Transcript for:
การลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจไทย

สวัสดีคร สวัสดีค่ะ วันนี้เราพาไปพูดคุยกับนักลงทุนรุ่นเยาวกันนะคะ ก็คือเขาเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 14 แต่ว่าเป็นการลงทุนในน้ำมัน แล้วก็เป็นการเกร็งกำไรด้วย จนกระทั่งเขานั้นไม่ประสบความสำเร็จค่ะ เริ่มกลับไปซื้อหุ้น แต่ทีนี้หุ้นที่เขาซื้อเนี่ย มันเป็นหุ้นต่างประเทศ แล้วก็เป็นหุ้นที่แบบตัวดังๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ อย่างที่เรารู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็น Google Amazon หรือว่าแม้กระทั่งตัวที่เป็น Facebook ก็คือตอนนี้เป็น Meta แล้วนะคะ อะไรที่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเริ่มเข้าตลาดตั้งแต่อายุ 14 นะคะ นอกจากว่าเขาจะเป็นนักลงทุน เขาก็ยังเป็นนักธุรกิจด้วยที่ประสบความสำเร็จนะคะ แล้วก็เป็นคนที่มีความคิดความอ่านในเรื่องของ Big Picture ก็คือภาพใหญ่ โดยเฉพาะภาพใหญ่ของโลก แล้วก็ภาพใหญ่ของประเทศด้วย วันนี้ค่ะ เราไปพูดคุยกันนะคะกับคุณ CK เจิงนะคะ เป็น CEO ของ FASTWORK ค่ะ คุณ CK อยู่เท่าไหร่คะ ตั้งแต่ 11 ครับ เป็นนักธุรกิจหรือเป็นนักลงทุน ถ้าได้เชิญของโปรสกรณ์สำเร็จคือ ต้องลงทุนครับ แต่ว่าถ้าจิตใจคือ อยากเป็นนักธุรกิจที่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครับ โอเค นั้นถามเรื่องนักลงทุนก่อน เริ่มลงทุนได้อยู่เท่าไหร่คะ 14 ครับ โห 14 นี่คือพ้นวัยรุ่นอย่างคะเนี่ย ยังครับ แต่ตอนที่ลงทุนตอนนั้นมันคือความจำเป็นมากกว่า เล่าให้ฟังนี้ในภาพว่า จุดเริ่มต้นของการลงทุนของเราเนี่ย คือเรารุ่มเร็วมากนะ 14 เนี่ย คือผมไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตอนอยู่ 13 แล้วผมถูกยงมาที่เมริกา เมริกาคนเดียว ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เลย แล้วผมก็อยู่กับ host family นะครับ แล้วถ้าผมไม่มีสิ่งเลือกว่าเงิน ผมไม่หาเพื่อนไปได้ครับ ตอนนั้นไม่มีอูเบอร์ อยู่ที่เมริลันด์ก็มีแค่ช่องทางเดินในการเดินทางก็คือ Barwood Taxi Barwood Taxi คือชื่อบริษัท Taxi นะครับ ซึ่งต้องโทรไปให้เขามารับแล้วให้เขาไปส่งแล้วให้เขามารับจากที่นู่นแล้วกลับมาอีกที ไปกับก็ 60 ดอนครับ ไม่มีเงินเลยครับ ก็เลยเริ่มต้นเข้าใจว่า ถ้าไม่มีเงิน ผมไม่มีอิสระ ไม่ใช่แค่อิสระในเชิงของ ไม่มีภาพออกจากบ้านไม่ได้ครับ ก็เลยตอนนั้นรู้สึกว่าเงินสำคัญมากๆ ก็เลยเริ่มต้นคือเป็นพาร์ทไทม์ พอเป็นพาร์ทไทม์ ไม่ว่าจะเป็นโมตรรอน เดินหมา หรือว่าเบบิซิต 3 อย่างนี้มันสร้างเงินให้ผมอันดับหนึ่ง แต่พอเราเอาเวลาของเราไปหาเงิน มันทำให้ผมยิ่งไม่ใช้เงินมากกว่าเถอะ เพราะผมตีเงินเป็นมูลค่าเวลา ยิ่งไม่ใช้เงินเลย ผมจะแนะนำอีกรูปมาให้ไป Work Per Hour ไม่ได้เพราะว่าคุณจะร่ำรวยกว่าสิ่งนี้นะครับ แต่คุณจะเข้าใจว่า ถ้าตีเงินเป็นมูลค่าเวลา คุณจะไม่ใช้เงินเลย สมมุตินะครับ ผมไปวิซิตสามชั่วโมง ผมได้หกสิบดอน แต่ถ้าผมไปกับแท็กซี่ นั่งแท็กซี่แค่มาสิบห้านาที ผมต้องใช้เวลาสามชั่วโมง ไปเอาเงินก้อนอีกมาก มันคุ้มค่ากับสิบห้านาทีในการเดินทางเลย ถ้าคุณตีเงินเป็นเวลา คุณจะไม่ใช้เงินอีกต่อไป So ผมเข้าใจว่าถ้าผมเอาเวลาของผม ถ้าผมต้องใช้เวลาของผมในการหาเงิน แล้วผมใช้เงินก่อนเนี่ย เงินของผมจะหมด So ผมต้องให้เงินมันหาจนให้ผม ซึ่งตอนนั้นวิธีเดียวสุดนะครับ เข้าบอร์ดไม่ได้ ก็เลยยืมชื่อพ่อมาเปิด TDM ReadyTrade คือ Brokerage Account ที่อเมริกา พ่อ 18 ปีถึงเปิด Brokerage Account ของตัวเองได้ เพราะตอนนั้นก่อนที่เริ่มเปิด Brokerage Account คือถามพ่อ ไม่ถามพอ แต่ว่าไปดู Trading View ของ TDM Retrade แล้วเห็นสิ่งที่ VOL โทรมานสุดตอนนั้นคือน้ำมัน ก็ลองซื้อขายน้ำมันดูครับ ลองเทรดน้ำมันดู ศึกษาทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวเป็นหน้าที่ 120 Debit Moving Average Bull Fact แค่ใน Shoulder คือผมดูแบบ ดูกราฟท์ ดูวอลลุ่มทุกอย่างนะครับ ดูแคนดลทุกอย่าง คือผมศึกษาทุกช่องทางที่ผมศึกษาได้แล้วกัน ปีไหนคะเนี่ย ปีที่น้ำมันขึ้นแรงๆ มั้ย มีความผันผวนบ้าง คือสงสัยว่าทำไมต้องเป็นสินค้าน้ำมันด้วย เพราะมันวอลลที่สุดครับตอนนั้น ช่วงตอนนั้นคือวอลลที่สุดครับ ตอนนั้นคือ มันคือช่วงปี 2010-2008 มันไม่ได้มีอะไร มันไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจเลยค่ะ แต่ว่า ใช่ ใช่ แต่สิ่งที่ยังพอไปไม่ได้อยู่คือมันคือน้ำมัน ตอนนั้นผมซื้อขายน้ำมันตอนนั้น ผม ผม Trading view คือว่า มันไม่ต้องใช้เงินจริงๆ เอาเงินเฟคๆเข้าไป แล้วพอดีก็ผมทำไปประมาณสัก 4-5 เดือน ผมรู้สึกว่า เฮ้ย มันกำไรนี่หว่า เอาเงินเฟคๆไหมถูกว่า จุดเริ่มต้นเหล่าเงินก็ไม่มี เปิดบัญชีเฉยๆ ยืมบัญชี ไม่ได้ยืม ตอนนั้นยังไม่ต้องยืมชื่อพ่อด้วย เราเทรดวันนี้ เราขายวันนี้ เทรดวันนี้ คือ Imaginary money มันเป็นเงินที่ไม่ได้จริง แล้วปรากฏว่าผมกำไรมาก ก็เลยบอกว่า เอ๊ะ ทำไมไม่ใช้เงิน เงินจริงละ เงินจริงนะ แล้วเบิกขึ้นมา เบิกเงินออกมาได้จริงได้มั้ย ไม่ได้สิ ก็ไม่ได้เหมือนกัน มันแค่เป็น Imagine เฉยๆ ใช่ Imagine Money มันคือ Imaginary Money ว่าแบบ นี่เป็น Trading View ที่แบบ ถ้าคุณมีเงิน ถ้าคุณลงทุนวันนี้ ขายวันนี้ มันคือการทดลอง ใช่ มันคือ Experiment ครับ แต่พอเราใช้เงินจริงๆ แล้ว ปรากฏว่าเจ๋ง เจ๋ง เพราะว่าผมไม่เข้าใจว่าของ Factor ของ Emotion พอมีเงินจริงป่ะผมกลัว ขึ้นต้นผมโรค ก็เลยผมลืม Factor ตรงนี้ In แล้วมันทำให้มันไม่รอด แสดงว่าเราเอาเงินจริงเข้าไปเทดด้วย หลังจากที่แบบ Inventive ไปแล้ว แล้วไปเอาเงินมันจากไหนอ่ะ ของผมมีต้องสองช่องทางครับ ตอนนั้นคือมีค่าที่ผมทำพาร์ทไทม์ใช่ไหมครับ ถ้าอยู่ที่อามาน่าจะ 5-600 ดอนนะ ต่อ แล้วแต่ต่อ ไม่ ไม่ต่ออ่าว ต่อเดือนครับ แต่ว่าถ้าเป็นพ่อเขาก็จะมีให้ ตอนนั้นต่อปีเขาให้ 2,000 USD ให้ผมไปใช้ แต่ว่าหลังจากนั้นผมก็บอกว่ามันใช้ไม่พอ แล้วผมก็เอาทั้งหมดก็อันนี้ ผมก็ไปลงทุนหมดเลย แต่ว่าตอนนั้นพอพ่อว่า เฮ้ยพ่อ ถ้าให้ต่อเรียน ให้ทั้งปีทีเดียวได้ไหม อาจจะได้เงินไปเล่นมากขึ้น ก็เลย that's the starting point อ่า ก็เลยได้ก้อนใหญ่ แล้วก็ all in เลย คำถามว่า O-in หรือเปล่า ก็ไม่ได้ O-in ขนาดนั้นครับ It's a significant portion of my money แล้วก็ไม่รอดครับ เจ๊งหมดมั้ย? ไม่หมดครับ แต่รู้สึกว่ามันไม่คุ้ม มันไม่ได้กำไรแน่ๆ แล้วรู้สึกว่ามัน... มันเหนื่อยครับ อ่าฮะ แล้วคือเราคิดมาว่าทำไมทดลองเล่นแล้วมันได้กำไร แต่พอเอาเงินจริงเข้าไปนี่คือ Emotion อะครับ เพราะว่าจริงๆตอนนี้ใช้เงินจริงๆคุณกลัวจริงๆ เพราะมันหมดจริง มันหมดจริงครับ แล้วมันเป็นเงินจริงๆครับ แล้วพอคุณกลัวปั๊บมันคือ factor emotion ครับ So นักลงทุน ศัตรูของนักลงทุนจริงๆ ครับ คือ emotion ถ้าคุณมี emotion กับบางส��่งบางอย่าง it's very hard for you to be the star market แล้วช่วงนั้นคือ คุณ CK ไม่ได้ใช้ technical ไม่ได้ใช้อะไรเหรอ ใช่มั้ย ใช้พื้นฐาน ใช้ technical มา เทคนิค แน่นอน แน่นอน แต่มันไม่ได้ ผมก็หันมาลงทุนวิธีอื่นครับ ซึ่งคือลงทุนเรื่อยๆ ยาวนั้นแหละ Just buy a stock and just hold it long term Just buy a stock and just hold it long term เปลี่ยนแนวเลย กลายเป็น VI เลยป่ะ ใช่ครับ ก็เรียกว่า VI ผมถือหุ้นเกิน 10 ปี โห ตัวแรกคือ ตัวแรกคือ Amazon ครับ Amazon ทำไมถึงไม่ซื้อ Amazon หรือว่าช่วงนั้นก็เดินเก่นสุด เพราะว่าตอนนั้นคือ ถ้าเป็นเด็กทั้งหลายที่อยู่อเมริกาช่วงเวลาปี 2008-2009 นะครับ ที่ที่เขาแฮงอัลกับมากที่สุดคือน่าหนังสือ แล้วปรากฏว่าตอนที่ Amazon เขาเปิดเข้าขาดหนังสือปั๊บ เหตุผลในการเข้าร้านหนังสือมันน้อยลง เด็กทุกคนคือซื้อหนังสือทาง Amazon หมดเลย ก็รู้สึกว่าโห อันนี้มันจะซอฟต์ธิปมากนะ จากบ้านเสร็จ ที่อเมริกามันมีร้านหนังสือที่มันดังมาก ชื่อว่า Barnes & Noble แต่ Barnes & Noble อยู่ดีๆ คือแบบ ไม่มีใครไป Barnes & Noble แล้ว เด็กทุกคนคือซื้อหนังสือผ่าน Amazon เพราะมันถูกกว่าเยอะมาก ก็รู้สึกว่า Yeah, I like this company ตอนนั้นคือไม่มีไอเดียว่า กำไรคือเท่าไหร่ อะไรคือ PE Ratio อะไรคือหุ้น อะไรคือกำไร อะไรคือ Balance Sheet ไม่รู้อะไรเลย อันนี้เห็นแต่พฤติกรรมที่มันเปลี่ยน หมายถึงอะไรครับ พฤติกรรมของคนที่เริ่มเปลี่ยน ใช่ครับ แต่ว่าตอนที่ผมลงทุนคือ ผมไม่มี Fundamental Understanding of Stock Market เลย ใช้ความรู้สึกส่วนตัว ใช่ครับ ซื้อเพราะผมเป็นลูกค้าครับ ซื้อเพราะผมเป็นลูกค้าครับ ซื้อเพราะผมเป็นลูกค้า และผมเป็นวัยเด็กที่ผมเป็นลูกค้าของเขา ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Google, Facebook และ Apple ครับ 4 อย่างนี้เป็นสิ่งที่เด็กเขาใช้กัน และพอเด็กเขาใช้กันปั๊บ I just buy stocks that I love and I use and turns out to be right ก็เลยซื้อเลย เพราะว่าคนก็เริ่มไปใช้กันแล้วดูเฉพาะเด็กๆที่เป็นรุ่นเดียวกับเรา ใช่ครับ จริงๆ ตอนนั้นมีเด็กๆ ใช้มากกว่า เพราะว่า Facebook ตอนนั้นน่าจะยังถือว่า มีเด็กๆ ถึงใช้ มีเด็ก College student ถึงใช้ Apple ตอนนั้นก็ยังเป็นรุ่นนักแรก แต่ว่า ก็ยังมีกำกึ่งแหละ บางคนก็บอกว่า BB ดีกว่า บางคนก็บอกว่า Apple ดีกว่า แต่ว่าระหว่างเด็กกันคือ เราจะมีสิ่งเรียกว่า Blue Bubble กับ Green Bubble ซึ่งเขาเลยบอกว่า เฮ้ย ถ้าเป็น Blue Bubble ถึงเรียกว่า Cool Kids Green Bubble ไม่ใช่ Cool Kids ก็แปลว่าถ้าคุณส่งเป็น Text Message หรือ iMessage เด็กจะไม่ชอบกัน So we know that นี่เดี๋ยวผมซื้อได้ปี 2013 แต่ผมขายเลี้ยวไปหน่อย ฉะนั้น Speed NVIDIA ขายไปปี 2019-2020 แสดงว่าลงทุนน้ำมันเนี่ยไม่เวอร์ ไม่เวอร์ครับ ไม่เวอร์ครับ ไม่เวอร์ แล้วเรากลับลงทุนทุนแล้วก็เปลี่ยนสไตล์เลย ใช่ แต่ผมลงทุนกับคุณน้ำมัน Exxon Chevron ก็ไม่เวอร์ มันก็เวิร์ดเลยแล้วยาว แต่ return ก็ยังสู้ tech stock ไม่ได้ มันเป็น community ด้วยเนอะ และจริงๆ ผมโชคดีด้วยแหละ เพราะว่าในช่วงปี 2008 ที่ผมลงทุนกับตอนที่ผมขาดในปี 2020 ก็ช่วงเวลาที่ drop เปรี้ยวต่ำที่สุด ช่วงราวที่หุ้นก็ขึ้นอย่างเดียวครับ เพราะว่ามันเป็นช่วงให้หุ้นต่ำ แล้วมันกำลังจะขึ้น มันไม่ได้ช่วงให้หุ้นต่ำอย่างเดียวครับ มันคือ Interest Rate เขาต่ำมากๆครับ คือ 2018 เขา Lower The Interest Rate เพื่อกระทบต้นเศรษฐกิจ แล้ว Interest Rate คือ Near Zero Until Like Recently เขาเพิ่งเพิ่ม Interest Rate ในช่วงเวลา Inflation ที่ผ่านมา 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ว่าก่อนหน้านี้คือ Interest Rate สูงตลอดเลย ก็เลย Yeah, that's those are the period ก็เลยมีความโชคดีบ้างครับ เมื่อสักครู่คุณ CK บอกว่า เพราะเราเห็นแล้วล่ะว่าพวกสินค้าพวกนี้คนเริ่มใช้กันเยอะแยะแล้ว หลังจากนั้นคือเข้าไปดู Fundamental ไหมครับ Fundamental คือเขาให้เรียนรู้ Overtime ครับ เพราะว่าผมก็เลือกเรียนบัญชีกับ Finance แล้วก็ตอนนี้ผม ที่นี่หลายๆอย่างมันคือ Surf Tod มากกว่านะ แล้วผมก็เลยแนะนำหลายๆคนให้ ถ้าคุณไม่เข้าใจตลาดขุ้นนะครับ ลงทุนเลย ตอนที่เฟทเขาจะ raise interest rate เขาจะ raise เพราะอะไรคุณจะละฟัง ตอนที่เศรษฐกิจโลกมันมีอะไรเกิดขึ้นคุณจะละฟัง ตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นเศรษฐกิจน้ำมันคุณจะละฟัง So overtime เขาสองสามปีที่ผ่านมา สี่ห้าปีที่ผ่านมา แล้วถ้าคุณลงทุนเลือกคุณเองนะครับ คุณจะเรียนรุ่นมหาศาลมากระหว่างทางและคุณการเป็นคนที่รอบรู้มาก มันก็เลย จริงๆ most of the stuff is self taught สิ่งที่ผมเรียนรู้มันไม่ได้มาจากห้องเรียนครับ ห้องเรียนอาจจะสอนว่า บัญชีต้องรู้ยังไง อะไรอยู่ยังไง แต่ว่าสอนให้ดูคุณยังไง หรือว่าสอนให้ดูยังไงในการเลือกคุณที่ถูกต้องมันไม่มีคลาส แต่คุณซีเคคือประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้น น้ำมันไม่เวิร์ค ไม่ครับ ผมซื้อหุ้นน้ำมันก็ไม่เวิร์คขนาดนั้น เพราะตอนนั้นผมก็ซื้อ Exxon Chevron ก็ซื้อครับ แต่ก็ไม่ได้ return ได้ดีขนาดนั้นครับ แล้วคุณซีเคได้ผลต่อแทนมาเท่าไหร่กำไร กำไรของหุ้นที่ลงทุนหุ้นได้เยอะไหม เยอะครับ ก็เงินผมเชื่อว่าเงินทุกอย่างที่ผมมีตอนวันนี้นะครับ ถ้าเงินต้นคือมาจากการลงทุน คุณแคบจะ 100% เลย เพราะว่าเงินที่กำไรจากธุรกิจมัน น้อยกว่า 5% นั้น of my net worth come from การค้าขายของธุรกิจ 95% มาจากกลางข้างหมด อันนี้เป็นการพิสูจน์ว่า เราต้องไปทำอะไรให้มันคุ้มค่ากับเวลา ที่บอกเมื่อสักครู่เนี่ย คือต้องดูนะเวลาเนี่ยมันเท่ากัน แต่ว่าแต่ละคนเนี่ยมันทำอะไรเนี่ย มันได้ Value อะไรมากกว่ากัน อันนี้มันการตอบโจทย์แล้วที่คุณ CK บอกว่า หุ้นเนี่ยตอบโจทย์แล้วเรื่องของการใช้เวลาแล้วคุ้มค่า ครับ แล้วผมว่ามันไม่ใช่แค่หุ้นอย่างเดียวครับ มันคือการต่อโจทย์ มันมีหลายอย่างที่เราสามารถลงทุนได้ เราสามารถลงทุนกับหุ้นได้ เราสามารถลงทุนกับอาสังหาริมศัพท์ได้ เราสามารถลงทุนกับ Fixed income ได้ ใช้หลักการเดียวกัน เราสามารถลงทุนกับ Cryptocurrency ได้ มันมีหลายอย่างที่เราสามารถลงทุนได้ บางคนลงทุนกับทองด้วย แต่ว่าที่เราลงทุนกับอะไรสักอย่างเราต้องเข้าใจ คำว่าลงทุนมันไม่แปลว่าลงทุนต่อหุ้นอย่างเดียว อย่างเช่นตอนนี้ผมพอร์ตหุ้นของผมพื้นน้อยมาก แต่ผมลงทุนกับ Fixed income เยอะมาก ซึ่งเราต้อง Adapt กับตลาดตลอดเวลาครับ ทำไมถึงเข้าไปลงทุนใน Fixed income เยอะ เพราะว่าตราสันอเมริกามัน 5.25% มันแทบจะไม่มีเหตุผลในการเท็จความเสี่ยงเลย มันคือเรื่องของผลตอบแทน ถ้าตราสันอเมริกาก็ 5.25% แปลว่าถ้าเป็นหนี้ของแบงค Corporate Debt of UBS หรือ HSBC ก็ต้องจ่ายอยู่ที่มัน 5-6-7-8% ใช่ไหมครับ แล้วถ้าเป็นบริษัทดีวิเดนที่จ่ายมากกว่า 5.25% ผมจะซื้อเขาทำไม ผมจะซื้อตราสันอเมริกาสิ วันนี้เป็นจังหวะเดียวที่คุณไม่ต้องที่กความเสี่ยงและคุณสามารถ Enjoy Signal Risk Free ได้ ไม่มีความเสี่ยงแล้ว รวมถึงตราสันอเมริกาคือไม่มีความเสี่ยง ความสิ่งน้อยสุดก็ 5.25% ผมจะเอาเงินไปเสี่ยงทำไม แต่หุ้นเทคมันขึ้นเยอะนะ หุ้นเทคมันขึ้นเยอะซึ่งเป็นสิ่งที่คาดดูได้ยากนะครับ ผมอยากจะบอกว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับหุ้นเทคมันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศักดิ์โลกเลย คือไม่เคยมีจังหวะที่หุ้นขึ้นตอนที่ตาสารนิยมีการมันขึ้น ซึ่งมันขึ้นเพราะเหตุผลเดียวและเหตุผลเดียวเท่านั้น And it's at AI AI มันกันเกิดขึ้นในช่วงเวลาตาสารนิยมีการพุ่งเยอะที่สุด อย่างที่เห็นครับในวีดีโอคือ คือคลองตลาดไว้เลย เป็นหุ้นเดียวที่คลองตลาดไว้ เมื่อนั้น NASDAQ ลงแล้ว That's incredible มันเป็นสิ่งที่แทบจะไม่เคยเห็นกับแต่ละองค์การด้วยซ้ำไป บางคนยังอากิวนะครับว่า Inflation Rate ที่ 2% มันอาจจะไม่ตอบจนแล้วก็ได้ อาจจะต้องรอ Inflation ที่เป็น 4-5% เพื่อ Match กับ Growth Rate ที่ประเศษสามารถไปได้ด้วย AI ก็เลยมันเป็นสิ่งมหาศจรรย์ครับ 3 ปีที่ตราสานอเมกา 5.25% หุ้นขึ้น It's crazy แล้วตอนที่เขา lower the interest rate หุ้นก็คงขึ้นต่อไป ค่ะ ตัวล่าแข็ง แต่ว่าทองคำขึ้น ครับ ทุกอย่างมันดูแบบเป็นปรากฏการณ์ที่บอกว่า มันไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้เลย Unprecedented แต่ผมก็ยังรู้สึกแหละว่า Market cycle มันต้องมีของมันเนอะ แล้วผมรู้สึกว่า Market cycle ค่ะ I don't think I'll jump back to... I don't think I'll jump back to buying stocks เร็วๆนี้ครับ I'll just enjoy fixed income คุณ CK มองว่า Loss มันต่ำ แต่ว่า Reward มันสูง ถ้าดูจากตัวของพนบัตร แต่ว่า ถ้าเป็นหุ้น Reward มันจะแคบแล้ว แต่ว่า ตัว Loss มันจะสูงมาก เพราะมันขึ้นมาเยอะแล้ว ผมรู้สึกว่าเป็นอย่างไรนะครับ แล้วว่าตอนนี้ Fixed Income คือ So ถ้าตอนนี้คุณสามารถ Lock in a rate of 5.25% แล้วซื้อพันธบัตรระยะยาว This is the only time to enjoy no risk reward คือเราเห็นข้างหน้าแล้วล่ะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น มันต้อง Lower the interest rate ยาว สิ่งที่ถ้าดอนเตอร์ทรัมป์เป็น President นะครับ ยังไงเขาก็ต้อง Lower the interest rate และยังไงเขาก็ต้อง Pump น้ำมันด้วย ถ้าเขาทำสองอย่างนี้ ศาลิกิจยังไงก็ขึ้นครับ แต่มีเฟื้อจะมาเยอะมาก ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ใน argument ว่าเงินเฟ้อคือจำควรเป็น 2% หรือเปล่า มันแล้วแต่ว่าคุณมองไหนครับ ถ้าคุณอยากจะกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงของ AI ถ้าอย่างนั้น 2% maybe is too low เพราะว่าคุณต้องปริ้นเงินเพียงพอในการสามารถ พักกันให้ AI development ได้ เพราะว่าสิ่งที่ AI development ต้องการจริงๆ เขาต้องการแรง เขาต้องการพลังงาน สิ่งนี้ขาดในตลาดนอกเหนือจากแค่ Computer Chefs ของ Nvidia นอกจากแค่ GPU แต่มันคือพลังงานครับ จดทีวีดีโอต้องใช้พลังงาน ซึ่งพลังงานมันจะใช้ไม่ได้ถ้า Energy มันแพง ซึ่งยังไงก็ต้อง Lower the Energy Cost มันถึงปรักตันด้วย AI ได้ นี่คือข้อหนึ่ง ข้อสองคือว่า ถ้าคุณ Burn For Fossil Fuel เพื่อที่จะ Run Data Center มันก็อาจจะไม่ Make Sense ในเรื่องยาว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมัดล้อม กฎหมายที่กำลังจะมา เรื่องเกี่ยวกับออคลีน ก็อาจจะไม่ Make Sense คือ Nuclear Energy Wind Energy คงไม่พอ Solar Energy อาจจะไม่ได้ทุกรัฐ แต่ว่าถ้าเป็น Nuclear Energy มันอาจจะเป็น Energy Efficient มากที่สุด นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าอเมริกาน่าจะทำมากขึ้นครับ คุณสิเค ทีนี้ถ้าให้คุณสิเคมองไปข้างหน้าแล้วบอกว่า เลือกหุ้นอเมริกา คุณสิเคอยากจะเลือกหุ้นแบบไหน หุ้นอะไรนะ ถ้าว่าเรามองไปข้างหน้าเลยนะฮะ วันนี้เหรอครับ ใช่ วันนี้ พูดอะไรที่ตอบโจทย์ในวันข้างหน้า หมายถึงว่าถ้าผมอยู่ในสถานการณ์อะไรครับ ผมมีเงินเข้าไว้ ถ้ามีเงินอยู่ตรงนี้ ถ้ามีเงินที่จะลงทุนได้ แล้วก็กะหวังว่าลงเสร็จเราน่าจะปลดเกษียณได้เลย ไม่มีครับ อิสระฟ้าในการเงิน หรือว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ถ้าสวิชจากตัวที่เป็นบอลมา แน่ๆคือผมจะไม่เลือกดิวิดัน 2 ซักซักเนี่ย ค่ะ เพราะสิ่งที่ สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องทำวันนี้ ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลง มันจะเทคความเสี่ยงมากที่สุด ถ้าคุณเอาเงินสอบไปจ่าย dividend มันแปลว่าคุณไม่มีอะไรที่ลงทุนแล้ว แต่ว่าทุกธุรกิจวันนี้ต้องลงทุนให้ AI ถ้าคุณเป็นธุรกิจที่ไม่ใช้ AI คุณจะหายไปในอนาคตครับ ถ้าผมมองตัวละบริษัทที่ใช้ AI มากที่สุดนะครับ แต่ว่ามันก็แพ้กันหมดแล้วละ คืออันนี้ที่ถามเนี่ย เพราะว่าเราเข้าใจว่า หลายคนเนี่ย อยากได้ไอเดียจากคุณสิเค เพราะว่าคุณสิเคเวลามองเนี่ย คือเป็นการมองในอนาคตไงฮะ ฉะนั้นเนี่ย อันนี้ถ้าเรามองอนาคตว่า ทุกคนเชื่อว่า เอ้ย AI มันมาแน่ๆ เลยอ่ะ อะไรที่มันเป็นสิ่งแวดล้อมเหมือน AI หรือจะซื้อแบบว่าเป็น AI ไปเลย ตัวโดดๆ ไปเลย ที่เขาเล่นๆ กันอยู่ตอนนี้ มันๆๆ เพราะถ้าหุ้นที่ผมสนใจนะครับ Maybe it's not AI company today I mean เพราะ AI company is hugely pricey แล้วผมก็ไม่อยากซื้อตลาดที่ทุกคนจะมองด้วย ถ้ามีหุ้นที่ผมชอบ I mean There are 2 stocks One is Costco and one is Chipotle ก็เลยเป็น 2 หุ้นที่ผม ถ้าผมทำไมต้องซื้อ ผมจะซื้อ 2 หุ้นนี้ เหตุผล เหตุผลคือว่า Costco The great thing about Costco Is that เขามี รู้จักCostco ไหมครับ ค่ะ รู้จัก เพราะว่า Costco เขาเป็น มันคือ steady cash flow ที่เขาได้จาก membership แล้วพอได้ membership ปั๊บ ก็แปลว่าคนที่จาก membership ไป จุดคลายของคอสโก้ ไม่ใช่ว่าคุณซื้อ membership คือเอาอันนี้เป็น revenue นะ แต่ว่าถ้าคุณจ่าย 50 USD ต่อปี เพื่อได้ membership อันนี้ ถ้าคุณมีเหตุผลในการ shopping คุณก็จะเข้าคอสโก้ แล้วข้อเดียวของคอสโก้ คือว่าคอสโก้มีสินค้าที่อื่นไม่มีด้วย เช่นเครือเล่น เครือเล่นมันเป็นสินที่คอสโก้มี แต่ว่าวานของคอสโก้ มันก็จะมีแค่คอสโก้สินที่มี เขามีสินค้าที่ดีมากๆ มันเหมือนกับเป็น Netflix Original It's the same concept ว่าตอนแรกคุณ Subscribe เพื่อดูหนัง Netflix แต่ตอนแรกคุณ Subscribe เป็นเพราะว่า Netflix Original So มันเหมือนกับว่าคุณ Subscribe กับ Costco เพราะว่า Costco มีโค้ก มีเฟ็บซี่ อะไรว่ากันไปนะ แต่วันนี้คุณ Subscribe คอสโก้ เพราะสินค้า Original ของคอสโก้ So, คอสโก้ is like... Modern ของคอสโก้มันเป็นสิ่งที่ Undisrupted มากๆ แล้ว Cashflow เขาคือ มหาศาลมาก And I enjoy company with Cashflow และอันนึงคือ Chipotle คือผมว่า Chipotle มันเป็นหุ้นที่ผมชอบมากๆนะ เหตุผลนึงเพราะว่าจุดค้าของ Chipotle คือมันไม่ใช่แค่เป็น Fast Work Chain นะครับ จุดค้าของ Costco จุดค้ากับ Chipotle และไม่มีใครสมัยกรอบ Chipotle ได้ เพราะว่า Chipotle เขามี Contract กับเกษตรกรพื้นที่ดินของเขา ทุกที่ที่เขามีเลย ก็แปลว่าเนื้อสัตว์ที่เขาเอามาใช้ทำ Chipotle มันไม่ได้เป็น Frozen Meat อ่ะ มันคือเนื้อที่อยู่ใกล้เกษตรกรพมากที่สุด มันก็จะกลายเป็นมอเดทที่มันกรอบยากมาก เป็นเพราะว่ามอเดทของชิคกี้พาย มันไม่ใช่ว่าเขาทำเก่งกว่า ทำเร็วกว่า หรือว่าทำอร่อยกว่า แต่มันคือคอนแทรกท์ที่เขามีกับแต่ละ individual farmer ซึ่งทำให้บินเซอสมอเดลของ Chipotle มัน disrupt ได้ยากมากๆ And that's the mode And if it's the AI race, I would bet on Google ตอนนี้นะครับ อันนี้เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องโมเดล พิเศษโมเดล คือคุณสิเคเนี่ย มองไปที่จุดแข็งของเขาว่า จุดแข็งของเขาเนี่ย มันคืออะไร โมเดลคืออะไร แล้วทำมาหากินอะไร แล้วคุณจะได้อะไรได้ไหม แล้วคุณจะได้ยั่งยืนหรือเปล่า คือได้ไปเรื่อยๆ อันนี้เรามอง Model เป็นหลักเลย แล้วเวลาจบกันเงินบัญชีมา เราประเมินมูลค่ายังไง เวลาเราดูเสร็จแล้ว ประเมินมูลค่าบริษัทแล้วครับ ใช่ ว่า อุ๊ย ราคานี้เหมาะสมแล้ว น่าซื้อ โห มัน เราดูไม่รู้ ประเมิน It's very hard right มันประเมินมูลค่าของ Public Company or Private Company ใช่ ที่เราจะให้ราคาเขา แล้วก็ซื้อราคาที่หมด ผมว่าผม ประสบการณ์ของผม คือประมวลมูลค่าบริษัทอยู่แล้วนะ ที่ New York So, there are multiple ways to do it, you can do no more โดยสามารถดู EBITDA และดู Discount and Cash Flow แต่ว่า DCF สุดท้ายมันก็คือเกี่ยวกับ assumption ของ finance person เพราะว่าถ้าคุณทำ DCF แปลว่าคุณต้อง assume growth rate เพราะว่าคุณต้องมี perpetual growth rate ที่คุณต้องคาดเต่า ซึ่ง growth rate นี้ at the end of the day is the assumption แล้วพอคุณต้องดีสคาวน์เมตร ส่วนใหญ่คือ weighted average cost of capital ซึ่ง weighted average cost of capital คือคุณก็ได้คาดเต่าสองอย่างครับ the cost of debt and the cost of equity cost of debt อ่ะมันอาจจะเป็น 5.25% วันนี้ต่ออันดับ อาจจะไม่เป็นสิ่งที่ยังอยู่ แต่สิ่งที่เป็น assumption มากที่สุดก็คือ cost of debt ซึ่ง คำนวณของ risk premium คำนวณของ beta ที่บริษัทจะวางกับ weight of average cost of capital เนี่ย มันก็แล้วแต่ assumption อยู่ดี ผมว่า DCF เป็นวิธีที่ ผมอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นวิธีที่ widespread มากที่สุด ในการใช้ดีมูลค่าบริษัท แต่ว่าอาจจะเป็นวิธีที่ผมอาจจะไม่ชอบมาก เพราะว่ามันเป็นวิธีที่ ใช้ assumption มากกว่าไป แต่ว่าถ้าเป็น ถ้ามัน startup ถ้ามัน ก็จะใช้ Revenue Multiple ส่วนใหญ่ หา Comparable Company แล้วตี Multiple กับตัวองค์กร แต่สำหรับผม ผมว่า จริงๆ มูลค่าของบริษัทสุดท้ายนะวันนี้นะครับ The most important thing is ตัวสินค้า ผมว่าถ้าคุณคือลูกค้าของตัวบริษัท คุณค่อนข้างเข้าใจสิ่งลูกบริษัทนี้มากๆ นะ เป็นเพราะคุณคือคนที่จ่ายเงินให้องค์กรเหล่านี้ So พอคุณเป็นคนที่จ่ายเงินให้องค์กรเหล่านี้ แปลว่าคุณเข้าใจสินค้า คุณเข้าใจมูลค่าของบริษัท And ถ้าคุณเข้าใจสินค้าของบริษัท แปลว่าคุณสามารถคาดเดินได้ว่า อันหนาคนนี้สินค้ามันจะเป็นลูกแบบไหน และฉันคิดว่า นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนนี้คุณลงทางกับบางองค์กร คือคุณรู้รึเปล่าว่าสินค้าอันถัดไปของเขาคืออะไร หรือว่าอันนี้แอบสำคัญกว่า DCF กับ Revenue Multiple มากกว่า เพราะว่าสิ่งที่ DCF ทำกับ Revenue Multiple ทำ คือเขาหาสิ่งที่เรียกว่า Net Present Value แต่ Net Present Value คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นวันนี้แล้ว ซึ่งสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต มันอยู่ที่จินาการล้วนๆ เลย แล้วถ้าคุณสมมติว่าจินาการอนาคตดีกว่า คนอื่น น่ะ น่ะ ส่วน ว่า โดน ฟ้า นี่ แอด แบบ ไพรส์ ฟ้า นี่ แอด แบบ ไพรส์ เพื่อ หา บริษัท ที่ คุณ เข้า ใจ สินค้า คุณ เข้าใจ คุณ เข้าใจ บริษัท แล้ว คุณ สําหรับ คาด แต่ว่า อนาค อนาค ข้อสิทธิ์ของสิทธิ์ค้า มันจะเป็นประมาณไหน และคุณจินาคาร์ไม่ออกอีก 5 ปี คุณจะไม่ใช้เขา ซื้อหุ้นตัวนั้นครับ อืม ที่จะไม่เข้าใจเขา อะไรนะครับ เมื่อกี้ที่บอกว่าซื้อหุ้นตัวนั้นที่จะไม่เข้าใจเขา ไม่ใช่ครับ หมายถึงซื้อหุ้นตัวที่ คุณเข้าใจตัวสินค้าของเขา แล้วคุณจินาการให้ออกว่าอีก 5 ปีคุณจะไม่ใช้เขา และคุณสามารถคาดเต็มได้ว่า โปรดักต์ที่เขากำลังให้เทซซาของนี้ มันคือเป็นรูปแบบไหน ยกตัวอย่างนะครับ จริงๆการจินาการพวกนี้มันไม่ได้ยากมาก เพราะ Earnings Report ของแต่ละ CEO เขาจะพูดถึง Vision ของเขาอยู่แล้ว เรารู้เก็บแล้วว่าเทซซา อนาคตของเทซซามันจะเป็นยังไง เรารู้อยู่แล้วนะวันนี้ มันไม่ได้เป็นเรื่อง Surprise นะครับ อนาคตของเทซซา เรารู้อยู่แล้วว่ารถทุกคันจะขับเองได้ และมันแปลว่ารถทุกคันจะเป็น Taxi ได้ ก็แปลว่าตอนที่คุณซื้อเทซซาคันอย่างนี้ Over Time ในอาคตนะครับ ไม่รู้ว่าวันนั้น แต่มันเกิดขึ้นแน่ๆ คือว่า ตอนที่คุณไม่ได้ใช้รถ คุณสามารถกดว่า เทซ่า ไปหาเงินให้หน่อย แล้วเทซ่าคันนี้ของคุณอยู่ จะช่วยพอร์ตรถคันนี้ ด้วยของตัวเขาเอง ส่วนมันกลายเป็นเรื่องสนุกที่คุณจะไม่ซื้อเทซ่าด้วยซ้ำไปในอนาคต ส่วนที่สุดท้ายกำลังเข้ามาตลาด Grab กับ Uber คุณสามารถคาดเอาอาณาตัวสินค้าได้ เพราะ CEO เขาพูดถึงตลอดเวลา As a นักลงทุนครับ สิ่งที่คุณต้องดูคือว่า คุณต้องจินแบบกันว่า อาณาคตนี้ มันเป็นอาณาคตที่คุณ buy in หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าคุณรักสินค้าปัจจุบันหรือเปล่า กับอนาคตที่ CEO เขาพูดถึงหรือเปล่า ก็คือใช้ตัวเองเป็นตัวทดสอบก่อน สำหรับสินค้าตัวนั้น ถ้าเรารู้สึกว่า เฮ้ย อันนี้เดี๋ยวเราก็ไม่ใช้แล้ว อันนี้ก็คือไม่ต้องไปลงทุน ถูกต้องครับ ถูกต้องครับ ถ้าคุณซื้อสินค้า ซื้อคุณตัวนี้เพราะคุณชอบสินค้าวันนี้ อย่าไปตัวเองก อย่าไปซื้อมันครับ เป็นเพราะว่าตอนที่คุณให้เงิน CEO มันก่อนที่คุณลงทุนของหุ้น คือการให้เงิน CEO คนนี้ว่า เอาเงินของผมไปสร้างสินค้าให้ดีอยู่เดิม แต่ว่าถ้าคุณซื้อคุณตรงนี้ เป็นเพราะว่าคุณชอบสินค้าวันนี้ สินค้าวันนี้มันเกิดขึ้นไปแล้วนะครับ อืม แต่คุณต้องลงทุนพูดสินค้าในอนาคต มีความคิดว่าคุณ CK ไม่เชื่อเรื่องการเก็งกำไร ไม่เชื่อเรื่องเทคนิคเคิล แต่ว่าเชื่อเรื่องของ Fundamental และก็เชื่อของการให้คุณค่ากับองค์กร ตรงไปตรงนั้น คนที่ถือ Amazon คนที่เทรด Amazon คนที่ถือ Amazon รวยกว่า คนที่ถือ Apple ยังคนที่เทรด Apple ยังคนที่ถือ Apple รวยกว่า คนที่ถือ Nvidia คนที่เทรด Nvidia คนที่ถือ Nvidia รวยกว่า คนที่ถือ Bitcoin คนที่เทรด Bitcoin คนที่ถือ Bitcoin รวยกว่า คนที่ถือยังไงก็จะรวยกว่าคนที่เทรดนะครับ I think it's very simple as that Value investing จอร์สโซร่าว์ก็บอกได้ดีที่สุดนะครับว่า The best investing is boring. การลงทุนที่ดีที่สุดมันน่าเบื่อครับ มันน่าเบื่อมาก แสดงว่าการเทรดคือคุณจะไม่มีทางรวยได้อย่างนั้น เหนื่อยแล้วไม่รวยอย่างนี้หรอ ผมให้คุณ 1% แล้วกัน คือเทรดดิ้ง ทราเดรอส่วนใหญ่ที่รวยครับ ผมอยู่ในวอลสตรีทมา 4 ปีเนอะ แฮจฟันส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นซิสเซอร์เดล ไม่ว่าจะเป็นบริจวอเธอร์ฮาวส์ครับ เฉพาะนี้เขาลุย มันไม่เป็นพอเขาเทคนิคก็เก่งครับ เหตุผลที่ Rich hedge fund เขาได้กำไร มันเป็นเพราะ 2 เหตุผลและ 2 เหตุผลเท่านั้น 1 เขามีกำไรเยอะมาก 2 เขามีเงินเยอะมาก เพราะเขามีต้นทุนเงินเยอะมาก แปลว่าเขาสามารถขยับกราฟต์ได้ เขาสามารถขยับตลาดได้ นั่นคือที่ 1 2 เขามีสื่อครับ ตอนที่เขา หุ้นตัวหนึ่ง ตอนที่เขาซื้อหุ้นตัวหนึ่ง เขาจะออก CMBC แล้วเขาก็จะบอกทุกคนว่าเขาชอตแล้วเขาซื้ออะไรด้วย So the whole point คือว่าเขาสามารถคุกกับทั้ง Meta แล้วเขาจะมีเงินจำนวนเยอะมาก ที่สามารถขยับตลาดได้ ก็แปลว่าถ้าคุณมีแค่ 200,000 บาท คุณพยายามที่จะเทรดในห้องน้อง แล้วพยายามชนะตลาด It's almost impossible แต่ถามว่ามี trader ที่รวยไหม มีครับ 1% ผมให้คุณ 1% เลย แต่ว่าถ้าคุณอยากชนะตลาดคุณ ผมอยากจะบอกคุณว่าชนะตลาดคุณ การลงทุนกับ BI ใครก็ชนะได้ครับ It's actually very simple ถ้าคุณลงทุนกับ Apple 5 ปี 5 ปีนะครับ คุณได้กำไรอยู่ที่มัน 400% 5 ปีนะครับ ผมไม่ได้พูดถึงว่าคุณต้องลงทุน Apple ก่อน Zip Drop 5 ปีแล้วถ้าคุณลงทุน Apple วันนี้คุณได้ 400% ถ้าคุณลงทุน Google 5 ปีแล้วคุณได้ 300% ถ้าคนลงทุนกับ Dimer 5 ปีแล้ว คุณได้ 80% ประเภท นี่คือหมายถึงผมนิดหนึ่ง ปิดหูปิดตาไม่ดูอะไรเลยนะครับ คุณได้กำไร ก็แปลว่าจริงๆ นะ The best investment is to not do anything to be patient รอครับ แต่งว่าเก่งกำไร technical เนี่ย มันคือเกมของรายใหญ่ รายย่อยไม่ควรไปยุ่ง I think so ผมรู้สึกอย่างนั้นนะครับ ผมแค่รู้สึกว่า I just don't like the trading culture. ผมแค่ ส่วนตัวผมไม่ชอบแล้วกัน แล้วมันกำลังสอนเด็กรุ่นใหม่ในวิธีที่ผิด ครับ มันสอนเด็กรุ่นใหม่ว่ารุ่นเรียมจริง มันสอนเด็กรุ่นใหม่ว่าคนสามารถคาดแดวนาของได้จริง มันสอนเด็กรุ่นใหม่ว่าเขาสามารถชนะกับตลาดได้ แบบชนะ ชลาดกับตลาดได้ ซึ่งไม่มีใครชนะกับตลาด ตลาด สลัด เราคือหนึ่งผู้หรือพวกคนตลาด แต่เราไม่สามารถชนะกับตลาดได้ เพราะว่าตลาดคือตลาด สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ปรับเปลี่ยนไปกับตลาด และถ้าคนลงทุนเพราะ Trading แปลว่าคุณไม่ได้มองตัวขุนจริงๆ คุณไม่ได้มองตัวสินค้าจริงๆ ถ้าคุณ Trade ขุนตัวหนึ่ง แปลว่าคุณไม่ได้รักบริษัทจริงๆ คุณต้องจีนในการนี้ คุณ Trade การลงทุนกับตลาดคุณมันคืออะไรครับ มันคือว่าคุณลงทุนกับตลาดคุณนี้ คุณกำลังให้ CEO เงินของคุณ ไปสร้างสินค้าได้ดีมากยิ่งเกินให้ผู้โดยโภค แต่ว่าตอนที่คุณเทรด CEO ยังไม่ทันใช้เงินคุณเลยครับ คุณถอนเงินแล้ว So, what does that actually mean? ไม่เกิดผลได้ขึ้นเลย ใช่ มันมีข้อดีในที่เทรดเวอร์สร้างให้กับตลาด ก็คือ Market Liquidity เขาสร้าง Market Liquidity ให้กับตลาด ตอนที่คุณซื้อขายง่ายขึ้น คุณอยากซื้อ Amazon คุณอยากขาย Amazon มันมีคนซื้อขายของคุณตลอดเวลา ก็เป็นข้ออีกอย่างหนึ่งแล้วกัน แต่ในเชิงของวิธีในการรวย ผมว่ามัน start the right move แล้วมันไม่เป็นวิธีที่ผมอยากจะแนะนำทุกคน คือมันมีอาชีพของเขาอยู่แล้วคือ market maker ใช่ถูกต้อนครับ ซึ่งถามหน่อยว่าคนที่พนันมีคนรวยไหม ก็มีคนรวยครับ คนที่พนันก็มีคนที่ร่ำรวยกับมัน มีคนที่ชนะบอทก็มีเหมือนกัน มีผู้แพ้ ผู้แพ้ต้องเยอะกว่าอยู่แล้ว แต่ก็คือ ตัวนี้ก็ไม่ใช่ความสุข คุณสุดท้ายมองตลาดพุทธไทยยังไงครับ ผมไม่ชอบครับ ทำไมครับ ผมไม่ชอบครับ เหตุผลที่ผมไม่ชอบตลาดพุทธไทยมันเพราะว่า เราฟังถึงฟันเฟืองของ เราคิดถึง fundamental กับตลาดคุณ ทำไมคุณต้องลงทุนกับตลาดคุณด้วย คุณลงทุนกับตลาดคุณเพราะมันมีบริษัทที่น่าสนใจ ที่อยู่ในตลาดคุณนี้ แต่วันนี้ลองกินหน้าการนี้ครับ เซ็ตเนี่ย ไม่กี่ มีกี่ SME share ที่เข้าตลาดคุณไทยทุกปี ที่น่าสนใจจริงๆ สุขีดีน้อยคืออันหนึ่งนะ ถ้าถามว่ามันมีกี่สุขีดีน้อย ถ้าเรามี 500 สุขีดีน้อยเข้าไปตลาดคุณทุกปี น่าน่าสนใจ แต่วันนี้บ้านเรา SME ตายครับ ซึ่ง มันแปลว่าอะไรครับ แปลว่า อ่ะ ลองรู้ SET 100 ไอ้ SET 100 เนี่ย มันคือบริษัทเก่าแก่ มันก็บริษัทที่มีมานานแล้ว ก็แปลว่าบริษัทเก่าแก่ อาจจะไม่ได้มีสินค้าได้หูวะ สินค้าได้ใหม่ ก็แปลว่านักลงทุนก็ไม่ ตอนที่เขาลงทุนกับขุนครับ เขาอยากลงทุนกับ Product of Anarchos แต่ว่าพอ SET 100 มันไม่ได้สินค้าเก่าๆ ไม่ได้วิธีการเก่าๆ มันมีบริษัทเก่าๆ มันไม่มี SME ที่ไฟแรงน่าสนใจ เข้ามาในตลาดคุณตลาดเวลา มันก็ทำให้เงินมันออกไปครับ ตอนนี้ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่ชอบ SET 100 ร้อยคนเดียวนะครับ คุณลองถาม ลองถามแอปเทรดดิ้งคุณไทยก็ได้นะครับ 70% ของคนลงทุนกับแอปเทรดดิ้งคุณไทย 70% ลงทุนกับอเมริกา แล้วก็จีน แล้วก็ญี่ปุ่น แล้วก็ไทย คนไทยไม่ลงทุนกับคุณไทยแล้วครับ แล้วฟันเฟืองสำคัญของการ คนไทยไม่ลงทุนกับคุณไทยมันก็ไม่แปลกครับ เพราะว่าเราหาเงินอยากเหนื่อย เราต้องอยากให้เงินของเราเบสกับสิ่งที่สามารถสร้างเงินกับผลให้เรามากยิ่งขึ้น 5 ปีที่ผ่านมาเซ็ตไม่โตเลย 5 ปีที่ผ่านมาเซ็ตไม่โตถึงลงด้วย ก็แปลว่าถ้าคุณลงทุนกับเซ็ต ปิดทุกปิดตา 5 ปีคุณขาดทุน คุณหาเงินต้องเหน็บเหนื่อย คุณจะเอาเงินของคุณไปลงทุนกับเซ็ตจริงๆหรอ แต่อันนั้นน่าจะเป็นการมองภาพรวม ถ้าซื้อเซ็ตน่ะใช่ แต่ถ้าซื้อไปหลายตัวก็มีคนที่เขาได้ผลตอบแทนที่ดีมากกว่าดัชนีโดยรวมหรือเปล่า ก็อาจจะเป็นไม่ได้ครับ แต่ว่าส่วนตัวผม ผมไม่ได้ชอบในวิธีการที่ หุ้นไทยมันปั่นได้ง่ายไปครับ มันปั่นได้ง่ายเกินไป ทำไมล่ะฮะ 30 ล้านปั่นหุ้นได้หรอกครับที่ไทย คืออะไร เพราะว่ารุ่นมันน้อยเกินไป รุ่นมันน้อยเกินไปครับ คุณมี 30 ล้าน คุณอยากเทขาย มันปั่นทุนได้แล้ว ก็แปลว่าผู้เล่นใหญ่ ทุกวันนี้มันมี 2 เรื่องครับ หนึ่งคือ หุ้นไทยปั่นง่าย นี่คือข้อหนึ่ง ข้อสองคือ Financial Iteracy ของคนลงทุนมันน้อย ถ้าคุณถามคนที่ลงทุนนะครับ ถามว่าเขาซื้อหุ้นตัวไหน คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือว่า Financial Iteracy ของคนลงทุนมันน้อย เทรดเดอร์มันเยอะมาก แล้วมันก็เลยทำให้ แล้วปั่นหุ้นได้ง่ายด้วย มันคือ Combination Of Market Mandate แต่ถ้าคุณมี 30 ล้าน คุณลองไปเทขาที่ Nasdaq คุณจะไม่ขยับเลย อย่างเทลงทะเลสาปอะไรอย่างนี้ มันจะไม่ขยับกราฟค่ะครับ คือ Volume มันเยอะมากๆ แล้ว ผมว่ามันก็ยังมีหลายหุ้นนั้น ผมอาจจะไม่อยาก สตาร์คเป็นตัวอย่างสมมติครับ ผมว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับสตาร์คเนี่ย มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากนะครับ ที่มันไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป ผมยกไปตัวอย่าง คุณรู้มั้ยครับว่าคนที่ ติด Cooper Insider Trading ในเมืองไทยมีจำนวนคนกี่คนรู้มั้ยครับ 0 ไม่มีใครในประเทศไทย ประวัติศัพท์ประเทศไทย ติดคุกเพราะ Insider Trading คุณลองจริงในการว่า Environment ของ Legalization มันแค่นี้ มันไม่มี Repercussion ของการ Insider Trading กฎหมายการเอาผิดมัน Fail ผมจะเอาเงินของผมไปลงทุนทำไม คุณต้องเข้าใจก่อนอย่างหนึ่งว่า ���ักลงทุนเลือกได้ นักลงทุนเลือกได้ ตลาดหุ้นก็เหมือนกับสินค้า เราจะเลือกสินค้าให้ดีสวยกับเราเสมอ ส่วนถ้าตลาดหุ้นมันไม่ได้เป็นสินค้าให้ดีที่สุด เราจะเอาเงินของเราไปลงทุนกับตลาดหุ้น มันไม่ได้เป็นสินค้าให้ดีที่สุดทำไม ใช่ไหมครับ ส่วนสิ่งที่เซ็ตต้องมองวันนี้ ผมว่าเซ็ตต้องมองว่าทำไงถึงสามารถ ทำให้สินค้าของเขามันโดดได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหัวใจคือ SME หัวใจคือ SME ครับ ทำไงให้ไอเดียมันใหม่ ธุรกิจใหม่ๆ ธุรกิจที่น่าตื่นเต้น ซึ่งมันมาจาก SME นะครับ ให้เขามีกำไรเพียงพอในการเข้าตลาดคนร้าย That is the ฝนเผินสำคัญที่สุด เพราะถ้าไม่มีไอเดียใหม่ ไม่มีเอสซีมีอร์เข้าตลาดหุ้นได้ มันก็จะมีธุรกิจเก่าแก่ที่ไม่มีใครอยากลงทนอย่าง แต่ว่าถ้าผมจะยกตัวอย่างที่ผมว่ามันน่าสนใจมากคือ เราเห็น Influencer เช่น SoftGuard รู้จัก SoftGuard ไหมครับ SoftGuard ที่ไลฟ์ขายของ 1 นาที ขายได้ 10 กว่าล้าน 13 ล้าน นี่คือสิ่งที่มาจัดจันทร์มากนะครับ So and that's the moat อันนั้นคือ MOAT ที่ Warren Buffett พูดตลอดเวลา So สิ่งที่ผมพยายามพูดคือว่า นี่คือตลาดใหม่ครับ ไม่มีองค์กรใหญ่ตัวอันไหนที่ขายครีม ขายเซรั่มสามารถไลฟ์ของ 13 น้ำตอนนั้นทีนึง มันเป็นไม่ได้ครับ แต่ว่านี่คือธุรกิจใหม่ๆ นี่คือ... บริการแบบนี้มีบริการในใหม่ วิธีในการขายบางสิ่งบางอย่าง ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าคุณคือ SMB แล้วคุณอยากจะขายน้ำแข่งกับธุรกิจน้ำเปล่า คุณสู้กับเขาไม่ได้อยู่แล้ว เพราะสินค้าของตัว FNCG Product มันไม่ได้เป็นตัวน้ำ มันไม่ได้เป็นตัวตรง มันคือ Distribution ครับ ยกตัวอย่างว่าสิง ที่เขาทำสิง Water แล้วมันเวิร์กออกมามาก เพราะเขามี Distribution แต่ว่า คุณซื้อเรียสิ่งของผมอยู่แล้ว คุณเอาน้ำไปด้วยสิ หรือว่า อสสภา อสสภานี่มี Distribution ทั่วบ้านทั่วเมืองเลย ตอนที่เขาอยากจะบีซีวิทย์ วิทย์ เอ็มอร์ 50 มันแค่แถมเข้าไปแล้วเขาแค่ว่า คือสินค้าของเขา ข้าวของเขาจริงๆ คือ Distribution So เราต้องเข้าใจก่อนว่า ถ้าเราแข่งตัวสินค้าของเขาแล้วเราไม่มี Distribution เราจะสู้เขาไม่ได้อีกแล้ว ใช่ไหมครับ มีเหตุผลตอนที่สินทำโซดาอย่างนี้ เขาไม่ได้เป็นเล็กๆ ให้ทำ Flavour Soda นะ แต่เขาชนะตลาดเพราะเขามี Distribution ที่แข่งแรงมากๆ So that is the whole point So ถ้าคุณอยากจะขาย FMCG Product คุณไม่สามารถขายวิธีเดียว ที่ธุรกิจใหญ่ตัวเขาขายได้ คุณต้องขายวิธีอื่น ที่วิธีใหญ่ตัวเขาไม่ขาย ซึ่งเนียนอาจจะเป็นรายฝ่ายของ และเธอทำได้ คือต้องหาโอกาสให้เจอ ว่าโอกาสอะไรที่แบบว่า มันต้องแข่งในสถานที่เราเก่งมาก ในลีดที่เราชนะ ใช่ เราแข่งเวย์ของเขาไม่ได้อีกแล้ว เราจะแค่บอกว่า เรามีสินค้าของเรา ธุรกิจลายเล็กเขาจะคิดออกครับ เพราะว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์กว่านะ ที่คุณสามารถ pick business model pick วิธีในการทำการตลาด pick วิธีในการช่องขายการสื่อสาร คุณสามารถเปลี่ยน model ของคุณได้อัตโนมัติเลย I think that is the beauty of SME มีเลย SME ที่ทำได้ครับ คืออย่างในต่างประเทศเนี่ย เราจะเห็นบริษัทที่เป็น technology อายุยืนยาวทั้งนั้นเลย คือมันผ่านประวัติศาสตร์ทั้งหมดแล้วว่า ล้มลุกคลานมา แต่ธุรกิจใหม่ๆที่เกิดขึ้นมันก็จะมีปัญหาว่า เฮ้ย ขายของได้เยอะขนาดนี้ ยูขายได้ตลอดไปหรือเปล่าวะ หรือมันก็จะมีอะไรมาดิสรับอีกเรื่อยๆ คือไอ้ปัญหาตรงนี้เนี่ย คุณสิเคมมองว่า เออ น้องทุนเขาจะต้องคิดยังไงนะ เพราะว่าถ้าลงทุนไปแล้วเนี่ย คือมันแค่ชั่วคราวอะ แล้วต่อไปนี้คือ อีก 5 ปีข้างหน้าอาจจะล้มก็ได้ นึกว่ามันมีวิธีการประเมินมูลค่าไงวะ เออ เราจะประเมินวิเศษโมเดลอย่างนี้ยังไง จะให้มูลค่ามันแค่ไหน ตอนนี้เข้าใจว่าน้องทุนก็คงจะติดกับดักนี้อยู่เหมือนกันนะฮะ เรื่องการให้ Value ในอนาคต แล้วคำถามคืออะไรนะครับ คำถามก็คือวิธีการที่เราจะประเมิน อย่างคุณ CK คุณ CK ประเมินยังไง เพราะว่าหุ้นที่คุณ CK ลงทุน คือมันอายุยาวทั้งนั้นไงฮะ เป็น 10 ปีขึ้นไปทั้งนั้นเลย แต่ถ้าเป็นธุรกิจใหม่ๆที่บอกว่าอยากได้ SME ที่แบบว่าหาช่องทางการทำรายได้โตเยอะๆ ใหม่ๆ มันจะยั่งยืน เราจะประเมินมูลค่ายังไง อืม ผมว่าเราต้องหาสิ่งที่เรียกว่า Mood ครับ ผมว่าตัว Mood มันมี สิ่งที่ผมพูดถึงคือว่า เหตุผลในการซื้อบางสิ่งบางอย่าง ตอนที่คุณซื้อบางสินค้าแล้ว มันมีเหตุผลในการใช้จากสินค้านี้เรื่อยๆ หลังจากที่คุณซื้อแล้ว อันนี้คือสิ่งที่ World of Profit มองตลอดเวลานะ แสดงว่าเราต้องคอยเช็คอยู่ตลอดเวลา มันต้องคอยเช็คอยู่แล้ว คนนี้ไม่น่าลงทุน เราต้องลงแหวน เราต้องรู้ว่าตลาดมันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ตลาดมันติดสร้างได้ตลอดเวลา สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นก่อน เช่น โควิด ยังสามารถเกิดขึ้นได้เลย วิธีในการประมูลบริษัทของแต่ละคน ก็ไม่เหมือนกัน แต่มันคือสิ่งที่ผมก็แนะนำ ว่าถ้าคุณอยากมากขึ้น ถ้าคุณอยากประมูลบูรค่าของบริษัทอันหนึ่งนะครับ ก็คุยกับเด็กก็เยอะครับ เพราะสิ่งที่เด็กชอบวันนี้ จะเป็นสิ่งที่อนาคตจะชอบ ผมชอบต่อ บอกรู้ไหมครับว่า ผมซื้อนิวีดีโอตอนปี 23 เป็นเพราะผมชอบร่วมเกมด์ดอทเอ ผมรู้ว่าเกมด์ไม่คืออนาคต แต่ผมเคยขายเรื่องไปหน่อย เพราะผมมองไม่ถึงใน AI มันก็เลย ถ้าคุณอยากรู้ว่าตลาดอนาคตมันจะเป็นยังไง ที่มันไม่ถูก disrupt รู้เด็กก็เยอะครับ อย่างเช่น ยกตัวอย่างนะครับ คุณ ผมว่า มนุษย์เรา เราชอบระวัง กับสิ่งที่เรากลัวว่าอะไรจะปิด อะไรจะเปลี่ยน อะไรจะเปลี่ยน อะไรจะเปลี่ยน แต่เจฟเบโซเคยพูดนะครับว่า คำถามนี้อาจจะเป็นคำถามที่ผิดกันได้นะ คำถามที่ดีกว่านั้นคืออะไรจะไม่เปลี่ยน มีอะไรจะไม่เปลี่ยนบ้าง ตัวอย่างว่า Amazon เค้า Build the whole business กับคำถามนี้เลยว่า อะไรจะไม่เปลี่ยน สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแน่คือว่าลูกค้ายังไงก็ต้องอยากได้ของได้ถูกขึ้น ลูกค้ายังไงก็ได้อยากได้ของได้เร็วขึ้น มันจินในการอาณาคตไม่ออกว่า วันนึงลูกค้าอยากได้ของช้าลง หรือวันนึงลูกค้าอยากจ่ายมากขึ้น ยังไงลูกค้าอยากได้ Option มากขึ้น So maybe find businesses that are moving towards things that will not change in the future. It might not be possible. For example, sports. I believe that sports will not change. I think AI will not be able to do sports. You probably don't want to see robots competing with each other. But you want to see humans playing football and playing basketball. Because humans are... That is what makes it exciting เพราะเราสามารถ relate กับเขาได้ เพราะเราก็เล่นบาร์ดด้วยเหมือนกัน และตอนที่เขาเห็นคนเล่นบาร์ด เรารู้สึกว่า appreciate เขาได้ เรารู้สึกว่าเราเข้าถึงแถวได้ So มันเป็นสิ่งที่ AI รู้สึกไม่ได้ So maybe sport is the future ถ้า AI ในอนาคตสามารถทำให้ทุกสิ่งอย่าง อนาคตอาจจะมีแค่... มีแค่สปอร์ตก็ได้ที่เป็นมนุษย์จริงๆ Who knows? แต่ว่ามันคือการคาดเดาพวกนี้ครับ ถามว่าวันนี้สิ่งที่ผมพูดวันนี้มันถูกหรือเปล่า I don't know we have to see แต่มันก็คือว่า you have to place your bet กับอนาคตที่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดครับ อืม ค่ะ ถ้าถามคุณสีเค อนาคตข้างหน้า ถ้าคุยกับคุณสีเคอันดับเป็นเด็กละกัน ชอบอะไรมากที่สุด คิดว่าอะไรจะเกิดในการทำธุรกิจ ผมว่า e-sport ครับ e-sport มันจะเกิดแน่ๆครับ เพราะว่าเด็กสมัยนี้เขาไม่ดูฟุตบอลนะครับ เด็กสมัยนี้เขาไม่ได้เตินมาเตะ เด็กสมัยนี้เขาก็ไม่ได้รอถึงตี 2 เพื่อดูบอล นองดูนะครับ ส่วนใหญ่เขาไม่ได้ดูบอลนะครับ มีเจนผมมากันเลย เจนรุ่นเก่า เจนผม เด็กๆเขาไม่ดูบอลนะครับ เขาเล่นเกม แล้วถึงเขาดูบอลนะครับ เขาตื่นมาดูไฮไลท์ เขาไม่มาอดนอนถึงตี 2 เพื่อมาดูใช่มั้ยครับ Attention span ของเราน้อยลง เราไม่ได้อยากดู Match 90 วิธี เราอยากดูไฮไลท์ของแต่ละอย่าง So แปลว่า e-sport for sure is the future เพราะเด็กเขาชอบวันนี้ So วันนี้พอเห็นเด็กที่เล่นเกมอย่าไปด่าเขา เขาเสียเวลา เราเข้าใจคันมากกว่า เพราะถ้าวันนี้ Gen C เขาชอบเกม ก็แปลว่าอีก 10 ปี 20 เค ข้างหน้า That will be the biggest industry สำหรับทุกคนเลย เพราะว่าเขาจะเป็นคนที่คอนซิมเมอร์หลักของตลาด So I think gaming for sure is the future แล้วข้อดีคือว่ามันเป็นวงการใหม่ และผมเชื่อว่ายังเป็นวงการที่ประเทศไทยควรลงทุนมากๆ มหาศาล ถ้าเราต้องมาอดนอนมาดู Premier League ทำไมเราไม่ให้บ้านมาอดนอนมาดู Gaming Premier League ของบ้านเรา เราควรสร้างลีกที่น่าสนใจ เราควร invest กับลีกวันนี้แล้ว บ้านเรา เราชอบตกกระโบยกับหลายสิ่งหลายอย่างนะ แล้วเราก็พยายามเห็นคนหนึ่งเขา success แล้วเราก็ไปทำตามเขา เห็นเกาหลีเขาทำ K-pop เราก็พยายามลงทุนกับสิ่งที่เรียกว่า soft power กับ entertainment business เพราะมันช้าไปแล้วครับ เราต้องลงทุนกับสิ่งที่ยังไม่มีใครพูดถึง และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเกมิง อาจจะลงทุนกับเกมิง อาจจะลงทุนกับเกษตรกร เพราะว่านี่คือ sub-e-aigor ที่เราเก่งครับ savvyac gaming industry คือใหญ่มาก คนดูเยอะมาก คนเล่นเยี่ยมมาก ทำไมเราไม่สร้างคอนเทนต์ให้มันน่าสนใจในวงการนี้ แล้ววันที่โลกทุกคนดูเกมมิ่งแล้ว ให้บ้านอื่นมาอดนอนดู เกมมิ่งถึงด้านของกีฬา ใช่ครับ ซึ่งคุณซิเคบอกคอนเทนต์อันนี้ไปแน่นอน ต้องไปอยู่แล้วครับ ถ้าเด็กเค้าชอบเกมวันนี้ อนาคตเค้าก็ชอบเกม ขอบคุณซิเคบว่าจุดแข่งของคนไทยคืออะไรครับ หวะจุด จุดแข็งของคนไทยจริง คือทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือไม่ใช่คนไทย รู้สึกว่าฐานดินไทยคือบ้านเขาครับ กรรมอบอุ่น ความอบอุ่น hospitality ครับ นี่คือสูภาความของคนไทยทุกคนเลย คือคนไทยไม่เคยมองคนต่างชาติ หรือว่าคนแปลกหน้าเป็นคนนอก แต่ว่าเหมือนเราถูกสอนมาจากเด็กว่า เราต่างกับคนที่เราอยากต่างกับคน แล้วสิ่งที่ทำให้ไทยมาหัศจรรย์ครับ คือคนไทยกันเอง ถ้าจุดแข็งของคนไทยเป็นอย่างนี้ สิ่งที่ประเทศไทยควรจะเน้นไปคืออะไรครับ ในมุมอันนี้ถามคนที่แบบว่าเป็นคนรุ่นใหม่ Next move ไปข้างหน้า ผมว่าไม่เหมือนกันครับ ผมว่าเราไม่ได้มองที่จุดแข่งของคนไทยตรงนี้ครับ เราต้องมองทรัพยากรที่เรามีอยู่ด้วยกัน Right สิ่งที่เราต้องมุ่งไปสู่จริง นะครับ วันนี้คือเกษตรกร เราต้องมุ่งไปสู่เกษตรกรมาก 40% ของที่ดินของบ้านเราคือที่ดินเกษตรกร 30% ของแรงงาน ก็แรงงานเกษตรกร แต่น้อยกว่า 10% ของ GDP ของเรา แต่เกษตรกร นี่คือปัญหาครับ บ้านเราคนทำเกษตรกรคือคนลำบาก คนชั้นร่าง คนจน คนสูงอายุ คนสูงอายุ คนอาชีพที่ไม่เซ็กซี่ ไม่มีใครอยากทำ แต่ญี่ปุ่นคนทำเกษตรกรคนรวย อืม อเมริกาคนทำเกษตรกรคนรวย ใช่ เจ้าของที่ดินเกษตรกรอันดับหนึ่งของอเมริกาใครรู้มั้ยครับ ดิวเกรดครับ อืม แต่บ้านเราครับคนจนครับ บ้านเราคนจนหมดเลย อืม So นั่นคือปัญหาครับ ถ้าถึงเป็นปัญหารู้มั้ยครับ แล้วมันเป็นสิ่งที่เราใช้ประสบกรณ์ไม่คุ้มค่าเลย อืม นะครับ อเมริกาครับ อเมริกาผลผลิต เข้าผู้ทหารสรรคัน 1 ปีครับ เขาได้ 12 ตัน ต่อ 1 เฮกเตอร์เขาได้ 12 ตัน บ้านเรา 1 เฮกเตอร์ได้ 4 ตัน แต่ 1 เฮกเตอร์ 12 ตันของอเมริกาเนี่ย ต่อปีนะ เขาพูดหาวิธีชัด เขามีหน้าหนาวนะครับ แต่ว่าปีนึงเขาปลูกได้แค่รอบเดียว บ้านเราปีนึงปลูกได้ 3 รอบ เพราะเรามีแสงแดดตลอดเวลา เงินมหาศาลที่อเมริกามีนะครับ ไม่สามารถซื้อแสงแดดได้ ซาวดูเรเบียครับ เงินมหาศาลเลยจากน้ำมัน มีแสงแดดทั้งปีนะ แต่ไม่มีน้ำ พอไม่มีน้ำทำไมครับ เขาก็ต้องซื้อเกษตรกรบ้านอื่น ถ้าเรามองคนที่ซื้อเกษตรกรบ่อยที่สุด เยอะที่สุดตอนนี้ครับ คือซาวดูเรเบีย เพราะเขารู้ว่าเขาปลุกอะไรไม่ขึ้นเลย และเขาก็ไม่อยากพึ่งถ่ายบ้านอื่นด้วย ส่วนเขาพยายามทยอดซื้อเกษตรกรบ้านอื่นตลอดเวลาเลย บ้านเรามีทั้งแสงแดด มีทั้งน้ำ แต่เราเป็นผลผลิตของเกษตรกร ที่แข่งมุมโลกไม่ได้เลย นี่คือปัญหานะครับ การใช้ที่สรรพยาบาลคุ้มค่าของเราคือ ใช้ที่ดินเกษตรก่อนให้เราให้มีคุ้มค่าครับ ถ้าสารเวลเวียสามารถลวยได้กับที่โลกต้องการ ซึ่งคือน้ำมัน เราก็สามารถลวยได้กับที่โลกต้องการ ซึ่งคือพืช อาหารสัตว์ นี่คือสิ่งที่เราทำได้เลย ใช่ไหมครับ แต่จุดเริ่มต้นคืออะไรครับ น้ำครับ ผมว่าปัญหาของบ้านหลายคนน้ำ ไม่เยอะเกินไปก็น้อยเกินไป การบริหารจัดการน้ำ ครับ รถบริษฐ์เนี่ยครับ รถบริษฐ์ขับไปแค่ชั่วโมงครึ่งเนี่ยครับ มีคอ คอไม่คือมีน้ำ ไม่เคยมีน้ำเลยครับ อันนี้คือปัญหาใหม่ หลักมากครับ และสิ่งที่ผมพูดถึงมันไม่ใช่ Rocket Science มันมีสิ่งเรียกว่า Water Harvest ที่เราเห็นพระอิสังเขาทำกันก็คือว่า เขากรอกเป็นหลุมอันหนึ่ง แล้วเขาก็ให้น้ำ ตอนที่ฝนมา มันจะสามารถเก็บน้ำเอาไว้ ช่วงนั้นไม่มีฝน เขาสามารถเอาน้ำนี้ไปปลูกได้ So water harvesting ทำไมเราไม่ทำให้ชาวและชาวหนาละ นี่คือหัวใจหลักเลย ถ้าชาวและชาวหนาเขาเห็นน้ำ อัตโนมัติเขาคิดได้ว่าน้ำคือชีวิต แล้วเขาสามารถปลูกได้มากขึ้น และตอนนั้นเราค่อยพัฒนาด้านอื่น เช่น ซอยลับ ซอยลับคืออะไรครับ วันนี้บ้านเราคือซื้อปุ๋ยยังไง เราซื้อปุ๋ยตามข้างบ้าน ข้างบ้านซื้อยังไงเราก็ซื้อตามนั้น ก็คือว่า CP ขายอะไร ตัวการเขาขายอะไรเราซื้อตามนั้น ข้างบ้านเขาซื้ออะไรเราซื้อตามนั้น เราค่อยรู้ไหม เราคือเอาที่ดินของเราไปซอยแลป ไปเช็คว่าว่า จริงๆนายลิเจนฟอสเตอร์ ประทาเซียของเราคือเท่าไร เรียกว่า MPK เพราะเราต้องซื้อปุ๋ยตาม MPK ที่เราต้องการ ตามเมล็ดที่เราต้องการ นี่คือข้อหนึ่งครับ ข้อสอง IoT Devices บ้านเราไม่เคยถูกใช้ IoT Devices เอสเวียลเขาใช้กันเต็มแล้วนะ ก็คือว่าเขาจะมี IoT Devices แต่ละ Hector เพื่อได้วัดว่า Moisture เท่าไร Wind Direction เท่าไร เพราะถ้าลมแรงและเหยเร็วต้องลดน้ำมากขึ้น ลดน้ำตอน 37 องศา กับตอน 45 องศาต้องไม่เท่ากันสิ เพราะว่าเหยมันเร็วกว่า So นี่คือ พื้นที่ที่เราเกี่ยวของบ้านเรา ยังเป็นรุ่นเก่าๆมากๆเลยนะครับ ผมว่านี่คือปัญหาครับ นี่คือปัญหาเร่งด่วนนี่สุดเลย เพราะเรากำลังใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า เรามีที่ดินเกษตรกรที่มีพร้อมทั้งน้ำและแสงแดด แต่เราใช้มันไม่คุ้มค่า และมุ่งวิสุทธิ์สิ่งนี้เรียกว่าท่องเที่ยวครับ ซึ่งคุณมุ่งวิสุทธิ์ท่องเที่ยวผมถามเลยว่า มันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันมันม มันช่วยกี่จังหวะครับ คุณมึงวิสุทธิ์ท่องเที่ยว กระจุก สมุย ภูเก็ต ช่างใหม่ คุณเทพภัทยา ชนบุรี จะถามหน่อยว่าหาดใหญ่จะเริ่มมากยิ่งขึ้นไหม อุบลจะเริ่มมากยิ่งขึ้นไหม ผมว่าเราท่องเที่ยวมันเป็นส่วนสำคัญนะครับ เพราะมันเป็นส่วนสำคัญของ GDP มันคือ Cash ของเรา แต่เราควรเอา Cash ลงทุนกับสิ่งที่มัน Undervalued หรือสิ่งที่เป็นอนาคตจริง เราควรเอาอันนี้ไป Feed กับอย่างอื่นนะครับ ผมยกมาตัวอย่าง Samsung ทุรกิจแรก ของ Samsung คือทุรกิจตบปลานะครับ Samsung คือทุรกิจตบปลานะครับ ตอนเริ่มต้น แต่พอตบปลามันกำลัง เขาเอากำไรของกรณ์ตบปลาลงทุนกับหลายเซคเตอร์มาก อิเล็กทรอนิกส์เอ้ย IOT เอ้ย เขาลงทุนกับอะไรเยอะมากๆ ซึ่งสิ่งที่มันชนะคือ IOT เขาเลยเอา IOT ไปบิวต์ต่อ ตอนที่ซัมชุนกัดจากกันก็เปลี่ยนเป็น Fish Company กลายเป็น IOT Company เราต้องเอาแคสต์เขาไปลงทุนกับหลายๆอย่างแล้วดูว่าอันไหนเวิร์ค ซึ่งหนึ่งในอย่างที่เราควรลงทุนกันให้สดคือ ก็ใช่ทุกคน เป็นเพราะเรามีสรรพากรได้เพียบพร้อม ทุกประเทศต้องใช้สรรพากรคุ้มค่าแล้วก็ต้องรู้จุดแข็งของตัวเอง ซาวรี รูชแข็งของตัวเอง ซึ่งคือผูกมีน้ำมัน บ้านเรามีแสงแสดง มีทั้งน้ำ มีทั้งเกษตรก่อน บ้านเรา บ้านเรามี The Basin of Himalaya Mountains แปลว่าเราอยู่ระหว่างจีนกับอินเดีย เราอยู่ฮิมเมลอร์เมอร์เมอร์เทิน ก็แปลว่า มันมีสิ่งเรื่องวัลเคนโอ แอคทิวิตี้ ซึ่งซอยของเราปลุกอะไรก็ขึ้น นี่คือพื้นถังของบ้านเราเลย -ผูกมีนาศาสตร์ก็ได้? ก็แปลว่าตอนที่เราเจาะ ถ้าเราวิธีสุดท้ายเลยเจาะน้ำไม่ได้ มันมีน้ำตลอดนะ เจาะร้อยเมตรสองไม่มีน้ำตลอดเวลา เป็นเพราะว่าเคมเมลินมาเพราะน้ำมาพร้อมที่ดิน มันมีน้ำที่คังอยู่ ที่สามารถเอาน้ำนี้มาให้เกษตรกรใช้ได้ มันก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ผมพูดอยู่มันคือแบบ ผมว่าวันนี้เราใช้สัตว์แบบความไม่คุ้มค่า ถ้าเราขายจุดแทงของตัวเอง ซึ่งเกษตรกรผมว่าเราจะมี a lot of say ในมุมของโลกนะครับ เราสามารถควบคุมราคาของข้าวผู้หลายอาจารย์ได้ เราสามารถควบคุมราคาของข้าวได้ นี่ นี่คือฝั่งฟึงสำคัญนะครับ อันนี้มันคือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่เขาเทียงอยู่ตอนนี้ไง คุณ CK ว่าเราต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่สุดท้ายแล้วเนี่ย คือมันขาดความรู้ ขาดเรื่องเทคโนโลยี และขาดเรื่องระบบการจัดการ สรุป 3 อย่างที่แบบว่า เรายังไม่สามารถที่จะใช้ทรัพยากรเราที่ถือไว้จุดแข็งได้ ผมว่าเราไม่ได้ขาดครับ เราแค่ขาดโฟกัสเฉยๆครับ ผมว่า วันนี้ ผมบอกคุณตรงๆเลยครับ เราไม่ได้ขาดเทคโนโลยี เราไม่ได้ขาดอะไรเลย เราขาดอย่างหนึ่งนะ พื้นฐานที่สุดครับ เราขาดน้ำ ขาดน้ำ อยู่ให้เกษตรกรน้ำ -ท่านคิดว่าเมืองเราเป็นฝนตกนะ ตกๆอย่างด้วย ใช่ถูกต้อง แล้วขาดน้ำ กิจกรรมวันนี้คือไม่ฝนเยอะเกินไป ก็ฝนน้อยเกินไป แล้วขาดน้ำครับ วันนี้ครับ เราบอกว่าเราเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุด ดูวิธีในการตากข้าวบ้านเราสิ บ้านเรายังตากข้าวข้างถนนอยู่เลยครับ ไม่มีเครื่องอบข้าวแบบจริงจัง ฝนมาก็... Yeah, what I'm trying to say is เราไม่ลงทุนกับสิ่งที่เป็นจุดแข่งของเราจริงๆ เราต้องเล่นจุดแข่งของเราสิ เรามีทรัพยากร เราต้องเล่นตามนั้นใช่ไหมครับ แต่เราไม่ได้ทำเหมือนกันครับ คิดว่าสิทธิกรคือ... มันเป็นพิราชที่เราต้องโฟกัส เพราะว่ามันเป็นสัพยากรณีที่โลกต้องการ ค่ะ แล้วส่วนหนึ่งก็คือเราโตไปจากเกษตรด้วย แล้วเราก็เป็นภาคเกษตรด้วยประเทศไทย ถูกต้องครับ แต่ถามหน่อยว่าคุณลองไปมหาลัยเกษตรศาสตร์ ลองดูว่ากี่ลูกเด็กกี่คนเรียนเกษตร ไม่มี ทุกคนอยากไปเรียนนิเทศ ทุกคนอยากเรียนนู่นนี่นั่นใช่ไหมครับ ถามว่ามีใครอยากเรียนเกษตร ไม่ ไม่มีใครอยากเรียนเกษตร เป็นงานยากลำบาก มันเป็นงานสำหรับคนชั้นล่าง ใช้แรง ลำบาก ชนจนเท่านั้น พอลองดูวิทยาลัยอร์เรียก็จะเห็นว่า วงการน้ำมันคือวงการที่รายค่าไหม ไม่ เขายกย่องมากนี่วงการน้ำมัน เพราะเป็นสิ่งที่บิลพื้นฐานในประเทศเขา ว่าเราใช้สมัยเขาไม่คุ้มค่า แต่ต่อไปข้างหน้าคุณซิเคมองว่าอาหารการกินสำคัญมาก มันจะเป็นเบสของโลกเลย ใช่ครับ ถ้า... แล้วนี่เข้าสู่สมธรรมนี้ ผมยังไม่ต้องอย่างนะครับ บิลเกรดเขาทำฟาร์มเล็กเชิงของเขา เพราะเขาเชื่อว่า เบลูเกรดอยากจะฟรีตัว Right มันไม่เห็นว่าเบลูเกรดลงทุนเกษตร มีเกษตรกรที่อัฟริกาเยอะมาก แต่ผมอยากจะบอกว่าสิ่งที่วิวเกษตรทำ มันอาจจะเป็นหนึ่งในทางเลือกนะครับ แต่มันไม่ได้ทางเลือกที่เร็วที่สุด ทางเลือกที่เร็วที่สุดมันไม่ใช่ว่า เรามีพื้นที่เกษตรกรมีเพียงพอ แต่ว่าเราจริงๆแล้วเรามีเพียงพอ แต่พื้นที่เกษตรกรที่เรามีอยู่เพียงพอ เราปลุกไม่ปล่อยเกิน เกษตรกรบ้านเราปีนึงก็ปลุกรอบเดียวเองนะ ปีนึงเราปลุกแค่รอบเดียว เก็บเกี่ยวแค่รอบเดียวเองนะ แต่ถ้าสมมุติว่าเกษตรกรบ้านเราปีนึง สมมุติว่าเก็บเกี่ยว 3 รอบได้ และผลผลิตของต่อปี ต่อครั้งที่เก็บเขียว สามารถเที่ยวเท่ากับอเมริกาได้ เราจะเป็น the most productive agricultural country in the world ประเทศไทยนะครับ คือจะได้ปริมาณ แต่ว่าต้องเพิ่มมูลค่าด้วย พอเราได้ปริมาณ ใครคู่คุมตลาดครับ เรา ใครคู่คุมมูลค่า เรา มีเยอะมาก นี่ผมยังไม่พูดถึงวีทใช่ไหม ผมยังไม่พูดถึงว่า ถ้าเกษตรกรเป็น ถ้าสมมุติว่าเกษตรกรที่ดินแพงเนี่ย 3 ปี ปีนึงสามารถเก็บเกี่ยวกับ 3 รอบ แปลว่ามันมี Cash Cycle 3 รอบ มันแปลว่ามันเป็นที่ มันเป็นที่ดีอสังหาที่สามารถสร้างเงินสดได้ชัวร์ ไม่ต้องกลัวเศรษฐกิจ ไม่ต้องกลัวอะไรเลย ยังไงเก็บเกี่ยวก็ได้เงิน นี่คืออสังหาดีมทรัพย์ที่ดีที่สุดครับ คืออสังหาที่ดีมทรัพย์ที่ Cash Flows แล้วพอคุณมีแบบนี้ปั๊บ ไม่ได้คนจะอยากลงทุน อืม มันแก้ปัญหานี้ได้ด้วยเนอะ นี่พระครูเรือน ที่คุณมีแบบนี้เป็นส่วนใหญ่คือเป็นฐานละที่มีปัญหาอย่างนี้ แก้หลายปัญหาเลยครับ แก้หลายปัญหาเลยจริงๆ ผมว่ามัน นี่คือสิ่งที่เราลอง นี่คุณสุดใจเป็นพิเศษเรื่องนี้เลยวะ ศึกษาเรื่องนี้มาเลย เพราะว่าบ้านเราเป็นบ้านเกษตรกรนะครับ ผมแค่รู้สึกว่า ผมตกใจที่ไม่มีใครให้ความสำคัญกับเกษตรกรแล้วกัน ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ชัดเจมากที่สุด ที่เราควรลงทุนกับมันมากที่สุด คือที่ดินเกษตรกร ทำงานให้ที่ดินเกษตรกรบ้านเราปีน สาม รอบได้ มองแค่จุดนี้ ถ้ามองแค่จุดนี้อย่างเดียวนะ เรา Import น้อยลง เรา Export มากขึ้น So มันมี Trading Surplus ก็แปลว่าจริง เรารวยขึ้นในมุมของโลก นี่ That's the Key แล้วพอเรามีเงินตรงนี้ปั๊บ เราสามารถให้บุกบ้านอื่นได้ เพราะคนไทยเป็นคนรวยของคนอื่น บุคคลบ้าน มุมของโลกปั๊บ เราจะทำบุคคลบ้านอื่นนะ เหมือนที่ Saudi Arabia เขาทำ Saudi Arabia บ้านเขาไม่มีอะไร นอกแน่นอนน้ำมัน แต่พอเขารวย เขาทำอะไรครับ เขาร่วมถึงบริษัทนั้น ร่วมถึงบริษัทนี้ ซื้อที่นินเกษตรกรนี้ ซื้อสั่งหาตรงนี้ เขาควบคุมโลกเลย ก็เลยเกิดสิ่งเรียกว่า Petrodollar แต่บ้านเราก็สามารถทำได้ We can make our Petrodollar Petrodollar That's what I'm trying to say มันเป็นไปได้ แล้วถ้าเราทำพื้น ซึ่งคือ คือ ไม่ว่าจะเป็นข้าว สมมุติถ้าเราทำแค่ผัวหาดสัตว์ได้ดีนะครับ สิ่งที่มาหลังจากนั้นคืออะไรดูมั้ยครับ คืออัวะ ไก่ ก็จะดีขึ้น ก็คือการแปรรูปผ้าการเกษตร ถูกต้อง คุณรู้มั้ยครับ คุณเคยสังเกตไหมครับว่าทำไม นมที่อเมริกาขาดเป็นก่อน แล้วนมบ้านเราขายแค่ขนิดเล็ก เพราะนมบ้านเราไม่อร่อย เพราะอะไร พื้นที่ที่อังกฎกินยากิน นมอังกฎบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็แล้ว แต่ครึ่งอันคือผง อีกครึ่งคือนมจริง เพราะมันมีกิจ มันต้องกบกิจเอาไว้ ถ้าคุณลบบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดในประเทศไทย ที่ฟังอังกฎนมเยอะที่สุด คุณลองไปดูสิครับ พอมาก ไม่ได้มีความสะอาด ไม่ได้มีระบบเลยค่ะดังนั้น ประเทศจีน ประเทศอิสรีอล ประเทศอเมริกา มีระบบ IOT ชัดเจนมากๆ วันนี้ผมพูดถึงเกษตรกร ผมพูดถึงไม่จบ ผมยังไม่พูดถึงเรื่องบัญชีเลย บัญชีทุกวันนี้คือเกษตรกร เราทำขาดทุนยังไม่รู้ตัว เพราะบัญชีมันมีสิ่งเรียกว่า Work in progress Raw material work in progress แล้วก็ inventory ซึ่ง inventory คือนมเนี่ย work in process คืออาหารคุณให้ไปเท่าไหร่ มันมีหลายระบบมากๆที่บัญชีเอง ยังไม่ดีเลยอ่ะบ้านเรา มันต้องทำเยอะมากถ้าจะลงทุนกับเศรษฐกรมันมีหลายฟันเฟืองมาก นี่แค่มุมของบัญชี ยังไม่พูดถึงมุมของ Tractor ใช่มั้ยครับ Leasing Tractor วันนี้ วันนี้เกษตรกรบ้านเรา อยากจะกู้ อยากจะกู้นี้ อยากจะกู้นี้ ทำไงครับ เขากู้นอกระบบ มันเพราะเขากลัวเข้าแบงค์ กู้อะไรก็ไม่ผ่าน เขากู้นอกระบบ พอกู้น้อยระบบปั๊บไปว่า คุณลองไปถามยามที่กรุงเทพฯ แม่บ้านที่กรุงเทพฯ แท็กซี่ที่กรุงเทพฯ ลองถามเขาเข้ามาจากไหน พื้นฐานเขาเกษตรกร แต่เขาหนีหนี้มาที่กรุงเทพฯ This is what is actually ก็มาเจอหนี้ในกรุงเทพฯอีก ไม่ๆ เขาหนีหนี้จากบ้านเขา พื้นฐานเขาเข้ามาจากเกษตรกร แต่เขากู้น้อยเราบอกเขาจ่ายไม่ได้ เขาก็หลีมาที่นี่มาขับแท็กซี่ที่นี่ ไม่เป็นยามที่นี่ นี่คือสิ่งที่มันเกิดขึ้น นี่คือ the dark side ที่ไม่มีใครพูดถึงเลยในบ้านเรา ถ้าอยากทำให้ประเทศไทยดีคือ We have to ถ้าคุณจัดการในกรุงเทพฯ เราจะเป็นการพัฒนาเกษตรกรได้ เราจะเป็นการพัฒนาเกษตรกรได้ เราจะเป็นการพัฒนาเกษตรกรได้ แต่นี้เข้าใจว่า นี่ก็เป็นแนวทางของภาคธุรกิจที่พยายามพักนำอยู่ เข้าไปจัดการเรื่องของภาคการเกษตร ทีนี้ให้คุณสุเคฟากไว้ดีกว่า เพราะว่าช่องเราก็คุณดูเป็นนักลงทุน คนที่อยากจะเข้ามาลงทุนให้พี่ทีคิดเข้านิดนึง คนที่อยากจะเข้ามาลงทุนให้พี่ทีคิดเข้านิดนึง อยากลงทุนกองทุนครับ ลงทุนกับหุ้น เลือกหุ้นลงเองเลย เพราะถ้าคุณลงทุนกองทุนคือได้แล้วเสีย แต่ถ้าคุณเลือกหุ้นลงเองคือได้ก็ได้ ถ้าคุณลงทุนกองทุน กองทุนลงคุณจะไม่รู้เลยว่ามันลงเพราะอะไร แล้วคุณจะ เหมือนว่าคุณให้ Money Manager ไปทำการบานให้ แต่จริงๆแล้ว Money Manager ก็ไม่ได้รู้อะไรหรอก เขาก็ขายตามสินค้าที่แบงค์เขาอัดลงมา So จริงๆ Money Manager คือ Sales คนนั้นเอง So ถ้าคุณลงทุน ถ้าคุณเลือกหุ้นเอง มันแปลว่าอะไรดูแม่ มันแปลว่าคุณได้ก็ได้ โอเค กำไรก็ดีไป แต่ถ้าคุณลง คุณจะเรียนรู้ กำไรที่มีมูลค่ามากที่สุด คือการเรียนรู้ตอนที่คุณเลือกหุ้นลงทุน เพราะตอนที่คุณเลือกหุ้นลงทุน คุณจะติดตามข่าวสารมากขึ้น คุณจะอยากรู้ว่าเหตุผลนี้มันขึ้นเป็นเพราะอะไร เหตุผลนี้มันลงเป็นเพราะอะไร และระหว่างทางนี้ 6-7 ปีที่ผ่านมา กำไรที่แท้จริง ไม่ใช่กำไรที่คุณได้แต่เม็ดเงินนะ แต่มันมีความรู้ที่คุณจะเป็นคนที่รอบรั้วมาก So เลือกคุณลงเองครับ เลือกคุณลงเอง อย่าคิดว่าคำถามสำคัญไม่ใช่ว่าทำยังไงถึงสามารถหาเงินล้านได้ คำถามสำคัญคือว่า คุณต้องเป็นคนยังไงถึงสามารถหาเงินล้านได้ ถ้าคุณกลายเป็นคนคนนั้น เงินล้านอาจจะยังไม่มีนะครับ แต่วันหนึ่งมันจะมา So the key here is เป็นคนคนนั้นครับ พยายามเป็นคนนั้นได้มากได้สุด เป็นคนที่สามารถหาเงินร้านนั้น ไม่มีใครสามารถกำลังจะจากตลาดหุ้น ถ้าคุณไม่เป็นนักโรงทุนที่เข้าใจตลาดหุ้น อืม คนที่จะหาเงินร้านนั้นก็ต้องกลับมา คือการเรียนรู้ คุณค่าของการเลือกหุ้นเองคือการเรียนรู้ ใช่ครับ แล้วคุณก็จะเป็นคนนั้น คนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน เนื่องจากว่าตอนนี้เราเจอปัญหาประชากรน้อยลง คนเกิดน้อยลง คนรุ่นๆที่แบบว่าเกิดหลังจากที่คุณสิเกย์แล้วมันก็น้อยลงนะฮะ ทีนี้พอเขามาเขาต้องบอกแล้ว เขาจะเป็นอาชีพอะไร อาชีพอิสระอาทุตุบราย หรือว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนดี หรือว่าจะทำธุรกิจดี กูสิเท่ ให้น้องเท่ ผมว่ามันแล้วจากเป้าหมายของเขาครับ ผมว่าตอนนี้หลายๆคน คือมนุษย์เงินเรียนกลายเป็นสัตว์ที่ มันไม่ค่อยเซ็กซี่หรอ แต่ผมอยากจะบอกอย่างนี้นะครับ ถ้าเป้าของคุณคือสมมุตินะ อยากเปิดร้านอาหาร ผมไม่ได้แนะนำเขามาเลยครับ เพราะถ้าคุณอยากเปิดร้านอาหาร แล้วคุณไม่เคยเปิดร้านอาหารมาก่อน เป็นพนักงานก่อน เป็นเพราะถ้าคุณเป็นพนักงานด้วย MySeal ว่าวันหนึ่งอยากจะเปิดร้านอาหาร คุณที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร จะอยากรับคุณคนนี้มากๆเลย เพราะว่าคุณคนนี้จะทำทุกอย่าง แล้วตอนนี้คุณเปิดร้านอาหารแบบ แบบไม่มีความรู้ แปลว่าคุณต้องจ้างคอนซอล์ต ซึ่งจ้างคอนซอล์ต อาจจะอยู่ที่มัน 2-3 แสนบาท แต่เงินนี้ก็หายไปเลยนะ 3 แสนบาท นี่คือเงินหายไปเลยนะ แต่ว่าตอนนี้คุณเป็นพนักงานประจำ และเฝ่นฝันว่าอยากเป็นนักธุรกิจ ที่เป็นร้านอาหาร ซึ่งแปลว่าคุณจะรู้ว่า คังสินค้ายังไง สั่งสินค้ายังไง เซิร์ฟลูกค้ายังไง แคชเชียร์เก็บยังไง เงินมุสมุนยังไง หลังบ้านทำยังไง หน้าบ้านทำยังไง คุณจะรู้หลาย อย่าง ด้วยต้นทุนของคนอื่น แถมผู้ได้เงินด้วย การเป็นพนักงานเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดี สุดง่าย สุดที่บรรล เร็วที่สุดแล้วล่ะ การเป็นผู้กบการ ถ้าคุณอยากเริ่มทำสตาร์ทอัพ ลองเป็นพนักงานสตาร์ทอัพดูดิ ลองดู ถ้าคุณอยากจะเป็นเจ้าของร้านอาหาร ลองเป็นพนักงานร้านอาหารดู มันเป็นวิธีดีที่สุด ดีไปกว่าหาคอร์สเรียน คนชอบบอกว่า หลักเรียนทำธุรกิจ เป็น MBA ลองทำงานให้สตาร์ทอัพดูดิ ลองทำงานให้องค์คอร์นเล็กๆ ยังไงคุณก็ได้ประสบการณ์มหาศาลมาก เพราะหนึ่งคุณต้องทำหลายอย่าง แต่ถ้าคุณทำงานกับแบงค์ใหญ่ คุณขึ้น 1 อย่าง นี่หนึ่งในฟันเฟิงที่วันนี้ ถ้าวันนี้คุณตายไป แบงก์ก็ไม่รู้ว่าคุณตายไป คุณจะไม่ได้เรียนรู้ระยะมาก แต่สิ่งที่คุณได้เรียนรู้อาจจะเป็นระบบการจักรการ ที่องค์กรอย่างนั้นระบบการจักรการคือยังไง คุณจะได้เรียนรู้อีกแบบหนึ่ง วิธีที่เรียนรู้ดีที่สุดนะครับ คือจริง แล้วมันคือการเป็นพนักงาน อื้อหือ -แล้วก็ออกไปทำธุรกิจเองนะครับ? แต่วันที่คุณพร้อมแล้วอย่าลืมโ โดดมาทำอะไรสินตัวเองอยากที่จะทำจริง วันนี้พร้อมจะไม่วันมาครับ เราจะมีรู้สึกว่า ไม่พร้อม ยังไม่รู้ด้านนี้ ยังไม่รู้ด้านนู้น แต่จริง กัดฟันทำเลยครับ ไม่มีอะไรแน่นอน อนาคตไม่มีวันแน่นอนครับ สมมุติคุณรู้สึกว่า วันนี้รู้เพลงพอแล้ว เงินเก็บได้มาหนึ่งแล้ว โดดไปทำครับ เพราะเสียดายหน้าคนก็เสียใจครับ รู้จริง เจ็บจริง แต่ว่าบางทีก็อาจจะไม่ได้จริงนะ แต่นั่นคือสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด ใช่ เพราะถ้าคุณมีเวลา คุณมีโอกาสครับ ถ้าสมมุติว่าคุณอยากจะเริ่มทำทุก... ถ้าคุณกลัวล้มเหลว ถ้าคุณมีเวลา สมมุตินะ คุณ 25 คุณอยากโดยมาทำธุรกิจ ล้มเหลวทุกอย่าง 30 คุณก็หาเงินกลับมาทำใหม่สิ คุณมีเวลา คุณมีโอกาส คุณไม่ทำใหม่อีกรอบหนึ่งได้ แต่ถ้าคุณแบบ 70 ไม่มีเวลา ไม่มีโอกาสแล้วนะ มันจะน่ากลัวมากนะครับ สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ว่าทำแล้วมันล้มเหลวนะ สิ่งที่น่ากลัวคือว่าถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ก็เสียดายครับ จากฝันที่คุณมี ถ้าคุณไม่ทำมันจะเป็นฝันร้าย มันจะหล่อนคุณทั้งชีวิตเลย โอเค วันนี้เราพูดคุยกับคุณ CK แล้ว เราได้ไอเดียหลายอย่างนะ ไอเดียของคนที่อยากจะเป็นนักรถทุน หรือแม้กระทั่งตัวของคุณ CK เองที่เล่าประสบการณ์ให้ฟังนะคะ จากเรื่องของการเปลี่ยนจากนักเคลดเนี่ย กลายเป็น Value Investor นะคะ แล้วก็สามารถที่จะทำให้เขาเนี่ย เขาบอกว่า ถ้าเรา ไม่สักพูดที่คุณ CK บอกเนี่ย คือกำไรที่ได้ ผลตอบแทนที่ได้ จากการไปนักรถทุนเนี่ย มันมากกว่าการทำธุรกิจ ถูกต้องไหมคะ อันนี้เป็นคำตอบ แต่สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ เราจะต้องเรียนรู้นะครับ เพราะว่าการเรียนรู้เนี่ย มันคือแหวนรู้ที่ คุณสิเคบอก ดีกว่าที่จะได้ตังค์อีกนะคะ แล้วก็เรื่องของแนวคิด เกี่ยวกับเรื่องของประเทศไทยเนี่ย ก็ฟังมาเยอะนะคะ โดยเฉพาะเรื่องของภาคการเกษตรเนี่ย หลายคนก็พูดกันเยอะนะคะ แต่ว่า ปัญหามันคือเราจะปลดล็อกตรงนี้ได้ยังไง เท่านั้นเอง วันนี้ขอบคุณคุณสิเคบมากนะคะ ขอบคุณมาก มาก เพื่อไม่ได้พลาดทุกข้อมูล และข่าวสารด้านการลงทุน อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe ทุกช่องทางของ Money Chat นะคะ