ในประวัติศาสตร์ของทีมชาติปลูกเกรดพวกเขาเต็มไปด้วยนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ ช่วงยุค 60-70 พวกเขามียูซีบิโอ ตำนานกองหน้า เจ้าของชายาเสือดำแห่งโมซัมบิก เป็นดาวยิงตัวชูโรง จากนั้นช่วงต้นยุค 90 จนมาถึงช่วงปี 2000 คือยุคทองของสองตำนานมิฟิล ที่ถูกยกย่องให้เป็นตัวท็อปของยุโรป อย่างลุยฟิโกะ และลุยคอสตาร์ จนกระทั่ง 2 ช่วงทศวรรษหลังสุดไม่มีแฟนมอนด์คนไหนในโลก ไม่รู้จัก Christiano Ronaldo ที่เป็น Superstar ดาวทะลมประตูอันดับ 1 ตลอดกลางของยุโรป อย่างไรก็ตามในประวัติสารของทีมไฟทอง กว่าที่วะเขาจะคว้ายแชมป์รายการใหญ่ได้เป็นครั้งแรก ต้องรอจนถึงปี 2016 ที่วะเขาเป็นแชมป์ยุโรป พวกเขาไม่ชนะใครเลยด้วยซ้ำในรอบอันกลุ่ม แถมในรอบ Knockout ก็ชนะในเวลาปกติเพียงแค่เกมเดียว แต่สุดท้ายแชมป์ก็คือแชมป์ แม้จะโดนเรียกว่าเป็นแชมป์ยูโรที่ขี้เลที่สุด แต่มันก็คือโทฟี่ใหญ่ระดับประวัติศาสตร์ ตัวเทพฟุตบอลวันนี้ขอเสนอ ย้อนแชมป์ยูโร 2016 คลองทัพไฟทอง รอบแรกจบที่ 3 แต่บทสรุปจบที่แชมป์ ศึกยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ถือเป็นศึกยูโรครั้งแรกครับ ที่เพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายให้มาถึง 24 ทีม รูปแบบการแข่งขันเป็นเหมือนกับปัจจุบัน นั่นคือแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ทีมที่ได้ 2 อันดับแรกแต่ละกลุ่มครับ จะได้ผ่านเข้ารอบ Knockout ทันที และคัดเอาทีมอันดับที่ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 กลุ่ม ตามเข้ารอบรวมกันเป็น 16 ทีมสุดท้าย ใครๆก็คิดว่าทีม��ฟทองที่นำโดยสตาร์นดับ 1 อย่างโรนานโด้ จะต้องผ่านรอบแรกแบบสบายๆ ได้แคลนดับที่ 3 ของกลุ่ม และผ่านเข้ารอบน็อคอัลได้แบบกระท่อนกันแทน อันที่จริงก็ปลูตุเกตเริ่มเส้นทางในศึกยุโรปปี 2016 ด้วยการแพ้ตั้งแต่เกมแรกของรอบคัดเลือก บรรคาวแพ้ทีมรองบอลอย่าง Albainia คาบ้าน 01 เป็นประเดิม จนทำให้กุญศืออย่าง Paulo Bento ซึ่งพาทีมผลงานแย่ตั้งแต่ฟุตบอลโลปี 2014 จากนั้นในวันที่ 23 กันยายน ปี 2014 สมาคมฟุตบอลโปรตุเกต แต่งตั้งให้ Fernando Santos ที่พึ่งพาทีมชาติกรี๊ด ตกรอบ 16 ทีสุดท้ายในฟุตบอลโลป ด้วยการโดนจุดโทษแพ้ Cotariga ให้เข้ามาเป็นกุญศือสินชาติคุณใหม่ ซึ่งภายใต้การ การคุมทีมของซานโต๊ต ปลูตุเกสามารถชนะรวดตลอดทั้ง 7 นัทสุดท้ายของรอบคัดเลือก แม้ว่าทั้ง 7 นัทจะเป็นการชนะคู่แข่ง ด้วยกลมต่างประตูแค่ประตูเดียว แต่มันก็คือการเก็บได้ถึง 21 แต้ม ทำให้ทีมฝ่อยทองกลับได้เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ด้วยการเป็นแชมป์รอบคัดเลือกกลุ่ม ที่มีทีมร่วมสายเป็นอเมรีย เดนมาร์ก เซอร์เบีย และอเมรีย อย่างไรก็ตามครับ ขุมกำลังของทีมชาติปลูตุเกสามารถตอนนั้นเนี่ย ยังไม่ได้มีดาวดังอยู่ครบทุกตำแหน่ง เหมือนในตอนนี้ แต่ตำแหน่งที่ CR7 เล่นได้ดีที่สุด คือกล้องหน้าฝั่งซ้าย ทำให้เฟรนดโดสันโต๊ดด้วยใช้แผนสี่สี่สอง โดยให้โลนันโดเนี่ยจับคู่กล่องหน้า กับอดีตปีกรุ่นน้องที่เคยอยู่กับแมนยูเวเตะด้วยกันอย่างนานี่ ซึ่งในตอนนั้นเล่นที่ตุลกีกับเฟรนด์บาเช่ ทั้งสองคนตามเป็นตัวลุกที่ถนัดเล่นด้านกว้างมากกว่าตรงกลาง โลนันโดมักจะฉีกออกไปยืนทางฝั่งซ้ายแล้วตัดเข้าใน เช่นเดียวกับนานี่มักจะหาจังห จากการฉีกไปยืนทางขวาบ่อยๆ ส่วนมิดฟิลทั้งสี่คนในแดนกลางก็ล้วนเป็นนักเตะที่มีลักษณะเป็นมิดฟิลตัวกลางทั้งหมด ไม่มีใครเป็นตัวทำเกมจากด้านกว้าง ซึ่งในขุมกำลังของปลูตูเกตในตอนนั้นไม่ค่อยมีความสมรุนมากนักจนไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ที่จะทำผลงานกับท่อนกระแทนและใช้แผนที่เน้นเกมรับโดยโจมตีด้วยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเป็นหลัก ปลูตูเกตเริ่มต้นเส้นทางรอบเป็นกลุ่มด้วยการพบกับไอซ์แลนด์ ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมทวนิเมนต์ใหญ่เป็นครั้งแรกโดยชี้ชันนักเตะที่ปลูตูเกตเหนือกว่ามาก ใครๆก็คิดว่าพวกเขาต้องประเดิมเกมแรกด้วย 3 คะแนนเต็มอย่างแน่นอน แต่กลายเป็นว่าทัพฝ่อยทองทำได้แค่เสมอ 1-1 โดยนั้นนี่ยิ่งนำกลัว ตั้งแต่นาทีที่ 31 แต่บีคีบียานาสัน มายิงตีเสมอในช่วงต้นขึ้นหลัง ทำให้ไอศแลนด์แบ่งแต้มไปแบบสะพาย จากนั้นในเกมนัดที่สองครับ ปรุโตเกตต้องพบกับออสเตีย ซึ่งเกมแรกเนี่ยเพิ่งแพ้ฮังการีมาสูญสอง ซึ่งกระดูกจะเป็นอีกนัดครับ ที่ไม่น่าจะเป็นงานยาก แต่พวกเขาก็ทำได้แค่จบเกมด้วยคนเสมอ 0-0 โดยมีโอกาสจะได้ประตูใช้ในช่วงท้ายเกม เมื่อได้จุดโทษนาที 79 แต่โรนันโดกลับยิงไปชนเสาซะอย่างนั้น จากการที่ปรุโตเกตเก็บได้แค่ 2 แต้มจาก 2 เกมแรก ทำให้นัดที่สามเนี่ยพวกเขาต้องห้ามแพ้ฮังการีเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต้องตกรอบทันที ซึ่งเกมชิ้นชะตาของรอบรังกลม หังกะลี่เป็นไฟล์นำพวกเขาถึง 3 ครั้ง 3 ค่ะ แต่ 1 ประตูจากนานี่ และการหม่าคนเดียว 2 ลูกของเรอร์นันโด ช่วยให้ปุตตุเกตขวาผลเสมอ 3-3 ได้สำเร็จ ส่วนผลอีกสนามในนัดที่ 3 กลุ่ม F ไอร์แหลงเฉียนชนะออสเตีย 2-1 ทำให้ปุตตุเกตจบรอบแรกด้วยการเป็นที่ 3 มีแค่ 3 แต้มจากผลเสมอทั้ง 3 นัด แต่มันยังมากเพียงพอที่จะทำให้ทัพฝอยทองเข้าร่วมล็อคอัลด้วยการเป็น 1 ในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ในรอบ 16 ที่สุดท้าย เพราะเขาเจอกับโพลีเชีย ที่ฟอร์มในรอบเป็นกลุ่มในยอดเยี่ยมเข้าร่วมมาเป็นที่ 1 ทั้งที่อยู่ร่วมสายกับสเปน ตุลักรี และสาธารณะละเชค โดยในเกมดังเก่าทั้ง 2 ทีม เล่นกันได้อย่างอืดอาด ต่างฟายต่างเน้นความรัดกลุ่ม ซึ่งกว่าจะมีโอกาสยิงประตูหล่อแรกของเกมเนี่ย ต้องรอจนถึงนาทีที่ 25 และสถิติที่น่าแปลกมากๆก็คือ ตลอดทั้ง 90 นาทีในเวลาปกติ คริสเตียโนโลแลนโด ไม่มีโอกาสสับไกยยิงแม้แต่หล่อเดียว โปรตุเกจโชคดีเหมือนกันที่โคอิเชียดัมนาฟอร์มตกในเกมนี้ โดยโอกาสยิงทั้ง 17 ครั้งของทีมตามหักลุ่มตลอดทั้งเกม ไม่มีจังหวะในที่เข้ากรอบเลย ส่วนทีมไฟทองได้ประตูชัยจากโอกาสยิงตรงกรอบผลแรกของเกม เมื่อตัวสำรองอย่างลิคาโดลกอเลสมา ที่ถูกส่งลงมาในช่วงก่อนหมวดเวลาปกติเพียง 3 นาที กลายเป็นซุปเปอร์ซับคำประตูชัย ในจังหวะที่ปุตตุเกตได้โต้กลับ ด้วยกองกางดาวรุ่งอย่างเรนาโต้สันเชส เป็นคนพาบอลขึ้นมาจากด้านตัวเอง ก่อนจะจ่ายออกซ้ายให้กับนันนี่ยิงแปลก แต่กลายเป็นดีครับ เมื่อบอลค่อยๆกิ้งไปเข้าทางโนเนดโด ไปจังหวะแรกไปติดเสฟดานีเยลซูบาซิดครับ แล้วมาเป็นกวอเลสมามงจอๆเข้าไป ในนาทีที่ 117 ทำให้ปุตตุเกตเข้ารอบไปเจอกับโปแลนด์ จากนั้นในเกมรอบไปที่ สุดท้าย เฟรนดโดส ซอนโต๊ต เริ่มมีการปรับแดนกลางให้ดาวรุ่งจากเบนฟิกก้า อย่างเรทโตซานเชส ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นครั้งแรก แทนที่อังเดโกเมส ที่หลุดไปสำรอง เกมนั้นครับ โลเบิร์ตเรวัน ดอฟกี้ ทำประตูให้โปรแลนด์ออกนำไปก่อน ตั้งแต่เกมผ่านไปได้แค่นาทีเสร็จๆ ซึ่งนั่นถื ในรอบล็อกอัล ก่อนที่สถิติดังกล่าวจะถูกทำลายลง โดยแมรี่เดมีลัล กองหลังของตุลกี ที่ใช้เวลาแค่ 57 วินาทีแรก ทำประตูให้ตุลกีออกนำก่อนในเกมที่ชนะออสเตีย 2-1 ในรอบ 16 เท่า ของสกิลโลปีนี้ ในนาทีที่ 30 ครับ มีจังหวัดหน้ากลางขาครับ เมื่อโรแนนโด่ โดนมิชชาว ปัส ด้านกล้องหลักของโบแลนด์ผลักล้มในเขตโทษแต่ผู้จัดสินกลับไม่เป่าให้ แต่ถึงอย่างนั้นครับนาทีที่สามยี่สามกล้องกลางดาวรุ่งอย่าง เลเมตโตรสัญเชษฐ์ลากบอลจากขวาตัดเข้าในก่อนทําชิ่งกับ นานีและสัดไกด้ดเท้าซ้ายเต็มแรงส่งบอลพุ่งเสียบเสาแรกยังเชียบขาดครับ เกมนั้นถือเป็นนัดแจ้งเกิดเนินตัวของซานเชศที่คว้ามันอัลโดแมตของเกม เพราะนอกจากจะเป็นคนยิงตีเสมอในช่วงเวลาปกติแล้วเขายังเป็นหนึ่งในมือสังหารจุดโทษที่สัดไม่พลาดในช่วงด่วนเป้า โดยปุตุเกรดริ้วเข้ารอบรอชนะเลิศจากการชนะจุดโทษโบแลนด์ห้าสาม หลังตลอดทั้ง 120 นาทีทั้งสองทีมเสมอกัน 11 ซึ่งมือสัง สังหารของทีมฝ่อยทองต่างยิงไม่พลาดเลยทั้ง 5 คน ขณะที่ยาคุป บาชิคอฟกี้ ซึ่งยิงเป็นคนที่ 4 ของโบแลนด์ ซัดไปติดเสฟลุยปาทิซิโอ ทำให้ลิคาโดกอเลดมาร์ที่เป็นคนยิงคนสุดท้ายสังหารไม่พลาด ปุตุเกตจึงได้เข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับทีมชาติเวล ในเกมรอบตัดเชื่อที่ปุตุเกตพบกับเวล นั่นคือเกมเดียวของศึกยุโรปปี 2016 ที่ทีมฝ่อยทองภายใต้การคุมครีมของเฟรนดูลซานโต๊ต เอาเฉพาะแข่งได้ภายใน 90 นาที โดยเกมนั้นปุตุเกตโชคดีที่ได้เจอกับทัพมังกรแดงที่สภาพทีมไม่สมบูรณ์ เนื่องจากอลอน แรมซี่ กล้องกลางตัวเก่งของเวลติดโทษแบน จากการสะสม ที่มีสิ่งที่จะทำให้ทัพฝ่ายทองได้เป็นฝ่ายเข้าชิงยูโรเป็นหลวงที่สองต่อจากปี 2004 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพแต่อกหักได้แค่รองแชมป์เพราะแค่แค่กิดไปสูงหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่สองหนึ่งในที่ส ในนัดชิง ซึ่งคู่ชิงชนะเลิศของปุตุเกรดก็คือเจ้าภาพยุโรปี สองพันสิบหกอย่างฝรั่งเศสที่ฟอร์มเหนือกว่าชัดเจนมาตลอดทั้ง ทวนาเมนต์ เกมนัดชิงชนะเลิศอยู่ลงเมื่อแปดปีก่อนครับ แข่งกันเมื่อวันที่สิบกันละกระดาษคมปีสองพันสิบหกที่สตาร์ท ต้องบอกเลยว่าปุตุเกรดเป็นรอดทุกอย่างฝรั่งเศสมีฟอร์ม ก่อนถึงนัดชิงที่เหนือกว่าฝรั่งเศสได้เปรียบจากการเป็น จบภาพแถมสถิติก่อนการเจอกันในนัดชิงปีนั้นทีมตาไก่ แก้วชนะปุตุเกรดมาสิบนัดติดต่อกันรวมทุกรายการนั่นจึง ดูเป็นเรื่องที่ยากมากมากที่เฟรนโดสันโตจะพาทีม ฝอยทองคนทัพเลเบอร์ของดีเยเดชองได้ข่าวดีของ เฟรนโดสันโต ก่อนแต่ครับ ก็คือพวกเขาเนี่ยได้ตัวเปเปหายจากอาการประเจ็บ และได้วิลียัมคาวันโย พ้นโทษแบนกับอารมณ์ตัวจริงในนัดชิงได้ สร้างโต๊ะยังควรจัดทับในระบบสี่สี่สอง มีลุยพาทิเซีโอเป็นแนวประตู เซดิกซูอเลส เล่นแบ๊กขวา ราเฟอร์เอลเกรเลโล ยืนแบ๊กซ้าย และให้เปเปจับคู่เซนเตอร์กับโซเซฟอนเต วิลียัมคาวันโย ปักหลักเป็นการรับ ส่วนนี้ฟิลส์สามคนครับ เรดาโต้ ซันเชส อันเดีย ซินวา และชูอาว มาริโอ ความเคลื่อนเกม ขนาดที่ด้านหน้ายังใช้งานนานี่ จับคู่กับซูเปอร์สตาร์กัปตันทีม อย่าง คิสเตนโน โรนาโน อย่างเดิม ทางด้านฝรั่งเศสมาในระบบสี่สองสาม นำโดยผู้รักษาประตูกัปตันพิมพ์อย่างอัลโกยอลิส แห่งแบล็คโฟล์จากขวาไปซ้าย ประกอบไปด้วย บักกะรีซายา โลลอง กอสเยอร์นี สมุยเอลอุมติติ และปาติกเอวรา กองกลางคือ ป๊อกบา กับแบสต์ มาตรวิดี และชายมูซาซิซาโก ยืนปีกขวา ดิมิที่ปาเยส ยืนปีกซ้าย อองตุลกิสมาน เล่นหน้าต่ำ อยู่หลังโอลิเวียชิลู ที่ยืนหน้าตัวเป้า สัญญาณร้ายว่า ปุตุเกตจะต้องอกหักในนัดชิงอีกครั้งครับ เกิดขึ้นตั้งแต่นาทีที่ 8 ของครึ่งแรก เมื่อดิมิที่ปาเยส ทิมเข่าเข้าบอลใส่ คิสเซโนโลแลนโด ในจังหวะที่กำลังพลีกตัว ทำให้ดาวยิงตัวของหวังของปุตุเกตลงไปร้องกุมเข่าด้วยความเจ็บปวด และน่าเป็นห่วงว่าเขาอาจจะได้อยู่ในสนาม ในเกมนักสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา ด้วยแค่ไม่กี่นาที ซึ่งหลังจากออกไปประถมพยาบาลอยู่นาน โลนานด้วกลับมาฝืนลงเล่นต่ออีกครั้ง แต่สุดท้ายอาการเจ็บที่หัวเขาคนเจ้าตัว มันร้ายแรงกว่าที่คิด เขาจำเป็นต้องยอมโดนเปลี่ยนตัวออกครับ เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมชาติที่พร้อมกว่าลงไปทำหน้าที่แทน โดยเสีย 7 ออกจากสนามในนาทีที่ 25 แล้วเป็นริคาโดกวาเลสมา ที่ลงมาเป็นตัวสำรองคนแรกของเกม อย่างที่เราได้บอกไปครับ ฝรั่งเศษเป็นฝ่ายเนื้อกว่ามากอยู่แล้ว ต่อให้ปุตุเกรดมีโรนานโดอยู่ในสนาม แล้วยิ่งตัวความหวังประจำทีมเล่นต่อไม่ไหว ก็ยิ่งทำให้เกม ที่เกมของทีมตาไกยยิ่งเหนือกว่าชัดเจน ฝรั่งเศสครับเป็นฝ่ายคลองวนเหนือกว่า และหาโอกาสลุนประตูได้มากกว่าปุตตุเกตถึง 18 ครั้งต่อ 9 ครั้ง โดยทีมตาไกยครับน่าจะขึ้นนำหลายต่อหลายหล่นครับ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่คิงเลกกลมัน คอร์สบอนจากฝั่งซ้ายให้ของตัวกิสมันโถมโผล่งระยะ 5 หลา หลุดกรอบในนาทีที่ 62 และจังหวะที่กองหน้าตัวสำรองของเจ้าภาพอย่างอังเดปีแอซียักด์ได้ล็อกหลบเป้เป้ แล้วสัดเลียดไปชนเสาในนาทีที่ 86 ของเกม แต่ได้ความไม่เฉียบคมของเจ้าภาพครับ ทำให้ปลูตุเกรดยังมีลมหายใจต่อไปและได้รุนแชมป์ในช่วงต่อเวลา ในช่วงต่อเวลาพิเศษภาพที่แฟนวัลจดจำมากที่สุดอาจจะเป็นช่วงต่อเวลาที่สุด แต่จะไม่ใช่จังหวะใดๆของเกมในสนาม แต่เป็นแพชชั่นของโลแลนโด ที่ออกอาการลุ้นสุดตัวทุกจังหวะที่ปลูตูเกตมีโอกาสได้ประตู โลแลนโดที่โดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรกครับ ทัพนักที่แทบจะเป็นคุณซือแทนเฟรนันโดซานโตสในช่วงต่อเวลา เขาพยายามกระตุ้นเพื่อนตลอด เขาพยายามตะโกนสั่งการ โดยออกอาการมากกว่าคุณซือตัวจริงอย่างซานโตเซอี ซึ่งสุดท้ายครับชัดๆนะมาตกเป็นของปลูตูเกตจริงๆ พวกเขายันฝรั่งเศสอยู่หมัดมาตลอดทั้งเกม แล้วมาได้ประตูพระเดชศึกในนาทีที่ 109 จากลูกสัตว์หักคลอดด้วยขวาจากนอกกรอบเขตโทษของกองหน้าตัวสำรองอย่างเอด้า คือเป็นตัวเดียวที่เกิดขึ้ และทำให้ Cristiano Ronaldo ถึงกับกั้นน้ำตาแห่งความปิติไว้ไม่อยู่ ปุตุเกตเป็นฝ่ายชนะฝรั่งเศสไป 1-0 คว้ายแชมป์รายการใหญ่ รายการแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมกับเป็นแชมป์ระดับทีมชาติ รายการแรกในชีวิตการค้างข้างของโลนานโด้ด้วย แน่นอนว่าพระเอกประจำทรัพย์ของทีมชาติปุตุเกตชุดป ย่อมนิเมภพ้นกัปตันทีมอย่างโรนันโด่ ที่ทำผลงานยิง 3 และซิส 2 และเป็นศูนย์ร่วมจิตใจของเพื่อนร่วมทีม คู่หูกองหน้าอย่างนานี่ที่ลงตัวจริงให้กับทีมฝ่อยทองครบ 7 นัดในศึกยุโรปปี 2016 ก็ไม่น้อยหน้า มีส่วนสำคัญในการพาทีมไปถึงแชมป์ด้วยการยิงไป 3 ประตู ขณะที่นักเด่นใน ของยูโรปีนั้นถึงสามคน ได้แก่นในประตูอย่างลุยปาทิซิโอ เซ็นเตอร์แบ็คตัวหลักอย่างเป๊ะเป๊ะ และแบ็คซ้ายที่แจ้งเกิดเต็มตัวอย่าง ราฟาเอลเกรเลโล ส่วนรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจําทวินิต ตกเป็นของเรนาโต้ ซานเชค ที่นัดตอนนั้นอายุเพียงสิบแปดปีเสร็จ เขาอาจจะเป็นตัวสํารองสี่เกมแรก แต่พอเข้าสู่รอบแบบทิ้งสุดท้ายเป็นต้นไป ซานเชคก็มีบทวายสําคัญในแดนกลาง และพาปุตุเกตทะเลิงแชมป์ได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามครับ ถึงแม้ทีมชาติปุตุเกตจะได้ชะลองแชมป์ยูโรปีสองพันสิบหกอย่างยิ่งใหญ่ แต่หลายคนมองว่าพวกเขาเนี่ยคือแชมป์ยูโรที่ฟอร์มขี้เหลียดที่สุดในบรรดาทุกชาติที่เคยเป็นแชมป์รายการนี้ในรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาไม่ชนะ ตั้งแต่ทุนเวน 7 นาทก็ชนะใน 90 นาทีได้แค่นัดเดียว แถมเส้นทางตั้งแต่รอบแรกจนถึงนัทชิง แทบจะไม่เจอคู่แข่งที่ชื่อชั้นเหลือกว่า ยกเว้นก็แต่เจอเจ้าภาพอย่างฝรั่งเศสในเกมนัทชิง ที่ชนะได้รูปเกมเป็นรอบเท่านั้น ตัดภาพมาที่ปัจจุบันครับ ยังไม่มีใครรู้ว่าตำแหน่งแชมป์ยุโรปี 2024 จะตกเป็นขนชาติใด หลายคนบอกว่าทีมที่ควรได้แชมป์ต้องเป็นทีมที่ดูแข็งแกร่งที่สุด และทำผลงานตลอดทุนเวนได้ดีที่สุด เกิดแสดงให้เห็นแล้วว่า ทหารจังหวะต่างๆ เข้าทางและเส้นทาง จนถึงนัทชิงไม่หนักเกินไป ทีมที่มีโชคข้างๆ เน้นเกมรับให้แน่น และได้ประตูแบบฉาบฉวยก็ไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้เช่นกันครับ ขอขอบคุณที่รับชมคลิปของเราจนจบ เพราะฟุตบอลมันเป็นมากกว่าฟุตบอล วันนี้ตัวเทพฟุตบอลต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในค