ตอนนี้ถ้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายแดนไทย กัมพูชาน่าจะเป็นความพยายามของคนกลุ่ม หนึ่งน่าจะเรียกว่ากลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวา ก็ว่าได้ก็เป็นคนกลุ่มเดิมๆที่เคยสร้าง ประเด็นกับปัญหาไทยกัมพูชาตั้งแต่กรณี ประสาทพระวิหารครับพยายามที่จะหยิบยก ประเด็นบางประเด็นที่อาจจะเป็นข้อขัดแย้ง เป็นข้อพิพาทเดิมซึ่งมันเคยสงบนิ่งมาเป็น เวระนานด้วยปัญหาทางเทคนิคนะครับกรณีเหตุ ที่ปราสาทตาเมือนตาเมือนเป็นกลุ่มปราสาท นะครับที่อยู่แถวๆจังหวัดสุรินทร์ให้ชัด เจนมากขึ้นนะครับแต่ว่ามันไม่ได้อยู่ใน เขตจังหวัดสุรินทร์ 100% กลุ่มปราสาทนี่ มี 3 หลังก็คือตาเมืองตาเมืองโต๊ดและก็ตา เมืองถมซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เราเรียก กันว่าเป็นสันปันน้ำสันปันน้ำก็คือแนวสัน เขาซึ่งน้ำเวลาฝนตกมันจะไหลไป 2 ข้างนะ ครับแต่ว่าซึ่งนั้นน่ะใช้เป็นเส้นเขตแดน ระหว่างไทยกัมพูชาซึ่งซึ่งว่ากันมาตั้ง แต่สมัยฝรั่งเศสแล้วแต่ว่ามันยังไม่ได้มี การปักปันเขตให้ชัดเจนว่าตรงไหนยังไงกัน แน่นะครับมันก็เลยกลายเป็นข้อพิพาท์เอ่อ ประเทศไทยกับกัมพูชาเนี่ยเคยมีบันทึกความ เข้าใจในปี 2543 เพื่อจะสำรวจและจะทำหลัก เขตแดนตลอดแนวนะครับแต่ว่าเนื่องจากว่า มันมีปัญหาทางเทคนิคมากมายนะครับก็คือ เริ่มตั้งแต่เอ่อไอ้คำว่าสันปันน้ำที่ว่า กันในในหนังสือต่อท้ายอนุสัญญาเนี่ยมัน คือพื้นที่ตรงไหนอะไรยังไงกันแน่นี่ยัง ไม่ชัดเจน 2 แผนที่ที่ทำขึ้นคือมาตราส่วน 1:2,000 เป็นแผนที่เก่าทำขึ้นตั้งแต่ สมัยฝรั่งเศสแล้วก็มาตราส่วนมันค่อนข้าง จะหยาบมันไม่สามารถถ่ายทอดลงบนภูมิประเทศ จริงได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากนักจึงทำให้ พื้นที่นั้นน่ะกลายเป็นที่พิพาทกันอยู่นะ ครับข้อพิพาทเนี่ยเคยเกิดเหตุปะทะกันทาง ทหารในปี 2554 นะครับเดือนเมษายนพฤษภาคมในช่วงต่อ คณะเพราะว่ามันเป็นเหตุความตึงเครียดต่อ เนื่องมาจากกรณีปราสาทพระวิหารมันก็ล่วง เลยมาถึงปราสาทเอ่อตะเมืองนะครับแล้วก็ ข้อตกลงในเวลานั้นเนี่ยก็คือให้ทุกฝ่าย ถอนออกจากพื้นที่นะครับเพื่อที่จะลดการ เผชิญหน้ากันข้อสรสนั้นมันก็อยู่มาตั้ง แต่ไหนแต่ไรมันก็ไม่เคยมีประเด็นนะครับจน กระทั่งว่ามีทหารกัมพูชานายทหารนะครับพา สมาคมแม่บ้านขึ้นไปเยือนแถวนั้นแล้วก็ได้ ทราบว่ามีการร้องเพลงกันแต่เพลงเี่ก็บาง กระแสก็ว่าเป็นเพลงชาติเ่อบางกระแสก็เป็น เพลงปลูกใจแต่เพลงอะไรก็ตามแต่มันก็ไม่ ควรเป็นประเด็นที่จะยกขึ้นมาบังเอิญว่ามี คนเอาเรื่องนี้มาปล่อยในคลิปแล้วก็เกิด ทหารไทยเนี่ยเนี่ยก็ไปบอกว่าให้เค้าหยุด กิจกรรมนั้นเพราะว่าอาจจะกระทบกระเทือน ต่อปัญหาเรื่องเรื่องเขตแดนพรหมแดนอะไรก็ ตามแต่นะครับซึ่งก็เป็นเป็นเหตุอันไม่ จำเป็นจะต้องมีการทะเลาะบ่อแว้งอะไรกับ เรื่องนี้เฉพาะถ้ามองแค่เรื่องการร้อง เพลงถ้าเกิดว่าไม่มีการพยายามที่จะทำ เรื่องนี้ให้มันลุกลามขยายไปใหญ่โตถึง ขั้นว่ามันจะเป็นความคิดแล้วก็มีการปล่อย ข่าวลือกันมากมายว่าทางฝ่ายกัมพูชาเนี่ย เตรียมเคลื่อนขบวนเคลื่อนกองทัพเข้ามา ประชิดชายแดนได้บ้างอะไรบ้างนะครับทีนี้ ปัญหาก็เกิดขึ้นตรงที่ว่าการเข้าตรวจสอบ พื้นที่และการระงับเหตุเนี่ยจริงๆแล้วก็ มีการพูดคุยกันในพื้นที่ก่อนนั้นตั้งแต่ ว่ามีการปะทะกันคารมกันแล้วก็ก็แล้วเรา ผู้ใหญ่ผู้บัญชาการทหารแล้วผู้ว่าราชการ จังหวัดแถวนั้นก็ก็ก็คุยกันแล้วนะรัฐบาล ก็โทรศัพท์คุยกันแล้วด้วยซ้ำไปมันก็ควรจะ จบแต่ว่ามันก็ไม่จบนะเนื่องจากว่ามีคนมา อยากจะอยากจะจะให้มันเป็นประเด็นขึ้นมานะ ครับเรื่องนี้ก็ก็เลยกลายเป็นว่าพอมาถึง ปัจจุบันการประชุม GBC คือคณะกรรมการทั่ว ไปชายแดนซึ่งมีรัฐมนตรีกลาโหมเป็นประธาน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเนี่ยก็ตกลงก็ คือกลับคืนสู่สถานะเดิมอย่าเผชิญหน้ากัน นะก็ไม่มีอะไรนะครับในความหมายนั่นก็เป็น ถ้อยคำที่ล้อกับ MOU ปี 43 โดยตรง MOU ปี 43 ปีปี 43 ข้อ 5 บอกว่าตราบเท่าที่การ สำรวจและปักปันเขตแดนเยังทำให้เสร็จเรียบ ร้อยเนี่ยอย่าอ่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็น เจ้าหน้าที่ของเราเนี่ยอยากเข้าไปกระทำ กิจกรรมใดซึ่งอาจจะทำให้สภาพแวดล้อมมัน เปลี่ยนแปลงนะครับเพราะงั้นเมื่อให้ทุก ฝ่ายกลับคืนสู่ฐานะเดิมก็คืออย่าไปทำอะไร แถวนั้นให้มันเกิดสภาความเปลี่ยนแปลงและ เป็นอุปสรรคต่อการปักปันเขตแดนเนี่ยหรือ ก่อให้เกิดความตึงเครียดโดยไม่จำเป็น เนี่ยมันก็มันก็อยู่แค่นั้นนะครับแต่ว่า ก็ก็มีการขยายความไปมากมายว่านั่นเป็นการ ยอมกันหรืออาจจะยอมเสี่ยงต่อการเสียดิน แดนซึ่งในความเห็นของผมมันไม่นำไปสู่การ เสียดิแดนอะไรซึ่งเรายังไม่รู้ว่ามันเป็น ของใครนะครับปราสาททั้ง 3 หลังนั่นน่ะ เป็นของใครตรงไหนอย่างไรฝ่ายใดได้กี่หลัง อันนี้ก็ยังไม่ไม่ชัดเจนแล้วยังไม่สามารถ อ้างได้ว่าเอ่อเป็นของไทยอันนี้ไม่อันนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ไม่น่าจะเกิดขึ้น