คลิปวีดีโอนี้ครับผมจะมาพูดถึงปัญหาหนึ่งที่ผมเจอมานานมากๆแล้วปีนี้ผมตั้งเป้าว่าผมอยากจะก้าวข้ามผ่านปัญหานี้ให้มันได้สักทีนึงนะครับก็คือเรื่องของการฝึกภาษาอังกฤษผมยอมรับนำตรงนะครับว่าผมเป็นคนที่มีสกิลในเรื่องของการใช้ภาษาอังกฤษนะครับถ้าเกิดสมมติว่ามี 10 level ผมอาจจะอยู่ประมาณ level 2 อาจจะถึง 3 หรืออาจจะไม่ถึงด้วยซ้ำนะครับ อยู่ประมาณ 2.5 ผมมีสกิลในภาษาอังกฤษเพียงแค่เท่านี้เอง หลายคนอาจจะไม่รู้นะครับ แต่ผมมีแค่เท่านี้เอง ถ้าเกิดสมมติว่า เอาในความคิดผมนะ เลเวลที่แบบว่าโอเคที่สุด ก็คือประมาณเลเวล 5 ก็คือสามารถพูดคุยอ่านโต้ตอบกับคนที่เป็นชาวต่างชาติได้ แต่ผมยังไม่ถึงขั้นเลเวลนั้น แล้วปีนี้ผมก็ตั้งเป้ากับตนเองนะครับว่า เฮ้ย อย่างน้อย เราอยากจะได้ถึงขั้นที่เราสามารถอ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้ โต๊ะตอบเล็กๆน้อยกับชาวต่างชาติได้ก็ยังดี ฉะนั้นผมก็เลยซุ่มฝึกนิสัยภาษาอังกฤษอยู่เงียบๆนะครับ ตั้งแต่ช่วงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นะครับ ซึ่งการฝึกนิสัยภาษาอังกฤษของผมเนี่ยนะครับ มันไม่ใช่อยู่ดีๆ ผมนึกอยากจะฝึกก็ฝึก แต่ด้วยความที่เราชอบอ่านหนังสือนะ ผมก็ไปอ่านหนังสือเล่มนึงมานะครับ ที่ชื่อว่า Atomic Habits หนังสือ เล่ม นี้ เขา จะ ว่า กัน ด้วย เรื่อง ของ การ สร้าง นิสัย เล็ก นะ ครับ ที่ มัน จะ ส่ง ผล ไป ถึง ชีวิต ใน อนาคต นะ ครับ เช่น นิสัย การ ออก กำลัง กาย ออก กำลัง กาย สับ ละ ละ 5 วัน วัน ละ 15 ถึง 30 นาที สะสม กัน ไป เรื่อย มัน อาจ จะ ไม่ ได้ ดู เยอะ แต่ พอ ผล รวม มัน รวม กัน ออก มา เนี่ย นะ ครับ สิ่ง มัน เกิด ขึ้น ก็ คือ ชีวิต เรา เปลี่ยน แปลง แล้ว ชีวิต เรา ก็ มี สุขภาพ ที่ ดี มาก ยิ่ง ขึ้น กว่า แต่ ก่อน เยอะ มาก ฉะนั้น นังสือ เล่ม นี้ มัน ไม่ น่า จะ สามารถ ใช้ ได้ กับ เรื่อง ของ การ ออก กำลัง การ เรื่อง ของ การ พัฒนา ตัว อย่าง เดียว มัน น่า จะ เอา มา ปรับ ประยุกต์ ใช้ กับ เรื่อง ของ การ ฝึก ภาษา อังกฤษ ได้ ด้วย คลิป วีดีโอนี้ นะ ครับ ผม เลย อยาก จะ มา แบ่ง ปัน เทคนิค ที่ ผม ใช้ ฝึก ภาษา อังกฤษ ตลอด 1 เดือน ที่ ผ่าน มา นะ ครับ ว่า ผม ใช้ เทคนิค อะไร บ้าง ที่ อยู่ ใน หนังสือ เล่ม นี้ ก่อน อื่น แล้ว ก็ ต้อง บอก กัน อย่าง ตาม ตรง นะ ครับ ว่า การ ที่ คน 1 คน จะ ฝึก ภาษา อังกฤษ ได้ นะ ผม เชื่อ มั่น อย่าง นี้ นะ ว่า ถ้า เกิด ว่า อยู่ ดี เรา ไม่ มี แรง จุง ใจ เรา ไม่ มี inspiration บางอย่างครับว่าเราอยากจะฝึกภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไรเราจะทำนิสัยนั้นได้ไม่นานเราจะฝึกได้ไม่นานฉะนั้นนะครับคนที่กดเข้ามาดูคลิปวีดีโอนี้เราอยากเก่งภาษาอังกฤษกันขึ้นถูกต้องป่ะแต่ผมมีความรู้สึกว่านอกจากว่าเราจะอยากเก่งภาษาอังกฤษขึ้นแล้วอ่ะการที่เราอยากจะเก่งภาษาอังกฤษมันเป็ ผมอยากจะฟังอินเตอร์วิว ผมอยากจะฟังพลาดแคสท์ที่เป็นของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น อยากอ่านหนังสือที่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทุกคนลองคิดดูนะครับ ถ้าเกิดสมมุติว่าผมได้สกิลภาษาอังกฤษ 1 ขั้นที่อ่านออกเขียนได้แบบสบายๆ โลกของผมจะเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ฉะนั้นนะครับ ก่อนที่เราจะเริ่มคลิปวีดีโอนี้ คุณต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า คุณจะฝึกภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไร ดูหนังเหรอ ดูซีรีส์ หรือเอาไปต่อย่อนในที่ทำงาน เอาไปเป็นไกด์ เอาไปขึ้นเงินเดือนของตนเองอะไรแบบนี้ คือเราต้องรู้ก่อนว่าแรงจุงใจของเราคืออะไร เพราะความอยากครับ ใครๆ ก็มี ใครๆ ก็อยากรวย ใครๆ ก็อยากเก่งภาษามากขึ้น แต่ถ้าเกิดเราไม่รู้ Why เราจะทำได้ไม่นาน ฉะนั้นเริ่มแรกเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะฝึกภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไร แล้วขั้นตอนต่อมาครับ ที่ผมอยากจะพูดถึงก็คือ วิธีการสร้างนิสัยใหม่ๆ นะ ครับ ที่ มัน จะ ทำ ให้ เรา เนี่ย สามารถ ฝึก ภาษา อังกฤษ ได้ อย่าง ยาว นาน ผม เชื่อ ว่า หนึ่ง ปัญหา ที่ เกิด ขึ้น กับ พวก เรา ที่ พยายาม จะ ฝึก ภาษา อังกฤษ ซึ่ง ผม เป็น บ่อย มาก คือ เรา ฝึก ได้ แป๊บ ครับ เต็ม ที่ 1 เดือน แล้ว เราก็ เลิก ไป เพราะ มัน ไม่ มี แรง จุง ใจ อะไร บาง อย่าง ทำ ให้ เรา อยาก จะ ฝึก ต่อ ฉะนั้น นะ ครับ ผม เลย เอา หลัก การ ที่ อยู่ ใน หนัง สือ atomic habit เนี่ย นะ ครับ มาปรับประยุกต์ใช้กับการสร้างนิสัยใหม่ ซึ่งก็คือนิสัยการฝึกภาษา แต่ก่อนอื่นที่เราจะไปรู้นะครับว่า การที่เราจะสร้างนิสัยเพื่อฝึกภาษาอังกฤษ มันต้องทำยังไง เรามาทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า การที่นิสัยนิสัยนึงมันจะเกิดขึ้นมาได้ มันเกิดขึ้นมาจากอะไร ปัจจัยที่ทำให้เรามีนิสัยบางอย่างขึ้นมานะครับ มันจะมีอยู่ 4 อย่างหลักๆ ด้วยกัน อย่างที่ 1 ก็คือ การทำให้ชัดเจน อย่างที่ 2 คือ ทำให้หน้าดึงดูด อย่างที่ 3 ก็คือ ทำให้เป็นเรื่องง่าย และอย่างที่ 4 คือ ทำให้หน้าพึงพอใจ ผมจะอธิบายแบบนี้แล้วกันนะครับ ผมเชื่อว่าทุกๆคนมีนิสัยแบบนี้เกิดขึ้นในตัวเองโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว กันเกือบทุกคนแล้ว ก็คือนิสัยของการติดมือถือ ถ้าเกิดสมมุติว่าวันนี้คุณเป็นหนึ่งคนนะครับที่รู้ตัวว่าเรากำลังติดมือถืออยู่ เราลองทำความเข้าใจกันก่อนไหมว่าเราติดมือถือเพราะว่าอะไร มันเป็นเพราะว่า 4 อย่างนี้เลยครับ ทำให้ชัดเจน ทำให้หน้าดึงดูด ทำให้เป็นเรื่องง่าย ทำให้พึงพอใจ ทำให้ชัดเจนในที่นี้คืออะไร เราตื่นนอนขึ้นมา นิสัยติดมือถือคือ เราสามารถหยิบมันขึ้นมาได้ง่าย เห็นมันได้ง่าย ทำมันได้ง่าย แล้วทำมันบ่อยๆ หยิบมันขึ้นมาบ่อยๆ โอกาสที่เราจะติดมือถือก็เพิ่มมายิ่งขึ้นแล้ว หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือทำให้หน้าดึงดูด การทำให้หน้าดึงดูดก็คือ ถ้าเกิดสมมติว่ามันมีกิจกรรมอะไรบางอย่างที่มันน่าเยาว์ยวนใจ เรามีโอกาสที่จะทำเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา คือผมต้องบอกอย่างนี้ก่อนนะครับว่า เบื้องหลังของนิสัยบางอย่างเรา เราทำนิสัยนั้นไป เพื่อที่เราจะต้องการผลลัพธ์อะไรบางอย่างจากนิสัยนั้น อาทิเช่น เราอาจจะติดนิสัยกินของหวาน ที่จริงเราไม่อยากกินของหวานครับ แต่เราอยากได้ความสุขจากการกินของหวาน นิสัยในการชอบออกกำลังกายที่จริงเราไม่ได้ชอบออกกำลังกาย แต่เราเพิ่งพอใจกับคุณที่เราได้หลังจะออกกำลังกาย หรืออย่างผมเนี่ย ชอบกินกาแฟ ผมไม่ได้ชอบกินกาแฟครับ แต่ผมชอบความสุขจากการกินกาแฟ ชอบกินกาแฟไปนั่งอ่านหนังสือไป นี่คือความสุขเล็กๆที่มันเกิดขึ้น หลังจากที่ผมทำนิสัยนั้น ฉะนั้นนะครับ การที่เราติดมือถือ เราไม่ได้ต้องการมือถือนะครับ แต่เราต้องการอะไรบางอย่างที่เราได้จากการเล่นมือถือ เราอยากจะรู้ว่าคนต่างๆในโซเชียลมีเดียพูดอะไรกันบ้าง เราอยากจะรู้ว่ามีใครดีเอ็มมาหาเราไหม คนคุยคนนั้น ดีเอ็ม มา หา แล้ว บ้าง ไหม เขา ไป อาบ น้ำ มา แล้ว 3 วัน ก็ แล้ว ยัง ไม่ ดีเอ็ม ตอบ กลับ มา เลย เรา อยาก รู้ ว่า นี่ ก็ ว่า ฉะนั้น นะ ครับ มัน เลย เป็น อีก หนึ่ง สิ่ง ที่ ทำ ให้ เรา ติด มือ ถือ โดย ที่ เรา ไม่ รู้ ตัว มัน มี ความ หน้า ดึง ดูด อะไร บาง อย่าง ข่าว สาร ที่ อยู่ ใน นั้น ข้อ มูล บาง อย่าง ที่ อยู่ ใน มือ ถือ เนี่ย มัน หน้า ดึง ดูด มาก เพียง พอ จน เรา ต้อง หยิบ มัน ขึ้น มา ทุก วัน แล้ว อย่ มันมีความน่าดึงดูดแล้วนะว่า มันจะมีใครทักหาเราไหม มันจะมีใครกดไลค์เราไหม พอเรากดเข้าไปดูแล้วครับ เราจะได้ความพึงพอใจอะไรบางอย่างกลับมาว่า เฮ้ย มันมีคนไลค์หาเราว่ะ เฮ้ย มันมีคนตอบข้อความเราว่ะ ฉะนั้นนะครับ สังเกตเห็นไหมว่า ปัจจัยที่จะทำให้นิสัยนิสัยนึงเกิดขึ้นมาในตัวเรา มันมีอยู่ 4 อย่างหลักๆ ก็คือ ทำให้ชัดเจน ทำให้น่าดึงดูด ทำให้เป็นเรื่องง่าย และทำให้น่าพึงพอใจ แล้วนิสัยในการติดมือถือมี 4 อย่างนี้ครบเลยครับ เราทุกคนเลยติดมือถือโดยที่เราไม่รู้ตัว ฉะนั้นนะครับจะดีกว่าไหมถ้าหากว่าเรานำปัจจัยต่างๆ ที่มันจะทำให้เราน่ะมีนิสัยบางอย่างขึ้นมาเนี่ย แทนที่เราจะกลายเป็นคนที่ติดมือถือ แล้วกลายเป็นคนที่ติดนิสัยชอบฝึกภาษามันจะดีกว่าไหม ฉะนั้นคลิปนี้นี่แหละครับเราจะมาพูดกันว่า เราจะทำยังไงให้ตัวเราเองกลายเป็นคนที่ชอบฝึกภาษามีนิสัยชอบฝึกภาษาอย่างสม่ำเสมอ โดย ที่ ตัว เอง ไม่ รู้ ตัว รู้ ตัว อีก ที นึง ก็ คือ กลาย เป็น คน ที่ ชอบ ฝึก ภาษา อังกฤษ ไป เสร็จ แล้ว นะ ครับ อย่าง แรก ครับ ก็ คือ ทำ ให้ ชัด เจน เรา จะ ทำ ให้ การ ฝึก ภาษา เป็น เรื่อง ที่ ชัด เจน ได้ อย่าง ไง นะ ครับ ผม ต้อง บอก อย่าง นี้ นะ ครับ ว่า การ ที่ เรา จะ สามารถ ทำ ให้ การ ฝึก ภาษา มัน เป็น เรื่อง ที่ ชัด เจน ได้ นะ ครับ อย่าง แรก เลย คือ เรา ต้อง ทำ ให้ มัน ง่าย นะ ครับ ถ้า สมมุติ ว่า เรา นะ ครับ บอก โดย การ เปิด ดู หนัง เปิด ดู ซีรีส์ อ่าน หนัง สือ อะไร แบบ นี้ เป็น ต้น นะ ครับ เพื่อ เป็น การ ฝึก ภาษา อังกฤษ ถ้า เกิด เรา พูด ออกมา ปาก เปล่า ครับ มัน ก็ เป็น เพียง แค่ คำ พูด ลม แรง ฉะนั้น นะ ครับ เรา ต้อง ทำ ให้ มัน ชัด เจน มาก ยิ่ง ขึ้น โดย การ ระบุ วัน และ เวลา ลง ไป ด้วย อาทิเช่น ฉัน จะ ออก กำลัง กาย ทุก วัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 9 โมง ถึง 11 โมง นี่ คือ การ ระบุ วัน และ เวลา ลง ไป ด้วย การที่เรากำหนดวันและเวลาในการทำเนี่ยนะครับ มันจะทําให้ตัวเราเองเนี่ยนะครับ มีโอกาสในการทําสิ่งเนี้ย มากกว่าการพูดออกไปปากเปล่านะครับ ว่าฉันจะฝึกภาษาอังกฤษ ฉันจะออกกําลังกาย ฉันจะฝึกภาษาอังกฤษ ฉันจะออกกําลังกาย พูดไปปากเปล่าครับ คือเราก็ไม่มีวันเมคชัวร์กับตนเองได้อ่ะ ว่าเราจะฝึกมันไหม เราจะทํามันไหม แต่การระบุลงไปอ่ะครับว่า ทําวันนี้เวลานี้ มันเป็นการทําให้ชัดเจนมากยังขึ้น แล้วเราก็มีโอกาสจะทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทำแบบนี้นะครับผมเชื่อนะครับว่าหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินมาแล้วนะครับ ก็คือการเขียน To-Do List นั่นแหละนะครับว่าวันนี้ฉันจะทำอะไรไม่ทำอะไรนะครับ แต่ผมมีความรู้สึกว่าสิ่งที่มันน่าสนใจนะครับก็คือในนักศึกอัลตามิก Habit เนี่ยนะครับ เขาให้เราได้เรียนรู้จิตวิทยาตัวหนึ่งนะครับที่ชื่อว่า De-Draw Effect De-Draw Effect คืออะไร De-Draw Effect คือการต่อเติมจากสิ่งเดิมๆที่มีอยู่ เช่นถ้าเกิดสมมุติว่าวันนี้ เราซื้อเสื้อมาตัวหนึ่ง เรามีแนวโน้มนะครับว่า เราจะหากางเกมอีกสักตัวหนึ่ง เพื่อเอามาแต่งให้มันแมชกับเสื้อตัวนี้ แล้วพอเราได้กางเกมมาแล้ว มันก็มีแนะนวงนะครับว่า เราจะหารองเท้าอีกสักคู่นึง เพื่อมาแต่งให้เข้ากับชุด เสื้อเรา กางเกงเรา อะไรแบบนี้เป็นต้น มีใครเป็นแบบนี้เหมือนกันไหม พอซื้อหนึ่งอย่าง เดี๋ยวอย่างที่สอง อย่างที่สาม มันจะตามมาเองโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้นี่แหละครับ ที่เรียกว่า De-Draw Effect มันคือการต่อเติมจากสิ่งเดิมที่มีอยู่ แล้ว ไอ้จิตวิญญาตัวนี้มันน่าสนใจอย่างไร มันน่าสนใจตรงที่ว่า ถ้าเกิดเราเอาจิตวิญญาตัวนี้มาปรับใช้กับการฝึกนิสัยภาษาอังกฤษ มันจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากครับ ผมเข้าใจครับ ผมเป็นหนึ่งคนที่เคยพยายามแล้วครับ การพยายามเขียน To-Do List ว่า ฉันจะฝึกภาษาอังกฤษวันนี้เวลานี้ตอนกี่โมง มันเขียนได้ครับ แต่พอถึงเวลาที่จะต้องลงมือทำจริงแล้ว บางครั้งบางทีมันก็ขี้เกียจทำเหมือนกัน นึกออกป่ะ คือผมเข้าใจคนที่ฝึกภาษาอังกฤษเหมือนกันว่า เราลองมาทุกวิถีทางแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ ฉะนั้นถ้าเกิดเราเอาจิตวิญญาณตัวนี้มาปรับใช้ในชีวิตเรา มันจะเป็นแบบนี้ครับ อย่างตัวผมเองนะครับตื่นมาตอนเช้าชอบกินกาแฟเป็นกาแฟร้อนพอผมชอบกินกาแฟนะครับสิ่งที่ผมมักจะทำควบคู่ไปกับการกินกาแฟโดยปกติเลยนะคือการดู youtube เล่นมือถือเล่น tiktok ถ่ายไปเรื่อยๆกินกาแฟไปถ่ายไปกินกาแฟไปถ่ายไปเพียงแค่เราเอานิสัยเดิมที่มีอยู่มาบวกกับนิสัยใหม่ซึ่งก็คือนิสัยการฝึกภาษา เราก็จะได้ผลลัพธ์ใหม่ๆ จากเดิมครับ กิจวันของผมคืออะไรครับ นิสัยเดิมของผมคือ ชอบกินกาแฟ เอานิสัยที่ตัวเองชอบมาบวกกับนิสัยใหม่ คือการฝึกภาษาอังกฤษ จากเดิมผมกินกาแฟไป ถ่าย tiktok ไป ผมเปลี่ยนครับ เปลี่ยนมาเป็นกินกาแฟไป ฟังหรืออ่านภาษาอังกฤษไป เฮ้ย กิจวัตรการกินกาแฟทำทุกวันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมานั่งเขียน To-Do List ด้วยว่า ทำเวลานี้เท่านี้ทำทุกวันอยู่แล้ว ผมกินกาแฟทุกวันอยู่แล้ว คุณตื่นมาแปลงฟันทุกวันอยู่แล้ว อะไรที่มันทำทุกวันอยู่แล้วครับ ลอง add นิสัย ภาษา อังกฤษ เข้า ไป กับ สิ่ง ที่ ทำ ทุก วัน สมมุติ กิจวัตร ประจำ วัน ของ คุณ คือ ต้อง ขึ้น รถ ไฟ ฟ้า ทุก วัน อยู่ แล้ว จาก เดิม ที่ ขึ้น รถ ไฟ ฟ้า ใส่ หู ฟัง เปิด เพลง ลอง แบ่ง เวลา สัก 15 นาที เปิด content ภาษา อังกฤษ ฟัง อะไร แบบ นี้ เป็น ต้น คีย์ สำคัญ ก็ คือ นิสัย เดิม บวก นิสัย ใหม่ ของ การ ฝึก ภาษา อังกฤษ แล้ว พอ เรา ทำ แบบ นี้ ไป เรื่อย ครับ เรา แทบ จะ ไม่ ต้อง ถ้าหากว่า พายเคยลองวิธีแบบนี้มาแล้ว ผมอ่ะ เคยลองมาแล้ว ต้องมานั่งเขียน To-Do List มันไม่เวิร์คว่ะ ลองเปลี่ยนมาแบบนี้ มันเวิร์คครับ ผมลองมาแล้ว มันเวิร์คจริง นะครับ แล้วก็อย่างที่ 2 ก็คือ ทำให้หน้าดึงดู ทำให้หน้าดึงดูในที่นี้นะครับ มันจะมีอยู่ 2 อย่างหลักๆ ก็คือ ภายในกับภายนอก อย่างที่บอกว่า ภายในก็คือ มันคือการค้นหาวายของตนเอง ว่า เราจะทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร เราทำไปทำไม แต่ภายนอกก็คือ เราเอานิสัยที่ทําให้เรามีความสุข มาบวกกับนิสัยในการฝึกภาษา นิสัยที่ผมชอบมากมาก มีอยู่สองอย่าง คือชอบกินกาแฟ ชอบฟังสัมภาษณ์ ผมแอดนิสัยที่สามเพิ่มเข้าไป คือภาษาอังกฤษ จากเดิมที่ผมกินกาแฟฟังสัมภาษณ์แล้วก็จบ ผมเปลี่ยนมาเป็นกินกาแฟฟังสัมภาษณ์ แต่ไม่ใช่ฟังสัมภาษณ์ธรรมดา เป็นฟังสัมภาษณ์แบบภาษาอังกฤษ เห็นอะไรไหมครับ ถ้าเกิดสมมติว่าผมต้องการทำให้สิ่งนี้นะครับ นิสัยในการฝึกภาษาอังกฤษมันน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น การที่ผมเปลี่ยนจากการฟังสัมภาษณ์ภาษาไทย คนไทยไปนั่งฟังสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ แล้วเดี๋ยวนี้ youtube เขาจะมีตัว subtitle นะครับ ที่ ออกมาเป็นตัวภาษาอังกฤษก็ได้ หรือจะท่านสเลทออกมาอัตโนมัติเป็นภาษาไทยเลยก็ได้ ในช่วงเริ่มต้นผมก็ฟังเป็นภาษาไทยไปก่อน แล้วก็สลับกับภาษาอังกฤษ กดสลับไปอย่างนี้นะครับ มันไม่เสียหาอะไร ถ้าแบบนี้ทุกๆวัน มันเกิดขึ้นก็คือครั้งสับใหม่ๆ มันเกิดขึ้นในหัวผม และผมก็ไม่รู้สึกนะครับว่า มันเป็นการฝืนตัวเอง มันจะคล้ายๆ กับตัวจิตวัยา Diderot Effect นะครับ แต่ Diderot Effect มันก็คือการที่เราเอานิสัยเดิมมาบวกกับนิสัยใหม่ แต่การทำให้หน้าดึงดูดก็คือ เอานิสัยที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆ มาบวกกับภาษาอังกฤษ คุณชอบดูหนังอยู่แล้ว คุณเปลี่ยนดูหนังภาษาอังกฤษ อ่านซักภาษาอังกฤษ คุณชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว คุณเปลี่ยนจากหนังสือที่สมมติว่าหนังสือเล่มนี้คุณอ่านจบไปแล้วนะ มันเป็นนังสือแบบแปรไทย คุณไปซื้อนังสือภาษาอังกฤษ แล้วลองมานั่งอ่าน อะไรแบบนี้เป็นต้น เอานิสัยเดิมที่มีความสุขอยู่แล้ว มาเพิ่มกับภาษาอังกฤษเข้าไป แล้วมันจะน่าดึงดูด มันจะน่าทำมากยิ่งขึ้น อะไร แบบ นี้ เป็น ต้น นะ ครับ แล้ว ก็ อย่าง ที่ 3 ครับ ก็ คือ ทำ ให้ เป็น เรื่อง ง่าย สิ่ง นี้ จำเป็น แล้ว สำคัญ มาก ที่ สุด เลย นะ ครับ ใน การ ฝึก ภาษา อังกฤษ อัน นี้ ผม พูด ตรง ว่า มัน เป็น สิ่ง ที่ สำคัญ มาก คือ การ ฝึก ภาษา ที่ ดี ครับ ผม เชื่อ ว่า ทุก คน รู้ นะ ว่า มัน คือ การ ที่ เรา ได้ ใช้ มัน อย่าง ทุก วัน แล้ว ใช้ อย่าง ไม่ อ่า ด้วย อย่าง ผม เนี่ย ด้วย ความ ที่ สกิล ผม มัน อยู่ แบบ เลเวล 2 2.5 อย่าง นี้ การ ที่ เรา จะ ไปพูดต่อหน้าสาธารณะครับ มันก็เป็นเรื่องที่น่าอ่าน เราไม่ได้มีคลังสับขนาดนั้น ฉะนั้นนะครับ การที่เราอยู่ในประเทศไทยครับ เรามีโอกาสในการใช้ภาษาอังกฤษเนี่ย ได้ยากมากมาก เพราะว่า โดยทั่วไปเราก็พูดแต่ภาษาไทย โอกาสที่เราจะทําให้มันพูดได้ทุกวัน พูดได้อย่างสม่ําเสมอ มันเป็นเรื่องที่ยากมากมาก จึงไม่แปลกใจที่ถ้าเกิดใครอยากได้ภาษาอังกฤษแบบจริงจริงจังจัง ออกนอกประเทศ แล้วเราจะทํายังไง ให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ทุกทุกวัน แล้ว ไม่ อาย ด้วย ใน การ ใช้ สมัย นี้ มัน มี เทคโนโลยี นะ ครับ ที่ เรา สามารถ ฝึก ภาษา อังกฤษ กับ ได้ นะ ครับ ซึ่ง ใน แอป ที่ เรา สามารถ ใช้ ฝึก ภาษา อังกฤษ ได้ นะ ครับ ก็ คือ แอป elsa speak หลาย คน น่า จะ เคย เห็น แล้ว ก็ รู้ จัก แอป นี้ มา อยู่ แล้ว แหละ นะ ครับ เพราะ ว่า ครู หลาย คน หรือ ติวเตอร์ หลาย คน ที่ ดัง ใน ประเทศ เรา ก็ แนะ นำ แอป นี้ อยู่ บ่อย ครั้ง สาเหตุ ที่ ผม อยาก จะ พูด ถึง แอป elsa speak เนี่ย นะ ครับ คือ ผม พูด ตรง นะ ครับ ว่า การ ที่ เรา ได้ ฝึก ภาษา อังกฤษ กับ ai มันจะลดความค่าเขินของเราลงไปได้พอสมควร เราจะกล้าพูดมากยิ่งขึ้น เราจะกล้าออกเสียงมากยิ่งขึ้น แล้วด้วยความที่มันเป็น AI AI มันจะช่วยประมวลผลนะครับว่า เอ๊ะ เราออกคำนี้ผิดนะ ลองออกใหม่ โดยเน้นเสียงตัวนี้มากยิ่งขึ้นซิ เราจะมีกำลังใจในการฝึกมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญมันเป็นเรื่องที่ง่ายครับ และมันไม่น่าอาย การที่ออกไปพูดข้างนอกมันน่าอาย แล้วพอเราสบายใจ เราไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่ยาก เราจะทำมาได้นาน และทำมันได้อย่างสม่ำเสมอ ในหนังสือ Atomic Habits นี้นะครับ ผู้ เขียน เขียน เอา ไว้ นะ ครับ ว่า นิสัย ดี มัน ไม่ ได้ เกิด ขึ้น จาก ระยะ เวลา แต่ เกิด ขึ้น จาก ความ ถี่ ใน การ ทำ น่า หมาย ความ ว่า ยัง ไง ครับ น่า หมาย ความ ว่า ถ้า เกิด สมมุติ ว่า คุณ อยาก จะ ฝึก นิสัย ภาษา อังกฤษ คุณ ฝึก ให้ ตาย เป็น ปี 2 ปี 3 ปี หรือ บาง คน ฝึก มา ทั้ง ชีวิต ก็ ยัง ไม่ เก่ง ก็ ยัง ไม่ สามารถ ที่ จะ ใช้ ภาษา อังกฤษ ได้ มัน ไม่ ใช่ นิด แปลก ครับ เพราะ นิสัย ดี มัน ไม่ ได้ เกิด ขึ้ เพียงแค่ 1 ปี 2 ปี มองคุณได้ผลลัพธ์ดีกว่าคนที่ฝึกมันเป็น 10 ปี เพราะว่าอะไร เพราะเขามีความถี่ในการทำ เขาใช้ประสาทได้อย่างสม่ำเสมอ แล้วตัวช่วยที่มันจะทำให้เราสามารถฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างสม่ำเสมอ โดยที่เราไม่ต้องอายใคร มันก็คือตัวแอป ELSA Speak ซึ่งเดี๋ยวผมจะทำให้ดูนะครับว่าตัวแอปนี้มันใช้อย่างไง โอเคครับ ตอนนี้เราก็อยู่ในแอปของตัว ELSA Speak แล้วนะครับ ซึ่งตัววิธีการฝึกผู้ภาษาอังกฤษกับ AI นะครับ เราก็กดไปตรง Discover หรือภาษาไทยก็คือตรงคำว่าค้นพบนะครับ แล้วเราจะเห็นว่ามุมซ้ายบนมีคำว่า ELSA AI เราก็กดเข้าไปครับ เห็นไหมครับว่าเขาก็จะมีการให้เราเลือกนะครับว่าเราจะ Roll Pay เล่นเป็นอะไร จะคุยกันด้วยบทสนุนทนาแบบไหนนะครับ สมมติว่าผมเลือกเป็น Interview introduce yourself then answer their questions to the best of your ability เห็นไหมครับ เขาก็จะมีการบอกนะครับว่า เอ้ย situation เราจะคุยกันใน Zoom Call นะ อะไรอย่างนี้เป็นต้นนะครับ แล้วเขาก็จะมีการเขียนขึ้นมานะครับ ให้เราลองไกลพูดตามเขานะครับ เราก็ลองพูดไปนะครับ แต่พูดไปว่า Hello, it's great to meet you. Thank you for taking the time to meet with me today. Can you tell me a little bit about your background? ทีนี้เราก็จะเป็นการโต้ตอบกันนะครับ ทีนี้สำหรับคนที่ อ่า skill ภาษาอังกฤษไม่ได้แข็งแรงไม่ได้เข้มแข็งอะไรแบบผมเนี่ยนะครับ แล้วอยากจะลองฝึกพูด conversation กับตัว AI เนี่ยนะครับ เขาก็จะมีคำใบ้บอกเรานะครับว่า เฮ้ยพออีกฝ่ายนึงถามเรามาแบบนี้แล้วเนี่ย เราควรตอบไปใน Direction ประมาณไหน โดยการกดปุ่มทางด้านขวาล่างนะครับ ก็คือตัวรูปหลอดไฟ จะเป็นคำใบ้ขึ้นมาให้กับเรา แบบนี้นะครับ แล้วเราก็ดูนะครับว่า เฮ้ย เราอยากจะพูดอันไหนดีนะครับ สมมุติผมอยากจะพูดอันแรกสุดนะครับ ผมก็เลือกแล้วว่า จะพูดอันแรกผมก็กดไป Sure, I have experience in marketing and sales and also perfection in MS office. And Adobe Creative Suite อ่ะ ผมออกเสียงผิด มันก็จะกลายเป็นซูนไป เห็นไหมครับ Can you tell me about it มันก็จะเป็นการฝึกต้อตอบกันไป ต้อตอบกันมาแบบนี้เนี่ยนะครับ ซึ่งถ้าเกิดสมมติว่าเราชำนาญในภาษาอังกฤษเพิ่มมากยิ่งขึ้นนะครับ เราก็ไม่ต้องกดคำใบ้เป็นแบบวิธีการตอบของเรา แต่ถ้าเกิดสมมติว่าใครยังภาษาอังกฤษไม่แข็งแบบผมเนี่ยนะครับ ก็มาเลือกดูนะครับว่าเราจะตอบประมาณไหนดี แล้วก็ออกเสียงตามพูดตามนะครับ หรือถ้าเกิดเรารู้สึกว่า conversation มันควรจบแล้วนะครับ เราก็ อ่า แตะไปว่า คอนเวอร์เซชน์ Well done! We are computing your feedback. พอเราจบบทสนทนายนะครับ เขาก็จะมีสรุปมาให้เรานะครับว่า เฮ้ย เราควรทำอะไรต่อ อะไรที่เราทำได้ดี Skill ประสานกิจเราเป็นยังไง อัลภัยแบบนี้เป็นต้นนะครับ ซึ่งก็สามารถไปลองเล่นกันดูได้ เพราะว่าอย่างที่บอกเขาว่า ถ้าเกิดเราได้ฝึกใช้ประสานกิจ คืออย่างไอ้ตรงเนี่ย อย่างคนที่ไม่เก่งประสานกิจแบบผมเนี่ยครับ แค่ได้ฝึกอ่านสิ่งที่ AI ป้อนมา ว่าเขาถามเราประมาณไหน แล้วเราฝึกพูด ฝึกเลือกใช้คำตอบ ตอบ AI ไปว่าเราจะตอบไป Direction ไหน มันทำให้เรามองเห็นภาพรวมขึ้นมากนี้ขึ้นนะครับว่า เวลาที่เราใช้แบบภาษากันจริงๆ คุยกับคนต่างชาติจริงๆ Direction มันจะออกมาประมาณไหน ทิศทางที่เราควรพูด คำศัพท์ที่เราควรใช้ มันจะมาในรูปแบบประมาณไหน แล้วพอเราฝึกไปเรื่อยๆ ครับ เรามีความชำนาญมากเท่าไหร่ สิ่งที่มันตามมาก็คือ เราจะไม่ต้องกดดูคำใบ้ เราก็จะสามารถพูดได้โดยอัตโนมัติ แบบชิลๆ สบายๆ แล้วก็นิสัยที่ 4 ครับ ก็คือ ทำให้น่าพึงพอใจ ต้องยอมรับตามตรงนะครับว่า การที่เราจะทำนิสัยอะไรต่อหรือไม่ทำนิสัยอะไรต่อ มันขึ้นอยู่กับตรงนี้เหมือนกันนะ โดย Nature ปกติของมนุษย์นะครับ มนุษย์เราเป็นสัตว์ที่ทำอะไรบางอย่างแล้วต้องการเห็นผลลัพธ์เลยทันที นั่นจึงไม่แปลว่าทำไม Social Media ถึงประสบความสำเร็จ เพราะเราโพสต์รูปลงไปปุ๊บ เราก็ได้ Feedback กลับมาโดยทันทีเป็นยอด Like ยอด Share ยอด Comment อย่างเว้นที่เขาติดบุรีสุบุรีนะครับ เขาก็ ต้องการสารบางอย่างจากบุรีนั้นเข้ามาในร่างกายโดยทันที เห็นไหมว่าคนทุกคนทำอะไรบางอย่างแล้วต้องการผลลัพธ์โดยทันที ฉะนั้นนะครับ ถ้าหากว่าเราต้องการที่จะมีนิสัยอะไรบางอย่างขึ้นมาในชีวิตนะครับ การที่เราทำอะไรบางอย่างไปเห็นผลลัพธ์เลยทันที มีแนวน้มสูงครับว่าเราจะทำนิสัยนั้นต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทางตัวแอปเอลซ่านะครับ เขาก็มีการให้คะแนนเรานะครับว่า เราพูดออกมาเป็นยังไง ต้องแก้ไขการออกเสียงตรงไหน เพื่อ ให้ เรา มี กำลัง ใจ มาก ยิ่ง ขึ้น ใน การ ฝึก ภาษา ต่อ ไป ฉะนั้น เดี๋ยว ผม ทำ ให้ ดู นะ ครับ อาจ ฝึก นะ ครับ ใน การ พูด ใน การ ฟัง ใน การ ออก เสียง นะ ครับ แล้ว ให้ ไอ เขา ช่วย เรา ตรวจ สอบ นะ ครับ ว่า เรา พูด อะไร ไป ควร จะ ต้อง แก้ ตรง ไหน ปรับ ตรง ไหน นะ ครับ ซึ่ง เนี่ย ผม จะ ลอง ทำ ให้ ดู นะ ครับ เรา กด มา ตรง ที่ ฝึก ฝน บท เรียน ประจำ วัน ลีด ลืม ออก เสียง ตัว ดี นะ ครับ ซึ่ง เรา สามารถ กด ตัว สี แดง เพื่อ ดู feedback ได้ นะ ครับ ออกมา นะ พอ เพิ่ม ตัว ดี ขึ้น มา ปุ๊บ นี่ มัน ก็ จะ เปลี่ยน เป็น 94% ซึ่ง สิ่ง ที่ ผม ชื่น ชอบ แล้ว ก็ ชื่น ชม ตัว แอป เอลซ่า นะ ครับ คือ เขา ค่อย จะ ฟัง แล้ว ก็ คำนวณออกมาได้ตรงกับความเป็นจริง อย่างตะแกะผมลืมออกตัวดีมันก็บอกมาตรงๆ แล้วว่าลืมออกตัวดีแล้วพอผมเพิ่มดีไปนิดนึงมันก็ขึ้นเลยนะครับ ว่าคุณเพิ่มดีมาแล้วมันก็ค่อยจะตรงกับความเป็นจริงครับ อันเนี่ยมันเลยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมเมคชัวร์นะครับว่าเราสามารถที่จะใช้แอปเนี่ย ในการฝึกภาษาได้จริงๆ โดยที่เราไม่ต้องออกไปพูดข้างนอกให้แบบว่าเราเขินคนนะ สรุปนะครับ ก็คือถ้าเกิดว่าเราอยากจะฝึกภาษาอังกฤษเนี่ยนะครับ แน่นอนว่าเราต้องทำ 4 อย่างหลักๆ เพื่อให้มันเกิดนิสัยฝึกภาษาอังกฤษ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอย่างแรกก็คือ ทำให้ชัดเจน ทำให้น่าดึงดูด ทำให้เป็นเรื่องง่าย และทำให้น่าพึงพอใจ ถ้าเกิดเราอยากจะฝึกนิสัยอะไรครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาอังกฤษก็ได้นะ ทุกๆ นิสัยในชีวิต ทุกๆ เรื่องในชีวิต ถ้าหากว่าเราอยากทำมันอย่างสม่ำเสมอ มันจำเป็นต้องมีปัจจัย 4 อย่างนี้ อยู่ในการกระทำของเรา แล้วถ้าเกิดสมมติว่าใครอยากจะได้เครื่องมือนะครับ ในการช่วยทำให้ตัวเราเองฟึกภาษาอังกฤษได้ง่าย แล้วสะดวกมากยิ่งขึ้น ผมก็เลยอยากจะฝาก ตัวแอปของ ELSA Speak เอาไว้นะครับ ฉะนั้นนะครับ ถ้าเกิดว่าใครอยากจะใช้ฟังก์ชันที่ผมเพิ่งใช้ให้ดูไปเมื่อกี้ ก็คือฟังก์ชันของการฝึกฝนแบบประจำวัน ก็สามารถสมัครแพ็คเกจ ELSA แบบเราได้ แต่ถ้าเกิดว่าใครอยากจะฝึกวิธีในการพูดภาษาอังกฤษกับ ELSA AI ก็สามารถอัปเกรดมาเป็น ELSA แบบพรีเมียมได้นะครับ เพราะทุกๆ อย่างครับ ถ้าเกิดว่าเราอัปเกรดมาเป็นแบบ ELSA Premium เราจะสามารถใช้ทุกๆ ฟังก์ชัน แล้วก็สามารถใช้ฟังก์ชันของตัว Pro ได้เช่นเดียวกัน และยังมีเบนฟิตอื่นๆ อีกมากมายครับ ที่อยู่ในเว็บของ ELSA Speech Analyzer ซึ่งสิ่งที่ทุกคนเห็นในคลิปวิดีโอนี้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกภาษาอังกฤษกับตัว AI ผ่านการพูด หรือจะเป็นการฝึกภาษาอังกฤษแล้วก็นั่งดูนะครับว่า เฮ้ย เราพูดตรงไหนผิด เราพูดตรงไหนติดๆ ขัดๆ อะไรอย่างนี้นะครับ ทั้งหมดทั้งหมดเนี่ยครับ ผมใช้เป็นตัว Package แบบ Premium นะครับ ผมมีความรู้สึกส่วนตัวนะครับ อันนี้มันเป็นโรคจิตส่วนตัว ผมรู้สึกว่าถ้าเกิดเราอยากจะฝึกนิสัยอะไรสักอย่าง หรือเราอยากจะบังคับให้ตัวเองทำอะไรบางอย่าง การที่เราจ่ายเงินเพื่อบังคับตัวเองทำสิ่งนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งจิตวิญญาณที่ผมใช้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตัวเองเห็นว่า เฮ้ย ฉันจ่ายเงินไปแล้วนะ ฉะนั้นเมื่อจ่ายเงินไปแล้ว ต้องทำอะไรบางอย่างกับของที่ได้กลับมา เพื่อทำให้ของของเนี่ยมันคุ้มค่าแก่การจ่ายเงินไปมากที่สุด ซึ่งถ้าเกิดสมมติว่าใครอยากจะใช้ตัวแอป Elsa Speak แบบ Premium แบบที่ผมใช้เนี่ยนะครับ แล้วมีความรู้สึกว่า ราคามันค่อนข้างจะแพงไปสักนิดนึงนะครับ ทุก คนที่มาจากช่องผมเนี่ยนะครับ สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้นะครับ ซึ่งก็คือโค้ด FOLK นะครับ F O L K แล้วทุกคนที่มาจากช่องผมก็จะได้ส่วนลดกลับไป 50% เมื่อลงทะเบียนสมัครในเดือนเมษายนนะครับ ฉะนั้น ถ้าเกิดว่าใครสมัครแอป ELSASpeak ภายในเดือนนี้ แล้วใช้โค้ดของผมเนี่ย ได้ส่วนลดไปเกือบ 50% เลยนะครับ ฉะนั้นก็อวังว่าทุกคนจะแฮปปี้กับการฝึกประสานกรีตผ่านตัวแอป ELSASpeak นะครับ ซึ่ง เดี๋ยว ลิงค์ ใน การ สมัคร นะ ครับ หรือ ว่า โค้ด ต่าง เนี่ย นะ ครับ เดี๋ยว ผม จะ ทิ้ง เอา ไว้ ให้ ข้าง ใต้ description หรือ ทาง ใต้ comment นะ ครับผม ก็ หวัง ว่า คลิป วีดีโอ นี้ จะ เป็น ประโยชน์ ต่อ เพื่อน พี่ ทุก คน ที่ ติด ตาม ผม นะ ครับ ถ้า เกิด ชอบ คลิป นี้ อย่า ลืม กด like กด แชร์ กด subscribe แล้ว กด กระดิ่ง เอา ไว้ ให้ ด้วย แล้ว เจอกัน ใหม่ คลิป วีดีโอ หน้า สำหรับ วัน นี้ สวัสดี ครับ บ๊าย บาย