Transcript for:
การท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวจีนในไทย

วันนี้เราจะคุยกันเรื่องของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ดูตัวเลขจะหด หายไปเยอะพอสมควรนะครับแล้วเดี๋ยวจะมีข้อ มูลบางส่วนจากงานสัมัน Talk ที่ทางทนจัด คุณแพวคุยเรื่องของการท่องเที่ยวใช่โดย เฉพาะเลยซึ่งก็มีประเด็นน่าสนใจจากทั้ง รัฐมนตรีนะคะแล้วก็ตัวแทนผู้ประกอบการภาค เอกชนก็คือนายกสมาคมโรงแรมไทยด้วยค่ะ เริ่มต้นไปดูภาพกว้างภาพใหญ่กันก่อนครับ เราทุกคนทราบเป็นอย่างดีว่าภาคการท่อง เที่ยวถือเป็นหนึ่งภาคเศรษฐกิจที่มีความ สำคัญอย่างมากในการสร้างเม็ดเงินรายได้ เข้าสู่ประเทศไทยนะครับแต่ปีนี้ดูจะไม่ ใช่เรื่องง่ายเหมือนหลายๆปีที่ผ่านมาเหตุ ผลสำคัญส่วนนึงก็คือว่าความเชื่อมั่นใน หลายๆเรื่องด้วด้วยกันนะครับโดยเฉพาะ อย่างยิ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวสัญญาณต่างๆ นักท่องเที่ยวที่จะมาประเทศไทยดูจะถดถอย ไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งขีดเส้นใต้หลายๆ บรรทัดกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เคยเป็น เป้าหมายอันดับ 1 ของเราตัวเลขล่าสุด เนี่ยดูเหมือนว่าจะลดน้อยถอยลงไปอย่าง เห็นได้ชัดเลยทีเดียวนะครับข้อมูลตัวเลข จากทางคุณภัทรอนงนงค์ณเชียงใหม่รองผู้ว่า การด้านตลาดเอเชียและแปลิกใต้ของการท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทยใช้คำแบบนี้ครับว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวจีน ที่เข้าไทยในปี 256 อยู่ในภาวะที่เรียกว่าวิกฤตซ้อน วิกฤตเข้าไปอีกครับเป็นปีที่ยากมากและ เป็นปีที่ท้าทายอย่างมากเพราะว่านอกจาก ภาพลักษณ์เรื่องของความปลอดภัยในการเดิน ทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในสายทาชาวจีน เราเจอกับสถานการณ์แผ่นดินไหวตอนปลาย เดือนมีนาคมที่ผ่านมายังมีเรื่องของปัญหา ภูมิรัฐศาสตร์มีเรื่องสงครามการค้าเข้ามา เป็นประเด็นท้าทายกับการท่องเที่ยวของเรา ด้วยครับประกอบกับเศรษฐกิจจีนเองก็ไม่ ค่อยดีเท่าไหร่นักค่ะทำให้รัฐบาลจีนเนี่ย เขาโปรโมทให้คนจีนเดินทางท่องเที่ยวภายใน ประเทศของตัวเองประกอบกับเขาก็มีนโยบายนะ คะในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ให้เข้าไปท่องเที่ยวในประเทศจีนด้วยจีน เองก็ชูจุดขายหลายเรื่องค่ะเนื่องจากจีน เองเป็นประเทศใหญ่นะคะไปหลายรอบก็ไม่ซั ซ้ำไปเที่ยวได้หลายเมืองทั้งปีเนี่ย สามารถไปจีนเพียงแค่ประเทศเดียวก็ท่อง เที่ยวได้แบบครบทุกรถค่ะทีนี้มาดูกันต่อ นะคะที่มุมมองที่น่าสนใจในเรื่องของปัญหา การท่องเที่ยวคือณตอนนี้ทุกประเทศเนี่ย เจอกับปัญหาทางเศรษฐกิจค่ะคือเจอเหมือนๆ กันหมดภาคการส่งออกก็ร่วงเพราะฉะนั้นภาค การท่องเที่ยวก็เลยดูเหมือนจะกลายเป็น เครื่องยนต์หลักอนะคะในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจคุณภัทรนงค์บอกแบบนี้ว่าตามที่ คุณผู้ชมเห็นเลยทุกประเทศมีปัญหาหมดการ ส่งออกร่วงก็ต้องหันมาเล่นที่ภาคการท่อง ท่องเที่ยวใช้เครื่องยนต์นี้กระตุ้นการ เดินทางจับจ่ายทำให้ประเทศไทยค่ะมีคู่ แข่งมากขึ้นไปโดยปริยายเห็นได้ชัดจากคู่ แข่งด้านการท่องเที่ยวอย่างของบ้านเรา อย่างญี่ปุ่นค่ะญี่ปุ่นเนี่ยตอนนี้เามี ปัจจัยในเรื่องค่าเงินเย็นที่อ่อนค่า เพราะฉะนั้นเอ่อชาวต่างชาติก็นิยมเดินทาง เข้าไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นมากขึ้นอีก หนึ่งประเทศคู่แข่งของบ้านเราก็คือ เวียดนามอ่ะนะคะเวียดนามมีการทำข้อตกลง กับจีนค่ะเป็น MOU ขึ้นมาในเรื่องของการ ยกเว้นวีซ่า ระหว่างกันมีการลงนาม MOU เป็นรายมณฑลใน จีนด้วยนะคะเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวใน ลักษณะเมืองพี่เมืองน้องจีนเวียดนามล่า สุดมีความตกลงเรื่องของการชำระเงินผ่าน QRโค้ดแบบข้ามพรมแดนรองรับนักท่องเที่ยว เฉพาะของทั้ง 2 ประเทศเลยค่ะเรามาดูว่า จมนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้า ประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยว จีนตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะถ้าไป ดูของจีนตัวเลขมันน่าตกใจทีเดียวนะครับ รายวันล่าสุดที่ออกมา 16 เมษายนเป็นตัว เลขต่ำที่สุดนะครับ 5,833 คนค่าเฉลี่ยที่เราเคยทำได้มันตก อยู่ประมาณสัก 15,000 จนถึง 20,000 คนต่อ วันนะครับแต่ตกลงไปเยอะมากเมื่อตอน 16 เมษายนถึงแม้ว่าการเดินทางในช่วงเทศกาล สงกรานต์ที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้ามาบ้านเราเพิ่มขึ้นเป็น 16,000 คนเมื่อตัวเลขวันที่ 11 เมษายนแต่ถ้าดู แนวโน้มโน้มทั้งหมดยังคงลดลงอย่างต่อ เนื่องเพราะฉะนั้นตลาดการท่องเที่ยวที่ เป็นปัญหาใหญ่ตอนนี้ก็คือตลาดจีนซึ่งเคย เป็นตลาดที่เราพึ่งพามากที่สุดด้วยนะครับ ยังมีแนวโน้มที่ชะลอตัวลงอย่างหนักพอสม ควรทีเดียวครับปัจจุบันตัวเลขอย่างที่บอก ไปว่านักท่องเที่ยวจีนมาบ้านเราต่ำสุด เนี่ย 5,000-6,000 คนจากปกติแล้วเนี่ยตัว เลขมันจะอยู่ประมาณสัก 14,000 -17,000 คนต่อวันตัวเลขแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นะครับซึ่งจากตัวเลขนี้ก็เชื่อมโยงมา อย่างแนวโน้มในเดือนเมษายนกันบ้างซึ่ง ททท.ตอนเนี่ยก็คาดการณ์นะคะว่าจำนวนนัก ท่องเที่ยวที่เป็นชาวจีนในเดือนเมษายนก็ น่าจะใกล้เคียงกับมีนาคมที่ผ่านมาประมาณ สัก 290,000 คนน่ะนะคะมกราคมค่ะมีสถิติ ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวไทยจำนวน 660,000 คนพอกุมภาพันธ์จาก 600,000 ลดลงมาเหลือ 370,000 คนมีนาคมนะคะลดลงมาอีกเหลือ เพียงแค่ 290,000 คนเรียกได้ว่าปรับตัว ร่วงลงมาเรื่อยๆค่ะมีนาคม 29,000 ถามว่า เมษายนจะเป็นเท่าไหร่ก็น่าจะพอๆกับมีนาคม ก็คือ 290,000 คนทีนี้หากประเมินในภาพรวม ทางททท.เนี่ยก็เชื่อว่าตลาดนักท่องเที่ยว จีนค่ะจะยังอยู่ในภาวะที่เขา้าเรียกกัน ว่าหล่นท้องช้างแบบเนี้ยไปอีกสักประมาณ 5 เดือนไปรอลุ้นกันอีกทีเลยก็คือตุลาคม เพราะว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงไซีซัของการ ท่องเที่ยวตรงกับเทศกาล Golden Week ของ ชาวจีนนนะคะแน่นอนว่าตัวเลขมวลรวมของนัก ท่องเที่ยวพอเราเห็นเทรนด์แล้วค่ะปีนี้ ททท.ก็เลยมองว่าก็อาจจะต่ำกว่าปี 2567 ที่มีจำนวน 6,700,000 คนค่ะถ้าเราย้อน กลับไปดูตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ เข้าประเทศไทยตอนปี 2562 จะพบว่าทั้งใน แง่ของจำนวนและในแง่ของรายได้ที่มาจากคน จีนเนี่ยคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 หรือ ประมาณร้อยละ 25 ของการท่องเที่ยวไทยทั้ง หมดนะครับพอสถานการณ์ตอนนี้มันลดลงอย่าง เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปี 62 แบบนี้ รัฐบาลก็เลยกำชับแล้วก็ให้โจทย์กับทางการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท.นะครับ โดยหน่วยงานด้านการตลาดจะต้องทำงานทั้ง การปรับแผนมองหาช่องทางในการที่จะสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน แล้วก็พยายามที่จะดึงให้นักท่องเที่ยวชาว จีนกลับมาบ้านเราให้เร็วขึ้นหลังจากที่มี ข้อมูลว่าประเทศไทยเราเสียแชมป์นักท่อง เที่ยวจีนไปให้กับญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ครับและล่าสุดข้อมูลกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ของปีนี้ด้วยนะครับก็พบว่าเราเพิ่งจะถูก เวียดนามแซงหน้าไปอีกเช่นเดียวกันในฐานะ ตลาดที่นักท่องเที่ยวจีนอยากจะไปมากขึ้น ไปกว่าเดิมยิ่งทำให้กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาจำเป็นจะต้องทำงานร่วมกันแล้วก็ มอบหมายให้ททท.เร่งปรับแผนเพื่อให้ไทย กลับไปเป็นจุดหมายปลายทางที่อยู่ในใจของ นักท่องเที่ยวจีนอีกครั้งหนึ่งเพราะว่า นักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นกลุ่มที่เดิน นิยมการเดินทางออกนอกประเทศเพียงแต่ว่า เขาอาจจะเปลี่ยนเส้นทางไปเท่านั้นต้องดึง มาบ้านเรามากขึ้นมันก็สอดคล้องกันครับกับ ข้อมูลของหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของ สาธารณประชาชนจีนที่รายงานแบบนี้ว่าตอนปี 2566 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 90 ล้านคนปี 67 เพิ่มขึ้นไปเป็น 120-130 ล้านคนและคาดว่าปีนี้ตลาดนัก ท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนตัวเลขจะเพิ่มขึ้น ไปอีกเป็น 150-15 ล้านคนครับจากตัวเลขดังกล่าวนะคะ สะธรว่าหลังจากจีนเปิดประเทศค่ะชาวจีน จริงๆอ่ะเขามีแนวโน้มจะเดินทางไปเที่ยว ต่างประเทศเยอะเพราะตัวเลขมีอัตราที่ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพียงแต่ว่า เขาเลือกที่จะมาประเทศไทยน้อยลงค่ะซึ่ง บรรดาผู้ประกอบการในภาคเอกชนเขาก็พยายาม จะวิเคราะห์นะคะว่าเป็นเพราะอะไรทำไมจู่ๆ คนจีนที่เคยชอบบ้านเราเขาถึงไม่มาบ้านเรา แล้วค่ะพอวิเคราะห์ไปก็พบว่ามันอาจจะเกิด จากสาเหตุ 2 สาเหตุด้วยกันประเด็นแรกก็ คือเรื่องของความปลอดภัยอันเนี้ยเป็น เรื่องสำคัญนะคะเพราะว่าเราก็เจอกระแส ข่าวตามโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่องถึง ประเด็นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวนับ ตั้งแต่ที่นักแสดงจีนเข้ามามีปัญหาในบ้าน เราตลอดจนปัญหาเรื่องของ Call Center เอยปัญหาเรื่องของอุยกูเอ่ออุยกูเอยก็เลย ส่งผลยาวนานมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนั่น คือเรื่องแรกค่ะส่วนเรื่องที่ 2 ที่อาจจะ กระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวก็คือ สถานการณ์เรื่องของการเมืองตลอดจนแนวโน้ม ผลกระทบจากกรณีภาษีของโดนัลดทรัมป์ด้วย ค่ะกระแสความนิยมการเดินทางมาเที่ยวของ ประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมันลด ลงอย่างเห็นได้ชัดนะครับเมีการสำรวจโดย ทางingลี่สำรวจโดยไปสอบถามบนแพลตฟอร์มมาก กว่า 15,000 ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่เขา สำรวจมีทั้ง TikTok มีทั้งเสี่ยวหงส์สูแล้วก็อีกหลาย ๆแพลตฟอร์มด้วยกันปรากฏว่าเพบว่านี่เป็น ครั้งแรกที่ประเทศไทยเราไม่ติดอยู่ใน 5 อันดับแรกของ desination หรือจุดหมายปลาย ทางที่นักท่องเที่ยวจีนเขาอยากจะมาทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เราเป็นอันดับ 1 มาตลอด ด้วยซ้ำครั้งนี้ไม่ติดแล้วนะครับนี่เป็น การสำรวจครั้งล่าสุดในเดือนช่วงประมาณสัก ไตรมาสแรกของปีนี้เราติดดีที่สุดอยู่ใน อันดับที่ 7 เท่านั้นครับ 5 อันดับแรกที่ นักท่องเที่ยวจีนชอบและอยากไปในช่วงนี้ก็ จะเป็นสิงคโปร์ญี่ปุ่นเกาหลีใต้มาเลเซีย และก็ยุโรปถ้าเราย้อนกลับไปตอนไตรมาส 4 ของปีที่แล้วเราติดอันดับที่ 4 นะครับแต่ ถ้าเป็นย้อนกลับไปช่วงก่อนโควิด 19 เรา อยู่ในอันดับที่ 1 ของจุดหมายปลายทางการ ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนอยากเดินทางออกนอก ประเทศมากที่สุดเขาอยากมาบ้านเราแต่ว่า หลังจากนั้นสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่าง สิ้นเชิงครับถ้าเอกชนเห็นข้อมูลลักษณะแบบ นี้แล้วเขาก็เลยมองว่าการชะลอตัวลงของนัก ท่องเที่ยวจีนที่มาประเทศไทยมันหนักหน่วง มากยิ่งขึ้นแต่ถ้าดูตัวเลขข้อมูลมาสักสัก ครู่นี้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศมากขึ้น แต่เลือกมาไทยน้อยลงถ้าปล่อยให้สถานการณ์ เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ลงมือแก้ ไขหรือไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลยจำนวนนัก ท่องเที่ยวจีนของเราอาจจะโลหล่นลงไปเหลือ ประมาณสัก 5 ล้านคนซึ่งต่ำกว่าปี 2567 ซึ่งตอนนั้นมีอยู่ประมาณ 6,700,000 คน ครับมาดูอีกหนึ่งประเด็นน่ะนะคะที่อาจจะ ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยน้อยลง จากการวิเคราะห์ของภาคเอกชนเนี่ยเขามอง ว่าเอ่อปริมาณการให้บริการเครื่องบินแบบ เหมาลำหรือชา Butterfly ที่เดินทางเข้ามา ที่ไทยน้อยลงเพราะตอนนี้สายการบินเาไป เลือกที่จะทำให้บริการเส้นทางอื่นๆทดแทน ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือว่าเวียดนาม เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าเนี่ยนะคะก็เลย ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวจีนไปที่ญี่ปุ่น ไปที่เวียดนามมากยิ่งขึ้นซึ่งเรื่องนี้ ค่ะหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวก็รับรู้ เป็นอย่างดีไม่จะเป็นททท.นะคะหรือว่า รัฐบาลจึงเร่งปรับตลาดปรับกลยุทธ์นนะคะทำ อย่างไรที่สถานการณ์การท่องเที่ยวบ้านเรา จะกลับมาดีขึ้นโดยหันไปเน้นที่ตลาดคุณภาพ มากกว่าที่จะเน้นเรื่องจำนวนคนหรือว่า ปริมาณค่ะหนึ่งในแผนงานที่ททท.แล้วก็ รัฐบาลจะทำก็คือการจัดเมกะแฟมทริปอ่ะนะคะ ภายใต้ชื่อโครงการว่าสวัสดีห่าวค่ะเชิญ ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทแล้วก็ผู้นำทาง ความคิดประมาณสัก 600 รายนะคะที่อยู่ที่ ประเทศจีนก็คือเชิญ 600 รายเหล่าเนี้ย เดินทางเข้ามาสำรวจบรรยากาศเข้ามาท่อง เที่ยวที่บ้านเราค่ะแล้วก็สำรวจบรรดา สินค้าที่น่าสนใจเพื่อที่จะสร้างความ เชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวช่วงเวลาที่ เขาจะทำโครงการก็คือประมาณสักปลายเดือน พฤษภาคมควบคู่ไปกับการสนับสนุนสายการบิน ด้วยก็คือทำคู่กันเนี่ยนะคะให้สายการบิน เปิดเที่ยวบินที่เป็นเที่ยวบินระหว่างไทย จีนมากขึ้นเช่นที่สำนักงานเซียงไฮ้นะคะ สนับสนุนสายการบินซันตงairไลค่ะให้กลับมา เปิดเส้นทางบินจีหนานกรุงเทพฯในเดือน พฤษภาคมขณะที่ 1 อีเวน์ใหญ่ก็คือเป็น อีเวน์เฉลิมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทยจีน นะคะซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง ททท.ก็จะเดินหน้าจัดงานอย่างเต็มที่ต่อ เนื่องตลอดทั้งปีค่ะไปฟังมุมมองของภาค เอกชนกันต่อนะครับคุณสิทธิวัฒน์ชีวรัตน ประธานที่ปรึกษาของแอตต้าหรือว่าสมาคมไทย ธุรกิจการท่องเที่ยวเห็นสอดคล้องกันครับ ว่าเราประเทศไทยกำลังเจอกับสถานการณ์ วิกฤตการท่องเที่ยวจากจีนที่ถือว่ารุนแรง ที่สุดเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ครั้งก่อนๆ ครับครั้งล่าสุดที่เราเคยเจอเหตุการณ์ ภาวะการท่องเที่ยวจากจีนตกต่ำครั้งใหญ่ คือปี 2561 ตอนนั้นเราเจอสถานการณ์เรือ เรือร่มที่ภูเก็ตนะครับแต่สถานการณ์ตอน นี้นักท่องเที่ยวจีนตอนนี้เลวร้ายลงเพราะ ว่ามันมีปัจจัยลบหลายๆเรื่องกระทบเข้ามา ครับไม่ว่าจะเป็นผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ จากนโยบายสงครามการค้าของสหรัฐอเมริกากับ จีนนโยบายจีนที่ส่งเสริมให้คนท่องเที่ยว ภายในประเทศเขาถือเป็นสถานการณ์ที่แตก ต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับก่อนหน้า นี้ตอนช่วงปกติตอนนั้นตอนที่มีข่าวเรื่อง ของนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกลักพาตัวตอนยัง ไม่เกิดขึ้นนะครับสถานการณ์เปลี่ยนเป็น อีกแบบนึงเพราะว่าสถิตินักท่องเที่ยวต่อ วันต่ำสุดตอนที่ยังไม่เคยมีเรื่องอะไร เนี่ยมันประมาณ 15,000 คนต่อวันแต่ถึงแม้ ว่าประเทศไทยเราจะสามารถดึงดูดนักท่อง เที่ยวของจีนขั้นต่ำเข้ามาประเทศไทย ประมาณ 10,000-15,000 คนต่อวันได้อีก ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้แต่สุดท้าย ภาพรวมตลอดทั้งปีก็ยังเชื่อว่านักท่อง เที่ยวจีนปีนี้เราอาจจะทำตัวเลขได้ประมาณ 4 ล้านหรือเต็มที่ก็ 5,500,000 คนเท่า นั้นจากเป้าที่ตั้งไว้ 6,700,000 คนที่ เคยทำได้ตอนปีที่แล้วครับนอกจากนี้แล้วนะ คะจีนเองเขาก็ต้องกระตุ้นให้การท่อง เที่ยวภายในประเทศของเขาแข็งแรงขึ้นเพราะ ณตอนนี้เขาต้องทำทุกอย่างค่ะเพื่อหลีก เลี่ยงจากผลกระทบจากกรณีภาษีตอบโต้จาก ฝั่งของสหรัฐอเมริกาจีนก็เลยลงทุนกับการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดึงดูดนักท่อง เที่ยวเอ่อมีมาตรการที่ร่วมกับต่างชาติ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามา ท่องเที่ยวบ้านเขาเนี่ยนะคะก็คือนโยบาย การเดินทางผ่านจีนได้โดยที่ไม่ต้องมี วีซ่าเป็นระยะเวลา 240 ชมงค่ะซึ่งกรณี ความตกลงในเรื่องของการเดินทางโดยไม่มี วีซ่าเนี่ยเขาก็ทำข้อตกลงกับบ้านเรานะคะ ตั้งแต่มีนาคมปี 2567 คุณสันติสุขคล่องใช้ยาประธานเจ้า หน้าที่บริหารของเอเชียAviเชจำกัดมหาชนนะ คะหรือว่า AAV เอ่อก็ออกมามองถึงความท้า ทายของตลาดนักท่องเที่ยวจีนค่ะว่าณ ปัจจุบันเราได้รับผลกระทบค่อนข้างแรงจาก เรื่องของความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ไทยแอร์เอเชียนะคะก็มองว่าช่วงที่เหลือ ของปีเนี่ยก็อยากจะให้ภาครัฐค่ะเร่งฟื้น ฟูแล้วก็กู่ในเรื่องของความเชื่อมั่นให้ กลับมาในสายตาของนักท่องเที่ยวให้ได้มาก ที่สุดค่ะสำหรับแนวทางที่อยากจะเห็น สำหรับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวกลับมาจาก ประเทศจีนก็มีหลายเรื่องครับการแก้ไข เรื่องภาพลักษณ์ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี อย่างเช่นการใช้สื่อในประเทศจีนการทำงบ ประมาณเพื่อให้สำนักงานททท.ทั้ง 5 แห่งใน จีนไปทำการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์การ ออกแคมเปญร่วมกับบริษัททัวร์ท่องเที่ยว ออนไลน์ของจีนโดยสายการปิดต่างๆก็พร้อมจะ ทำงานร่วมกับททท.ผ่านแผนที่เรียกว่า quck win คือทำให้เร็วที่สุดนะครับไม่ว่าจะ เป็นการเชิญ influener ชาวจีนมายังประเทศ ไทยก็เชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ได้ผลอีก วิธีหนึ่งด้วยครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชมรายการ Business Watch นะคะและอย่าลืมกด Subscribe กด กระดิ่งกดไลค์กดแชร์ทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะจะได้ไม่พลาดรับชมรายการ สดและคลิปวีดีโออื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย ค่ะ