ก็ขอต้อนรับเข้าสู่คลิปที่สองนะครับของ แชแนล not like สไว้นะครับเป็นแชแนลที่ จะมาแชร์เรื่องราวนะครับหลักๆตอนนี้ก็คือ mbti นะก็คือว่าพี่ภูมิเนี่ยกำลังมีความ สนใจในเรื่องนี้นะครับแล้วก็ได้ไปเทรนกับ อ่าบริษัทมา 2 3 บริษัทและก็ได้ขึ้นแบบ ที่ค่อนข้างดีนะครับก็เลยจะเอาความรู้ที่ ได้ร่ำเรียนมานะมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟังเนาะ นะครับคลิปนี้นะครับจะเป็นการปูพื้นของ ศาสตร์ mbti เนอะหรือว่าไม้ Brick ใช้ เป็นเคสเอ้อนั้นเองนะครับเพื่อที่ว่า เพื่อนๆจะได้มีความเข้าใจในพื้นฐานก่อน คือถ้าเราศึกษาเรื่อง mbti โดยที่ไม่เข้า ใจให้พื้นฐานในสิ่งที่มันเรียกว่า Knock นิธิฟังก์ชันเนี่ยนะก็จะเหมือนกับเหมือน เรากินข้าวมันไก่แล้วไม่ใส่น้ำจิ้มนะครับ ซึ่งไอโคลิดฟังก์ชันเนี่ยมันจะมีผลโดยตรง กับอุปนิสัยของแต่ละคนแต่ละกลุ่มกันเลยที เดียวนะดูคลิปนี้จะออกทฤษดีไปนิดนึงนะพี่ ภูมิจะพยายามอธิบายให้ง่ายแล้วก็สั้นที่ สุดนะครับแล้วไอ้ของที่ขี่ฟังก์ชันมันคือ อะไรเราไปลุยกันเลยดีกว่านะครับ ที่บอกนะครับว่าสายัณห์วีทีอาร์เนี่ย เริ่มมาจากณัฐกิตติ์เต่าทยาที่ชื่อข่าวจน นะครับแล้วเขาก็บอกว่านิสัยของคนคนนึง เนี่ยถ้าระแวกทุกอย่างออกไปหมดแล้วนะมัน จะเหลือเพียงแค่ 2 อย่างก็คือว่าเราถนัด ที่จะรับรู้อย่างไรนะครับแล้วเราถนัดที่ จะตัดสินใจกระทำการอย่างไรนะการรับรู้ เนี่ยหรือว่าไอ้ perceiving เนี่ยนะครับ ก็จะแบ่งเป็น 2 อย่างเนาะก็คือเซนซิ่ง เป็นฟิวชั่นซึ่งคนที่เริ่มศึกษาศาสตร์นี้ ใหม่ๆจะค่อนข้างสับสนในการจะแยกแยกแยะสอง อย่างนี้นะครับพี่ภูมิจะขออธิบายให้เข้า ใจง่ายๆว่าเซนซิงเนี่ยหมายถึงสิ่งที่จะ ต้องได้เป็นรูปประธรรมหรือชื่อภาษาอังกฤษ คือคอนกรีตหรือทาน Table นั้นเองนะครับ ส่วนอินทิวชั่นคือการรับรู้สิ่งที่จะต้อง ไม่ได้นะครับเป็นนามธรรมนะภาษาอังกฤษก็ คืออัพเกรดหรือว่า intangible นั่นเอง ส่วนฝั่งของการตัดสินใจเนี่ยนะครับหรือจะ แจ้งเนี่ยมันจะมีอยู่ 2 อย่างก็คือ ฟิลลิ่งกับ Thinking นะครับอันนี้ก็คือ เข้าใจง่ายๆก็คือคนที่ใช้ฟิลลิ่งเนี่ยก็ ตัดสินใจด้วยความรู้สึกเนาะส่วนคนที่ใช้ Thinking เนี่ยคือคนที่ตัดสินใจด้วย ตรรกะนะครับสังเกตว่าพี่ภูมิจะแปลคำว่า Thinking เนี่ยเป็นคำว่าตัดกะนะแทนที่จะ ใช้คำว่าเหตุผลนะครับนั่นก็เพราะว่าคน ส่วนใหญ่เนี่ยจะเข้าใจผิดว่าฟิลลิ่งคือ การตัดสินใจที่ไม่มีเหตุผลซึ่งอันเนี้ย ไม่ใช่นะครับทั้งฟิลลิ่งและ Thinking เนี่ยต่างเป็นการตัดสินใจที่ใช้เหตุผลและ ก็ข้อมูลทั้งคู่นะ Thinking เนี่ยใช้ ตรรกะตัวเลขความน่าจะเป็นนะเอ่อการคำนวณ นะครับเป็นข้ออารายการตัดสินใจนะส่วนคน ที่ใช่ฟิลลิ่งเนี่ยจะใช้ความรู้สึกของตน เองและผู้อื่นมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ยกตัวอย่างเช่นถ้ามีใครสักคนนึงมาทำให้ เราเจ็บมากๆเนี่ยแล้วเราก็ให้อภัยเขานะ ครับคนอื่นก็อาจจะมองว่าเนี่ย เราใช้ความรู้สึกที่น้ำมันไม่มีเส้นเลย แบบ Come on Man เข้ามาทำอยู่ขณะนี้เรา อยู่ให้อภัยเขาได้ยังไงนะเราไม่มีเหตุผล ลัพธ์ก็เลยนะครับแต่จริงๆแล้วเหตุผลของ เราเนี่ยจะเป็นเพราะว่าเราต้องการจะรักษา ความสัมพันธ์ไว้นะเราเองไม่อยากให้คนนั้น น่ะรู้สึกผิดต่อตัวเองในอนาคตหรืออะไรก็ แล้วแต่เนี่ยสรุปได้ว่ามันเป็นเหตุผลที่ เราเอามาใช้ในการตัดสินใจครั้งนี้นะฮะก็ จะสรุปได้ว่าทั้งฟิลลิ่งแล้วก็ Thinking เนี่ยต่างก็ใช้เหตุผลด้วยกันทั้งคู่นะ ครับทีนี้ไปทั้ง 4 อย่างเนี้ยนะครับก็จะ แยกออกเป็นเวอร์ชั่น Excel Word และ อินโทรเวิร์ทนะครับทำให้เรามีทั้งหมด 8 ตัวนะฮะซึ่งใน di เนี่ยจะเรียก 8 ตัวนี้ ว่าคอกมีทิปส์ฟังก์ชันนั่นเองนะครับซึ่ง โลกปัจจุบันนี้คนจะเข้าใจผิดไอ้คำว่า extrovert และ introvert กันใส่เยอะนะ ครับคือเราจะเข้าใจว่าคนๆนึงอ่ะจะเป็น Excel Word หรือว่าเป็นอินโทรเวิร์ท น้องซึ่งมันผิดจากที่ข่าวจงเขาให้คำนิยาม ไว้นะคือคุณข้าวจุงเสียเขาค้นพบว่ามันมี 8 ฟังก์ชั่นนี้แหละครับแต่ว่ามีบางฟังก์ชัน ที่มันคล้ายกันนะแต่ไม่เหมือนกันสักที เดียวเขาก็เลยอยากจะคิดค้นคำที่จะแยกแยะ ฟังก์ชั่นออกมาให้ถูกนะครับเวลาจะเรียก ชื่อฟังก์ชันนั้นนะครับซึ่งอันนี้มันแปล ว่าอะไรมันแปลว่าคน x Two Worlds ทุกคน นี้ขวดเนี่ยไม่มีอยู่จริงนะครับยกตัว อย่างง่ายและที่ผมเป็น int J ซึ่งมันไม่ ได้หมายความว่าคุณเป็นทั้ง Word นะครับ ไม่ได้หมายความว่าให้ภูมิใจแบบอยู่กับคน มากๆจะถูกเอง drainage ที่เราต้องกลับมา ริชาร์ดตัวเองเพื่ออยู่แบบเวลาอยู่คน เดียวนะไม่ใช่นะเพราะว่าพี่พูดเองก็เป็น คนที่ชอบสังสรรค์เฮฮาพบปะกับเพื่อนฝูง ปาร์ตี้เตือนพรุ่งนี้อยู่เสมอเสมอนะครับ นิกลับมาที่ตัวทั้งหมด 8 ฟังก์ชันเนี่ยนะ ครับพี่ภูจะบอกว่าทุกคนนะล้วนมีความ สามารถและที่จะใช้ทั้ง 8 ฟังก์ชั่นนี้ได้ หมดเลยนะครับไม่เพียงเท่านั้นเรายังใช้ ฟังก์ชันหลายๆอันพร้อมกันด้วยนะควบคู่กัน ไปด้วยนะครับ The fires to get เอ้อนะ ครับแต่ Fight Together เพียงแต่เพียง แต่เราจะเลือกอันที่เราถนัดที่สุด 1 อัน จากฝั่งเพอซีวิ่งนะครับและอันที่เราถนัด ที่สุดอีกหนึ่งอันจากฝั่งการ์ดจริงนะครับ ซึ่งถ้าเราจับคู่ฝั่งเพื่อซีวิ่งกับ 9 จริงไปมาเนี่ยนะครับเช่นคนที่ถนัด interval ชั่นมาคู่กับคนที่สุดที่ถนัด ใช้ exynos ฟิลลิ่งแล้วก็ได้ 1 Person ลิตี้สนะครับจับคู่คนที่ถนัดใช้ extroverted sensing นะครับกับถนัดใช้ อินเตอร์เน็ต Thinking แล้วก็จะได้อีก 1 Person Only สาระครับจับไปจับมาเนี่ยนะ เราก็จะได้ออกมาทั้งหมด 16 แบบนั้นเองนะ ครับจึงเป็นที่มาของคำว่า Six Teen Person Only เสน่ห์นะครับนี่ ตละที่นี้นะครับคำว่า x สเวิร์ดและ อินเตอร์ Word เข้าจังเศร้าให้นิยามไว้ แบบนี้ครับ f Word นะครับคือการที่ออกไป หาอะไรที่อยู่นอกพรมแดนเนื้อหนังของเรานะ ครับหรือว่าสกินบานเรื่องราวนี่เองนะฮะ ถ้าเป็นทางพูดเนี่ยก็ง่ายก็คือส่งจิตออก นอกใช่ไหมส่วนอินโทรเวิร์ทนะคะคือการเข้า ไปหาอะไรที่อยู่ในพรมแดนเนื้อหนังของเรา นะครับถ้าเป็นทางพูดก็เรียกว่าการส่ง สิทธิ์เข้านั้นเองนะซึ่งเพื่อความง่ายของ ทีมนี้พี่ปูจะขอขยายความนะเฉพาะในส่วนของ perceiving ฟังก์ชันนะครับ โอเคฟังก์ชันแรกนะครับ s-works เซนซิ่ง เนอะ เซนซิ่งคือสิ่งที่จะต้องได้เป็นรูป ประธรรมเอชเวิทคือการส่งจิตออกนอก s-works sensing คือการที่เราส่งจิตออกไปหาอะไร ที่เป็นรูปประธรรมจับต้องได้นะครับดัง นั้นเนี่ยฟังก์ชั่นนี้นะก็จะช่วยให้เรา ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้านั่นเองนะครับสี มีกลิ่นเสียงสัมผัสมันเป็นอะไรที่มีอยู่ จริงนะครับเช่นสมมติว่าเราเห็นรูปภาพอยู่ ตรงหน้าเราเนาะรูปนั้นน่ะเป็นของจริงอยู่ นอกร่างกายเราเราเห็นมันจริงๆนะครับ Edward เซนซิ่งจะเป็นฟังก์ชันที่เร็วนะ ครับเพราะรับรู้แล้วมันตรงเข้าสมองเลยไม่ ต้องผ่านการวิเคราะห์ใดๆนะครับคนที่ถนัด ใช้ฟังก์ชันนี้เนี่ยเป็นหลักนั้นจึงเป็น คนที่ชอบสิ่งสวยงามเนอะชอบรสชาติอาหาร อร่อยเสียงไพเราะนะครับซึ่ง xpower เต้น sensing เนี่ยที่ถูกพัฒนาจนสุดแล้วนะคะ จะสามารถทำให้เราอยู่กับปัจจุบันได้นะ ครับเวลาที่เรานั่งสมาธิเนี่ยนะเอ่อถ้าใน ศาลวีทีอาร์เนี่ยก็หมายถึงว่าให้เราใช้ ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเวอ sensing นั่นเองนะ ครับ Intro Were The sensing นะเซนซิ่งคือ สิ่งที่จะต้องได้เป็นรูปประธรรม in Forward คือการส่งจิตเข้าในนะ Intro Were The Zen ซิ่งคือการที่เราส่งจิต เข้าไปหาอะไรที่เป็นรูปก็ต้องได้ภายในตัว เรานะครับในที่นี่ก็หมายถึงความทรงจำหรือ Memory นั่นเองนะความทรงจำเนี่ยเป็นสิ่ง ที่เกิดขึ้นจริงแล้วนะครับจับต้องได้เช่น เช่นถ้าเราถามคน 100 คนให้เรียง ประธานาธิบดีสหรัฐไร่ย้อนกลับไปนะทั้ง ร้อยคนเนี่ยก็จะตอบเหมือนกันว่าโอ้ว่าตอน นี้เป็นโจไงแล้วก็หน้านี้ก็เป็นเน่า ก่อนหน้ารอเราก็คือบารัคไงบ้างรักเป็น 2 สมัยนะครับความทรงจำเนี่ยเป็นสิ่งที่ คอนกรีตนั้นเป็นรูปประธรรมครับคือเราถาม คน 100 คนก็ตอบเหมือนกัน 100 คนนั้นเองนะ ครับเพียงแต่ว่ามันอยู่ในภายในตัวเราไม่ ได้อยู่น้องตัวเรานะครับฉะนั้นเนี่ย ฟังก์ชัน interval settings นั้นจึงช่วย ให้รำลึกถึงอดีตได้นะครับทำให้เราสามารถ จะมีความสามารถในการเปรียบเทียบสิ่งที่ กำลังเกิดขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ได้นะครับมีความสามารถในการตรวจสอบสวดทาน ว่าสิ่งที่เราเกิดขึ้นเนี่ยมันถูกต้อง หรือเปล่านะครับเอาอย่างเช่นเวลาที่เรา เขียนเรียงความขึ้นมาแล้วเรามาล่างไม่ ตรวจปรามาสตรวจพยากรณ์เนี่ยอันนี้เรา กำลังใช้ฟังก์ชันอินเตอร์เต็มเซลล์ซิ่ง อยู่นั่นเองนะคนที่ใช้ฟังก์ชันนี้คนที่ ถนัดใช้ฟังก์ชันนี้เนี่ยก็เลยเหมือนจะมี / ไร้นะครับลูกใหญ่ๆลูกนึงติดอยู่ข้างหลัง นั้นพอเจอสิ่งใหม่ๆก็จะเอาข้อมูลใหม่ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ๆเนี่ยเข้าไปเปรียบ เทียบกับข้อมูลที่อยู่ในฮาร์ดไดรฟ์นะครับ มาเวอริฟายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่เมคเซน หรือเปล่านั้นเองนะครับอ่า หนังเอกซ์ Word NT ชั่นนะ More in ทิชั นคือสิ่งที่จะต้องไม่ได้เป็นนามธรรม extroverted คือการส่งจิตออกนอกฉะนั้น S convertible ซิ่งคือการที่เราส่งจิตออก นอกไปหาอะไรที่จะต้องไม่ได้นะครับใน ศาสตร์นี้เนี่ยหมายถึงการสร้างคอนเนคชั่น ระหว่างสิ่งต่างๆนะไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ หรือความคิดนะครับอ่าตัวเองง่ายก็เหมือน จินตนาการเนาะเช่นเช่นเวลาเราดูรูปที่ เป็นน่ะแอสแต็กนะครับลูกที่เป็นภาพวาด เอ็ฟเฟ็กเนี่ยเราต้องตีความใช่ไหมว่า ศิลปินเดี๋ยวก็ต้องการจะจะซื้ออะไรนะครับ ถ้าเราถามคน 100 คนนะเราจะได้คำตอบที่ไม่ เหมือนกันเลยนะครับเพราะแต่ละคนต่างก็ตี กกตีความกันคนละแบบนั้นขึ้นอยู่กับว่าแต่ ละคนน่ะคน next รูปภาพนั้นกับอะไรนะครับ เราจะใช้เอชเวิทอินทิวชั่นเนี่ยหนักๆ เนี่ยตอนที่เราเบรนสตรอมค้นหาไอเดียแปลก ใหม่นะครับหรือพยายามเชื่อมโยงความคิด หรือสิ่งต่างๆเข้าด้วยกันนั่นเองนะ สุดท้ายนะครับเป็น True vison นะครับ The Fusion คือสิ่งที่จะต้องไม่ได้เป็น นามธรรม introverted คือการส่งติดเข้าไป ข้างในนะครับ Intro ว่า Gen ติวชั่นก็คือ การที่เราส่งจิตเข้าไปหาอะไรที่มันจับ ต้องไม่ได้ในที่นี่มันก็คือการทำความเข้า ใจกับความคิดทฤษฎีนะครับแล้วนำไปคาดเดา สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเองนะคือไอ้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเนี่ยมันเป็น อะไรที่จับต้องไม่ได้นะครับเป็นแอปแทรค เนาะเวลาเราใช้ฟังก์ชันนี้เนี่ยเราก็จะ หลุดออกจากปัจจุบันเนอะคือเราจะคิดถึง อนาคตน่ะเราก็จะพยายามคาดเดาสิ่งที่กำลัง เกิดขึ้นนะครับคือมันเหมือนว่าเราเหมือน กันคือจะเหมือนลอยเนาะเราจะมีภาพซ้อนขึ้น มาเลยนะครับเป็นภาพซ้อนอนาคตนะครับคือตา เนี่ยเห็นโลกความเป็นจริงอยู่นะแต่ว่าไม่ ได้ Focus ที่ตรงนั้นเลยนะครับในหัวเนี่ย กำลังคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใน อนาคตนะครับเออคนที่พัฒนาฟังก์ชั่นนี้ไป สู่มากๆก็จะสามารถเปลี่ยนกับร้าน ซิมมูเลชั่นในหัวได้เลยนะ แต่ที่นี้นะครับอ่าเราใช้สีฟังก์ชั่นนี้ อย่างไรนะอย่างที่บอกนะครับทุกคนมีความ สามารถในการใช้คล่องที่ติฟังชั่นทุก ฟังชั่นนะครับถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆนะ สมมติว่าเราเรากำลังไปเดินเขาอยู่นะครับ เราก็จะมีความดื่มนำกับบรรยากาศใช่มั้ย รู้สึกถึงเท้าเหยียบดินบ้างอากาศวดร่าง กายเราได้กลิ่นดินกลิ่นดอกไม้นะครับ เอ็นจอยกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า นั่นคือเรากำลังใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือ xover เต้น sensing อยู่นั่นเองนะ ครับ แล้วเราก็จะนึกหวนไปถึงการเดินเขาครั้ง ที่แล้วว่ามันได้มันเป็นอย่างไรเทียบกับ ประสบการณ์ใหม่ครั้งเนี้ยมันเป็นอย่างไร นะครับนั่นคือเรากำลังใช้อินโทรเวอเรสต์ sensing อยู่นะครับหรือเราอาจจะนึกไปถึง เพราะลิตี้ไฟใหม่ว่าให้เราเคยได้ยินคน เพื่อนเราเล่าว่าจะไปเดินเขาที่ญี่ปุ่น เนี่ยมันสวยมากเลยนะฮะเราก็จะติดธนาคาร ว่าถ้าเราได้เป็นเนินเขาที่นั่นเนี่ยทั้ง ที่เราไม่เคยไปเลยนะจะต้องไม่ได้มันจะ เป็นอย่างไรนะครับ และก็คือเรากำลังใช้ extroverted สอินทิว ชั่นอยู่นั่นเองนะครับ แล้วถ้าเรากำลังเดินเดินอยู่แล้วก็คิดว่า เอเราเดินเขาเสร็จแล้วจะไปทำอะไรต่อนะ เท้าเนี่ยเดินอยู่กับดินนะครับแต่ว่าใน หัวคือไปอยู่ในรถตู้และกำลังขับไปทานข้าว และคือเดินเสร็จแล้วขึ้นรถตู้ไปทานข้าว เนี่ยนั่นก็คือเรากำลังใช้ interval ชั่นอยู่นั่นเองนะครับก็อย่าง ที่บอกนะครับเราทุกคนมีความสามารถที่ใน การใช้ของหน้าที่ function ทุกฟังชั่นนะ ครับเราทุกคนเนี่ยก็ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เราทุกคนมีความทรงจำมีความสามารถในการ เปรียบเทียบนะเรามีจินตนาการเราสามารถคาด เดาอนาคตได้เนี่ยทุกฟังก์ชันเหล่านี้ เนี่ยเราใช้มันแทบจะพร้อมกันเลยนะคือถ้า เป็น put น่ะมันก็เขาก็จะบอกว่าจิตเรามัน วอกแวกใช่ไหมเดี๋ยวก็ใช้ฟังก์ชันนู้น เดี๋ยวมาฟังก์ชั่นนี้นะแต่นะครับแต่ทุกคน น่ะจะเลือกใช้ฟังก์ชันหนึ่งที่ตัวเองค่ะ สุดบ่อยที่สุดนั่นเองนะฮะเช่นคนที่ถนัด เอกเซลเวอเซนซิ่งเนี่ยก็จะใช้เวลาส่วน ใหญ่ในการเดินเขาน่ะดื่มดำได้กับบรรยากาศ นะครับอยู่กับปัจจุบันนะรับรู้ประสบการณ์ การเดินเขาเนี่ยผ่านเลนส์ของประสาทสัมผัส ทั้ง 5 นั้นเองนะฮะส่วนคนที่ถนัดใช้ interval sensing หรือความทรงจำเนี่ยก็ อาจจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินเขานะครับ นึกย้อนไปถึงอดีตนะครับพยายาม Connect อดีตกับความรู้สึกเก่าๆที่เราคุ้นเคยนะ อ่าก็คือการรับรู้ประสบการณ์การเดินเขา ครั้งเนี่ยผ่านเลนส์ของความทรงจำนั้นเอง น่ะแล้วยิ่งเราใช้ฟังก์ชั่นไหนเยอะนะฮะ เราก็ยิ่งจะพัฒนาฟังก์ชันนั้นให้เก่งขึ้น เก่งขึ้นนะครับดังนั้นนะ f.ver เซนซิ่ง ของหนึ่งคนก็อาจจะไม่เหมือนไม่เท่ากับเอส เซนซ์ของอีกคนนึงก็ได้นะครับแล้วคนที่ เป็นท้ายเดียวกันอ้ะสองคนที่เป็นทับดี เหมือนกันนะคนที่อายุเยอะกว่านะครับก็จะ มีข้อของที่ติฟังก์ชั่นที่พัฒนาไปไกลกว่า นั้นเองนั้นอ่ะ ฮะโอเคเพื่อให้เพื่อนๆเข้าใจนะที่มึงจะยก ตัวอย่างมาอีกอย่างนึงนะเวลาที่เราไป พิพิธภัณฑ์แล้วเราไปดูรูปศิลปะที่เป็นแอป Flag นะครับเรากำลังใช้ function ทั้ง Edward จันติ้งคือเห็นรูปอยู่ตรงหน้าดู เทคนิคการว่าดูสีที่นี่อาทิตย์เขาใช้โศก ของพู่กันของอาทิตย์ตะกอนเราอ่ะมองเห็น สิ่งที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าตาเห็นจริงนะ ครับแล้วเราก็ใช้ s verb in ทิวท่านไป ด้วยนะครับก็จะสร้างคอนเนคชั่นว่าให้จิต ตะนะอ่ะจินตนาการความหมายว่าจิตรกรเขา ต้องการจะสื่ออะไรหรอกคือเพื่อนๆเห็นว่า เราไม่สามารถแยกใครศัพท์เฉพาะฟังก์ชันใน ฟังก์ชันหนึ่งได้นะมันจะใช้มันจะใช้ควบ คู่กันอยู่เสมอเสมอพร้อมๆกันนะครับใช้ 2 ตัวบ้าง 3 ตัวบางสีขาวบางแล้วแต่เลยมัน เร็วมากนะนะครับที่นี่เสียเวลาอธิบายมา ทั้งหมดเนี่ยนะครับไม่มีประโยชน์อะไรนะ ครับก็ต้องบอกว่าในคลิปต่อไปเนี่ยพี่ภูมิ กำลังจะจำแนก16บุคลิกภาพ ออกเป็น 4 กลุ่มคืออย่างนี้ถ้าเราศึกษา mbti น้อมันมีทั้งหมด 16 บุคลิกภาพเนี่ย มันยากเกินไปนะครับต้องมาจำหมดเลย 16 ตัว เป็นอะไรบ้างหูจำเยอะแยะเลยนะครับมันง่าย กว่านะถ้าเราจะจำแนกออกเป็น 4 กลุ่มเนาะ นะครับแล้วเราเราก็จะจัดคนนั้นไว้ใน 4 กลุ่มนี้แล้วก็ศึกษาแค่ 4 กลุ่มนะครับมัน จะทำให้ mbi ง่ายขึ้นเยอะเลยนะครับกลุ่ม แรกนะครับสีเหลืองหรือในเว็บไซต์ sex scene Perry ตี้เสียบเรียกว่า explorer ครับคือคนที่ใช้ x Clover เซนซิ่งเป็น หลักน่ะนั่งนะเนี่ยชาวสีเหลืองนะครับจึง มีพฤติกรรมที่ชอบให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลานะทำให้เขาเนี่ย เก่งเรื่องพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ต่างๆนะ ครับกลุ่มสีฟ้านะหรือว่าเซนธินอลนะครับ คือคนที่ใช้ intervertebral ซิ่งเป็นหลัก นะครับนางนะเนี่ยชาวสีฟ้าจะมีพฤติกรรมที่ ที่จะต้องเปรียบเทียบสิ่งที่ดีขึ้นใหม่ๆ ในกับความทรงจำใน Hard Drive ตัวเองนะ ครับเอ่อคนสีฟ้านี้ก็จะเก่งเรื่องการตรวจ สอบนะครับเก่งเรื่องการทำงานที่ต้องใช้ รายละเอียดมากๆนะครับส่วนสีเขียวหรือดีพอ Map เนี่ยก็คือคนที่ใช้อินทิวชั่นคู่กับ ฟิลลิ่งนะครับไม่ว่าจะเป็น Enter virtus หรือ xpower . อินทิวชั่นนะครับหรือ interval Ever The Feeling ใช้คู่กัน นะครับสีเหลืองสีเขียวก็เลยจะเก่งเรื่อง คนมากๆเลยนะส่วนสีม่วงเนี่ยหรืออานาเรสนะ ครับก็คือคนที่ใช้อินทิวชั่นคู่กับ Thinking นะครับก็จะเก่งเรื่องอ่ะการวาง แผนการคิดที่เป็นตัดการนะครับนี้ตามสัด ส่วนประชากรแล้วเนี่ยนั้นในฝั่งเพื่อซี วิ่งเนี่ยคนส่วนใหญ่ประชากรส่วนใหญ่จะใช้ เซนซิ่งนะครับไม่ฝั่งตาเช่นเนี่ยคนส่วน ใหญ่ก็จะใช้ฟิลลิ่งเป็นหลักนะครับฉะนั้น ถ้าเราดูสีม่วงและสีม่วงเนี่ยจะเป็นคนแบบ กลุ่มน้อยน้อยๆคือเอาน้อยกับน้อยมาจับคู่ กันเนาะฉะนั้นเนี่ยชาวสีม่วงกันมีคน ประเภทที่เราไม่เข้าใจโลกแล้วก็โลกไม่ เข้าใจเรานะครับ แล้วก็ในบรรดาสีทั้งหมดเนี่ยเราจะมี ประชากรเป็นชาวสีฟ้ามากที่สุดครับซึ่งก็ ดีแล้วนะครับเพราะว่าชาวสีฟ้าเนี่ยช่วย ให้โลกเราเนี่ยหมุนต่อไปได้โดยที่ไม่ สะดุดนั่นเองนะครับ เอาล่ะตอนนี้นะครับเพื่อนๆก็คงรู้พื้นฐาน ของของหน้าที่ function ในส่วนของเพอซี วิ่งกันแล้วนะเพื่อนๆก็พร้อมล่ะที่จะทำ ความเข้าใจกับบุคลิกภาพของคน 4 กลุ่มสีสี แบบเล็กๆแล้วนะครับ เป็นไงครับไม่ยากเลยใช่ไหมครับถ้าเราเข้า ใจมาเนาะในคลิปต่อไปนะครับพี่ภูมิก็จะทำ คลิปที่อธิบายของนิติฟังก์ชันในส่วนของ จากจริงด้วยนะครับแล้วก็จะมีคลิปที่ลงลึก นะครับในส่วนของทั้งหมด 4 กลุ่มเนี่ยสี เหลืองสีฟ้าสีเขียวสีม่วงเนี่ยนะครับ เพื่อนๆก็ลองติดตามกันดูนะครับว่าเราเป็น สีไหนแล้วมันตรงกับเราอยู่ไหนล่ะครับถ้า เพื่อนๆชอบคลิปของพี่ภูมินะครับชอบเนื้อ หาชอบความรู้ที่ผมเอามาแชร์กันเนี่ยก็กด เข้าทำร้ายกันได้นะครับกดไลค์กันได้นะ แล้วถ้ามันมีอะไรที่ไม่เข้าใจนะครับหรือ ว่ามีอะไรที่อยากจะเสริมน่าจะคอมเม้นนะ ครับก็พิมพ์ลงมาข้างล่างได้เลยเนาะแล้ว เรามาเจอกันในคลิปต่อไปนะครับวันนี้ไปละ บ๊ายบาย [เพลง]