Transcript for:
สรุปบรรยายเกี่ยวกับดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอ

เร็วเนาะกันยามาแบบไม่ให้ครูได้ชื่นชมถึง บรรยากาศของ September เลยโอเคค่ะเรียบ ร้อยแล้วก็วิดีโอกูก็โพสต์ไว้ให้แล้ว เนาะถ้าูไม่ทำงานอะไรพลาดไปโอเค ปึ๊บเอา ล่ะเมื่อวานเราเรียนเกี่ยวกับอะไรนะคะครู ต้องบอกกับเด็กๆไว้ก่อนว่าความเร็วของการ พูดของครูจะพูดแบบเหมือนเร็วเพิ่มขึ้น เรื่อยๆเนาะเพราะว่าอันนี้มันเป็นพื้นฐาน ไงแล้วก็เวลาเราเรียนชีวโมเลกุลหรือว่า ชีวะหรือแม้กระทั่งเคมีก็ตามค่ะเด็กๆ ฟอร์มกับฟังก์ชันต้องไปด้วยกันคำว่าฟอร์ม ก็คือตัว Structure ตัวโครงสร้างมันจะ ต้องล้อไปกับหน้าที่นะคะมันจะไม่มีบิด พริ้วไปจากนั้นดังนั้นถ้าเราเข้าใจตัว สมบัตของมันเนี่ยเนาะแบบเข้าใจจริงๆอ่ะ อาจจะอาศัยการท่องจำบ้างแหละนะคะก็จะทำ ให้เราสามารถที่จะอธิบายอีกหลายๆ ปรากฏการณ์นะที่จะเกิดขึ้นได้นะคะอ่ะที นี้เมื่อวานอาจารย์จบไปที่ตรงส่วนของ สมบัติของ DNA ใช่มยแล้วะเล่นมุฟอะไรก็ ไม่รู้เนาะสมบัติของ DNA ไม่ได้ว่ายากจน หรืออะไรยังไงเนาะเราบอกว่า DNA เนี่ยเขา สามารถที่จะเนอรใช่มั้ยคะได้ทีนี้เราต้อง นิยามได้ค่ะว่า DNA เนอรคืออะไรอยู่ใน สภาพไหนอ่าครูก็ให้คีย์เวิร์ดไว้แค่ว่า จาก Double str กลายเป็นเป็น Single SP ใช่ไหมยคะแล้วพวกเราก็ตอบมาเสียงดังฟัง ชันว่ามันก็คือการทำลายพันธะอะไรนะพันธะ ไฮโดรเจนของ DNA ถูกมั้ยคะมี 2 ปัจจัย เนาะในชีที่ทำลายบรรทไฮโดรเจนได้ก็คือ ความร้อนแล้วครูก็ถามเราว่าเฮ้ยความร้อน เท่าไหร่นะที่มันทำลายพันธะไฮโดรเจนได้ ประมาณเกือบ 100 องศา 90-100 องศถูกมยคะ อ่าหลังจากนั้นูก็บอกเฮ้ยนอกจากตัวความ ร้อนแล้วเนี่ยตัวอุณหภูมิมันก็ยังมีอีกนะ ก็คือค่าความเป็นหมดเป็นดาบใช่มั้ยคะพก็ ถ้า DNA อยู่ในสภาพที่เป็นดาบเนาะพวก โซเดียมไฮดรอกไซด์นะคะเป็นเบสมากๆเนี่ยก็ จะทำลายพันธะไฮโดรเจนได้ทีนี้เมื่อมีคำ ว่า D nager นะคะเปลี่ยนตัว D เป็นตัว R นะ vater ก็มีเหมือนกันเกิดใหม่คำนี้หมาย ความว่าการที่ DNA สายเดี่ยวเนี่ยค่ะแยก กันไปละมันสามารถกลับที่มาจับกันได้ด้วย เบสผู้สมคำว่าเบสคู้สมเดี๋ยวเราจะได้ยิน บ่อยๆหลังจากนี้นะคะมันก็คือการที่เบส A จับกับเบส t แล้วก็ C จับกับ G ตามลำดับ โอเคนะอ่ะงั้นไปต่อเราจบไปที่สมบัติการ ดุดดืนแสกใช่มั้ยคะครูถามว่าสาายดีเเน่า จะมีสีมยครูถามเด็กไม่มีอ่าเพราะครูก็บอก ไปว่าเนี่ยไอ้ตัว DNA อ่ะนะมันจะดุดึแสง ได้ที่ประมาณ 260 นาโนเมตรนะคะไหนจำได้มย โปรตีนของอาจารย์ชนาการดุดดืนแสนได้ที่ เท่าไหร่นะมด Max 280 นาโนเมตรเนาะอย่าสับสนนะคะ DNA และ RNA ทั้งคู่คือกรดนิวคลีอิกถูกมั้ยคะ ดังนั้นตัวมด Max ของเค้าอ่ะอยู่ที่ 260 นาโนเมตรเด็กๆต้องไปนิยามได้มด Max คือ อะไรจำได้มั้ยมดเป็นตัวย่อของอะไรนะความ ยาวพื่นที่สารละลาย DNA ทำไมคะมีค่าการ ดูดกลืนแสงสูงที่สุดโอเคมะยมด Max เป็น ค่าเฉพาะของสารอาจจะเป็นของผลิตภัณฑ์อะไร ก็ได้ดเติมไปว่าเป็นค่าความยาวคลื่นของ จุดๆๆที่สารตัวนี้ใช่มดูดคืนแสงได้มากที่ สุดนะคะนิยามตรงนี้ต้องได้เนาะเดี๋ยวควิส มาแน่แต่จำไม่ได้ว่าแลบที่ 11 หรือ 12 นะ คะเพราะว่ามันเป็นพื้นฐานของการเอาไป เรียนแล้วให้เข้าใจสมบัติของสารของ โมเลกุลเลยได้นะอ่ะทีนี้ DNA ดุดกลืนแสง ที่ 260 ละแล้วตรงเนี้ยมันเกิดมาจาก สาเหตุอะไรนะคะถ้าเราไปพิจารณาโครงสร้าง ของนิวคลีโอไทด์แล้วเนาะเราจะพบว่ามันจะ มี conjugate ดับเบิล Bond อยู่ในไจีนัส Bas นี้อนุญาตให้ตีมือจิ๊กนะคะไม่ไม่ควร เขียนเบสนะนี้เป็นตัวอย่างดีไนโตรจีนัสเส นะคะที่ตรงเนี้ยมันจะเหมือนกับอิเล็กตรอน มันก็จะวิ่งอยู่ในวงนี้ดุดืนแสงในช่วง UV ได้ดีนะคะอ่ะดังนั้นลองถามลองลองค่อยๆ จินตนาการซิระหว่าง DNA สายคู่นะคะที่ เป็น Double strand DNA เนี่ยเนี่ยกับ DNA สายเดี่ยวที่เป็น Single strand DNA ตัวไหนน่าจะให้การดุดพืนแสงที่ 260 นาโนเมตรได้มากกว่ากันถ้าความเข้มข้นของ สารละลาย 2 อันนี้เท่ากันตามทันมั้ยเนี่ย กูมีสาลาอยู่ 2 หลอดนะคะความพนของ DNA เท่ากันเนาะอันนึง DNA อยู่ในฟอร์ม Double strand อีกอันนึงอยู่ในฟอร์ม Single strand คำถามคือคิดว่าหลอดไหนที่จะอ่าน ค่าดการดูดกแสนที่ 260 นาโนเมตรได้มาก กว่า กัน Single หรือ double single นะคะ เพราะว่าถ้าเราพิจารณาจากตัว conjugate Base ที่อยู่ใน n gus Base นี้ตัว Single strand เนี่ยแน่นอนว่ามันแยกสาย ใช่มั้ยคะไอ้ตัวเบสที่เราเรียนกันเมื่อ วานเนี่ยมันจะเหมือนกับเปิดออกสู่สาร ละลายเนาะลักษณะความอยู่ของเขาคมันจะ อิสระการโลคาของอิเล็กตรอนจะทำได้ดีกว่า และก็เหมือนกันค่ะถ้าูเทียบกับ นิวคลีโอไทด์อิสระเลยทีนี้ไม่ใช่สาย DNA ละเป็นสารละลายนิวคลีโอไทอิสระที่มีตัว เนื้อสารเท่าๆกันแน่นอนว่าตัวนิวคลีโอไท อิสระก็จะให้ค่ากันุหือแสงสูมขึ้นไปอีก นึกออกมยที่ความเข้มข้นเท่ากันนะคะย้ำ ความเข้มข้นเนี่ยปกติแล้วเนี่ยถ้าเกิด ความข้นมากขึ้นค่าการดูดินแสงก็จะเพิ่ม ขึ้นใดๆใช่มยแต่เนี้ยครูกำลังบอกว่า DNA ที่ต่างฟองกันน่ะค่ะและความเข้มข้นเท่าๆ กันแต่มันอยู่กันคนละรูปร่างคนละแบบนะคะ จะให้ค่าการดูดกนแสงต่างกันด้วยเนาะฝาก ตรงนี้ค่อยๆกลับไปตกพลึงกับตัวเองนะคะว่า อาจารย์สอนอะไรวะอ้าก็คือไอ้ข้อนี้แหละ Bas stacking นะคะ H L absorbance หมายความว่าการที่ตัว nus Base มันจับ กันอยู่เนี่ยทำให้ค่า absorb bant ที่ 260 นาโนเมตรเนี่ยลดลงค่ะแล้วก็ Single strand ก็จะมีค่าที่มากกว่าซึ่งจาก 2 ประโยคนี้นะคะก็จะเป็นไปตามกราฟนี้เลย กราฟนี้นะคะบอกค่าการถุดดึงแสงเนาะเอ่อ อันนี้ก็คือค่า a นั่นแหละโอเคมค่าหนหุ คือแสงก็ 0 จุด Something หรือว่าอาจจะ เป็น 1 จุดหรือ 2 จุดใดๆทีนี้ตัวนี้คือ อะไรคือค่าแลมด้านะคะแลมด้าหน่วยเป็น นาโนเมตรถูกมยหนูสแกนตั้งแต่มด 200 แล้ว ก็สแกนไปเรื่อยๆจนประมาณ 300 320 เดี๋ยว ในบก็จะได้ทำนะคะหนูจะเห็นว่าสาลาย 2 เส้นนี้เส้นนึงเป็น Single strand DNA นะคะอีกเส้นนึงเป็น Double helix DNA นะคะอ่าความเข้มข้นเหมือนกันแหละนะคะสแกน ไปปึ๊บสิ่งที่จะเห็นจากกราฟนี้มีอะไรบ้าง ข้อที่ 1 ค่ะมด Max ของเขาอยู่ที่ 260 นาโนเมตรนะคะข้อที่ 2 ก็คือถ้าสาลาย 2 หลอดนี้มันความเข้มข้นเท่ากันนะคะตัว Single strand จะให้ค่าการดูดคือแสงที่ มากกว่า Double strand เนาะลองลากไปตัด แกน y นะคะปาบเข้าให้ อ่ะได้นะท่านสไนี้นะคะสมบัติของ DNA ทีนี้เมื่อกี้ครูทิ้งไว้มีคำว่า lambda Max แล้วใช่มที่ต้องนิยามให้ได้ นะคะ lambda Max ของ DNA DNA D ler DNA V ler นะคะมาดูต่อก็คือตัวนี้ค่ะ melting temperature อุณหภูมิหลอกละลาย ของ DNA เฮ้ยมันคืออะไรตัวนี้จะเขียนด้วย คำว่า TM นะคะ melting temperature ก็ คืออุณหภูมิที่ทำให้ DNA จากสายธู เปลี่ยนเป็นสายเดี่ยวนะคะทีนี้เนี่ยเวลา เรานิยามกันเราต้องฟิกที่ปริมาณด้วยแน่ นอนว่าไออุณภูมิเนี้ยไม่ได้ว่าจากคู่เป็น เดี่ยวทั้งหมดเลยนะคะไม่งั้น TM ของทุกๆ อันก็จะเท่ากันหมดก็คือประมาณ 90 องศลอง นึกดูถูกมพได้รเทำลายถูกทำลาย TM ในที่ นี้นะคะคือการที่เ่ออุณหภูมิตัวเนี้ยมัน ทำให้ DNA จากสายคู่กลายไปเป็นสายเดี่ยว นะคะเป็นปริมาณครึ่งหนึ่งของ DNA ทั้งหมด นะคะเพราะฉะนั้นครูจะชอบโน้ตของครูไว้แบบ เนี้ยไม่รู้ใครอ่านโน้ตของครูรู้เรื่อง มั้ยครึ่งนึงของ DNA สายคู่กันไปเป็นสาย เดียวนะคะอันนี้คือปรากฏการณ์ใช่ไหมมแต่ t a หร T มาจากคำว่า temperature ถูกมั้ย คะอ่ะอุณหภูมิที่ครึ่งนึงของโมเลกุล DNA สายคู่ค่ะเปลี่ยนโครงสร้างไปเป็น DNA สาย เดียวอุณหภูมิค่านั้นเราเรียกว่าค่า TM หรือ ming temperature ของ DNA ได้มั้ย จ๊ะไม่ว่าจะกลับไปเขียนยไงคีย์เวิร์ดเปิด ไม้ครบนะครับทๆท่าน อ่ะแล้วสไลด์นี้อาจารยจะสอนอะไรครูก็เลย บอกว่านี่ไงอันนี้คือ DNA Double str นะคะกลายมาเป็น Single str ถ้ามองแล้วก็ คือประมาณครึ่งนึงฉะนั้นไออุณหภูมิตรงนี้ นนี่แหละนะคะเขาคือ TM ได้นะบางคนถะจำ เป็นภาพบางคนถะจำเป็นคำนะคะอนี้ก็ไปเลือก ที่ตัวเองแบบชอบอ่ะมันเหมาะกับวิธีเรียน ตัวเองนะคะอ่ะฉะนั้นข้างล่างก็เที่ยาเอา ไว้ให้แล้วองไปอ่านภาษาอังกฤษดูเนาะแล้ว ถ้าลาก TM จากกราฟจะลากยังไงตรงนี้มีแกน Y 2 ค่าค่ะมันจะมีค่าอ่า Y แกนที่ 1 นะคะ กับ Y แกนที่ 2 เด็กๆดูนิดนึงนะคะตัวนี้ Y แกน 1 เนี่ยจะเป็น absorbance ที่ 260 นาโนเมตรแต่ว่าแกน x คืออุณภูมิหมายความ ว่าอะไรหมายความว่าหนูเอา DNA แล้วหนู ค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิไปเรื่อยๆถูกมั้ยคะสาย DNA นี้เพิ่มอุณหภูมิจาก 40 องศไปที่ 60 ไปที่ 80 ไปที่ 100 องศ 40 องศวัดอุณเอ่อ วัด absorb B ทีนึง 60 องศวัด absorb B ทนึงนึกออกมยคะ 80 วัดอ่ามันอาจจะวัดถี่ กว่านี้เนาะทำไปแบบเนี้ยค่ะจนกระทั่ง อุณหภูมิถึง 100 องศเอาไปวัด absorb B แล้วพกราฟสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือถ้าดูจาก absorb B น่ะมันมีลำบากเขาก็เลยแปลงออก มาเป็น degree of denaturation นะคะเขาบอกว่าให้แถวๆ อุณหภูมิสูงๆอ่ะตรงนั้นน่ะหมายความว่า พันธะไฮโดรเจนถูกทำลายไปแล้ว 100% ถูกม ถ้าพันธะไฮโดรเจนถูกทำลาย 100% แปปลว่า โครงสร้างของพวกเราคืออะไร Single strand DNA ทั้งหมด Ass นะคะอ่าแล้วก็เริ่มต้น ก็ต้องเป็นอะไรเอ่ย Apple str ทั้งหมด ใช่ มยอ่าแล้วยังไงอาจารย์พิกราฟอ่ะหนูก็ 2 ตรงเนี้ยค่ะมันจะมีความสูงของมันค่านึง ตรงเนี้ยเคคิดเป็นดีกรีอยู่แล้วเนาะถ้า เกิดทดีกรีอย่างงี้ก็คือที่ 50% ถ้าเป็น ความสูงนี้ก็วัดครึ่งแบ่งครึ่งแล้วก็ลาก มาชนนะคะแต่ว่าถ้ามันคำนวณเป็นแกน Y นี้ ได้แกนตัวเอ่อ degree of denaturation ได้นะคะหนูก็ลากไปเลยค่ะที่ 50% ไปชนแกน กราฟลากมาชนอุณหภูมิตรงนี้คือ TM กราฟ 1 กราฟภาพ 1 ภาพตีความให้ได้ อ่านกราฟให้เป็นนะคะปี 3 และเปี 4 จะไป สัมมนาแล้ว เนาะได้มยตีความไปตามนิยามเลยค่ะแต่ใน ห้องแลบเนี่ยเดี๋ยวอาจารย์จะให้ทำแบบนี้ นะคะก็คือให้ที่อุณหภูมิสูงสุดเนี่ยเรา คาดว่าตรงนั้นคือ sle strand 100% เนาะ แล้วที่เริ่มแรกอุณหภูมิเริ่มแรกก็คือ Double strand 100% วัดระยะห่างค่ะว่า ได้กี่เซนติเมตเอาเซนติเมตรนี้หาร 2 ถูก มั้ยคะอ่ะแล้วลากครึ่งแล้วเอาไปตัดแกนตรง นี้นะคะแล้วพอพอมันตัดเส้นกราฟอ่าลากมา ตัดแกน X หนูก็จะได้ค่า TM คือประมาณจาก ห้องทดรองมาแค่นั้นก็คือพยายามฝึกให้พวก เรารู้คอนเซปของการหาค่าอะไรบางอย่างนะคะ แล้วก็นิยามค่าต่างๆได้โอเคโอเคสไลด์นี้ พระเหตุของเรื่องคือ TM นะคะอ่าใครตื่นมา ฟังไม่ทันจนไปก่อน TM นะคะทีนี้สไลด์นี้ อาจารย์จะสอนอะไรกราฟคุ้นๆไมกราฟคล้ายๆ กราฟก่อนหน้านี้นะคะคือตัวนี้เนี่ยจะเป็น absorbance ที่ 260 นาแต่มันเป็น relative absorbance แหะอ่ะเดี๋ยวค่อย ว่ากันใน LA แล้วกัน relative กับ absorbance ต่างกันยังไงเดี๋ยวเอาคซไป ก่อนนะคะในเนี้ยเด็กๆคิดว่ามี DNA กี่ เส้น 1 2 หรือ 3 เส้นดูกราฟเป็น มมีกราฟกี่เส้นอ่ะบอกดูก่อน 3 อ่ะมี DNA กี่เส้น 3 นะคะอ่าเจ้าของ DNA เส้นสีดำนะ คะเขาบอกว่าเส้นเนี้ยจะมีเบส a กับเส T เป็นองค์ประกอบอยู่เยอะอันนี้ให้ความยยาว เท่ากันนะ 3 เส้นนี้ความยาวเท่ากันนะคะ ส่วนเส้นสีน้ำเงินก็คือจะมีเบส g กับ c u ค่อนข้างมากสิ่งที่เาพยามบอกกับเราค่ะเ พยายามบอกว่าค่า TM ของ DNA 3 เส้นเนี้ย มันต่างกันโดยที่ TM ของ DNA เส้นที่มัน มีเบส g กับเบส C อยู่เยอะจะให้ค่า DM ที่เป็นไงมากหนือว่ามัน make sense มหนู เชื่อครูมเพราะเบส C กับเบส G มีพันธะ ไฮโดรเจนกี่พันธะนะคะ 3 พันธะดังนั้นต้อง 3 พันธะในการที่จะเอาความร้อนไปให้เพื่อ ที่จะให้สายคู่กลายเป็นสายเดี่ยวก็ย่อม ต้องมากกว่าใช่มั้ยคะเบส a และ T ได้มคะ อ่ะจากตรงนี้นะคะมันก็คือกราฟ 3 เส้นลาก มาตัดแกน X นะคะหนูจะได้ค่า TM ของเขาหนู ก็ลองเรียงลำดับค่า TM เลยดังนั้นข้อสอบ เนี่ยสมมุติว่าจะต้องให้กราฟมาอันนึงแล้ว ลองให้เราลากหาค่า TM ตามคอนเซปเราก็ต้อง ลากได้นึกออกมยนะคะอ่ะแสดงว่า M ของี่ gc นะคะจะมีค่าสูงสุดเลยปาเข้าไปตั้งเกือบ ประมาณ 110 องศเซซนะแล้วก็เส้นกลางนะคะ นี้คือกลางๆแหละก็จประมาณ 90 องเซซแล้วก็ ที่เป็น at Rich นะคะหรือ Poly at จะ อยู่ที่ 70 องเซซค่ะได้มย อืจกแล้วประเด็นของสไลด์นี้อยากจะบอกว่า ถ้าเกิด sequence ของ DNA มันเต็มไปด้วย เบสกับ C นะมันจะเป็นยังไงนะ คะอ่าไวมจะรีบจะ รีบจบจต่อไปค่ะคำนี้ Hyper Chic Shift Shift คือเตอบฉิบหายอัดวดีโอไว้ด้วยอ อย่าันนี้พูดนะ คะอิแปลว่าอะไรคะไม่ใช่เรือนะลูกไม่ใช่ การค้านะคะ SH I F ก็คือการเลื่อนถูกมย คะไฮเปอร์ไฮโปไฮเปอร์ก็คือยังไงเอ่ยเลือน ที่เพิ่มขึ้นไฮโปเอ้ยอะไรวะเออถูกละ ไฮเปอร์ก็คือเกินๆล้นๆถูกมไฮโปก็คือน้อย เนาะดังนั้นไอ้ปรากฏการณ์เนี้ยเด็กหนูเคย เรียนมา แล้วหนูเคยเรียนโดยเฉพาะเด็กเคมีถ้าถ้า ไม่รู้ไม่คุ้นนี่กูตีมือจริงๆนะหนูเคยมย คะวัดความเข้มข้นของสารตัวนึงแต่ว่าอยู่ ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปสารนั้น ความเยมพ้นเท่าเดิมค่ะแต่ให้สมบัติค่าการ ดูดกืนแสกที่เปลี่ยนไปอืมันจะมีคำว่า ไฮเปอร์ Chic ินะคะดังนั้นที่สอนที่ เกริ่นแบบนี้ก่อนเพราะอะไรกูกลัวว่า เดี๋ยวเราจะเข้าใจว่าไอ้คำเนี้ยมันมีแค่ เอาไว้ใช้กับ DNA จริงๆไม่ใช่นะโมเลกุล อื่นๆก็ด้วยโอเคมยอ่ะงั้นในบริบท DNA เป็นยังไงนะคะคำว่า hyperchromic Shift ในที่นี้คือการที่ DNA ตัวตัวเดิมที่ เพิ่มเติมคือเค้ามีโครงสร้างที่เปลี่ยนไป ความเข้มข้นเค้าเท่าเดิมค่ะโครงสร้างเค้า เปลี่ยนไปการที่โครงสร้างเ้าเปลี่ยนไป อย่างเงี้ยค่ะมันทำให้สมบัติเชิงแสงซึ่ง ในที่นี้ก็คือค่าการดูดพืนแสงค่ะมัน เปลี่ยนคุ้นๆมั้ยเหมือนครูสอนไปในสไลด์ แรกของวันนี้นะคะก็คือครูกำลังจะบอกว่า DNA ตัวเดิมนะคะความเขมข้นเดิมเลยตอนที่ อยู่เป็น native form เนี่ยที่เป็น Double strand DNA ตรงนี้นะคะถูกสิ่ง แวดล้อมปัจจัยภายนอกไม่ว่าจะเป็นตัว อุณหภูมิหรือเป็นตัวค่าพีเนี่ยแหละที่ทำ ให้โครงสร้างของเา้ามันเปลี่ยนละทีนี้ตัว โครงสร้างเปลี่ยนแน่นอนย่อมส่งผลถึง สมบัติของมันนะคะตัวมันก็เลยให้ค่าการดด กิแสงที่เพิ่มขึ้นสภาวะที่จากเดิมนะคะมี ค่ากหนดเป็นแสงน้อยกว่าแล้วมันเพิ่มขึ้น อย่างเงี้ยไอ้สภาวะเนี้ยเรียกว่า Hyper Comic Shift โอเคม อืนะคะไิ Ship ของ DNA คือการที่ DNA มัน ทำไมเอ่ยมีค่าการดูดยืนแสงที่ความยาวขึ้น สูงสุดเอ้ไม่ใช่ที่ Lamb Max นะคะเพิ่ม ขึ้นนะคะเนื่องจากโครงสร้างที่เปลี่ยน แปลงไปนั่นเองค่ะจดทันหรือเปล่า hypercrit Shift ของ DNA นะคะคือปรากฏการณ์ ที่ DNA มีค่าการดูดปินแสงเพิ่มขึ้นนะคะที่ ค่ามด Max ของ DNA เมื่อโครงสร้างของ DNA มัน เปลี่ยนแปลงไปคือคีย์เวิร์ดกี่อันเนี่ย ปรากฏการณ์อันที่ 1 แ peric Ship คือ ปรากฏการนะคะ 2 หนูต้องอธิบายให้ได้ว่า ค่าการถูเแสนเพิ่มขึ้นนะคะคีย์เวิร์ดที่ 2 คียเวิร์ที่ 3 คือเพราะมันอยู่ในโครง สร้างที่เปลี่ยนไปจาก เดิมประมาณนี้นะคะลองนั่งดูลองนั่งค่อยๆ นิยามกับตัวเองพวกเราเนี่ยต้องฝึกเขียน ฝึกปลูกรูปประโยคเนาะจะได้ผู้จารู้เรื่อง นะคะอืประธานกิริยากรรมต้องมาโอเคมอ่ะตไป ให้สัมมนาแล้วนะคะ ต่อแล้วตรงกันข้ามกับคำว่า Hyper Comic ก็คือคำว่า hyp Comic City นะคะอันนี้ ก็อ่าสภาพที่มันมีการดุดกินแสงที่เปลี่ยน เหมือนกันแต่เปลี่ยนในแง่ที่ว่าพอโครง สร้างเปลี่ยนแล้วมันลดลงนะคะก็คือค่าการ ดุดกินแสงลดลงอ้าอาจารย์งั้นเราเอา DNA ตัวนี้เป็นตัวตั้งแล้วเราดูว่าเป็น native ปอมแล้วลดลงได้มยเวลาเราเทียบเราจะเทียบ กับเทีถูกมยคะจากเทีหมายความว่าสภาพปกติ อ่าเทีคือชนพื้นเมืองคือสภาพปกติถ้ามัน เพิ่มขึ้นอันเนี้ยคือ DNA จะมีสมบัติ ไฮเปอร์ชิแต่สารบางตัวค่ะสารบางตัวก็จะ เป็นไฮโปนะคะอันนี้ลองอ่านดูเนาะได้ค่ะ อ่ะให้ถอดหายใจ 1 เพือกกูติดน้ำ ก่อนรูปที่หนูเห็นคือรูปรูปอะไร คะรูปอะไรรู้มยเด็กจุนต้องเรียนมาแล้วดิ จุลลชีว วิทโยดม อ่ะตัวนี้นะคะเมื่อกี้ที่เราเรียนมาเนี่ย เป็นแค่โครงสร้างของ DNA แบบแบบยังไม่ได้ คือเรารู้ใช่มว่า DNA เป็นสาอนุกรรมตนี้ เรายังทราบอยู่เนาะแล้ว DNA เจอในไหนรู้ มยเนี่ยเจอในสิ่งมีชีวิตค่ะตอบให้กว้าง ไว้ก่อนค่ะค่ะยังไงหนูก็ไม่ตายอ่าทีนี้ สิ่งมีชีวิตก็จริงแล้วมันอยู่ตรงไหนมัน อยู่ตรงไหนในเซลล์นะคะครูถามนิดนึงเซลล์ ที่เรียนมากับชนาการเซลล์มีกี่กลุ่มหลักๆ คะ 2 กลุ่ม 1 โปรคาริโอต 2 นิวคาริโอ โปรคาริโอตมีนิวเคลียสมั้ยคะใครตอบมี โปรคาริโอตมีนิวเคลียสมั้ยคะไม่มีเป็นแค่ เซลล์แบคทีเรียโง่ๆอุ๊ยอย่าไปว่าน้องเป็น แค่เซลล์แบคทีเรียนะคะแล้วก็มีเป็นสาร อนุกรรมเนาะอยู่ในนั้นมีไรโบโซมใดๆธรรมดา เป็นเซลล์ที่เรียกง่ายที่สุดนะคะมาที่ เซลล์ยูคาริโอตคือเซลล์ที่แท้จริง อันเนี้ยจะมีเริ่องกั้นห้องแบ่งห้องไว้ละ ที่เาเรียกว่าออร์แกเนลแล้วจะมี DNA บรรจุอยู่ในนิวเคลียสถูกไมยดังนั้นหนู ต้องค่อยๆวางเอาตัวความรู้เนี่ยไปวางนะ ว่าเรากำลังเรียนอะไรอยู่ตรงไหนเป็นโลกใบ นี้โอเคมต้องมีสตินะคะอ่ะทีนี้เรามาดู Higher Complex in DNA ครูกำลังเอา รูปของโครโมโซมแบคทีเรียลให้ดูค่ะมีใคร ทราบบ้างว่าโคโมโซมของคนเป็นวงกลมมั้ย เรียนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยแต่อ้อนแต่อ่อ อาจารย์หนูเรียนมามันเหมือนปลาต้องโก๋ใช่ มอ่าเนของคนเป็นลิเนียฟอร์มค่ะเป็นเส้น ตรงมีจุดเริ่มต้นมีจุดสิ้นสุดค่ะแต่ DNA นะคะโครโมโซมของแบคทีเรียเนี่ยเค้าอยู่ กันเป็นวงกลมก็จะมีวงใหญ่กับวงเล็กตาม อำดับขึ้นอยู่กับตัวสายพทันแบคทีเรียได้ มยอ่าเดี๋ยวเดี๋ยตอนที่ไปสอนเอลิชกระบวน การมันก็จะต่างกันไปนะคะอ่ะทีนี้ไอ้วง เนี้ยค่ะก็คือวงกลมของ DNA ของแบคทีเรีย ครูให้เราจินตนาการว่าหนูคิดว่าแบบ a กับ แบบ B แบบไหนใช้พื้นที่น้อยกว่า กันยังงงอยู่เลยค่ะอาจารย์หนมาทำอะไรที่ นี่ที่นี่ห้องไววิทค่ะตอนนี้เรากำลัง เรียนชา 513 3 4 1 ยังคะอ่ะเร็วแบบไหน ตอๆแบบ 2 แบบดีนะคะแบบดีใช้พื้นที่ผิว น้อยกว่าทำไมกูพูดอย่างงี้เพราะว่าถ้าหนู อ่ะเหมือนมี DNA อยู่แล้วหนูนึกอยากจะแบบ ไม่ไม่ไม่มีการจัดระเบียบของมันถูกมั้ยคะ เซลล์ระเบิดนะลูกบรรจุ DNA ที่มีสันเค้า เรียกว่าอะไรเบสแพมหาศาลขนาดนั้นถูกมยเรา ต้องคิดเฮ้ยสิ่งมีชีวิตมันจัดการยังไง เนาะพี่จะให้ DNA ขดมันพันกันแล้วอยู่ๆ มันมาขดมาพันกันเองได้มั้ยไม่ได้นะ DNA มีประจุลบมาจากหมูฟอสเฟตถูกมยคะอยู่เป็น ลบแล้วมันก็ลบผลักลบกันเองอ่ะมันขมวดไม่ ได้แน่นอนเนาะฉะนั้นเมีตัวช่วยนะคะเดี๋ยว กำลังจะเข้าสู่โปรตีนที่จะมาจับกับ DNA นี่แหละที่ทำให้ DNA สามารถที่จะแพ็ครวม กันอยู่แน่นๆได้แล้วก็บรรจุอยู่ใน นิวเคลียสนั่นแหละ Once เวลาจะใช้นะคะก็ แค่คลายเกลียวตรงนี้ออกมาโอเคมสิ่งนั้นนะ คะอ่าอันนี้ก็เลยจะบอกว่าถ้าเป็นดีเอ็นเอ แบคทีเรียนะจะเป็นวงกลมนะคะและการเก็บ อยู่ไม่ได้เก็บเป็นวงกลมโง่ๆแบบนี้เค้าก็ จะมีการจัดระเบียบรูปร่างของเค้าถ้าเรา สังเกตนะคะมันจะมีตัวจุดดำๆเนี้ยสิ่ง เหล่าเนี้ยคือโปรตีนนะคะอ่ะแล้วยังไงต่อ อันนี้เป็นรูปจากกล้องอ่าจุลทัศน์ tem อะนะ Transmission อิเล็กตรอนไมโครสโคปนะ คะที่ส่องให้เห็นถึงตัว DNA ของแบคทีเรีย ในสภาพต่างๆหนูจะเห็นว่ามันหมุนเรียงความ เป็นอ่าเกลียวได้แน่นได้ขนาดนี้เลยจน เหลือแค่เป็นเส้นเลยเห็นมยไอ้แบบเนี้ยเรา เรียกว่าซุเปอร์คอย คอยซุเปอร์ซรคอยนะคะโคตรๆคอยก็คือเหมือน กับคอยก็หมุมเกียวเนาะก็เลยจะมาเข้า เรื่องนี้ค่ะในตัวแบคทีเรียเองซึ่งเป็น โคโดก็มีตัวโปรตีนที่จะมาช่วยพันกับ DNA แล้วก็ขดจัดระเบียบให้มันอยู่ได้ถูกมั้ย คะดังนั้นในดูประโยชน์ก็มีค่ะและสไลด์นี้ ก็เลยจะบอกว่าที่เราเรียนเมื่อกี้นะคะ ตั้งแต่เมื่อวานยันวันนี้ก็คือในส่วนแถวๆ เนี้ยเนาะตัวโครงสร้างของ DNA ที่เป็น dou helix ประกอบไปด้วยนิวคลีโอไทไดๆนะคะเรา มาดูการกดพับหือดูอีลูกตรงนี้ดีๆมันจะมี เหมือนลูกบาสแล้วก็มีกุญแจล็อคอยู่นะคะ ตัวนั้นเนี่ยเราเรียกมันว่าโปรตีนิสนนะคะ โปรตีนิสนเนี่ยก็จะมีทั้งหมด 8 เมอร์นั่น แหละประกอบไปด้วยัยูนิตต่างๆนะคะซึ่งตัว H1 จะเป็นตัว log อ่าหนูจะเห็นว่า 1 ฮิน มันก็จะพัน 1 รอบ 2 รอบแล้วก็ล็อคป้าใช่ มั้ยคะซึ่ง hisone 1 เนี่ยเหมือนกับ เดี๋ยวเขาก็จะเรียกเข้าหากันในแต่ละอัน เพื่อที่จะขมวดขมวดขมวดให้เป็นกกดแบบ เหมือนกับเป็นเกลียวนะคะแล้วสุดท้ายก็จะ เป็นรูปนี้ค่ะที่เราเห็นก็คือปลาต้องโก๋ ที่เราคุ้นเคยเนาะโครโมโซมนเองนะคะเราลอง ไปดูสไลด์ถัด ไปสไลด์ถัดไปนี่จากตรงนี้เอามาขยายความนะ คะีนคือโปรตีนที่จะช่วยจัดระบบระเบียบของ DNA ปลดพันธ์ DNA ให้เป็นระเบียบมากขึ้น ตัวเค้าเองนะคะมีดังนี้เนาะก็จะมี H1 เนาะ h2a h2b h3 h4 แสดงว่า h2 มี 2 อันนะคะ a กับ B เนาะแบบนี้นะคะคะไอ้ 2 อันเนี้ยขอโทษ 4 ตัวเนี้ยมีอย่างละ 2 นะ คะแล้วก็กดพับอยู่กับตัว H1 ที่คาดเอาไว้ ได้มเพราะถ้าเราไปดูตัวอตอเนี่ยค่ะหนูมี 1 หนูมาดูตรงนี้นะ 2 3 4 เห็นมยคะ h2a h2b hb h4 แล้วก็อีกเซตนึงก็เหมือนๆ กันอุ๊ยครูต้องต้องแนวนี้คือขอโทษครูติ๊ก ผิดดูใหม่ดูใหม่ 1 รอบของการพันของโปรตีน นี่หนูดูเปลียว DNA ที่ 1000 รอบ 1 รอบ ของการพันของ DNA นะคะนี่หนูดูเกลียวรอบ นี้นะอ่ะเก็จะทันรอบที่ครูบอกเมื่อกี้ แหละพิน 4 ตัวแล้วก็ล็อกด้วย H1 ถาม โปรตีนตัวนี้มีประจุเป็นอะไรคะถึงจับกับ DNA ได้เมื่อกี้ตอที่เราเรียนไปไม่ไม่เมื่อ กี้เมื่อวานที่เราเรียนไป DNA มีโครง สร้างอยู่ตัวนึงที่ทำให้เขามีประจุในสภาพ ตอนพีเป็นกลางถูมคะคือหมู่อะไรนะหมู่ ฟอสเฟตแล้ว DNA มีประจุเป็นลบถูกมคะแน่ นอนว่าการที่ DNA มันจะพันรอบโปรตีน ฮิสโตนอย่างเสถียรสถิเสถียรสถานะท่านคิด ว่าินน่าจะมีประจุประมาณไหนคะก็น่าจะบวก แหละแมอาจารย์เกิดมาขนาดนี้ะเดี๋ก็ไม่แหก โค้งคูไปนะลูกอ่ะเป็นบวกใช่ไหมจำได้มกด อะมิโนตัวไหนหน้าที่ไซเนมันเป็นบวก 20 ชนิดใครจะไปจำได้อาจารย์มีแต่อาจารย์ นั่นแหละไลซีนค่ะกับจีีนเนาะอ่าก็พันรอบๆ ค่ะมันก็เสถียนหนูก็ลองมาดูค่ะตรงนี้เป็น Naked DNA ก็คือ DNA เปลือยๆที่ยังไม่ ได้พันรอบฮินโปรตีนเนาะ Active ยนหมาย ความว่าตัวยีนนั้นๆน่ะค่ะถ้าเกิดมันจะถูก เปิดออกมาตัวี Stone มันต้องคลายออกจาก กันก่อนแล้ว DNA ก็จะหลุดจากการคันนะคะ เดี๋ยว๋ค่อยไปเรียนในเรื่องการแสดงออกของ ยีนแล้วะกันนะคะอ่ะพอคกลายเป็นเม็ดๆแบบ นี้เนี่ยเค้าก็พยายามให้เราเห็นเนาะว่า ตรงนี้นะคะที่เรียกว่านิวคลีโอโซม นี่อ่าฉะนั้นตรรงนิวคลีโอโซมนะคะก็คือจะ เป็นตัวฮิสโตนที่ผันอยู่กับ DNA นั่นแหละ แต่ไม่มี H1 เนาะอ่าแล้วยังไงต่อตรงนี้นะ คะโครมาโซมมารวมกันขดดดเป็นโซลีนอย Structure เคยคุ้นๆมั้ยตอนเรียน Biology 1 นะคะอ่าแล้วก็มามีมีแกนของตัวไี้อยู่ อยู่อยู่ไฟเบอร์อยู่นะคะแล้วก็พันรอบจน กระทั่งเป็นตัวโครโมโซมเนาะอ่าข้อสอบไม่ ได้ออกละเอียดอะไรแบบนี้ข้อสอบจะแนะนำให้ เรารู้จักสมบัติของ DNA ว่ามีกระจุกและ โปรตีนิสนมีอะไรบ้างสมบัติเป็นอย่างไรค่ะ เนาะเพื่อที่จะให้พวกเราได้รู้ว่าเอ้ยมัน แพ็คเกจอย่างนี้ถ้าเวลาแพ็คเกจแบบนี้เวลา เปิดจะต้องเปิดให้เป็นระเบียบได้นะอ่าไป ต่อ โอเคทีนี้ค่ะที่เราเรียนมาทั้งหมดนะคะไม่ ใช่เพียงแต่ DNA ที่เป็นนิิ Acid ถูกมย เรายังมี RNA อยู่อีกตัวอยู่อีกทั้งคนนะ คะฉะนั้นอะไรก็ตามที่อธิบายสมบัติ DNA ได้แล้วอ่ะเอามาอธิบาย RNA ด้วยงั้นเรามา รู้ก่อนว่า RNA ต่างกับ DNA ยังไงบ้างอ่ะ ข้อที่ 1 เลยน้ำตาลเทสที่พบถูกมยคะถ R จะเป็นน้ำ ตาลไรโบสเนาะอ่ะข้อที่ที่ 2 ค่ะ ไนโตรจีนัสเบสที่พบนะคะใน DNA จะเป็นเบส a กับเบส P เนาะแต่ว่าใน RNA จะไม่มีเบส T ไมนและจะเปลี่ยนเป็นยูราซิลทีนี้หนูลองไป ดูสิโครงสร้างของไมนกับยูราซิลอ่ะคล้าย กันมากคล้ายๆกันเลยนะคะถ้าเป็น RNA ปึ๊บ ขอเป็นเส U แล้วกันจริงๆองค์ความรู้ไปไกล กว่านี้แล้วนะเอาเท่านี้ไปก่อนนะคะเอา เท่านี้ไปแล้วยังไงต่ออันเอยู่เป็นสาย เดี่ยวค่ะข้อที่ 3 การเป็นสายเดี่ยวของ เค้าไม่ที่หมายความว่าเาจะไม่สามารถเกิด พันธะไฮโดรเจนกับเบสผู้ส่งได้เเกิดได้ค่ะ ถ้ามันมีการที่แบบมันเลี้ยวมากดกดพับแล้ว จับกันเป็นลักษณะของแ Pin ที่ครูสอนเมื่อ วานถ้าจำได้อยู่นะอ่ะได้เนาะตรงนี้นะคะก็ เขียนสรุปเอาไว้ในข้อความยาวๆไปอ่านดูลอง แปลลองฝึกภาษาอังกฤษนะคะนี่มันแล้วแต่มุม มองของชีวิตพวกเราแต่ว่าครูมีชีิตภาษาไทย ให้แล้วก็ครูก็เขียนสรุปให้แล้วโอเคมอ่ะ ไปต่อ ทีนี้พอเรารู้และว่าโครงสร้าง RNA อ่ะมัน ก็คล้าย DNA แหละเพียงแต่ว่ามันอยู่กับ สายเดี่ยวสมบัติมันก็คล้ายๆกันมีหมู่ ฟอสเฟตอมีประจุเหมือนกันค่ะเพียงแต่ว่า โอกาสที่มันจะมาเกิดเป็นไฮโดรเจนบอเนี่ย มันจะน้อยกว่านึกออกมเพราต้องรอความเป็น secondary Structure ของเขานะคะเอ่อดัง นั้นในการย้อมสีการติดสีเดี๋ยวเราค่อยไป คุยกันอีกทีนึงขอให้เข้าใจกว้างๆก่อนเนาะ เรามาดูชนิดของ RNA กันค่ะเมื่อวานครูบอก ว่าในคลาสนี้ต้องรู้จัก RNA กี่ชนิดเป็น อย่างน้อยนะคะ 3 อันนะคะก็คือตัวแรกค่ะ Messenger RNA เนาะ mrna แน่นอนว่าตัวนี้จะมีโครงสร้างที่ หลากหลายที่สุดเมื่อเทียบกับ RNA ทั้งหมด ที่เรียนอาจารย์กำลังพูดอะไรหมายความว่า ความ Variety ของ sequence น่ะค่ะมันมี มากมีขนาดที่ไม่แน่นอนอะไรหรอกมันขึ้น อยู่กับ G ที่แสดงออก mrna ตัวนี้นะคะคา จะทำหน้าที่เป็นตัวที่ถือยีนที่มีการแสดง ออกมานะอ่าเค้าก็บอกว่ามันจะมีคำว่าโคดอน อยู่บนนั้นโคดอนคืออะไรโคดอนคือ นิวคลีโทลถ้าจะเขียนให้ถูกคือไรโบนิอนะคะ 3 ตัวที่เรียมกัน อ่า และตา หน้าถ่ายทอด เป็นโปรตีนนะคะหรืออาจจะไม่เป็นก็ได้เป็น สต๊อกดอนแบบนั้นก็ได้ถ้าเอาไว้ถูกขอแค่ นี้ก่อนก็ได้ค่ะนิวเคไทล 3 ตัวที่เรียน กันจาก 5 พไป 3 พเล่นโดอนค่ะที่พบบน mrna นะได้นะอ่ะฉะนั้น mrna ให้ไปแล้วอันที่ 1 นะคะเจัคือมีโครงสร้างที่หลากหลายที่สุด นะคะ 2 มีโคดอนอยู่บนนั้นโคดอนคืออะไรอ่ะ ไปนิยามให้ตัวเองนะแล้ว 3 ก็คือใน ยูคาริโอตค่ะในระบบเซลล์ยูคาริโอต mrna ที่ได้มาจะยังเอาไปใช้ในกระบวนการ Translation ไม่ได้นะคะอ่าจะต้องมีการ sping ก่อนนะคะการ sping ประกอบไปด้วย ขั้นตอนใดบ้างนั้นเดี๋ยวเราไปเรียนในการ แสดงออกของอีโอเคนะเรารู้จักแล้วตอนนี้ เรารู้จัก mrna ละเนี่ยค่ะ 3 นิวคลีโอไท ที่เรียนต่อกันตรงนี้เราก็จะเรียกเขาว่า C นะคะส่วนรูปด้านล่างนี้นะคะก็คือแสดง การ sping นะคะของเจ้า mrna นะคะใน ิ ค่ะ ไปมาต่อกันที่อีก 2 ชนิดที่เหลือนะคะ เดี๋ยวจบชิ้นนี้อาจารย์ให้พักนะคือ osom ribosomal ชื่อบอกยี่ห้อมากๆนะ คะหนูรู้จักไรโบโซมมยลูกอ่าหนูรู้มว่า ไรโบโซมไม่มีเยื่อหุเมมเบรนไม่มีไม่เป็น เป็นออร์แกเนลที่ไม่มีเมมเบนอันนี้ทราบ ใช่มไรโบโซมนะคะจะประกอบไปด้วยสาชิ้ว โมเลกุลแค่ 2 อย่างคือโปรตีนค่ะ ่ะกดนิวคลี อิกนะคะมีแค่นี้จริงๆถ้าเปรียบเทียบอ่ะ มันก็เหมือนกับมาปลาทูปลาทู 1 ตัวเนาะกรด นิวคลีเป็นเสมือนก้ามก้ามปลาทูสุดโปรตีน ก็คือเสมือนเนื้อประทูนะคะดังนั้นเวลาเรา เรียกเราก็จะเขียนเติมเข้าไปว่าไรโบโซมจะ ประกอบไปด้วยไรโบโซมอลโปรตีนนะคะครูต้อง เขียนว่าไรโบโซมิไม่ใช่อ่ะปึๆอย่างงี้อ่า เดี๋ยวเด็กเข้าใจผิดนะคะ ไรโบโซมประกอบไปด้วยไรโบโซมอลโปรตีนค่ะ กับไบโอ RNA ดังนั้น RNA ตรงนี้ที่ที่พบ เนี่ยค่ะโครงสร้างก็คือเป็นองค์ประกอบนึง ของไรโบโซมค่ะเป็นส่วนนึงของไรโบโซมแล้ว เราทราบมั้ยไรโบโซมทำหน้าที่อะไรไรโบโซม ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์โปรตีนนะคะ อ่าดังนั้นตัวเนี้ยล่ะค่ะเดี๋ยวเจะช่วยใน การสร้างโปรตีนสัโปีนสร้างยังไงเดี๋ยวครู ค่อยๆอธิบายว่า sequence ไหนหน้าที่จะเจอ อยู่บน R ได้นะอ่ะเราได้มาแล้วว่าไม RNA อยู่ใน ไซมนะคะมาดูที่ transfer RNA กันบ้าง หรือ trna trna โครงสร้างไม่ซับซ้อนนะคะ หน้าตาเหมือนกุญแจบางคนบอกไคเนาะมันจะตรง ข้ามกันกับเอ่อเจ้า mrna trna โครงสร้าง ไม่ได้ vy ขนาดนั้นนะคะบน trna จะมีสิ่ง ที่เรียกว่า an หรือแอนติโคดอนแล้วแจะออก เสียงนะคะอ่าอิคอนคืออะไรก็คือตัวนิทค่ะ ในที่พบอยู่บน tna 3 ตัว อักษรมันพบกันคนละที่ค่ะถ้าพบบน mrna เรียกโดอนค่ะแล้วพบบ trna เรียแคอ 2 สิ่ง นี้จะเข้าคู่กันด้วยเบสคู่สมนะคะอ่ะ trna ทำหน้าที่อะไรอีกหน้าที่ที่น่าสนใจของ เอ่อของตัว trna นี้เลยนะลูกก็คือพาอ่อ อะมิโนแนะคะมาที่ ไรโบโซมเพาอมิโนแอซิดมายังไงอันเนี้ย่า รูปนี้คือ trna acy นี่จ้ะ trna ก็คือ ฝั่งนี้ทั้งหมดนะคะหนูจะเห็นว่าตรงเนี้ย ค่ะทางด้าน 3 พมของตัว TR ตัวนี้นะคะจะ จับอยู่กับอมิโนแอซิดที่เราเรียนมากับจั ชนาการค่ะที่รักทบทวนกดอะมิโนค่ะมีกี่ ชนิดนะ 20 20 โยประมาณถูกมั้ยคะง่ายๆเลย at least นะคะก็คือตัว trna อ่ะก็จะมี ับจับกดอะมิโนได้ 20 ตัวนะคะตรงอาร์มตรง นี้เพราะฉะนั้นเอนไซมที่จะมาช่วยจับอ่ะ ค่ะก็จะมีอยู่ประมาณ 20 ชนิดเนาะเดี๋ยว ค่อยๆเรียนรู้ไปเนาะแต่ถามว่าแล้ว trna มีกี่แบบมันจะขึ้นอยู่กับแอนติโคดอนค่ะ ถูกมอิคอนเปลี่ยนไปก็คือเท่านั้นแบบนะคะ เดี๋ยวครูก็จะสอนในคการแสดงออกดีอ่าอัน นี้มาเกริ่นเป็นน้ำจิ้มก่อนเรารู้จักละ ชนิดของ RNA นะคะไปไหนต่อดีโครงสร้างของ RNA ค่ะต้องมาเรียนรู้กันว่าโครงสร้าง ของ RNA จะเป็นยังไงได้บ้างนะคะอ่ะหนูดู ตรงนี้แมีุ้นๆมยอันนี้ก็คือถ้าให้มองอ่ะ มองเป็นเส้นเดียวะกันนะคะเหมือนจาก 5 ความแล้วก็องมกับที่ 3 ความแบบนี้ ต้องมีอินกไมค์ตบแน่ๆเลยค่ะไมค์ยัอยู่อ่ะ ต่อนะคะอ่ะตัวนี้เขาเรียกว่า secondary Structure นะคะของ RNA ก็จะมีแบบเก็คือ เป็นตุกสิวสิวอุตันนะคะเต่งขึ้นมาอัน เดียวไม่มีเข้าคู่แต่ด้านข้างก็เข้าคู่ กันอยู่แล้วก็มีสิวหัวช้านะคะที่เป็นอ อาจารย์สอนอะไรวะไม่รู้ค่ะวิธีจำให้พวก เราเนาะเคเรียอ lo แปลว่าุเนี้ยมันมีความ แบบไม่เท่ากันของคู้ส่งอยู่แล้วมันใหญ่ ขนาดนึงนะคะแล้วก็อีกอันนึงก็คือเป็น I have instructure ให้นิยามคำศัพท์เอา ไว้ละกันเผื่อวันนึงเราไปเจอใน textbook หรือเราไปเจอในตัวเปอร์สัมมนาถ้าใครทำ เกี่ยวกับโครงสร้างของ DNA RNA นะคะจริง ๆศัพท์เหล่านี้เจอใน RNA เหมือนกันอ่ะมา ดูข้างล่างดีกว่าข้างล่างนี้ดูแบบว่าสี สวยงามเนาะเหมือนกับอะไรดีอ่ะถุนยนน์แม ไม่เหมือนอ่ะตัวนี้คืออะไรรู้มยคือ RNA ค่ะแต่เป็น RNA ที่ทำหน้าที่เป็น เอนไซมเรารู้จักมั้ยเราเราเคยได้ยินคำว่า R World มั้ยตอนแรกเค้าบอกว่าอ่าสาเชิ มลกุลตัวแรกน่าจะเป็นคตีถูกมั้ยคะเพรา เรียนไปเรียนมาเหมือนเอ่อทาการวิจัยค้นไป ค้นมาเ้าไปเจอว่าเฮ้ยมันมีสิ่งที่เรียก ว่า RNA ที่น่าจะเกิดขึ้นได้แล้วบังเอิญ ค่ะ RNA ตัวเนี้ยทำหน้าที่เหมือนเอนไซมพอ เรานึกถึงเอนไซมเอนไซมไว้เพื่อลดค่าพลัง งานกระตุ้นใช่มั้ยคะเล่นปฏิกิริยาอ่าดัง นั้นค่ะคเองเล่นปฏิกิริยาได้ฉะนั้น พิจารณาข้อความต่อไปนี้ค่ะเด็กๆเอนไซม์ ทุกชนิดทุกตัวเป็นสารชีวโมเลกุลประเภท โปรตีนใช่หรือ ไม่ไม่ใช่แล้วนะ RNA ก็เป็นเอนไซมได้นะคะ ซึ่ง RNA ที่ทำหน้าที่เป็นเอนไซม์เราจะ เรียกว่าไรโบได้มยอ่าไรโบทำอะไรนะคะไรโซ ก็ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเร่งในแบบฉบับ ของ RNA นะคะเร่งแบบเค้าเรียกว่า introvert นะคะเดี๋ยวเราไปดูกันว่าเร่ง ยังไงทีนี้โครงสร้างนะคะที่เรียกว่าไซก็ จะมีเนี่ยค่ะดซ Hammer Head แล้วก็ Twist บซนะคะอันนี้ก็คือเป็นชนิดของไรโบสนั่น เองที่เปลี่ยนแปลงไปตามโครงสร้างรู้ไว้ เฉยๆเนาะยังไม่ต้องยังไม่ต้องห่องจำอะไร เรามาดูหน้าที่ของเค้าดีกว่า ไซอนะคะก็คือ RNA ที่เป็นเอนไซม์เนาะทำ หน้าที่ในการเร่นปฏิกิริยาทีนี้จากตรง เนี้ยค่ะดูจากตารางนี้เลย rns เนี่ยคือ เอซาที่เป็นโปรตีนนะคะที่เป็นโปรตีน ฮัลโหลส่วน Hammer Head ไบมตัวนี้ก็คือ เอนไซมที่เป็นอะไรเอ่ย RNA ทันูมยเนี่ย ตารางนี้จะเอามาเปรียบเทียบกันนะคะว่าใคร ที่เล่นปฏิกิริยาเก่งกว่ากันเรายังไม่ ต้องดูตารางก็ตอบได้แหละก็คือโปรตีนถูกม แต่เค้าพยายามจะพพิสูจน์ว่าเฮ้ย erna มัน ก็ช่วยกู้โรคได้อยู่เหมือนกันยังไงนะ S Chin number ค่ะอันนี้ก็คือมี 20 อิโน Acid อันนี้ก็คือตรงบริเวณที่เร่ง ปฏิกิริยาน่าจะแค่ 4 นิวคลีโอไทแบนนะคะ เป็น am ก็คือตัวพันธะเคทนั่นเองเนาะส่วน ตรงนี้เป็นพันธะ โบอเพราะเขาเป็น RNA นะคะต่อค่ะค่า pka ค่ะเขาบอกว่าทำงานอยู่แถวๆช่วง B ที่เป็น กลางแต่ pka อันเนี้ย far form neal หมายความว่าทำงานได้ในช่วงภาวะที่มัน extrem นะคะพูดง่ายๆว่ามันอาจจะเกิดมา ก่อนเลยเนี่ยอยู่ในสภาวะสุดขั้วจัดๆก็ อยู่ได้นะคะมาดูเรทดีกว่าเรทอันนี้น่าสน ใจมากอันนี้ทำปฏิกิริยาเร็วมากนะคะ 10 ^ 6 นะคะต่ออ่ามล่าต่อวินาทีในขณะที่ตัว นี้ค่ะ 0.08 นะคะต่อวินาทีแต่เค้ายังเร่ง ได้นะเข้าใจใช่มยอ่าเคยังเร่งปฏิกิริยา ได้แม้ว่าจะเร่งช้านะคะแล้วก็อันนี้ก็ เป็นอ่าบริเวณเร่งใดๆเนาะตัวนี้นะคะ เอนไซมทั้ง 2 อันนี้ทำหน้าที่ในการย่อย RNA ค่ะลืมๆหน้าที่ของทั้ง Hammer Head ไบมกับ rns นะคะหน้าที่ก็คือย่อย RNA ย่อยสาย RNA ค่ะให้เกิดขึ้นดังนั้น ถ้าตั้งสาย RNA อยู่เฉยๆไม่มีทั้งไรโซไม่ มีมีทั้ rsa มันอาจจะไม่สลายเนาะก็ด้วย ประการะชนี้สำหรับสไลด์ของชุดแรกนะคะเรา ต้องไปทวนครูก็จะสอนว่าเฮ้ยนิ Acid monomer poer มมีอะไรบ้างใช่มยคะโครง สร้างคันทะเคมีต่างๆเนาะอ่ะแล้วก็ตัว สมบัติชนิดต่างๆของกฎ New อีกนะคะว่าเป็น ยังไงจริงๆอ่ะมันไม่มีอะไรเลยนะฉันพยายาม พูดช้าๆอธิบายช้าๆให้ฟังแล้วอ่ะเดี๋ยวครู ให้พักประมาณ 6 นาทีค่ะมาเจอกันที่ DNA replication เตรียมสมองมาให้ดีนะคะ เดี๋ยวจะมีต้องทจำเยอะมากนะคะอ่ะไปพักเเย ไม่ เลิกตอนนี้ 918 นะคะ + 6 24 925 แล้วกันมาเจอกันเเดินจากนี้ จ้ะเปิดอะไให้ดูดี อ ยไง