ประวัติศาสตร์ทีมชาติปลูเกรด
ยุคนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์
- ยุค 60-70: ยูซีบิโอ ตำนานกองหน้า "เสือดำแห่งโมซัมบิก"
- ต้นยุค 90 - 2000: ลุยฟิโกะ และลุยคอสตาร์ สองตำนานมิดฟิลด์
- ยุคหลัง 2000: คริสเตียโน โรนัลโด, Superstar ดาวยิงอันดับ 1 ของยุโรป
ช่วงเวลาคว้าแชมป์
- ปี 2016: คว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรก
- ไม่ชนะในรอบกลุ่ม, ชนะรอบ Knockout เพียงเกมเดียว
- ถูกเรียกว่า "แชมป์ยูโรที่ขี้เหร่ที่สุด" แต่ยังถือเป็นแชมป์ใหญ่
ศึกยูโร 2016
- จำนวนทีม: 24 ทีมในรอบสุดท้าย
- แบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม
- 2 อันดับแรกผ่านเข้ารอบ Knockout และทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม
ผลการแข่งขันในรอบกลุ่ม
- นัดแรก: แพ้ไอซ์แลนด์ 1-1
- นัดที่สอง: เสมอออสเตรีย 0-0 (โรนัลโดพลาดจุดโทษ)
- นัดที่สาม: เสมอฮังการี 3-3 (โรนัลโดทำ 2 ลูก)
- จบอันดับที่ 3 มี 3 คะแนนจาก 3 เสมอ
เข้าสู่รอบ Knockout
- รอบ 16 ทีม: พบโปแลนด์
- เสมอ 1-1 และชนะจุดโทษ 5-3
รอบรองชนะเลิศ
- พบทีมชาติเวล
- เป็นเกมที่ชนะในเวลา 90 นาที
- เข้าชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศส
นัดชิงชนะเลิศ
- วันที่ 10 กรกฎาคม 2016: พบฝรั่งเศส
- โรนัลโดบาดเจ็บในนาทีที่ 25
- ทำประตูชัยในนาทีที่ 109 โดยเอด้า
- คว้าแชมป์ยูโรครั้งแรกในประวัติศาสตร์
สถิติและผลงานนักเตะ
- โรนัลโด: ยิง 3 ประตู, 2 แอสซิสต์
- นานี่: ยิง 3 ประตู
- เรนาโต้ ซานเชส: ดาวรุ่งยอดเยี่ยม
การมองถึงแชมป์ยูโร 2024
- แชมป์ยูโร 2016 ถูกมองว่าเป็น "แชมป์ที่ฟอร์มขี้เหร่ที่สุด"
- ทีมที่ควรได้แชมป์ต้องมีโชคและสามารถทำผลงานในนัดชิงได้ดี
ขอขอบคุณที่รับชม ฟุตบอลเป็นมากกว่าฟุตบอล