กลยุทธ์แบรนด์ยืดเปล่าในไทย

Summary

• การสัมภาษณ์นี้เน้นเส้นทางการสร้างแบรนด์ "ยืดเปล่า" จากตลาดนัดสู่ธุรกิจแฟชั่นที่สร้างยอดขายระดับพันล้านภายใน 6-7 ปี โดยมีจุดแข็งคือสินค้าคุณภาพ-ราคาตลาดกลางและการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน
• คุณตอน (เจ้าของแบรนด์) ได้แบ่งปันประสบการณ์ ความผิดพลาด วิธีคิด และกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตและแตกต่างในตลาดแข่งขันสูง
• มีการเน้นบทเรียนเกี่ยวกับการสร้าง Hero Product, การฟังเสียงลูกค้า, การสร้างวัฒนธรรมองค์กร และการพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นแบรนด์ระดับ Global
• หัวข้อสำคัญ ประกอบด้วย กลยุทธ์ตลาด จุดต่างของแบรนด์ การขยายธุรกิจ ระบบหลังบ้าน และทัศนคติของผู้ประกอบการไทย

Action Items

• (ไม่มีวันครบกำหนด-เจ้าของแบรนด์/คุณตอน): พัฒนาสินค้าและระบบต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดไปสู่ Total Look และเตรียมขยายสู่ตลาดต่างประเทศในอนาคต
• (ไม่มีวันครบกำหนด-ทีมงานยืดเปล่า): เก็บและวิเคราะห์ Feedback จากลูกค้าเพื่อใช้ในการพัฒนา Product Line ใหม่และปรับปรุงบริการ
• (ไม่มีวันครบกำหนด-ฝ่าย HR/ทีมบริหาร): Upskill พนักงาน สร้าง Culture องค์กรที่เน้นความรวดเร็ว กล้าลองผิดลองถูก และเปิดรับ Feedback
• (ไม่มีวันครบกำหนด-ทีมพัฒนา/ฝ่าย IT): ศึกษาและนำระบบ Automation และ AI (เช่น GPT) มาใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในองค์กร

ประวัติและเส้นทางผู้ก่อตั้ง

• คุณตอนเริ่มต้นจากการเป็นลูกชาวตลาด ขายของรับมาขายไปจนเริ่มมีทุนและหันมาทำแบรนด์ของตัวเอง
• ประสบการณ์ทั้งล้มเหลวและประสบความสำเร็จหลายรูปแบบ เช่น ขายสินค้าตลาดนัด สร้างแบรนด์กางเกงบ็อกเซอร์ ก่อนจะมาลงตัวที่แบรนด์เสื้อยืด
• ผ่านจุดเปลี่ยนทางชีวิตจากการเป็นเด็กเกเร สะสมประสบการณ์จนเข้าใจตลาด กลุ่มลูกค้า และต้นทุนการผลิตอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์

• เน้นจุดเด่น “ไม่ย้วย ไม่เสียทรง” เป็น Hero Product ที่แตกต่างในตลาด พร้อมสโลแกนตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
• การเลือกตั้งราคาตลาดกลาง (100 บาท) สร้างจุดยืนระหว่างตลาดนัดและ Global Brand
• รวบรวม Feedback ลูกค้า และออกแบบสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มนักศึกษาและ First Jobber
• สร้างสีสันและดีไซน์ที่แตกต่าง เช่น สี pastel, earth tone ซึ่งตลาดยังขาด
• ขยาย Product Line จากเสื้อยืดสู่โปโลและเสื้อผ้าหลากหลายทรง รวมถึงการตั้งราคาผลิตภัณฑ์พรีเมียมเพื่อเพิ่ม Margin

การบริหารจัดการและวัฒนธรรมองค์กร

• ให้ความสำคัญกับ Customer Service แก้ไขข้อผิดพลาดโดยยอมเสียต้นทุนในบางกรณีเพื่อรักษาใจลูกค้า
• ใช้ Feedback ลูกค้าเป็นโจทย์ในการพัฒนาสินค้าและบริการ
• สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่กล้าลองผิดลองถูก เปิดรับความคิดเห็น และเคารพความหลากหลาย (เช่น ให้เด็กฝึกงานเสนอไอเดีย/ทำโปรเจกต์)
• หัวข้อสำคัญด้านการพัฒนาองค์กร เช่น การพัฒนาระบบหลังบ้าน การใช้ Automation/AI, การ Upskill พนักงาน

กลยุทธ์การขยายธุรกิจ

• ขยายสาขารวดเร็วช่วงโควิดเมื่อคนอื่นหยุดนิ่ง มองเป็นโอกาสมากกว่าความเสี่ยง
• เน้นการขยายทั้ง Brick and Mortar และช่องทางออนไลน์ เพื่อครอบคลุมฐานลูกค้าทั่วประเทศ
• วัดผลสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง หากไม่เวิร์คให้ปิดทันที
• Diversify Product จาก feedback ลูกค้าและศึกษาตลาดก่อนลงทุนไลน์ใหม่

ทิศทางและเป้าหมายในอนาคต

• ต้องการขยายแบรนด์ให้กลายเป็น Total Look Brand (ไม่ใช่แค่เสื้อยืด)
• ต่อยอดสู่นวัตกรรมสินค้าและระบบ สู่การแข่งขันกับ Global Brand
• เตรียมพร้อมเข้า IPO, พัฒนาระบบให้แข่งขันในระดับมืออาชีพ
• มุ่งสร้างแบรนด์ไทยที่เติบโตใน South East Asia และเตรียมรุกต่างประเทศในอนาคต (3-5 ปี)

บทเรียนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ

• มีเป้าหมายใหญ่ กล้าทำตัวเองให้ "อึดอัด" เพื่อผลักดันการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• Hero Product และความแตกต่างเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโต
• ให้ความสำคัญกับระบบและ Culture องค์กร
• เรียนรู้จากความผิดพลาดและกล้ายอมรับเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น
• เน้นการ reinvest เพื่อการเติบโต มากกว่านำกำไรไปใช้ส่วนตัว

Decisions

• เน้นจุดขาย “ไม่ย้วย ไม่เสียทรง” เป็น Hero Product — เพื่อสร้างจุดต่างในตลาดและทำให้สินค้าเป็นที่จดจำง่าย
• ขยายธุรกิจช่วงวิกฤติ (โควิด) — มองเป็นโอกาสสร้างความได้เปรียบด้านช่องทางจำหน่ายและการรับรู้แบรนด์
• เพิ่ม SKU/ไซส์ในผลิตภัณฑ์โปโล — แม้ต้นทุนสูงขึ้นแต่ช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างความประทับใจ

Open Questions / Follow-Ups

• การนำระบบ/เทคโนโลยีใหม่เข้ามา เช่น AI, Automation มี timeline หรือ milestone ที่ชัดเจนหรือไม่
• แผนการรุกตลาดต่างประเทศหลังจากตั้งหลักในไทยครบ 3-5 ปี มีเป้าหมายหรือประเทศนำร่องที่ชัดเจนอย่างไร
• กลยุทธ์การเข้าตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และการเตรียมความพร้อมขององค์กรในระยะ 2-3 ปีข้างหน้ามีแผนชัดเจนหรือไม่