💼

เจรจาภาษีไทย-สหรัฐและผลกระทบ

Jul 19, 2025

Summary

  • รายการ Deep Talk ได้เชิญ ดร.อาจพิษาน วรณิต ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ มาร่วมวิเคราะห์สถานการณ์การเจรจาภาษีระหว่างไทย-สหรัฐ ท่ามกลางแรงกดดันจากดีลที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียได้ผลเจรจาที่ดี
  • ประเด็นหลักคือ ไทยยังเหลือเวลา 2 สัปดาห์สุดท้ายในการตัดสินใจว่าจะเปิดตลาดสินค้า 0% หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่ออัตราภาษีสหรัฐที่ไทยได้รับ
  • มีการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย ผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศและภาคการผลิต การเปลี่ยนแปลงในอาเซียน และข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการเจรจารอบสุดท้าย

Action Items

  • กรุณากำหนดผู้นำฝ่ายบริหารหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง: เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเจรจาขั้นสุดท้ายกับ USTR ภายใน 2 สัปดาห์
  • ทีมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ: ประเมินความเป็นไปได้ในการเปิดตลาดสินค้า 0% ครอบคลุมทุกหมวด และเตรียมมาตรการเยียวยากลุ่มที่ได้รับผลกระทบ
  • กระทรวงพาณิชย์และเศรษฐกิจ: จัดทำข้อเสนอในการเพิ่ม Local Content ขั้นต่ำ 40% และเตรียมระบบ Origin Compliance ตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า
  • กระทรวงอุตสาหกรรม: สำรวจมาตรการสนับสนุน SME และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและวางนโยบายรองรับทันทีหลังดีลสรุป
  • ศูนย์เศรษฐกิจอาเซียน: ติดตามผลกระทบในภูมิภาคและแนวโน้มการย้ายฐานการผลิต

สถานการณ์เจรจาภาษีไทย-สหรัฐ

  • ไทยกำลังอยู่ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของการเจรจาภาษี โดยประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียยอมเปิดตลาดสินค้าอเมริกา 0% ทำให้ได้อัตราภาษีที่ 20% และ 19% ตามลำดับ
  • ข้อเสนอของสหรัฐค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการไทยเปิดเสรีสินค้า 0% หากเปิดไม่ครบ 100% มีแนวโน้มจะได้ลดภาษีน้อย หรืออาจเหลือ 25-30% จากปัจจุบัน 36%
  • ปัจจุบันไทยเปิดตลาดสินค้าให้อเมริกาแล้วประมาณ 90% ของรายการสินค้า ซึ่งหากไม่เพิ่มเป็น 100% จะเผชิญความเสียเปรียบเชิงการแข่งขัน

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและกลุ่มอุตสาหกรรม

  • หากไทยยังมีภาษีสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน การลงทุนและการย้ายฐานการผลิตจากต่างชาติจะเคลื่อนไปยังเวียดนามและอินโดนีเซียมากขึ้น
  • กลุ่มที่ได้รับผลกระทบสูงสุดในไทย ได้แก่ ภาคเกษตรกร (8 ล้านครัวเรือน) และ SME ซึ่งมีสัดส่วนมากในโครงสร้างธุรกิจไทย
  • ทักษะ ฝีมือแรงงาน และต้นทุนการผลิตของไทยขณะนี้ด้อยเปรียบเมื่อเทียบกับเวียดนามและมาเลเซีย
  • ภาคชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มย้ายฐานออกจากไทยสูง

เงื่อนไขและกลยุทธ์การเจรจา

  • สหรัฐต้องการการันตีการนำเข้าสินค้าจากไทยในเชิงมูลค่า ไม่ใช่เฉพาะจำนวนรายการ โดยเสนอให้ไทยประกาศยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
  • สหรัฐให้ความสำคัญกับการตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า (Origin Compliance) และการควบคุมสินค้าสวมสิทธิ์ (Transshipment) โดยไทยต้องร่วมมือด้านดิจิทัลและยกระดับกฎระเบียบ
  • การเพิ่มสัดส่วน Local Content เป็น 40% ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญของสหรัฐในกรอบการค้าเสรี (FTA) ปัจจุบัน และอาจขยายเป็น 60% ในอนาคต
  • หากไทยยังคงเปิดตลาดไม่ถึง 100% หรือไม่มีผู้นำระดับสูงเข้าร่วมเจรจาโดยตรง โอกาสที่จะได้อัตราภาษีต่ำกว่า 36% จะลดลงมาก

ผลกระทบต่ออาเซียนโดยรวม

  • มาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐจะสร้างการแข่งขันภายในอาเซียนเข้มข้นขึ้น และกีดกันสินค้าจีนเข้าสู่ภูมิภาคมากขึ้น
  • อาเซียนต้องเผชิญความยากลำบากในการบริหารความสัมพันธ์สองขั้วอำนาจ (จีน-สหรัฐ) และปรับกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบ

Decisions

  • ยืนยันว่าการเปิดตลาดสินค้า 0% เป็นเงื่อนไขสำคัญในการลดภาษีของสหรัฐ — หากเปิดไม่ครบ 100% มีแนวโน้มจะได้ลดภาษีไม่มาก และยังเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง
  • แนะนำให้ผู้นำระดับสูงของไทยเดินทางไปเจรจาโดยตรงกับสหรัฐ — เพื่อแสดงความจริงจังและอาจได้ดีลที่ดีกว่าในช่วงโค้งสุดท้าย

Open Questions / Follow-Ups

  • ใครจะเป็นตัวแทนระดับสูงของรัฐบาลไทยที่มีสถานะเหมาะสมและพร้อมเดินทางไปเจรจาในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายนี้?
  • ไทยจะสามารถดำเนินการเพิ่ม Local Content ขั้นต่ำ 40% ได้ตามข้อเรียกร้องของสหรัฐในระยะเวลาอันสั้นหรือไม่?
  • มาตรการเยียวยาและสนับสนุน SME และภาคเกษตรกรหลังดีลจะเป็นรูปธรรมแค่ไหน? และจะมีการประกาศใช้อย่างไร?
  • หากไทยไม่สามารถสรุปดีลทันเวลากำหนด จะมีผลกระทบในรูปแบบใดบ้าง และมีโอกาสขยายเวลาหรือไม่?