่งที่จีนเป็นผู้นำ ครอบครองมาร์เกอร์แชร์ของโลกผมว่า 70-80% ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่มือถือ แบตเตอรี่รถจน แบตเตอรี่อะไรก็ตาม และข้อสำคัญคือว่าจีนยังได้เปลี่ยนเรื่องอะไรบ้าง คุณมีวัตถุดิบในประเทศเยอะ และท่านต่างๆ และเอิร์ทหายาก พวกทองแดง นิโก้ พวกอะไรทั้งหลาย พวกอะไรเยอะแยะมากมาย ถึงต้องมาใช้ตามแบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเบอร์แบตเ� แล้วถึงเวลาปั๊บเนี่ย จีนถูกปิดตลาด คุณจะส่ง BYD คุณจะส่งรถไฟฟ้าไปขายไฟกายได้ไหม ตอนนี้เขาไม่รับ ไม่มีทางเลย แต่ไหนตั้งแต่ไหนมาก็ไปรับ แต่ว่าจีนเนี่ยไปยุโรปได้ตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา แต่ต่อไปคงไม่ได้ง่ายเหมือนเดิมแล้ว ในช่วงที่ผ่านมารถยนต์ EV ของจีนไปขายยุโรปปีนึงไม่ตามกว่า 5-6 แสนกันนะ ถึงถือว่าเยอะมากนะ มันก็มีตลาดในจีนก่อนใช่ไหม แล้วก็เริ่มใช้วิธีการอะไรครับ ป่าร้อมเหมือน กลยุทธ์ทางศาลิกิตและทางศูนย์จิตของชีนใช้วิธีการป่าล้อมเมือง เป็นล้อมยุโรปยังไง เรามาช่วยกันวิขอบ ก็เป็นลงทุนใน Hungary ไง เหมือน Hungary คือประตูทางขายเข้าของยุโรป ที่ชายขอบของยุโรป เป็นลงทุนทั้ง BYD ทั้งประกอบรถยนต์ สร้างรถยนต์ และก็ TACL ก็เป็นลงทุนแบตเตอรี่ ใน Hungary ใหญ่โตโมโหลาเลย ทำไมเขาไปลงทุนในที่ Hungary ศาลิกิตเป็น มันประเทศเล็กนิดเดียว คนไม่ถึง 10 ล้านคน GDP นี้แค่ครึ่งเดียวของไทย แล้วทำไมจีนสนใจ Hungary เหมือนคุยง่ายป่ะครับอาจารย์ Hungary มันสำหรับชิ้น EU อ่ะไง เฉด้ายคุณเช่า Hungary ได้ คุณเช่า EU ได้ทั้งหมดอ่ะ ใช่ไหม แล้วข้อสมัย Hungary มันตั้งอยู่ใกล้อะไรด้วย ใกล้เยอรมนิ ฉะนั้นเวลาคุณผิดเบเตอรี่เสร็จเนี่ย ไม่ใช่ว่าคุณเอามาใช้ในรถยนต์ของจีนที่ผิดใน Hungary อย่างเดียวนะ ครับ คุณจะขายให้ใครอ่ะ ขายให้ BMW อืม ขายให้ Mercedes-Benz อ่ะ เพราะว่าบริษัทพวกนี้มันเป็นบริษัทแรกๆที่เป็นลงทุนในจีน เพราะฉะนั้นบริษัทพวกนี้มันเริ่มขยับเข้าหารถยนต์ไฟฟ้า เพราะว่าในยุโรปเนี่ยตลาดมันใหญ่โตมันไม่ได้มีรถยนต์จีนอย่างเดียว จีนมันก็ไม่กี่เปอร์เซ็นต์หรอกเมื่อเที่ยงกับตลาดรวมนะ มันยังใช้บริษัทของ รถยนต์อีกแล้ว รถยนต์อีกแล้ว รถยนต์อีกแล้ว รถยนต์อีกแล้ว รถยนต์อีกแล้ว มันก็ต้องการใช้แบตเตอรี่เยอะ แบตเตอรี่เนี่ย แล้วพวกนี้มันจะเป็นผิดแบตเตอรี่เองเลย แบตเตอรี่เนี่ย แล้วพวกนี้มันจะเป็นผิดแบตเตอรี่เองเลย เมื่อจีนเนี่ยมันทำให้ มีจีนบริษัท ให้แต่ไหนแต่ไรมา มีแรงต่าง มีแรงแล่ธาตุ มีอะไรทั้งหลาย สเกลการผลิตก็ใหญ่โต ต้นทุนมันก็จะถูกกว่าเยอะ ฉะนั้นคุณผลิตออกมาปั๊บเนี่ย คุณผลิตถ้าหย่อนออกมาคุณก็จะมีต้นทุนที่รถต่ำลง ยิ่งรถไฟเนี่ย แบตเตอรี่มันสำคัญที่สุด เพราะว่ามันมีสัดส่วนที่สูงมาก ต้นทุนรวม อย่างนี้มันก็เลยทำให้จีนมีพัฒนาคารอย่างที่เราเห็นด้วยนะ จีนก็จะใช้สินค้าตัวใหม่ๆของโลก ที่อิงอะไรครับ อิงอยู่กับกระแสโลก ถามว่ากระแสโลกขนาดนี้มุ่งสู่ทางไหน มุ่งสู่ศิลิกิจสีเขียว เพราะว่าโลกเนี่ยถูกภัยคุกขามจาก climate change global warming เนี่ยมากมายมหาศาล สัตว์ตัวของโลกเนี่ยนอกจากไอ้โควิดแล้วเนี่ยผมว่าไอ้ global warming แล้วมันยิ่งกว่าโควิด เพราะโควิดถึงวันอาหารบาทแล้วมันก็เลิก มันก็หยุดๆของมันใช่ไหม มันก็คุ้มได้ใช่ไหม แต่ถามว่าอีกคำถามไหนเชนมันคุ้มได้ไหมที่มันอยู่ขนาดนี้ มันร้อนขึ้นเรื่อยๆใช่ไหม เพราะฉะนั้นพอมีนี้เขาก็เห็นแล้วว่าโรคมันเป็นอย่างนี้ พอมันเป็นอย่างนี้ปั๊บเนี่ยแน่นอน อุตสาหกรรมธุรกิจอะไร สินค้าอะไรที่มันเกี่ยวพันกับ การรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก ก็จะเป็นเขตโลก เพราะฉะนั้นนอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้วอะไร พลังงานทดแทน ตอนนี้คือจีนก็นำอยู่ 7-80% ของโลกมาจากจีน จนกระทั่งอเมริกามันประกาศไม่ให้นำเข้า เก็บประทีไป 100% เลย เช่นอะไรแผงวงจรรย์รับแสงอาทิตย์ Solacella พาเนล กางหาลง อะไรทั้งหลายที่เกี่ยวพันธุ์กับเรื่องพลังงานทดแทน เพราะจีนมันมากที่สุดในโลกที่ใช้ทุกๆ 2 อาทิตย์ จีนจะใช้พลังงานทดแทน ด้วยอัตรา 10 กิกาวัตต์ 10 กิกาวัตต์ ซึ่งมันมหาศาลเลย 10 กิกาวัตต์เนี่ยนะ ฉะนั้นแล้วตอนนี้ประมาณ 70% ของการใช้พลังงานทุกแทนทางโลกเนี่ยอยู่ในจีนไม่ได้เดียว ฉะนั้นแล้วเป็นไงฮะ แล้วจีนก็พลิดพวกนี้ออกสู่ตลาดโลก เพราะมันถูกกับชาวบ้านของเพื่อน และสเกลในจีนมันใหญ่โตมาก แล้วพอออกไปปุ๊บ มันก็ขายดีสิ แต่มันขายดีล่ะ เพราะว่ามันเป็นทางเลือก และมันเป็นทางเลือกไม่ใช่เฉพาะของประเทศพัฒนาแล้วนะ ที่ตะหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ว่ามันเป็นทางเลือกของประเทศกำลังพัฒนาและร่อยพัฒนาด้วย ยิ่งคุณโจรมากเท่าไหร่เนี่ย คุณต้องมาหาพลังงานตรงนี้เพิ่มมากกว่า และข้อสมัยคือว่า เออ ทางนี้มันก็เป็นกระทบต่อไอ้ผู้ผิดภายในประเทศ แต่ทางนี้คุณต้องมีตัวตั้งล่ะ ว่าระหว่างคุณจะปกป้องผู้ผิดภายในประเทศ ซึ่งคุณผิดแพงกับเขาอาจจะเป็นเท่าตัว หรืออย่างน้อยเท่า 60% กับการที่คุณจะขยายบทบาทของพนักงานต้นแทนเพื่อ เพื่อปกป้องรักษาปัญหาไครเมตรเชนส์ คุณจะเลือกอันไหน ถ้าคุณต้องการเลือกปกป้องอุตสาหกรรมของคุณเองในตัวเดียวกัน คุณก็ต้องแบกรับต้นทุนนี้แพงขึ้นเป็นเท่าตัว หรือว่า 40-50% และเมื่อต้นทุนมันแพงขึ้นมากๆ อัตราการใช้มันเพิ่ม มันขยายตัวรวดเร็วรวดช้าลงครับ ถ้าต้นทุนของแผงวงชนไฟฟ้า หรือว่ากลางหันโลกที่พี่จังในยุโรปีจังมีงานมันเพิ่มขึ้นอย่างนี้ ช้าลง มันก็ช้าลงอย่างมาก เพราะมันแพงไง ใช่มันแพง ใช่ไหม แต่ว่าตอนนี้เขาบอกอุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่ปกปรักรักษาไม่ได้ จะกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ แต่เขาลืมไงว่าแล้วไอ้ผู้บนโชครับ กรุมไม่ต้องปกปรักรักษาของเขาเหลือ กรุมไหนมันมากกว่า อันนี้คือหลักวิธีคิด ซึ่งจริงๆก็ถูกโจมตีมากในช่วงหลัง ว่าไปลงทุนที่ไหน เอาเทมุอะไรต่างๆไปขายที่ไหนแล้ว เพื่อให้ผู้ประกอบงานในประเทศมันก็เจ๊งกันเป็นระดาบ แต่กำลังนึงคุณต้องดูไงว่าของที่ไปขายของไม่ถูกลงอย่างมาก คิดสันตาแล้วระหว่างไฟล์ซัพพลายกับไฟล์ดีมารด์ ไฟล์ซัพพลายมันกระทบต่อผู้ออกการในประเทศที่จีนเข้าไปลงทุน หรือว่าจีนส่งของสินค้าเข้าไปขาย แต่ไฟล์ดีมารด์อำนาจซื้อยังเมืองไทยเนี่ย ถ้าจ้างกระทั่ง 300 บาทต่อวันเนี่ยคุณจะไปซื้อของญี่ปุ่นของฝรั่งใช้ได้ไหม ถ้าคุณจะพอซื้อใช้ได้อย่ามืด ถ้าคุณไม่มีพวก Oppo Vivo อะไรทั้งหลาย สีโอ้มีทั้งหลาย คุณจะต้องไปซื้อ iPhone มาใช้ ไปซื้อ Samsung มาใช้ เครื่องมันต้องกี่หมื่นละ ใช่ไหม อย่างนี้ มันก็ต้องคิดสละตะดูว่าไหนสุดแล้ว บวกเราก็คุณขนาดนั้นมันเป็นยังไง ไม่มีอะไรที่ได้อย่างเดียว ไม่มีอะไรที่เสียอย่างเดียว นี่คือหลักวิธีคิดนะ ถ้าเทียบกับ Alibaba Alibaba Temu คือ Temu มันจะมีกลยุทธ์การบริหารจัดการที่ คือพวกนี้มันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และก็ไม่ใช่แค่ค่ายเดียวของจีนด้วย ผมว่าที่อื่นมันก็จะมากันนะ ฉะนั้นคุณต้องเตรียมรับมือเลยว่าคุณด้านหนึ่งมันเหมือน ไอ้พวกนี้คุณมองว่ามันคือมีดมันคือดาบ ด้านหนึ่งมันหันผักหันปลาได้ อีกด้านหนึ่งมันบาดมือคุณได้ คุณต้องไม่คิดเลยว่าคุณต้องรับมือกับไอ้มีด ไอ้ดาบ อะไรแบบนี้ยังไง ผมบอกเลยว่าคุณยังไงก็กันไม่ได้ นะครับ มันมาแน่นอน มันจะเหมือนกลุ่มทุนไหมครับที่ว่า อันนี้อาบอับพูดตามที่เราสังเกตการว่า กลุ่มทุนเข้ามาเนี่ย อ่ะ บางคนมอบเป็นสูรเหรียญ แต่ก็เพราะว่าภาครัฐไทยนี่แหละ หน่วยงานของไทยนี่แหละมาทำบรรละรวมเอง อย่างนี้ใช่ไหมครับ กะแอบเตมูอย่างนี้ หนึ่ง ต้องเตรียมพร้อมทางด้านนิยบาย คุณจะเอายังไงกับประเทศชาติ มันมาแล้วเราต้องวางแผนแล้วใช่ไหม สอง ต้องเตรียมพร้อมทางด้านความพร้อมของหน่วยงาน ความพร้อมทางด้านองค์กร องค์กรของคุณมีความพร้อมไหม ความพร้อมของตัวองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือองค์กร แล้วคุณพร้อมแล้วหนึ่งคุณก็จะรู้เท่าทันเขา ครับ อ่า ไอด้านลบเนี้ย ไอที่มันเข้ามาเหมือนด่าเหมือนมีดเนี้ย ที่มันมีสองคมเนี้ยนะ คุณแน่นอน ถ้าคุณสามารถทําให้คมที่มันเป็น อืม มันทื้อลง มันด้านลบมันทื้อลง ครับ แต่ไอคมด้านที่เป็นด้านบวกมัน มันแหลมคมเพิ่มมากขึ้น แล้วก็สามารถเนี้ย เนี้ยคือสิ่งที่เราต้องทํา อืม เพราะคุณกันมันไม่ได้หรอกพรุ่งนี้ นะครับ แล้วข้อสมัยคือว่าถ้าคุณไปกันมันต้องก็มาก ปุ๊บ เนี้ยเป็นไงครับ เขาบอกว่าต่อไปนี้ เขาจะไม่ค้าขายกับคุณมากเหมือนเดิม เด็บร้อย เขาจะไม่ส่งคนมาเที่ยวในประเทศคุณ อะไรต่างๆขึ้นมา แล้วถ้ามันไม่ค้าขาย ไม่ใช่ว่าไม่ค้าขายก็ดีสิ ประเทศไทยเราขายดูคล้ายๆกับจีน แต่อย่าลืมว่าสินค้าส่วนใหญ่จากเมืองจีนเข้ามา มันไม่ใช่สินค้าสัตเบรดรูป มันเป็นวัตถุดิบ มันเป็นสินค้าขั้นกลางที่เอามาแปรรูป มาพัฒนาต่อ ถ้าคุณขายแล้วอุตสาหกรรมเมืองไทย หรือการผลิตเมืองไทยที่เราต้องพึ่งพากันกับการค้าส่วนออกมากๆ เราถูกกว่าถ้า... แน่นอน แล้วที่เนี้ยผมฟังอาจารย์พูดมาอ่ะมีญี่ปุ่นโดนสหรัฐเล่นจีนก็โดนสหรัฐเล่น ไม่ว่าเทคโนโลยีคุณจะพัฒนาขนาดไหนสิ่งที่สหรัฐจะจัดการคุณได้คือเรื่องค่าเงินใช่ไหมอาจารย์ ค่าเงินเป็นเรื่องหนึ่งแล้วก็ภาษีอากรภาษีอากรด้วยการปกป้องครับก็เรียกว่าโปรเทคชันดิสิม อืมทีเนี้ยมีญี่ปุ่นจีนและมองอนาคตถ้าอินเดียมีเทคโนโลยีขึ้นมาก็จะเป็นเหมือนกันหรือเปล่าครับอาจารย์สาหรัฐก็จะเล่นอินเดียก็ดีอินเดียคงช้าหน่อยเพราะมงคลพัฒนาได้ช้ากว่ามาก แต่ว่าเวียดนามจะเจอแน่นอน เวียดนามโดนด้วย ในอนาคตนะ เวียดนามเจอแน่นอน หมายถึงว่าเวียดนามจะพัฒนาไปกว่าไทยหรือครับ โอ้ แน่นอน ผมว่าเวียดนามจะแสงไทยแน่นอน อาจารย์มองอย่างไรครับ เพราะเวียดนามขนาดนี้ ขนาดนี้ศิลิกิตมันยังเล็กมากนะ แต่ว่ามันไล่ไทยเกือบจะทันแล้ว จีนดีพีเวียดนามภายในนี้ เกือบ 500 ล้านเหรียญของเรา 500 ต้นๆ มัน 80% ของเราแล้ว ก่อนหน้านี้นะครับ 10 ปีที่แล้วมันไม่ถึงครึ่งของเรานะ HDP เวียดนามเนี่ย แค่ 40% ของไทย แต่มันผ่านไปเพียงแค่ไม่ถึง 10 ปี มันไล่ไทยก็เกือบจะทันแล้ว เพราะอะไรครับ เพราะ 1. ประชากรเขา 100 ล้านคน ประชากรเขาเยอะกว่า มากกว่าเราเนี่ย 1 ใน 3 แล้วประชากรของเขาเนี่ย คนนุ่มสาวมากกว่าเรามากมายที่เป็นสัดส่วนเนี่ยนะ คนนุ่มสาวมีมากมายแล้วยังมีคุณภาพด้วย มันค่อนข้างจะดีไว้นานเนี่ยนะ โดยมายังยิ่งได้วิทยาศาสตร์และเทลโนโลยี ฉะนั้นเขาก็จะแรง พนิษฐ์คนเนี่ย ทั้งแรงงานมีฝีมือ แรงงานไร้ฝีมือเนี่ยพร้อมกันไป เขาจะมีวิทยากรมากมาย และไอ้ประเทศที่มันเคยเป็นสังคมนิยมมาก่อนเนี่ย ข้อได้เปรียบมันอยู่ไหนครับ ควบคุมง่าย สมัยเป็นความบันดินเนี่ย เขาไม่ส่งเสริมให้คุณเรียนสังคมศาสตร์มนุษยศาสตร์ไง ก็บอกเรียนไปแล้ว พวกนี้มันหัวแข็ง เรียนไปแล้วมันเป็นขบดต่อรัฐบาลง่ายๆ เพราะมันสอนให้คิดไง พวกเกี่ยวกับสังคมศาสตร์วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ปัญญาทั้งหลาย ฉะนั้นเขาไม่ให้คุณเรียนในสายนี้มากมาย เรียนเท่าที่จำเป็น แต่เขาให้คุณเรียนอะไรครับ สายวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ได้อุยี ฉะนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมประเทศอย่างรัฐเซียก็ดี อย่างเวียดนาม อย่างชีน มันจึงพัฒนาเรื่องเทวิยีภิกษาได้ง่ายมากเลย เพราะอะไร เพราะครั้งหนึ่งเนี่ย เขาต้องพึ่งพาตัวเอง ทำไมเขาต้องพึ่งพาตัวเองครับ กูจะเอาเทวิยีจากอเมริกา จากญี่ปุ่น จากประเทศที่เป็นโรคเสนอรีไปได้ไหม ไม่มีทางเลย ใช่ไหม จะได้พวกนี้มันก็ต้องกัดฟันพัฒนาเทวิยีของตัวเอง มันก็จะมีพื้นฐานเนี่ย ที่พึ่งพาตัวเองอยู่ข้างๆสูง จากนั้นเวียดนามจะถามว่า ถ้ามันไม่มีการพึ่งพาตัวเอง ตัวเองได้มากๆเนี่ย กูจะสู้กับอเมริกาแล้วเอาชนะอเมริกา ข้างเวียนามได้ยังไง ใช่ไหม มันก็ต้องมีพัฒนาการมาระดับหนึ่งละ แล้วไอ้ รัสเซีย ในสมัยโซเวียนเนี่ย ถามเถอะ โอ้โห มัน ยิ่งใหญ่มาก ศาลิกิจมันมีทางสู้ไปกาได้ หรือไม่แต่ความสมัยอะไรก็ตามเนี่ยนะ เพราะมันเป็นสังคมปิด เป็นโลกปิดอ่ะ อ่า กลไกตลาดก็ไม่ได้ทํางาน ครับ แล้ว อ่า ทํามากก็ได้มา ได้น้อย ทําน้อยก็ได้น้อย อืม ในในในระบบของสาขนวิวมอย่างเงี้ย แต่ทําไมเขาพัฒนาได้ พัฒนาได้เพราะมันเป็นไฟล์บังคับไง เพราะว่าถ้าคุณไม่พัฒนาไม่พึ่งพาตัวเองเนี่ย คุณก็อยู่ไม่รอดในระบบของตัวเอง อเมริกาคิดสงคราม คิดเอาวิทยุเฮียได้ แล้วเอาไปทรงลงญี่ปุ่นเนี่ยนะ ตั้งแต่ปี 1945 หลังจากนั้นแค่ 4 ปีเนี่ย ซูเวียนมันก็คิดระเบิดวิทยุเฮียได้ แค่ที่ปีเอง แล้วหลังจากนั้นมันไปยังไง หลังจากนั้นมันพัฒนาระบบอวกาศเนี่ย ล้ำหน้าไม่กายด้วยทำไป แต่มันสามารถส่ง ส่งไลก้า ส่งสปุ๊กนิคไปคุณจร ขึ้นไปก่อน บินก่อน ก่อนไปอะไรอย่างนี้ เพราะอะไร เพราะว่าพวกนี้มันมีฐานพนักธุรกิจของตัวเองมาเนิ่นนานไง แล้วรู้ว่าถ้าไม่มีตัวนี้ คุณสู้คำไม่ได้ จะได้พวกนี้มันก็เลยเป็นทิ้งอีกที่เพิ่งพาตัวเองในระดับหนึ่ง แล้วพอมันเปิดขึ้นมาอย่างนี้ แล้วคุณรับทุยีบจาก อีกโลกหนึ่ง ซึ่งมันพัฒนามากกว่าคุณ มาอย่างกับสายน้ำ อย่างเวียดนามในขณะนี้ ใช่ไหม แล้วเมื่อเขามีพัฒนาเทวิตของตัวเองในประเทศอยู่ในระดับหนึ่งแล้วเนี่ย มันก็มีความพร้อมของโรคประกันศึกษาไง เพียงแต่ว่าคุณเปิดกว้าง ก่อนหน้านี้คุณต้องจำใจต้องกัดฟัน เพราะว่าไม่มีใครมาช่วยคุณหรอกในฝ่าย ข้ายของฝ่ายลงกลายข้าม แต่ว่าตอนนี้เป็นยังไงครับ หมาวะลายดังๆของอเมริกา ของยุโรป ของญี่ปุ่น มันตรูยังเข้าไปในเวียดนาม พอรู้ว่าเวียดนามเนี่ย หนึ่งก็คือต้องการสร้างวิทยาลัยเพื่อนของเพื่อมาเคาน์เตอร์ชีน หรือไม่ก็แข่งขันเรียกว่าเป็นหนังหน้าไฟในการพัฒนาชีน ถึงว่าวิทยาลัยไม่ได้ใหญ่โตมากมายก็ตามเนี่ยนะ แต่รู้ไงว่าคนมันต้อง 100 ล้านคน แล้วมันก็เลยทำให้การย้ายฐานออกจากชีนมันก็จะทำได้ง่ายอะไรต่างๆได้ง่ายไง อย่างที่เห็นอยู่ใช่ไหม เฉพาะนั้นพวกนี้มันก็เลยจะมีวิทยาศาสตร์ธิวดีที่พัฒนาได้เร็วมาก และคนเวียดนามเองเนี่ย ถ้าเราดูคนเวียดนามคน เกาหลี คนญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวันเนี่ย เอ๊ะ ทำไมมันเก่งกับเทวี อ่า ใช่ ทำไมมันมี มันมีพัฒนาการของเทวีหลาย ตัวที่รวดเร็วกว่าชาวบ้านเพื่อน อ่า ใช่ เขาวิเคราะห์มาแล้วครับ เขาบอกว่ามันเป็น Kong Fu G.S. Culture Kong Fu G.S. Culture วัฒนธรรมของชื้อ มันเข้ามาเกี่ยวพันธุ์ยังไง อ่า เกี่ยวพันธุ์ยังไงครับพระจาร ของชื้อมันสอนอะไรครับ สอนให้คนเชื่อฟัง สอนให้คนทำงานหนัก สอนให้คนกระตานอยู่ ฉะนั้นแหละคุณต้องเชื่อฟังเจ้าหน่ายของคุณ ถึงเวลาเขาสั่งให้คุณพัฒนาตัวนี้แล้วเนี่ย นอกจากคุณจะต้องมีความขยันแข็งๆ อุตสาหรัฐแล้วเนี่ย เขาเอาทุยีมาตัวไหนมาเนี่ยคุณต้องกัดไม่ป่อย ต้องทำงานอย่างจริงจังอย่างมากมาย ฉะนั้นแล้วเนี่ยพวกที่คอนฟูเชียลเคาเชอร์ทางนั้นญี่ปุ่นก็ใช่ เพราะว่าพวกเนี่ย แล้วเราไม่ต้องรู้อะไรมาก ทำไมญี่ปุ่นก็ดี เกาหลีในอดีตจะดี ตัวอสองทั้งหมดมันคือภาษาจีน จนกว่านี้ญี่ปุ่นยังใช้ภาษาจีนเยอะเลย ไอ้ตัวอันจีน และไอ้เกาหลีไปดูให้ดีๆ มันเป็นบ๊อกบ๊อกก็จริง มันก็คือตัวอสองจีน เหมือนมิดมาจากจีน มันก็มีร่างเง่าของวิวนาธรรม เหมือนว่าประเทศมันอยู่ใกล้กันไง ฉะนั้นไอ้เจ้าเนี่ย พอคุณมาผสมภาษาอิงค์กันทุกยีมสมัยใหม่ คุณมีความขยายแข็งๆ คุณต่อสู้ไม่ลดละ คุณมีความรู้สึกว่า ว่าจะต้องเชื่อฟัง แต่ว่าทางนี้ข้างในคุณต้องมีผู้นำที่ดีนะ ถ้าเขานำพาคุณไปผิดๆก็อีกเรื่องหนึ่งใช่ไหม จริงๆมันน่าแปลกใจว่าทำไมญี่ปุ่นเนี่ยพอมันเปิดประเทศมาปั๊บเนี่ย และไฟท์บังคับอีกตัวหนึ่งที่มันแตกต่างจากเราเนี่ยถ้าเราดูให้ดี มันดูจากอะไรครับ ประเทศที่มีคนน้อยที่สรรพยากรมากที่ดินมากกับประเทศที่คนมากที่ดินกับสรรพยากรน้อยเนี่ย มันจะมีโอกาสพัฒนาทุกวิทยุต่างกัน สมัยครับ ประเทศที่มีที่ดินมาก สรรพยากรมากอย่างลาว กัมพูชา อย่างไทย เป็นไงครับ ในน่ามีปลา ในน่ามีข้าว สบายเกินเหรอ แล้วคุณยังไม่ดินหล่นอะไรนะ ไม่ต้องดินหล่น สบายเกิน คุณดินหล่นอะไรนะ มันขาดอาหารการกินแม้แต่ข้าว เพราะที่นี่มันน้อยไง คนมันเยอะ ประเทศมันเล็ก เล็กแค่นั้นไม่พอ 80-90% เป็นภูเขา เป็นแหล่งที่ทำหากินทางการเกษตรไม่ได้อย่างญี่ปุ่นนี้ จนได้แล้วญี่ปุ่นมันไปล่าอันนั้นที่คงเอาไต้หวันมาปกครอง เอาเกาหลีมาปกครองทั้งประเทศอยู่ร่วม โอ้โหไม่รู้กี่สิบปีเนี่ยนะ เป้าหมายหลักๆ ตั้งแต่เริ่มแรกเลยคือนะครับ เอามาผิดอาหารการกิน โดยไปยิ่งทำนา อืม ทำนาเป็นหลัก ทำนาทำกันเกษตร ประสูจน์สัตว์ อาจจะปลูกนายาก ทำนายาก ทำนาน่าจะไม่เพียวพอ ไม่เพียวพอแน่นอน โอ้โห เราไปดูในญี่ปุ่นเนี่ย ถ้าใครเดินทางไป ออกนอกเมืองไปปั๊บ มันมีพื้น ที่ร่างนิดเดียวนะ ในเมืองมันก็ทำนานแล้ว เราจะเห็นเลยว่าพวกนี้มันจำกัดจำเขียงมาก เพราะญี่ปุ่นมันพึ่งพาอาหารเงินจีนได้ไม่ถึง 40% ของที่ต้องเลี้ยงดูคน 120 บาทล้านคน จะได้แล้วคุณต้องเอามาจากที่อื่น และสมัยก่อนจะเอามาจากที่ไหนล่ะ กูต้องเอามาจากประเทศที่มันอยู่ใกล้ๆกัน เพราะว่าสินค้ากเศษมันเน่าเสียง่าย คนไปใกล้ๆคงย่านเท่าบาก แต่สมัยก่อนพวกห้องเย็นตู้เย็นอะไรต่างๆมันก็ยังไม่พัฒนา และเมื่อมันเป็นไฟล์ทบังคับก็ไปยังไงครับ ก็ปากกัดตีนถีบก็ต้องสู้ พอทีวีมันเข้ามาปั๊บคุณจะรับได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะว่าถ้าคุณไม่พัฒนาบนเนี้ยคุณจะอยู่อย่างละบาด มันก็ทำให้ประเทศเหล่ารับอายนี้ได้ง่าย รับวิทยาศาสตร์ทีวีได้ง่าย แต่ประเทศไทยเหล่า อยู่สบายกันเกินไป คนไทยไม่เคยคิดจะเป็นลูกจ้าง หรือเป็นผู้ใช้แรงงานให้แก่ใครเลย แต่ช่วงก่อนสุขคำโลกครั้งที่สอง แล้วมันจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนจีนมันยกมาอยู่เมืองไทยมากมาย มาทำอาชีพเลยครับ ตอนนี้คนจีนในสมัยที่ 4-5 ที่มาเยอะๆ ขายอะไรพวกนี้จับกาง ขายอะไรงานรวดๆ อะไรที่คนไทยไม่อยากทำ จีนเขาทำหมดตอนนั้น คนไทยยังไม่ทำ เออ ทำไมคนไทยไม่ทำ เขาไม่อยากลำบากลำบนอะไรอย่างนี้ ค่าแรงค่าจ้างน้อย แค่วานข้าวไถนาเดี๋ยวมันก็มีรายได้ไม่น้อยกว่าค่าจ้าง สมัยก่อนวันหนึ่ง 50 ตังค์ วันหนึ่งบาท ในสมัยก่อนสงครามโรคควันที่ 2 เนี่ยนะ แล้วมันเรื่องอะไรนะ เทียบแล้ว คุณทำดาวมาขาย คุณก็ได้รายได้กันดีกว่า แล้วเป็นอิสระด้วย ไม่ต้องเป็นลุงจางใคร ฉะนั้นแล้ว คนน้อย ที่ดินมาก มันจะทำให้ศักยกิจแบบอะไรครับ แบบรวบรวม ดำรงดุเยาว์นาน รวมๆ ของป่ามาขาย ตัดไม้มาขาย ขุดดีบุกมาขาย ทำนู่นทำนี่ อะไรต่างๆ มันก็เป็นที่ต้องการของตลาดไปหมด ไม่ต้องลงทุนทำเอง อย่างราวเนี่ยทำทุกวันเนี่ยทำไม ดูมีปัญหามากมาย เพราะว่าลาวน์พนักยังเป็นศิลปิดที่ทำมาหากิน ไม่ใช่ศิลปิดทำมาค่าขายนะ ทำมากินเพราะประเทศมัน 237,000 ตระหลังฮิโลเมตร คนมัน 7 แบรนด์ล้านคน ประเทศลาวมีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ว่ามีคนเพียงแค่ประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ของไทย แต่ของเรา 70 ล้านใช่ไหม บางประเภท 70 ล้าน ของเขา 7.5 ล้านคน ฉะนั้นมันก็เป็นศิลิกิจที่ คนน้อยที่ดินมาก ที่เยอะกรมาก แล้วคนสองในสามของคนราวเนี่ย เกือบ 8 ล้านคนเนี่ยอยู่ที่ไหนครับ อยู่ในภาคเกษตร แล้วไม่ใช่ภาคเกษตรเพื่อทำเพื่อ ทำกินเองใช้เอง เพราะมันเหลือเฟือนไง ทุกวันนี้เราวิจัยเข้ามาก ว่า โอ้โห คุณเกิดวิกอินตราการคุณไม่นี่ต่างประเทศ คุณไม่พึ่งพาจีนเยอะแยะมาก จีนมากดขี่คุดรีด กรอบโคยอย่างคุณอะไรของหลายเนี่ยนะ แล้วก็มีปัญหาเงินเฟ้อเยอะแยะมากมาย แต่เราไปดูดีๆเถอะ ถามว่าคนร้านจริงๆมันเหนือร้อนมากมั้ย ก็ในเมื่อคนเกือบ 70% มันอยู่ในผ้าเกษตรอะ มันจะเหนือร้อนก็ต่อเมื่ออะไรครับ ต่อเมื่อคุณอยากได้สมาร์ทโฟนใช้ คุณอยากได้เครื่องดื่มต่างๆชวมมาดื่มอะไรของหลายเนี่ย ต้องซื้อรำันมาเติมด้วยอย่างที่เป็นอยู่เนี่ย นั่นแสดงว่าโดยทั่วไปจากที่เห็นข่าวว่า ลาเขาเศรษฐกิจไม่ดีเขาตกต่ำทุกที่นั่น แต่จริงๆแล้วเขาอยู่กันได้อย่างนี้ละ ผมคิดว่าเขาอยู่กันได้ไม่ ไม่เดือดร้อนเลย ไม่ได้ระบากกว่าไทยอะ บอกได้เลย อย่างของเราเนี่ย ถามว่าตอนที่เราเกิดโรคต้มยำกุ้งเนี่ย ตอนที่เกิดโรคต้มยำกุ้งในใครเดือดร้อนจับตอนนั้น ผู้ประกอบการ บริษัทใหญ่ๆ ยอดยาก ผู้ประกอบการนักธุรกิจทางหลาย ธนาคารทางหลาย ล่มจงมันขึ้นหมด เรียกมั้ยครับ เวลาเกิดลงต้มยำกุ้งเนี่ยนะ ขายทิ้งกิจการไปครึ่งต่อครึ่งของประเทศไทย แต่ถามว่าชาวบ้าน ผู้ใช้แรงงานก็ดี อะไรก็ดี เรียนร้อนไหม เรียนร้อน พอที่ไม่ได้อยู่ในระบบบริษัท คนขับทิกซี่ คนทำงานโรงงาน โรงงานก็กลับอีสานไง ใช่ ใช่ ใช่ ก็เหมือนเท่าตอนนี้ ระบบสีกิจยางชีพไม่ใช่มีด้านลบเสมอไป ด้านบวกมันก็เยอะ ศูนย์หนึ่งคุณต้องรักษามันเอาไว้ เพราะถึงเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเวลาเ� เป็นด้านนี้ล่ะ มันก็ยกระดับมาตรฐานการคงชื่อต่างๆ ขึ้นไปใช่ไหม อันนี้ไม่ได้ แต่อีกด้านหนึ่งในเวลาคุณบริหารวิกฤต มันจะมีความทางเรื่องน้อย เพราะว่ามันไม่มีที่ให้คุณถอยกลับไปเพื่อนำรงชีวิตอยู่ได้ไง อย่างเราเกิดโควิด เราก็เดินร้อนน้อยกว่าชาวบ้านเขา ถ้าคุณดูให้ดีๆ อย่างอเมริกาตายไปละล้านคน แล้วเป็นไง ก็เพราะว่าคุณกลับอีสานแล้ว รู้ว่าคุณกลับไปทางเหนือ ทางต่างๆ แล้ว คุณยังมีครอบครัว มีอะไรต่างๆ ที่อยู่ในชนโลกนี้ไง ด้านหนึ่งมันก็อาจจะกระโดดไปกับกระโดดมาระหว่างเมืองกับชนโลกนี้ แต่ว่ามันเป็น Muffler Zone อันนี้ต้องยอมมัฟเลย อย่างราวในขณะนี้ผมบอกได้เลยนะว่า จริงๆ แล้วเนี่ย เขาไม่ได้เดือดร้อนเหมือนกับที่เราเข้าใจ เราไปใช้ตัวเลขของฝรั่ง GDP เป็นอย่างนี้ เงินเฟอร์เป็นแบบนี้ เงินกู้เป็นแบบนี้ แล้วก็คิดว่าเขาเดือดร้อนมาก มันก็เดือดร้อนในระดับหนึ่ง แต่ว่ามันไม่ถึงขนาดบ้าง ประเทศชาติมันต้องล้มหายใจจาก มันต้องล้มละลาย แต่ดูไม่ได้ดี เรื่องราวนี้วิเคราะห์ได้เยอะเลยนะครับ พี่ที่ประเทศไทย อาจารย์บอกแล้วว่าเวียดนามเขาไล่หลังเรามาแล้ว เราจะหนีเขายังไงครับอาจารย์ มีสูตรที่จะหนีเขาไหมครับอาจารย์ เราต้องหนีโดยไปหาภาคที่ไม่เกี่ยวพันกับการใช้ทีวีมาก ไม่เกี่ยวพันกับการใช้เทคโนโลยี ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องของภาคกันผิด ทางด้านอุตสาหกรรมมาก ซึ่งเราสู้เขาไม่ได้หรอก เพราะอะไรครับ ขาดความพร้อมของบุคลากร แล้ว Culture ของเราไม่ใช่แบบนั้น เพราะ Culture เราเนี่ยโตมาจากคนน้อยสมัยกรมาก ที่ดินมาก แต่เวียดนามไม่ใช่ เวียดนามเนี่ยที่มันแค่ 330,000 ตร.คม. มันแค่ครึ่งกว่าของไทย ของไทย 511,000 ตร.คม. ใช่ไหม แต่ว่าคนเขาทุกรุ่นร้อยล้านคน แล้วภูเขาก็เยอะด้วย เวียดนามใช่ไหม ถ้าภูเขาคุณไม่เยอะ คุณไม่มีทางสู้อเวียดนามได้หรอก ที่คุณสู้ชนะได้กับพวกเขามันเยอะไง คุณสามารถขุดพูดเขา ขุดเร็งต่าง ขุดอุโมง จนกระทั่งรบกว่าอเมริกาเป็น 10 ปี อเมริกามันยังแพ้เลย นอกจากเหตุผลอื่นๆด้วย แต่ว่าเมื่อไปอย่างนี้แล้ว ไปอย่างนี้แล้ว เวียดนามเขาจะต้องพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อความอยู่รอด แต่เมืองไทยมันไม่ใช่ คุณต้องหาทางเลือกอื่น เข้าไปหาเลยครับ ต้องมีการท่องเที่ยว ภาคบริการ Soft sector ไม่ใช่ Hard sector Soft sector ใช่เลยครับ อะไรก็ตามที่เป็นเกี่ยวกับเรื่องภาคบริการ ท่องเที่ยวไม่แค่ศูนย์หนึ่งของภาคบริการนะ แต่ว่าท่องเที่ยวไม่ใช่ทั้งหมดของภาคบริการ ภาคบริการมีอะไรครับ มีอะไรครับ Health care การแพทย์ทั้งแผนสมัยใหม่ แผนโบราณ หรืออะไรก็แล้วแต่นี่แหละ เพราะว่าการแพทย์ของเราเนี่ย เราไม่ด้อยกว่าใคร แต่ว่าเรายังไม่ได้ต่อยอดอย่างเพียงพอ ไม่ได้ต่อยอดอย่างไรครับ เราแค่รักษาโรค เรามีหมอชั้นยอด มีนางพยาบาลที่คุณภาพดี โรงพยาบาลก็ใช้ได้ ยอดเยี่ยมเลยแหละ เครื่องมือคุณใช้ แต่นักสาโรคนี่ หมอคนหนึ่งมันตรวจโรคนักสาโรคนได้คนใช้ได้วันอันกี่คน เยอะ มันมากก็จริงเนี่ย แต่ว่ามันก็มีความเหนื่อยละ ถึงจุดหนึ่งร่างกายศิริริละ ร่างกายหมดเนี่ย ผลิตบุคลากรไม่ทันใช่ไหม ใช่ แล้วข้อสมัครคืออะไรครับ มันมีทางที่จะเพิ่มบริคาเพิ่มด้านอื่นของการแพทย์ไหม เช่น เวชพันธุ์ ทั้งแผนใหม่แผนเก่า แม้แต่ตอนนี้ฟ้าทะลายโจรเรื่องอะไรทั้งหลาย และสำคัญอยู่เลยครับ เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ เพราะสมัยนี้เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์มันจำเป็นมากนะ ถ้าคุณจะพัฒนาอุตสาหกรรมคุณต้องการพวกนี้ คุณจะผิดพวกลอบอร์ดแขนกลมาใช้ในการช่วยหมอผ่าตัดยังไง ทำนู่นทำนี่ยังไง เครื่องมือซึ่งใช้ในการแพทย์ อันนี้คุณต่อยอดได้ ถุงน้ำเกลือเยอะแยะเลย ฉะนั้นทำตัวนี้ให้ดี แล้วมันไม่ใช่มีแค่นี้ ภาคบริการมีอะไรอีกครับ อุตสาหกรรมบันเทิง Soft Power อะไรพวกนี้ Soft Power ทั้งหลาย เรารู้ที่ครับ เรามี ลิซ่าแบ็คพลิงค์คนเดียวเนี่ย ถ้าเราผลิต มีก็ได้เลือก 40-50 คน กลางเหมือนเกาหลีที่มัน ทำได้อย่างนี้ เกาหลีมันเป็น Hard sector อย่างนี้แล้ว มันผลิตธุรกิจหลักของเขา ของเขาเลย แต่ว่าเอ๊ะทำไม Soft sector มันเก่งด้วย ไม่ว่าจะมี K-pop K-Series อะไรขนาดนี้ เป็นระดับโลกเลยใช่ไหม แต่ของเราเนี่ย เราไม่ต้องถึงขนาดไปแข่งเขาเรียกอุตสาหกรรมหรอก เพราะเรารู้แล้วว่าโครงสร้างแบบไทยเนี่ย เกาหลีใต้ทั้งประเทศมันมีที่ดีแค่แสนตลาดกิโลเมตร 1ใน5 ของไทยเองนะ แต่ว่าคนต้อง 50 บาทล้านคน นอกจากไทยนิดนึง ประเทศคนมาก ศัพท์ยากรน้อย ยังไงต้องผนักอุตสาหกรรม แต่ว่าขณะนี้เขายังเก่งเรื่องภาคบริการด้วย อย่างที่เห็นอยู่ เราก็ต้องดูเราว่า เราจะมาต่อยอดเรื่องของ Entertainment อย่างไง เราจะต้องดูสร้างหนังอย่างหลานมากขึ้นมา สับปะเลอขึ้นมา อะไรขึ้นมาเนี่ย โอ้โห มันก็ไปไงครับ มันไปทั่วโลกเลย อย่างที่เราเห็นอยู่ในอันนี้นะ แล้วก็ต้องรู้จักพัฒนาเมื่อนี้ ให้มันเพิ่มมากสิบ อืม และเลยครับ ที่เราสามารถต่อยอดได้ในมือไทยเนี้ย เกี่ยวเรื่อง เรื่อง เนี้ยนะ อ่า ไอ้ภาค ภาคที่เกี่ยวภายกับเรื่อง เรื่อง เรื่องที่มันไม่ใช่ภาคที่เกี่ยวภายกับอุตสาหกรรมทั้งหลายเนี้ย ครับ อุตสาหกรรมการธุรกิจการฮีลา เราดูเนี่ย มวยไทยเนี่ย อลิปิก มวยไทย เราต่อยอดได้มากกว่านี้ไหม ตอนนี้ทั้งโลกเนี่ย มันฝึกมวยไทยกัน เป็นร้อยๆประเทศ มียี่มวยไทยอะไรขึ้นหลายๆเนี่ยนะ พัฒนาพวกนี้ขึ้นมาแล้วต่อไปผิดพวกเครื่องใช้ทางด้านมวย ไอ้นวมก็ดี กางเกงมวยมันต้องมาจากเมืองไทย เพราะมันเป็นต้นตำรับ อย่างงี้ใช่ไหม ก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรทั้งหลายมันก็สามารถต่อยอดไปหาไอ้ Hard Sector ได้อย่างต่างๆ โดยใช้ภาค Soft sector ภาคบริการที่เป็น 2-2 แล้วหมดนี้อย่างครับ มีไหมครับ ผมว่ามีอีก อาหารการกินนอกบ้าน Food Service โอ้โหมันสุดยอดไหม แล้วดู Street Food ของเราเนี่ยมันด้อยกว่าใครในโลกไหม ใช่ไหม แล้วมันไม่ใช่แค่นี้ Food เนี่ยผมว่าเราทำได้มากที่สุดเลย เพราะว่าประเทศเรามีต้นต่อมาจากภาคเศรษฐ์มาจากประมง เราจะต่อยอดให้อาหารเนี่ยมันเป็นไม่ใช่กินอิ่มกินอร่อยอย่างเดียว แต่ว่ามันกินแล้วมัน Healthy กินแล้วมันประโยชน์ต่อสุขธนาไม กินอาหารเหมือนกินยา ไม่ใช่ไปกินยาเหมือนอาหาร อันนี้เราทำให้ยังไง แล้วก็แม้แต่เรื่องของ Digital Economy พวกออนไลน์ทั้งหลาย เราก็มีเครือขายเรื่องของที่วิทยุตัวนี้ ถึงแม้เราไม่ได้พัฒนาอย่างไรต่างเอง แต่ว่าเครือขายพวก WIFI พวกนี้ทั้งหลาย เราก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร ในอาเซียน คุณต่อย่อดไม่ได้ไหม คุณสามารถสร้าง Digital Nomad ที่ไปทำมาหากินที่ไหนก็ได้ ไปอยู่ในพื้นที่ชนบทต่างๆ อยู่ในชายทะเล คุณก็สามารถที่จะทำงานของเขาได้ ไม่ใช่เฉพาะคนไทยอย่างเดียว คนอย่างที่อื่นด้วย อะไรต่างๆ ด้วยเนี่ย คุณต่อยอดได้ดีไหม แล้วก็เรื่องอื่นๆ เรื่องข้าวปรีก ข้าวส่ง โอ้โห มันหลากหลายเยอะแยะมากมากที่จะทำได้ ที่มันสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการทำงานอย่างเงี้ย พวกสตาร์ทอัพใหม่ๆ พวกทาเลนต์ใหม่ๆ ถึงแม้ว่ามันไม่ใช่พวกดิจิทัลอย่างเดียว แต่ว่าพวกที่มันเป็น Service Base เนี่ย ทำให้มันดี อาจารย์มองว่า อาการที่ทุนจีนเขาเข้ามา เขาได้ดุลจากเราไปเยอะ เขามีของมาขาด เขาส่งมาให้เราเยอะ เราส่งมาให้เขาน้อย ถ้าเทียบกับตัวเลขนี้ การที่เราจะสู้เขาได้คือเราต้องมี Knowledge ในงานพัฒนาตัวเองด้วยหรือเปล่าใช่ไหม แน่นอน และข้อสำคัญคือว่ามันต้องมี Networking อ่ะ เราต้องรู้สึกว่า เออ อัศวินคุณเล็กเนี่ย ถ้าคุณตัวเล็กกว่าเนี่ย คุณต้องยืดปัญญาเลยครับ คือถ้าคุณเล็กด้วยแล้วยังเชื่องช้ายังอืดอาดนะครับ แล้วก็ไม่สามารถที่จะใช้ความเล็กให้เป็นประโยชน์เนี่ยมันก็จะเสียหาย เล็กเนี่ยมันไม่ใช่ว่าคุณเสียเปรียบเสมอไปนะ ครับ เพราะว่าคุณมีความสามารถในการบริษัทข้องโตได้สูงไง ต้องใช้ประโยชน์ให้เป็นเป็น ครับ เพราะฉะนั้นอันนี้ต้องไปคิดนะ แต่ด้านหนึ่งก็ต้องป้องกันล่ะ แน่นอนเลยผมชื่อว่าใน 5 ปีข้างหน้าเนี่ยมันจะมีการ ผมเรียกมันว่าเป็นใช้หน้า Exodus ก็คือการลังไหลไถเทจากทีนออกสู่นอกประเทศ เพราะว่าเศรษฐกิจเดียวนี้มันไม่ได้เฟื่อมฟูเหมือนเดิมอีกแล้ว จีนดีพีมันขยายตัว เคย 8-9% หรือว่าเป็นตัวเลขสองหลัก ตอนนี้มันเหลือ 5-10 ปีข้างหน้าอย่างมากมันก็ 5% บวกลบ มันหายไปเยอะ และคุณยังมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งทางด้านภูมิวิทธิ์และศาสตร์ด้วย คุณไปปฏิสัมพันธ์กับชาติสมันตกได้น้อยลงไปอย่างมาก อยู่นะ อ่า ฉะนั้นคุณต้องมาปรีศสัมพันธ์กับ มันได้ใช่กับมันังพัฒนาด้วยกันเอง อืม อ่า ที่ว่าเป็น Global South ทั้งหลายเนี้ย นะครับ ฉะนั้นพวกเนี้ยมันจะต้อง ยังไงก็ตามเนี้ย มันจะต้องออกมา ครับ แต่ถ้าเมื่อออกมาแล้วแต่ว่ามันออกมาเนี้ย เนิน อะไรที่มี มันจะอิกสุดาตออกมาครับ เงินทุน ปีที่แล้วเนี่ย มหาเสถีจีนเนี่ยนะครับ เขาเรียกว่า คนที่เป็นมหาเสถี หมายถึงคนที่มีคุณศัพท์อย่างไรครับ มีเงินบริหาร ในมือไม่ได้ ก็คือเฉพาะเอามาลงทุนได้บริหารได้ ไม่รวมเอามาเอียดสินทรัพย์เรื่องบ้านที่อยู่อาศัยที่มีอยู่นะครับ ปีที่แรกคนเหล่านี้ออกจากจีนมา 13,000 คน แล้วปีนี้คาดว่าไม่ต่อว่า 15,000 คน แต่พวกนี้มันไปไหนครับ มันก็ไปประเทศอย่างสิงคโปร์ แต่บางส่วนมันก็ยังไปประเทศพัฒนาแล้วอยู่ คุณส่งสินค้าไปขายไม่ได้ แต่กลัวเอาสินค้าไปพวกนั้นมันไม่ได้หลักเกียรติ คุณเอาเงินเอาทองเข้าไปลงทุนอเมริกาเนี่ย เขาตอบรับคุณอะ มีตังค์เขาเอาหมด เอาหมดใช่ไหม แคนดา อะไรพวกนี้นะฮะ แต่ขนาดนี้ แล้วทำไมล่ะ เขารู้ว่าพวกนี้มันไปอยู่กับพวกฝรั่งเนี่ย คุณไว้ใจเขาได้ไหม ถึงเวลาเขาก็ตีหัวคุณอะ ไอ้พวกอาเซียน เฮด อาเซียน เฮด ใช่ไหม อะไรแบบนั้น ใช่ไหม เขาก็กิจจันทร์คุณอะ แล้วทำไม เออ แล้วไอ้ประเทศอื่นเป็นทางเรื่อง สามารถเอาเงินทุนเหล่านั้นมาได้ไหม เมื่อเอาเงินทุนเหล่านั้นมา แน่นอนก็ต้องมาซื้อทรัพย์สิน มาลงทุน มาประกอบการ เพื่ออำนวณให้มันมีประโยชน์ Exodat ของ Capital ของเงินทุน เราสามารถดึงมาใช้ประโยชน์ได้ไหม แต่ก็ต้องดูด้วย ว่าทุนเทาๆพวกนี้เราก็ต้องระวัง แล้วอะไรครับ People Exodat การออกมาของคน คนกลุ่มแรกๆที่มาคงไม่ใช่คนชั้นล่าง คนมีเงินและก็คนมีการศึกษา มีอะไรต่างๆ แต่ว่ามันมีรูทางธรรมากจีนในจีนน้อยลง พวกนี้มันต้องถ่ายรูทางไปที่อื่น จะได้คุณได้คนมาใช้ แทนที่คุณจะเอา เอาคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็น Unskilled Labour ที่มาใช้แหล่งงาน ซึ่งก็มีเหลือเฟือแล้วในประเทศไทยขนาดนี้ใช่ไหม แล้วคุณได้คนกลุ่มนั้นเนี่ย ที่เป็นพวก Start-up เป็นพวก Talent ใหม่ๆ เข้ามาเติมเนี่ย ถ้าคุณบริหารจัดการที่ดีเนี่ย แล้วมันมาพร้อมกับอะไรครับ มาพร้อมทีวี มาพร้อมโนฮาล พวกนี้มันอยู่ในเมืองชีมันก็ทำเรื่องของ IT เรื่องต่างๆเยอะแยะมากมาอยู่แล้ว แต่ว่ารูดทางในการทำงานคิดมันน้อยลงไง มันก็อยากไปที่อื่น People Exorbitant คุยเยอะประโยชน์กับคุณได้ไหม Business Exorbitant ธุรกิจที่ออกมา ด้านหนึ่งมันอาจจะเป็นด้านที่มาแข่งกับคุณ ทำให้คุณถูกประทบหลัก แต่อีกด้านหนึ่งคุณสามารถเก็บเกี่ยวได้ คุณต้องรู้จักศิษย์ศาสตร์ ว่าบวกกับลบศิษย์ศิษย์ศาสตร์แล้วอันดับมากกว่า มีด้านลบเนี่ยคุณมาริหารจัดการให้ด้านลบมันลดทอดลงได้ไหม แล้วคุณมีด้านบวกเนี่ยคุณสามารถขยายผลด้านบวกให้ดีขึ้นได้ไหม ครับ นี่คือสิ่งที่เราต้องต้องต้องต้องต้องงองนะครับ แต่มันเป็นอย่างงี้แน่นอนไม่มีทางกันได้ อืม นะครับ อย่างนั้นมึงมาแล้วเนี่ยมันมาแล้วด้านหนึ่งแน่นอนมันก็อาจจะเข้ามาตั้งการทีโนทำนู่นทำนี่นะ แต่ก็คุณต้องสกรีนไง ทุกอย่างก็ต้องต้องต้องต้องตั้งอย่างงี้ตั้งองค์กรที่มาสกรีนเลยว่า ครับ พิจารณาให้ดีแล้วสกรีนให้มันดี อืม นะครับ อาจารย์ยังคิดว่าบ้านเราก็ยังขายได้อยู่ ยังเนื้อหอมอยู่ไหมครับ แน่นอนเลยครับ ประเทศไทยเราเนี่ย มันเป็นประเทศที่ครบเครื่อง ครบเครื่องยังไงครับ อย่างน้อยเนี่ยคุณบริหารปัจจัยสี่ได้ลงตัว ซึ่งในโลกเนี่ยประเทศสุดยันในโลกไม่ใช่อย่างนี้นะ ปัจจัยสี่คืออะไรครับ คุณมีอาหารเนี่ยเหลือเฟือ คุณเป็นผู้ส่งออกอาหารสุดที่ ลายใหญ่ของโลกด้วยนะ สอง เรื่องของ Health Care ยารักษาโรคกับรักษาโรคเนี่ย ถามว่าเมืองไทยเนี่ย มีแต่เขามาให้คุณรักษาโรคไว้เขานะ แล้วคุณต้องไปพื่งพาที่อื่นให้รักษาโรคไว้คุณไหม ใช่ไหม หรือไม่แต่อยู่อย่างไม่ว่าสมัยใหม่สมัย สมัยแผนโบราณหรืออะไรทั้งหลายเนี่ยนะ และสามคืออะไรครับ ที่อยู่อาศัย โอ้โห ตอนที่คอนโดขายไม่ออก ถูกกับที่อื่นด้วย ใช่ไหม แล้วก็อะไรครับ อ.เจมส์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ อ.ศิลป์ คำแม้เกลียววุ่นวายในโลกเนี่ย คุณอยู่ในไทยธรรมดิ ฉะนั้นเมืองไทยเนี่ย อย่าไปมอง โอ้โห GDP มันตกชั้น มันตามอาเซียนมากี่ทัน มันโตไปแค่ 1.9% 1.5% อะไรทั้งหลายเนี่ย แล้วเนี่ย มันมีปัญหา ก็แน่นอนมันอาจจะมีปัญหาล่ะ แต่ต้องดูไงว่าดูในด้านอื่นๆที่มันเป็นด้านดี มันก็มีอยู่ไม่ใช่น้อย ขยายด้านดีให้มันมาก และลดทอนผลกระทบด้านลบให้มันลดน้อยลง นั่นคือวิธีค่ะ คือสิ่งที่ผู้รับผิดชอบในการบริหาร พลังเทศชาติต้องไปกบคิดนะครับ อีกคำถามนึง สุดท้ายไม่ถามอาจารย์ไม่ได้จริงๆ Digital Wallet จะเป็นพยุกหมุนอย่างที่เขาว่าไหมครับอาจารย์ ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับเงินบริหารชัดการ ถ้าเงินบริหารชัดการได้ดีเนี่ยมันก็คงจะมี 4 วีศาลาศีรษะ เรียกว่าผลทวีคูณ แต่ว่าอย่าไปคาดหวังว่านี่คือตัวแปลกที่ประเทศไทยต้องไปพึ่งพา มันแค่เป็นเศษเซี่ยวหนึ่งของการนำไปสู่ทางเรื่องมันหลายประเภท เหมือนมีบางคนบอกว่าเหมือนโยนหินลงนั้นแล้วก็จ่อมหายใต้ มันกลงหมุนได้บ้าง แต่ว่ามันจะเป็นพายุรู้ มันเป็นแค่อารมณ์ มันเป็นโทนโดร่วง เป็นโบ้งบ้าหมูเนี่ย นอกไปคิดดูนะครับ มันก็คืออยู่กับบริหารจัดจานเนี่ยนะ แต่ว่าอย่าไปติดกับเรื่องของ Digital Wallet เราติดกับเรื่องนี้มานานและมากเกินไป ตลอดตั้งแต่รัฐบาลบริหารประเทศตั้งแต่สิงหาวิทยาลัย มันครบปีแล้วอะ คุณติดกับในเรื่องนี้มากเนี่ย คุณอยู่ใน Digital Wallet แถบกับดักของ Digital Wallet คุณต้องรูปออกมาให้ได้ ว่าต่อไปเนี่ยมันต้องมีเรื่องอื่นๆที่รัฐบาลจะต้องเอามาขบคิด มาสร้างทั้งเรื่องมาให้แก่ประเทศชาติ ไม่ใช่ว่าคุณจะต้องไปบริหารจัดการ ไอ้ตัวนี้เป็นตัวหลักเพื่อนเลยครับ เพื่อหวังผลในการสร้างผลตอบแทนสูงสุดทางการเมือง คุณต้องหาทางสร้างผลตอบแทนสูงสุดทางศิริกิจให้แก่ประเทศชาติ ให้แก่ประชาชนให้ได้ อันนั้นต้องไปคงคิดนะครับ อีกคำถามหนึ่งคำถามสุดท้าย ในฐานะที่อาจารย์เป็นผู้ประหลาดสถานศึกษา แล้วเราเหมือนเมื่อกี้อาจารย์พูดมาว่า เรากับเวียดนามเนี่ยการศึกษาเขาดี เหมือนเขาจะดีกว่าเรา อาจารย์มองว่าเราต้องพัฒนาการศึกษายังไงครับ ที่จะทำให้เราเติบโตได้ไปอีกอะไรอย่างนี้ครับ แท้มันดีกว่าเดิม ดีกว่าปัจจุบัน สร้างคนให้มีความเก่งในเรื่องที่ผมเรียกว่าอย่างน้อย 5 เก่ง เก่งใน 5 เรื่อง 1. สร้างคนให้เก่งงานให้ได้ 2. สร้างคนให้เก่งที่เงาอีก 3. สร้างคนให้เก่งเงิน 4. สร้างคนให้เก่งทางด้านของ ของการประกอบการในด้านต่างๆ เป็นผู้ประกอบการ และ 5 คือต้องสร้างคนให้เก่งคน ทำงานร่วมของคนอื่นได้ดี บริหารคนให้เป็น ถ้าคุณเป็นผู้นำเพิ่มมากขึ้น เก่งภาษาด้วย เก่งภาษาเป็นเรื่องสำคัญ รู้ภาษาไทยอย่างเดียวคงไม่พอ 4-5 เก่งต้องสร้างขึ้นมาแล้ว และที่ต้องให้ความคุ้นมากคือ เก่งเรื่องทวีย์ คุณผลิตทวีย์เองไม่เป็นอะไร แต่ต้องรู้ไหม คุณต้องใช้งานมาให้เป็น คุณก็ต้องไปผลิตเองเทลยี่ คุณผลิตยังไงก็คงสู้เขาไม่ได้หรอก แต่ว่าเขาผลิตแล้วคุณเอามาแล้ว เพราะมันเปลี่ยนแปลงอยู่ต่อไปแล้ว โลกมันแข่งขันเยอะมากในการพัฒนาเทลยี่ มันไม่มีอะไรที่พลวัฒน์เปลี่ยนแปลงมากเท่ากับเรื่องเทลยี่อีกแล้ว แต่มันออกมาแล้วคุณต้องใช้งานมาให้สรรค์การ มันออกมายังไงแล้วคุณเอามาใช้ประโยชน์ได้ อันนั้นแหละคือสิ่งที่เราจะต้อง อย่างน้อยคุณต้องสร้างขึ้นมา ใน 5 เก่งนี้นะครับ สร้างขึ้นมาให้ดีให้ได้ จะมีวันไหนบ้างที่เราแบบ ว่าผมวาดฝันอะไรนะ วันที่เราพังงานเรื่องเทคโนโลยีแบบสุดๆ อาจารย์มองว่าเราจะมีวันนั้นบ้างไหมอาจารย์ ผมว่าความที่ห้างยาก เพราะว่าโดยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ก็ดี ทางวัฒนธรรม ทางประเภณีทุกอย่าง เราไม่ได้มาในเส้นทางนั้น ก็อย่างที่ผมกล่าวว่ามันเป็น Culture ของคนไทย ที่คุณจะต้องมีความสามารถทางด้าน Soft Sector ไม่ใช่ Hard Sector Hard Sector มันมีพลวัติมากนะครับ มันต้องใช้ต้นทุนมากมาย แล้วข้อสำคัญคือว่าไอ้ประเทศที่มันมีเป็นฮาร์ดเซ็กเซอร์อย่างเวียดนาม ถ้ามันรวยกว่านี้ คนอินเดียรวยกว่านี้ มันก็ต้องมาเที่ยวเมืองไทย มากินมาอยู่ในเมืองไทย มารักษาโรคเมืองไทย มันต้องคิดแบบนี้เลยนะ และครับ มาใช้ชีวิตพักผ่อนในเมืองไทย มีเงินมา และพวกนี้มันมาแล้วเดี๋ยวมันก็กลับไป มันไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้ประเทศชาติมากหรอก มาแล้ว 7 วัน อาทิตย์ 1-2 อาทิตย์มันก็กลับบ้านแล้ว แต่ว่ามันเอาเงินมาใช้ในบ้านคุณ เอามาใช้ให้ ได้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ หากินอย่างพวกนี้ให้ดี และผมเชื่อเลยว่าเมืองไทย โอ้โห แล้วดูสิครับ อินเดียมันชอบมาเที่ยวเมืองไทยไหม ทางนั้นที่พัฒนากันก็ได้มากไม่ได้มากใหม่ รายได้ต่อหัวคนอินเดียแค่ 2,000 กว่าเหรียญเอง ครึ่งเดียวของเวียดนามเองนะครับ แต่ก็ยังมาเที่ยวเมืองไทยมากขนาดนี้ นี่คือตัวอย่างอันหนึ่ง ไทยยังน่าสนใจอยู่ใช่ไหมครับ ผมว่ามีรูปทางเยอะ ผมคิดได้ดูให้ดีเลย มันไม่ใช่ว่าเรา โอ้โห คือพูดแบบผมไม่เชื่อว่าเมืองไทยแทน ไม่ได้เป็นเวทย์สินไรมายต่อ เพียงแต่ว่าคุณหาช่องทางในการพัฒนาในการออกไปได้ไหม และขยายผลไม่ได้ไหม อันนี้คุณต้องไปคิดนะครับ ขอบคุณวันช้าสวัสดิ์พระอาวุธ